เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ก่อนที่จะถูกถอดฐานันดรศักดิ์ลงเป็น "หม่อมยิ่ง" เจ้านายฝ่ายในพระองค์นี้ทรงมีพระนามว่า พระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์ อรรคราชสุดา ประสูติเมื่อวันพุธที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2395 ทรงเป็นพระองค์เจ้าสำดับสามในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาแพ (สกุลเดิม ธรรมสโรช)แต่เป็นพระราชธิดาพระองค์แรก ก่อนหน้านี้สมเด็จพระชนกนาถมีแต่พระราชโอรส 2 พระองค์ ประสูติก่อนเสด็จออกผนวชในปลายรัชกาลที่ 2 คือพระองค์เจ้านพวงศ์และพระองค์เจ้าสุประดิษฐ์
พระชนกนาถทรงเรียกพระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์ว่า "แม่หนูใหญ่" ส่วนชาววังออกพระนามว่า เสด็จพระองค์ใหญ่ หรือ เสด็จพระองค์ใหญ่ยิ่ง ทรงมีพระอนุชาและพระขนิษฐาร่วมเจ้าจอมมารดา คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพักตร์พิมลพรรณ, พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเกษมสันต์โสภาคย์ กรมหลวงพรหมวรานุรักษ์, พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส และ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบัญจบเบญจมา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อ 25 ก.ย. 20, 08:54
|
|
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชธิดาได้ทรงศึกษาเล่าเรียนวิชาการสมัยใหม่ แอนนา ลีโอโนเวนส์ซึ่งเป็นครูสอนภาษาอังกฤษในพระบรมมหาราชวัง ประทับใจกับพระสิริโฉม พระฉวีอันงาม พระวรกายสมส่วนแบบบาง และแววพระเนตรนิ่งสงบของพระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์ในพระชันษา 10 ปี
แอนนา ลีโอโนเวนส์ที่บันทึกไว้ว่า "...นอกจากโปรดให้ตามเสด็จแล้ว ในจดหมายเหตุต่าง ๆ ก็มีบันทึกไว้ว่าพระองค์ยิ่งเยาวลักษณ์ยังเป็นลูกสาวที่ปรนนิบัติพัดวีตราบจนพระบิดาสวรรคต"
พระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์คงจะทรงมีชีวิตที่ราบเรียบเช่นเดียวกับเจ้านายฝ่ายในพระองค์อื่นๆ ตลอดพระชนม์ชีพ ถ้าไม่ใช่เพราะมีเหตุอื้อฉาวเกิดขึ้นเมื่อพระชันษาได้ 34 ปีเศษ กล่าวคือเป็นที่เข้าใจกันในวังหลวงว่า เกิดประชวรเป็นโรคท้องมานอยู่หลายเดือน หมอไม่สามารถรักษาให้หายได้ ทำให้พระนาภีค่อยๆใหญ่ขึ้นทุกที เล่ากันว่าเจ้าจอมมารดาเปี่ยมได้ไปเข้าเฝ้าที่ตำหนัก ขอให้พระองค์หญิงเปิดพระภูษาเพื่อดูพระนาภี เมื่อเจ้าจอมมารดาเปี่ยมเห็นเช่นนั้นจึงทูลว่า "ขอประทานโทษเถอะนะเพคะ มองดูแล้วเหมือนกับคนท้องไม่มีผิด" พระองค์หญิงก็ทรงตอบว่า "ก็ดูเถอะค่ะ โรคเวรโรคกรรมอะไรก็ไม่รู้"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
unicorn9u
มัจฉานุ
 
ตอบ: 65
|
ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อ 25 ก.ย. 20, 08:55
|
|
จองที่นั่งหน้าสุดครับวันนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อ 25 ก.ย. 20, 08:56
|
|
ไม่นานหลังจากนั้น พระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์ก็ประสูติทารกชายในตำหนัก แล้วเอาเด็กใส่กระโถนปิดฝาเอาไว้ พอดีพระเจ้าน้องนางเธอพระองค์หนึ่งเสด็จมาเยี่ยม แต่ได้ทรงเปิดดูกระโถนก็ทรงเห็นเด็กแดง ๆ ความจึงแตกออกมา ดังปรากฏในจดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ จ.ศ. 1245 (พ.ศ. 2429) บันทึกไว้ว่า
"เกิดเป็นที่เสื่อมเสียพระเกียรติยศ คือพระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์ซึ่งเดิมว่าเป็นโรคท้องมานนั้น ปวดครรภ์แลคลอดออกมาเป็นลูกชาย ที่เรือนภายในพระบรมมหาราชวัง สมเด็จกรมพระภาณุพันธุ กรมหมื่นนเรศร กรมหมื่นอดิศร กรมหลวงเทวะวงศ์ ได้จัดการที่จะชำระพิจารณาที่ได้เกิดขึ้นต่อไป แต่ลูกนั้นเอาออกไปไว้วังกรมหมื่นอดิศรอุดมเดช
เวลา ๑๐ ทุ่ม สมเด็จกรมพระภาณุพันธุ์วงศ์วรเดช กรมหลวงเทวะวงศ์ได้ออกไปเมืองเพชรบุรี นำความนี้ออกไปกราบบังคมทูลพระกรุณา"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อ 25 ก.ย. 20, 09:00
|
|
มี "หรุ่ม" ของว่างชาววัง มาเสิฟนักเรียนค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Jalito
|
ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อ 25 ก.ย. 20, 12:41
|
|
เข้ามายกมือแสดงตนครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อ 25 ก.ย. 20, 13:14
|
|
สวัสดีค่ะคุณ Jalito เชิญนั่งแถวหน้าข้างหน้าต่างนะคะ
เราคงไม่ลืม ในเขตพระราชฐานชั้นในที่เจ้านายสตรีประทับอยู่ พร้อมกับบริวารอย่างนางข้าหลวงและบ่าวรับใช้ มีผู้ชายที่ไม่ใช่เด็กไว้จุกอยู่ได้เพียงคนเดียวคือพระเจ้าแผ่นดิน พระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เล็กๆนั้น พอพระชันษามากพอจะโสกันต์ได้แล้วก็ต้องออกไปมีวังอยู่ข้างนอก
ผู้หญิงที่อยู่ในวังหลวง-เว้นแต่เจ้าจอม-ต้องเป็นสาวโสดทั้งหมด ไม่ว่าเจ้านายหรือนางข้าหลวง ถ้าใครท้องขึ้นมาก็ต้องเป็นเรื่องใหญ่ขนาดฟ้าผ่า สั่นสะเทือนกันไปทั้งวัง ยิ่งถ้าเกิดกับเจ้านาย ก็เกินฟ้าผ่า ถึงขั้นสึนามิเลยทีเดียว
ผู้เจอสึนามิเข้าเต็มๆคือบรรดาพระเจ้าน้องยาเธอที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของบ้านเมือง เนื่องจากช่วงนั้นพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯไม่ได้ทรงอยู่ในพระนคร แต่แปรพระราชฐานไปที่เพชรบุรี พระเจ้าน้องยาเธอเหล่านี้ทรงมีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยทั้งในพระบรมมหาราชวังและในพระนคร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อ 25 ก.ย. 20, 13:15
|
|
เจ้านายที่ปรากฏพระนามในจดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน ล้วนแต่เป็นพระเจ้าน้องยาเธอในพระเจ้าอยู่หัว จึงเป็นพระราชอนุชาในพระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์ด้วย ทั้งสี่พระองค์ได้แก่เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ต้นราชสกุล ภาณุพันธ์, พระองค์เจ้ากฤษดาภินิหาร กรมพระนเรศรวรฤทธิ์ ต้นราชสกุลกฤดากร, พระองค์เจ้าศุขสวัสดี กรมหลวงอดิศรอุดมเดช ต้นราชสกุล ศุขสวัสดิ์ และพระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงศ์ สมเด็จกรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ ต้นราชสกุล เทวกุล
ขณะนั้นทั้งสี่พระองค์ก็ยังหนุ่มๆ พระชันษา 20 ปลายๆถึง 30 ต้น ๆ กันทุกพระองค์ ก็คงเดากันได้ว่าจะทรงหนักพระทัยกันขนาดไหนที่จะต้องมาชำระความพระพี่นางพระองค์ใหญ่ที่พระชันษามากกว่าหลายปี และเป็นที่เคารพยำเกรงกันมาโดยตลอด
พระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์ทรงถูกพระราชอนุชา กรมหลวงอดิศรอุดมเดชสอบสวน แต่เท่าไหร่ๆก็ไม่ทรงยอมบอกท่าเดียวว่าผู้ชายตัวการนั้นคือใคร และเกิดเรื่องกันขึ้นมาได้อย่างไร ทั้งสี่พระองค์จะไปคาดคั้นบังคับ หรือลงทัณฑ์อะไรก็ไม่ได้ ในที่สุด กรมหลวงอดิศรก็ต้องเรียกข้าหลวงบ่าวไพร่ผู้ใกล้ชิดเสด็จพระองค์หญิงมาสอบสวนดะไปหมด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 8 เมื่อ 26 ก.ย. 20, 09:00
|
|
ความก็แตกออกมาว่า มีบ่าวคนหนึ่งของพระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์ ชื่อนางเผือก เป็นคนกลางชักนำเรื่องชู้สาว ระหว่างเจ้านายกับผู้ชายตัวการ ชื่อนายโต นายโตเป็นสามัญชน ไม่มีสกุลรุณชาติหรือยศถาบรรดาศักดิ์ เดิมบวชเป็นพระอยู้วัดราชประดิษฐ์ สาเหตุที่เส้นทางชีวิตของนายโตพาดผ่านเส้นทางของพระราชธิดาพระเจ้าแผ่นดิน ก็เพราะเสด็จพระองค์หญิงทรงไปทำบุญที่วัดราชประดิษฐ์ เนื่องจากทรงรับเป็นโยมอุปัฏฐากพระในวัด ทรงให้นางเผือกเป็นคนนำข้าวปลาอาหารไปถวายพระเป็นประจำ รวมทั้งพระโตด้วย พระโตก็เลยสนิทสนมกับนางเผือก นางเผือกคนนี้เองเป็นแม่สื่อคนกลางติดต่อระหว่างเสด็จพระองค์หญิงและนายโต พระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์ทรงประดิพัทธ์พระโต จนเมื่อพระโตสึกออกมา ก็หาที่อยู่แถวถนนเจริญกรุงให้พัก และส่งเงินส่งทองให้ จนพระโตคิดการใหญ่ ปีนกำแพงพระบรมมหาราชวังเข้าไปหาถึงพระตำหนัก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อ 26 ก.ย. 20, 09:03
|
|
ถึงเวลานัดนายโตก็แต่งกายเป็นผู้หญิง ปีนข้ามกำแพงวังทางพระที่นั่งศิวาลัยมหาปราสาท ซึ่งเป็นจุดที่รู้จักดีเพราะอยู่ทางด้านวัดราชประดิษฐ์ ก่อนหน้านี้นางเผือกคงมาดูลาดเลาและเคลียร์เส้นทางให้เรียบร้อยแล้ว จึงพานายโตที่แต่งกายเป็นหญิงเข้าไปถึงพระตำหนักได้ โดยไม่มีโขลนหรือใครในตำหนักอื่นสงสัย สมัยนั้นชายหญิงตัดผมสั้นเกรียนคล้ายๆกัน ไปไหนมาไหนก็นุ่งโจงกระเบนเหมือนกัน ถ้าเป็นผู้ชายรูปร่างสันทัด ไม่ล่ำสันบึกบึนก็คงปลอมเป็นหญิงได้ง่าย นอกจากนี้ ถึงข้าหลวงในตำหนักเสด็จพระองค์หญิงเกิดผิดสังเกตกับหญิงแปลกหน้า ก็คงไม่กล้าปริปากพูด เพราะมีนางเผือกเป็นคนกางกั้นอยู่ ไม่ให้คนอื่นๆเอะอะขึ้นมา นายโตจึงได้ลอบเข้าไปได้หลายครั้ง ค้างคืนได้ถึง 1 -2 คืน ก็ต้องถือว่านอกจากชะล่าใจแล้ว ยังกำแหงมากด้วย ในคำให้การ นายโตบอกว่าเข้าไป 4 ครั้ง แต่จริงๆแล้วน่าจะมากกว่านั้น ถ้าหากว่าเสด็จพระองค์หญิงไม่ทรงพระครรภ์ขึ้นมา นายโตคงลักลอบปีนเข้าปีนออกพระบรมมหาราชวังอยู่ได้อีกนาน เมื่อกรมหลวงหลวงอดิศรอุดมเดชทรงสอบสวนบรรดาข้าหลวงของเสด็จพระองค์หญิงจนได้ตัวนางเผือกแล้ว ขั้นต่อไปก็ง่าย เพราะนางเผือกไม่อาจปากแข็งต่อการสอบสวนได้นาน จึงสารภาพออกมาทั้งหมด นายโตจึงถูกจับกุมตัวเอามาสอบสวนต่อหน้าพระพักตร์ กรมหลวงอดิศร เจ้าตัวก็สารภาพหมดเปลือกเช่นกัน
เมื่อได้ความจริงทั้งหมด กรมหลวงอดิศรอุดมเดชก็ทรงทำเป็นหนังสือกราบบังคมทูลพระเจ้าอยู่่หัว เพื่อพิจารณาโทษ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Anna
|
ความคิดเห็นที่ 10 เมื่อ 26 ก.ย. 20, 11:41
|
|
ขออนุญาตเข้าชั้นเรียนค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Anna
|
ความคิดเห็นที่ 11 เมื่อ 26 ก.ย. 20, 11:57
|
|
พอดีพระเจ้าน้องนางเธอพระองค์หนึ่งเสด็จมาเยี่ยม แต่ได้ทรงเปิดดูกระโถนก็ทรงเห็นเด็กแดง ๆ ความจึงแตกออกมา
ฟังดูแปลกๆค่ะ น้องไปเยี่ยมพี่สาว ถ้าเปิดตู้กับข้าวดูว่ามีอะไรกินก็เป็นเรื่องธรรมดาของพี่น้องถ้าสนิทกันมากพอ แต่นี่ไปเปิดกระโถนดู 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Jalito
|
ความคิดเห็นที่ 12 เมื่อ 26 ก.ย. 20, 16:09
|
|
น่าจะเป็นเรื่องเล่าข่าวกระซิบที่แถวเต๊งอยู่บ้างแล้วกระมังก่อนหน้านั้น
ผู้ชายที่ท้องใหญ่ก็เรียกว่าลงพุง เนื่องจากกินเยอะ
ส่วนสตรีสาวที่เจริญอุทรขึ้นเรื่อยๆผิดไปรูปทรงปรกติ เป็นธรรมดาที่จะสันนิษฐานว่าตั้งครรภ์
แต่เนื่องจากมีพระเกียรติยศเป็นถึง “เสด็จพระองค์ใหญ่”จึงไม่มีใครกล้าเอะอะ คงได้แต่รอเวลาอยู่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 13 เมื่อ 26 ก.ย. 20, 16:50
|
|
จากคำให้การของพระองค์เจ้าบรรจบเบญจมาซึ่งเป็นน้องสาวคนสุดท้องของหม่อมยิ่ง มีว่า
พระองค์ทรงเยี่ยมหม่อมยิ่งที่ตำหนักของพระองค์เจ้าพักตร์พิมลพรรณ พระยาสัมภาหะซึ่งเป็นหมอพยุงครรภ์นวดหม่อมยิ่งอยู่ในห้อง หม่อมยิ่งมีก้อนออกมา ไดยยินแต่เสียงอ๊อบ ไม่เป็นเสียงคน ได้ยินแต่พูดกันว่า มันเป็นตะพาบน้ำและไม่คาดคิดว่าจะเป็นเด็ก พระองค์เจ้าพักตร์พิมลพรรณมีรับสั่งว่า ครั้งน้ีถึงที่ตายแล้ว เด็กก็ร้องขึ้น หม่อมยิ่งเอามือปิดปากและอุดปากเด็ก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 14 เมื่อ 26 ก.ย. 20, 17:05
|
|
ได้ยินแต่พูดกันว่า มันเป็นตะพาบน้ำและไม่คาดคิดว่าจะเป็นเด็ก คุณเพ็ญชมพูและท่านอื่นๆเข้าใจว่าหมายถึงอะไรคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|