นปี พ.ศ.2452 เจ้าพระยาอภัยภูเบศร(ชุ่ม อภัยวงศ์) ได้จ้างเหมาบริษัทโฮวาร์ดเออร์กิน
ให้สร้างตึกตามแบบศิลปะบาโร้คของตะวันตก เพื่อไว้ใช้เป็นที่ประทับแรมของ
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในคราที่พระองค์จะทรงเสด็จเยือน มณฑลปราจีนบุรีอีก(หลังจากเสด็จ
ครั้งแรกแล้วในปี พ.ศ.2451) แต่ในปี พ.ศ. 2453 พระองค์สวรรคตเสียก่อน
หลังจากนั้น ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศรก็ยัง คงใช้เป็น ที่ประทับ
ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏ เกล้าเจ้าอยู่หัว ในปี พ.ศ.2455
รวมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์อีกหลาย พระองค์ ในคราเสด็จมลฑล ปราจีนบุรี
โดยที่เจ้าพระยา อภัยภูเบศร หรือเจ้าของตึกนั้น ไม่เคยใช้ ้ตึกหลังนี้
ในการเป็นที่พำนักส่วน ตัวเลย ตราบจนสิ้นอายุขัยในปี พ.ศ.2465 นั้น
จึงได้มีการตั้งศพของ ท่านไว้ชั้นบน ของตึกหลังนี้
ก่อนที่จะมีกำหนดการพระราชทาน เพลิงศพในปีเดียวกัน
ภายหลังจากการอสัญกรรมของเจ้าพระยาอภัยภูเบศรแล้ว ตึกหลังดังกล่าวก็ตกเป็นของตระกูลอภัยวงศ์
และเมื่อหลานสาวคนหนึ่งของท่านได้รับการสถาปนาเป็น พระนางเจ้าสุวัทนาวรราชเทวีใน
พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ทางตระกูลอภัยวงศ์จึงได้ถวายกรรมสิทธิ์ ในตึกหลังนี้ตลอดจนบ้าน
และที่ดินบริเวณนั้นให้พระนางเจ้าสุวัทนา
ต่อมาในปี พ.ศ.2480 เมื่อพระองค์จะโดยเสด็จเจ้าฟ้าพระเพชรรัตนราชสุดาพระธิดา ไปประทับที่ประเทศอังกฤษ
จึงประทานที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดให้แก่ มลฑลทหารบกที่ 2 จังหวัดปราจีนบุรี
เพื่อไว้ใช้เป็นสถานพยาบาลสำหรับทหารและประชาชนทั่วไป
กำเนิดโรงพยาบาลที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง
ในเวลาต่อมาได้มีการโอนตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศรมาเป็นของกรมสาธารณสุข(สมัยนั้น)
และต่อยอดเรื่อยมา กลายเป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลประจำจังหวัดปราจีนบุรี
หรือมีพิธีเปิดอย่าง เป็นทางการในวันที่ 24 มิถุนายน 2484
และได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ในวันที่ 24 มิถุนายน 2509
เพื่อรำลึกบุญคุณของท่านเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ผู้สร้างตึกและ
ได้สร้างความเจริญรวมทั้งสาธารณสมบัติให้กับจังหวัดปราจีนบุรีอย่างมากมาย
ลายละเอียดอื่นๆ อ่านได้ตามลิงก์ข้างบนครับ

http://vcharkarn.com/reurnthai/uploaded_pics/RW742x001.gif'>