เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 10 11 [12] 13
  พิมพ์  
อ่าน: 19778 อาหารการกินในสภาวะการณ์ปิดเมือง
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 165  เมื่อ 21 เม.ย. 20, 18:14

ขอเสนอการใช้ถั่วงอกอีก 2 เมนูครับ

เมนูผัดถั่วงอกไฟแดง  ล้างถั่วงอกให้สะอาด สรงใส่จานไว้ สับพริกขี้หนูปริมาณตามชอบวางทับลงไป สับกระเทียมปริมาณตามชอบวางทับลงไป โรยเกลือหรือเหยาะซีอิ๊วขาวลงไปตามรสที่ชอบ หรือจะใช้เต้าเจี้ยวก็ได้ ใส่น้ำตาลลงไปสักครึ่งช้อนกาแฟ  ตั้งกระทะบนไฟแรง ใส่น้ำมันลงไป เมื่อกระทะร้อนจัดจนควันเริ่มโฉ่ ก็เอาจานถั่วงอกที่ปรุงไว้นั้นเทคว่ำลงไป พลิกกลับไปมา ดูดีแล้วก็ตักใส่จาน กินได้เลย จะกินเป็นจานผัก หรือเป็นของแกล้มก็ได้ทั้งนั้น  เป็นของกินแบบป่าๆหน่อยครับ

อีกเมนูหนึ่ง  เตรียมหมูสับกับเต้าหู้ขาวเหมือนกับที่จะใช้ผัดถั่วงอก แต่ทำในปริมาณมากหน่อย เอาลงผัดด้วยกัน ปรุงรสตามปกติ   เจียวกระเทียมแล้วตักออกใส่ถ้วยแยกไว้  เอาซีอิ๊วหวานผสมกับซีอิ๊วขาวใส่ถ้วยตั้งแยกไว้   เอากุ้งแห้งมาทอดให้กรอบแล้วตักออกแยกไว้   เอาก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่นึ่ง ตักออกใส่จานกลาง แล้วนึ่งถั่วงอกต่อ ตักออกใส่จาน  เมื่อจะกิน แต่ละคนก็ตักเครื่องต่างๆใส่จานของตนในสัดส่วนและปริมาณตามชอบ ใส่น้ำตาลลงไปปรับรส คลุกกัน   จากนั้นก็แล้วแต่ว่าจะใส่น้ำส้มพริกดอง ใส่พริกป่น เพื่อเพิ่มรสให้ฉูดฉาดเช่นใดก็ได้  กินกันได้ทั้งครอบครัว

สำหรับเครื่องหมูสับกับเต้าหู้ที่เหลือก็เอาไปแต่งรสใหม่ เอาไปทำเป็นใส้ของใข่ยัดใส้  จะทำเป็นใส้รวมกับเครื่องปรุงที่เหลืออื่นใดก็ได้ ตามแต่ชอบ  
บันทึกการเข้า
Anna
องคต
*****
ตอบ: 552


ความคิดเห็นที่ 166  เมื่อ 21 เม.ย. 20, 18:22

ตอนเป็นเด็ก แม่เคยผัดถั่วงอกกับเลือดหมู ทำแกงจืดถั่วงอกใส่หมูสับให้กิน จำได้ว่าอร่อยทั้งสองอย่างเลยนะคะ แต่ดิฉันเลิกกินหมูมาเกือบเจ็ดปีแล้ว ตอนนี้เลยกินถั่วงอกกับอย่างอื่นแทนค่ะ
บันทึกการเข้า
Anna
องคต
*****
ตอบ: 552


ความคิดเห็นที่ 167  เมื่อ 21 เม.ย. 20, 18:32

ขอเพิ่มเติมนิดค่ะ เพื่อนดิฉันที่เป็นเจ้าของโรงเรียนอนุบาลใช้กิจกรรมเพาะถั่วงอกนี่ล่ะคะ เปลี่ยนเด็กที่เกลียดผัก ให้อยากกินผัก
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 168  เมื่อ 21 เม.ย. 20, 18:37

ฤๅ จะแปลงจากไข่ยัดใส้ออกไปให้ดูแปลกตา ก็ทำในรูปของขนมเบื้องไข่  สับหัวไชโป้วดองหวานเพิ่มลงไปผัดเป็นใส้ด้วย ปรับรสให้ออกหวานหน่อยด้วยน้ำตาลปึก จะใส่ถั่วลิสงคั่วบุบหรือไม่ใส่ก็ได้   ที่เหลือก็ทำอาจาดเตรียมไว้เป็นเครื่องเคียงด้วย
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 169  เมื่อ 21 เม.ย. 20, 18:42

ตอนเป็นเด็ก แม่เคยผัดถั่วงอกกับเลือดหมู ทำแกงจืดถั่วงอกใส่หมูสับให้กิน จำได้ว่าอร่อยทั้งสองอย่างเลยนะคะ แต่ดิฉันเลิกกินหมูมาเกือบเจ็ดปีแล้ว ตอนนี้เลยกินถั่วงอกกับอย่างอื่นแทนค่ะ

แกงจืดเลือดหมูใส่หมูสับและใส่ถั่วงอกนี้ จัดเป็นประเภทอาหารโบราณเหมือนกัน  เดี๋ยวนี้ไม่เห็นทำขายกันเลย มีแต่ใส่เลือดหมูกับหมูสับและต้นหอมเท่านั้น
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 170  เมื่อ 21 เม.ย. 20, 19:22

ขอเพิ่มเติมนิดค่ะ เพื่อนดิฉันที่เป็นเจ้าของโรงเรียนอนุบาลใช้กิจกรรมเพาะถั่วงอกนี่ล่ะคะ เปลี่ยนเด็กที่เกลียดผัก ให้อยากกินผัก

วิธีการนี้น่าสนใจนะครับ  ในความเห็นของผม ถั่วงอกสามารถจะเพาะให้มันงอกออกมาได้ในหลายลักษณะ แบบป้อมสั้น แบบอ้วนยาว และแบบผอมยาว   ความไม่น่ากินของถั่วงอกก็จะเป็นเรื่องของกลิ่น ราก และความอ้วนผอมของมัน   ผมเห็นว่าเด็กจะรู้สึกรับได้ง่ายมากขึ้นหากมันมีลักษณะป้อมสั้น พวกตัวยาวนั้นจะมีส่วนรากที่ดูไม่น่ากินเลย ซึ่งหากจะต้องเด็ดทิ้งก็จะเป็นงานที่เสียเวลามาก สำหรับพวกป้อมสั้นนั้นมันมีรากที่ค่อนข้างสั้นอยู่แล้ว  ที่เด็กไม่ชอบอีกอย่างหนึ่งคือเรื่องของกลิ่น การทำให้สุกพอดีๆนั้นไม่ง่ายนัก ไม่สุกมันก็มีกลิ่น สุกมากไปมันก็นิ่มแหยะและเหนียวด้วย ดิบมากไปก็มีกลิ่นและกรอบ เหล่านี้เด็กจะไม่ชอบ     
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 171  เมื่อ 21 เม.ย. 20, 19:24

ผัดถั่วงอกไฟแดง


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 172  เมื่อ 21 เม.ย. 20, 19:31

ขนมเบื้องไข่


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 173  เมื่อ 21 เม.ย. 20, 19:46

ผัดถั่วงอกกับเลือดหมู


บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 174  เมื่อ 22 เม.ย. 20, 18:00

ไปเดินซื้ออาหารตามซูเปอร์มาร์เก็ต เห็นมีดอกไม้บรรจุกล่องขาย คงเอาไว้ขายคนเมืองที่ไม่ค่อยมีพื้นที่ปลูกต้นไม้ ......

ใช่ครับ ดอกไม้หลายอย่างเอามากินได้ และหลายอย่างก็เอามาทำเป็นเพียงเครื่องแต่งอาหารให้สวยงามที่สามารถจะกินได้ด้วย

เมื่อครั้งยังเป็นเด็กอยู่ เห็นแต่ดอกเข็มสีแดงเท่านั้น  เดินผ่านไปก็มักจะเด็ดดอกออกมาทีละดอก แล้วดึงก้านเกษรตรงกลางดอกออกมา จะมีน้ำหวานหยดเล็กๆติดอยู่ที่โคน เอามาแตะลิ้นกินเล่นกัน  เดี๋ยวนี้มีดอกเข็มสารพัดสี เลยไม่แน่ใจว่าจะกินได้เหมือนแต่ก่อนหรือไม่  ใบของต้นโกสนไทยแบบที่เห็นตามวัดเก่าๆก็กินได้ เอาใบอ่อนมาแกล้มกับลาบก็อร่อยดี หรือจะเอาไปผัดกับไก่ที่เรียกว่าคั่วแฮ่มก็ได้ เขาว่ามันไปช่วยทำให้เนื้อไก่ออกรสหวานอร่อยมากขึ้น คงจะเช่นเดียวกับกินหอยนางรมสดแนมด้วยยอดกระถิน  ผมกินคั่วแฮ่มได้แต่ไม่ชอบนัก  ในปัจจุบันนี้มีพืชที่เรียกชื่อว่าต้นโกสนมากมาย เล่นเอาผมต้องเลิกกินโกสนไปเลยด้วยความไม่แน่ใจว่าจะดีกินหรือไม่ดีกิน     
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 175  เมื่อ 22 เม.ย. 20, 18:32

ดอกกุหลาบกับใบกุหลาบนั้นกินได้ เคยเอามาแต่กินแนมกับลาบแบบนิดๆหน่อยๆ  คนที่สอนให้กินก็คือท่านอาจารย์สุกิจ นิมมานเหมินห์ ที่บ้านท่านเชิงดอยสุเทพ 

ดอกและใบกุหลาบที่จะเอามากินควรจะเก็บมาจากต้นที่ปลูกเอง ด้วยที่กุหลาบค่อนข้างจะเปาะบางต่อโรคและเป็นที่ชอบของศัตรูพืชต่างๆ จึงมีการใช้ยาฆ่าแมลงค่อนข้างบ่อย  ดอกและใบของต้นที่ปลูกเองจึงปลอดภัยมากที่สุด ยิ่งเป็นพวกสายพันธุ์พื้นบ้านก็จะยิ่งดี พวกนี้จะมีภูมิต้านทานต่อโรคต่างๆสูงมาก   ผมเป็นคนชอบกุหลาบสีแสดที่มีสีฉ่ำๆ และก็ชอบกุหลาบพวงพื้นบ้านของเราที่เกือบทั้งหมดจะให้ดอกสีแดง   ขอชาวบ้านมา ตัดให้ถูกที่ เอามาปักดิน รดน้ำ มันก็เป็น ไม่ต้องใส่ใจมากนัก ทนโรค แข็งแรง และออกดอกดี     
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 176  เมื่อ 22 เม.ย. 20, 19:22

ดอกไม้ที่เอามากินกันที่มีวางขายกันในตลาดเป็นปกติ โดยเฉพาะเจ้าที่ขายน้ำพริก นั้น ก็คือดอกกล่ำ ดอกแค ดอกขจร ดอกผักกาด และดอกโสน   ดอกอื่นๆที่มีวางขายกันตามฤดูก็จะมี ดอกขี้เหล็ก ดอกสะเดา ดอกชมจันทร์ ดอกไม้จีน (Daylily จากภาคเหนือ) ดอก Zucchini (จากภาคเหนือ) ดอกหอม ดอกกุยช่าย ดอกฟักทอง ดอกข่า(ต้นข่า) ดอกกระเจียว  ดอกผักปลั่ง ปลีกล้วย   ที่ต้องไปหาเก็บเองก็เช่น ดอกผักกุ่ม ดอกผักติ้ว ดอกเอื้องหมายนา ดอกดาหลา(ใส่ข้าวยำ) ดอกซ่อนกลิ่น ฯลฯ     นึกไม่ออกแล้วครับ

คงจะนึกออกบ้างแล้วว่าเคยกิน และอาจจะนึกออกไปถึงว่าจะเอาไปทำอะไรกินดี
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 177  เมื่อ 23 เม.ย. 20, 19:05

กล่าวถึงดอกล่ำปลี ที่ว่ามีต้มขายเป็นผักจิ้มน้ำพริกนั้น  เลยนึกถึงสลัดผักต้ม อาหารเบาๆ อร่อยและง่าย   เพียงเข้าตลาดไปหาแม่ค้าขายน้ำพริก ก็จะได้ดอกกล่ำต้ม บางเจ้าก็มีแครอทต้มทำเป็นผักจิ้มน้ำพริกด้วย ก็ซื้อมาทั้งสองอย่างเลย  เอามันฝรั่งปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นก้อนสี่เหลี่ยมลูกเต๋าขนาดประมาณด้านละ 1 ซม. แช่น้ำไว้สักพัก เทน้ำทิ้งไปแล้วเอาไปต้มให้สุก  หากหาซื้อแครอทต้มไม่ได้ ก็ทำเองแบบมันฝรั่ง  ดอกกล่ำที่ซื้อมาก็เอามาหั่นโดยพยายามแยกให้เป็นดอกเล็กขนาดพอๆกับมันฝรั่งและแครอท   เอาใส้กรอกตามชนิดที่ชอบมาหั่นเป็นแว่นๆให้ได้ขนาดพอๆกับพวกผัก  เอาน้ำสลัดแบบครีมสำเร็จรูปมา หรือจะทำเองก็เพียงใช้มายองเนสผสมกับนมข้น แต่งรสด้วยมัสตาร์ดและมะนาวตามชอบ  เมื่อจะกินก็ทำได้ทั้งแบบคลุกกันให้ทั่ว หรือจะละเลียดกินโดยใช้ส้อมหรือไม้จิ้มฟันจิ้มผักทีละชิ้นเอาไปจิ้มกับน้ำสลัด กินไป นั้งดูทีวี หรือเล่นเน็ตไป ชิลๆเพลิดเพลินดีครับ อิ่มด้วย อร่อยด้วย  หากไม่พอจะเพิ่มเติมด้วยผักสลัดอื่นใดก็ได้  หากทำมากเกินไปก็เก็บไว้เป็นสลัดผักสุกแนมกับอาหารอื่นๆก็ได้ เช่น กับหมูหรือปลาชุบไข่ชุบขนมปังทอด   
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 178  เมื่อ 23 เม.ย. 20, 20:00

ดอกไม้หลายอย่างที่กล่าวถึง นอกจากจะเอาไปผัด ไปแกง ไปต้มจิ้มน้ำพริกแล้ว ก็ยังเอาไปทำเหมือดขนมจีนน้ำพริกได้ โดยเฉพาะการเอาไปชุบแป้งทอด ซึ่งยังเป็นการแสดงฝีมือของผู้ทำอีกด้วย

ก็มีเมนูที่ทำง่าย อร่อย และแปลกไปจากอาหารประจำวันตามปกติ คือเอามาทำเป็นเท็มปุระ  เพียงไปหาซื้อแป้งเท็มปุระสำเร็จรูปมา ทำแป้งตามกรรมวิธีที่เขาบอก  เสียอยู่อย่างเดียวที่เมนูนี้จะต้องใช้น้ำมันมาก  ข้อสำคัญที่สุดในการทำเมนูนี้คือ แป้งที่ใช้ชุบผักหรือดอกไม้นั้นจะต้องมีความเย็นมาก (ซึ่งหมายความว่า ตามวิธีทำแป้งที่บรรยายอยู่ที่ซองนั้น เราควรจะต้องเพิ่มความเย็นเข้าไปอีกหน่อย)   เมื่อทอดเสร็จก็ควรจะต้องวางบนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน เมื่อจัดลงจานก็ควรจะต้องมีกระดาษซับน้ำมันรองรับ   แล้วก็ควรจะต้องกินเลย หากวางทิ้งไว้นานจะไม่มีความกรอบอร่อยเลย  สำหรับน้ำจิ้มก็ไม่ต้องพะวงนัก เอาเกลือป่นผสมกับชาเขียวป่นทำเป็นเครื่องจิ้มแบบของร้านหรูๆในญี่ปุ่น 
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 179  เมื่อ 24 เม.ย. 20, 14:26

ดอกไม้ชุบแป้งทอด


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 10 11 [12] 13
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.036 วินาที กับ 19 คำสั่ง