เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 7 8 [9] 10 11 ... 13
  พิมพ์  
อ่าน: 19807 อาหารการกินในสภาวะการณ์ปิดเมือง
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 120  เมื่อ 12 เม.ย. 20, 18:10

ยำปลากระป๋องสำหรับผู้พอมีอันจะกิน นิยมจะใช้ปลาทูน่าในน้ำเกลือ เป็นยำแบบแห้งๆเพราะกรองเอาของเหลวทิ้งไป ใช้แต่เนื้อปลาที่ค่อนข้างจะแห้ง เครื่องยำต่างๆก็ไม่ต่างไปจากที่ใช้ยำปลากระป๋องในซอสมะเขือเทศ ต่างกันแต่เพียงความฉ่ำและความแห้งของยำ สีของยำ และการจัดลงจาน  และในอีกเรื่องหนึ่ง คือ ยำปลาทูน่ากระป๋องนั้นสามารถที่จะกินแบบการกินเมี่ยงได้ เพียงตักมาใส่ในใบผักกาดหอมหรือผักกาดแก้วเพื่อห่อกินเป็นคำๆ เพิ่มพริก เพิ่มถั่วถั่วลิสง(ถั่วดิน) หรือมะนาวหั่นเป็นชิ้นเล็กๆลงไป ตามชอบ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 121  เมื่อ 12 เม.ย. 20, 18:33

ยำปลาทูน่ากระป๋อง เมนูมื้อเย็น  ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 122  เมื่อ 12 เม.ย. 20, 18:49

รู้ว่าข้าวผัดปลาทูน่ากระป๋องก็มีการทำอยู่ แต่ผมไม่เคยทำและไม่เคยทาน  

ไพล่ไปนึกถึงอาหารแบบแมวกินที่แสนจะง่ายและอร่อยในวัยเยาว์แต่ครั้งกระโน้น  ข้าวคลุกปลาทูครับ เหยาะด้วยน้ำปลาดี เท่านั้นเอง  จะให้ดีขึ้นไปอีกก็เพียงใส่หอมแดงซอยลงไปคลุกด้วย ก็ยังเคยทำให้ลูกหลานกินอยู่เป็นบางครั้งเมื่อได้ปลาทูมันในช่วงปลายปี-ต้นปี  ข้อสำคัญคือควรจะต้องเป็นปลาทูในอ่าวไทยตอนบน มิใช่ปลาทูน้ำลึก (ปลาลัง) และมิใช่ปลาทูแขก  

หลายท่านอาจจะเริ่มนึกถึงต้มยำปลาทู ต้มส้มปลาทู ต้มเค็มหวานปลาทู ต้มปลาทูซาเตี๊ยะ ปลาทูห่อใบตองย่าง ปลาทูทอดสามรส .....   สำหรับคนในต่างจังหวัดก็อาจจะนึกถึงปลาทูหอม    

ขอความกรุณาคุณเพ็ญชมพูช่วยให้ความรู้ถึงความแตกต่างของปลาทูไทย(ในอ่าวไทย) กับปลาทูชนิดอื่นๆด้วยครับ    
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 123  เมื่อ 12 เม.ย. 20, 19:14

ขอความกรุณาคุณเพ็ญชมพูช่วยให้ความรู้ถึงความแตกต่างของปลาทูไทย(ในอ่าวไทย) กับปลาทูชนิดอื่นๆด้วยครับ  

https://pasusat.com/ปลาทู/


บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 124  เมื่อ 12 เม.ย. 20, 19:18

อาหารที่ใช้ปลาทูทำสำหรับผู้คนที่อยู่ในพื้นที่ส่วนด้ามขวานของไทยที่ไช้ปลาในอ่าวไทยตอนล่างและจากทะเลอันดามัน จึงมีความแตกต่างกันออกไปอยู่ไม่น้อย  ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่า ปลาทูน้ำลึกจะมีเนื้อที่แน่นกว่าและมีมันน้อยกว่าปลาทูในอ่าวไทยตอนบน  
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 125  เมื่อ 12 เม.ย. 20, 19:43

ขอบคุณมากครับ

คงจะทราบแล้วนะครับว่า ด้วยเหตุใดปลาทูแม่กลองหรือปลาทูคอหักของแม่กลองจึงเป็นของดี เป็นของดีของอร่อยที่ไม่จำเป็นต้องหมายถึงปลาทูต้องตัวใหญ่ๆ ดูเนื้อแน่นเปล่งปลั่ง จึงจะดี   ซึ่งส่วนเหงือกและท้องใส้ของมันก็ยังเอามาทำผสมกับปลากระตักและปลาตัวเล็กตัวน้อยอื่นๆ ทำเป็นน้ำปลาชั้นดีที่ผมใช้คำว่าน้ำปลาดีในเรื่องของการทำอาหารต่างๆนั่นเอง   น่าจะเกือบจะไม่มีผู้ผลิตหรือมีน้อยรายมากแล้วที่ทำน้ำปลาจากส่วนผสมดังกล่าวนี้   สมัยก่อนเรียกน้ำปลาแบบพื้นบ้านนี้ว่า น้ำปลาให
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 126  เมื่อ 12 เม.ย. 20, 19:52

    ตอนเล็กๆ ใครเลี้ยงแมวต้องซื้อปลาทูมาคลุกข้าวให้แมวกิน    จำราคาได้ว่าปลาทูอย่างดีเข่งละสิบสลึงหรือ 2.50 บาท  นั่นคือปลาทูตัวใหญ่ เนื้อแน่น รสชาติมันอร่อยมาก   แกะเนื้อคลุกข้าว เหยาะน้ำปลาดีลงไปหน่อยก็กินได้หมดจาน
    เดี๋ยวนี้ราคาปลาทูไม่ถูกเสียแล้ว
    เวลาอยู่ต่างแดน คิดถึงปลาทูขึ้นมาก็ต้องไปซุปเปอร์  หาปลาแมคเคอเรลกระป๋องมากินแก้อยาก  มักหาเจอในซุปเปอร์ของคนจีนค่ะ
    เมี่ยงปลาทู ยำปลาทู   ต้มส้มปลาทู  ต้มยำปลาทู ปลาทูทอดกับน้ำพริกกะปิ  ฯลฯ  เฮ้อ  กินไม่รู้เบื่อจริงๆ
 


บันทึกการเข้า
kui045
มัจฉานุ
**
ตอบ: 94


ความคิดเห็นที่ 127  เมื่อ 13 เม.ย. 20, 17:27

พูดถึงปลาทูแล้วนึกถึงต้มกะทิสายบัวปลาทูนึ่ง
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 128  เมื่อ 13 เม.ย. 20, 17:55

ใส่มะด้นลงไปด้วยค่ะ อร่อยสุดๆ


บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 129  เมื่อ 13 เม.ย. 20, 18:33

ต้มกะทิสายบัวกับปลาทูเป็นของอร่อยที่มีความนุ่มนาลทั้งในเชิงของเนื้อและรส  แต่ก่อนนั้น ต้มกะทินี้จะต้องใส่มะดันหรือตะลิงปลิงลงไปช่วยปรับรสให้มีความอร่อยมากยิ่งขึ้น แต่ไม่เห็นมีการใส่กันเลยตามร้านข้าวแกงต่างๆที่ทำเมนูนี้ขายกันนานมากแล้ว    ฉู่ฉี่ปลาทูก็ไม่ค่อยจะมีทำขายกันแล้วเช่นกัน  
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 130  เมื่อ 13 เม.ย. 20, 20:22

อาหารการกินหลายอย่างหายไปจากเมนูร้านอาหาร  อาจเป็นเพราะทำยาก หรือไม่มีคนนิยม  ค่ะ
ปลาทูต้มอ้อย ก็หากินไม่ได้มานานมากแล้ว

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 131  เมื่อ 14 เม.ย. 20, 10:33

มื้อกลางวัน  ทำอาหารจานเดียวอย่างข้าวคลุกกับน้ำพริกลงเรือก็อร่อยนะคะ

น้ำพริกลงเรือ ตำรับหม่อมหลวงเนื่อง นิลรัตน์ โดยคุณมาลินี ณ นคร เมื่อกล่าวถึงน้ำพริกโบราณ ชื่อของน้ำพริกลงเรือคงคุ้นหูหลายท่านเป็นอย่างดี
โอกาสนี้เราจึงนำเมนู น้ำพริกลงเรือ ตำรับโบราณของหม่อมหลวงเนื่อง นิลรัตน์ อดีตข้าหลวงประจำห้องเครื่องพระตำหนักพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏปิยมหาราชปดิวรัดา (ตำหนักดังกล่าวตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาในปัจจุบัน) มานำเสนอ โดยเมนูอาหารชาววังตำรับหม่อมหลวงเนื่องนั้น ปัจจุบันได้รับการสืบทอดโดยคุณนิจ เหลี่ยมอุไรบุตรบุญธรรมของหม่อมหลวงเนื่อง และคุณมาลินี ณ นคร หลานสาวของคุณนิจ

โดยหม่อมหลวงเนื่องท่านเล่าว่า น้ำพริกลงเรือ นี้ เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับ ลดาวัลย์ (คุณจอมสดับ) เป็นต้นตำรับคิดค้นขึ้น เหตุจากเจ้านายเล็ก ๆ ในวังสวนสุนันทาลงเรือเล่นกัน เมื่อถึงเวลาเสวยก็ไม่เสด็จขึ้นจากเรือ คุณจอมสดับกลัวพระวิมาดาเธอฯจะกริ้ว จึงวิ่งมาที่ห้องพักเครื่องเสวย เห็นมีน้ำพริกกะปิ หมูหวาน ไข่เค็ม ปลาช่อนทอดฟู ปลาทู ปลาดุกย่างทอด กระเทียมดองหมูหวาน คุณจอมสดับจึงหยิบทุกสิ่งมาคลุกผสมกับข้าว จัดใส่จานพร้อมผัก วางช้อนส้อมนำไปถวาย เจ้านายองค์เล็ก ๆ โปรดอาหารชนิดนี้มาก เมื่อถึงคราอยากเสวยอีกก็จะบอกว่า “เอาอย่างวันกินน้ำพริกลงเรือ” จึงกลายเป็นชื่อของน้ำพริกในที่สุด

https://goodlifeupdate.com/healthy-food/recipe/77838.html


บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 132  เมื่อ 14 เม.ย. 20, 18:25

ปลาทูต้มกับอ้อยทำง่ายดี ดูท่าจะอร่อยแซบอยู่ไม่น้อย ผมไม่เคยทานครับ แต่มีความเห็นว่าจะต้องใช้ปลาทูสดจริงๆ กะปิก็ควรจะต้องเป็นกะปิคลองโคน และอ้อยก็ควรจะเป็นอ้อยกินพันธุ์ลำต้นสีเหลือง 

เมนูนี้ทำให้ผมนึกไปถึงเมนูที่ผมเรียกว่า ต้มขมุ  เคยเขียนไปแล้ว แต่จะขอเล่าซ้ำสั้นๆว่า แม้ว่าต้มขมุนี้จะใช้เนื้อสัตว์ใดๆทำก็ได้ แต่ที่เหมาะที่สุดควรจะใช้เนื้อสัตว์น้ำ เพราะเป็นการทำแกงที่ช่วยลดหรือกำจัดกลิ่นคาวได้ดีมากๆ    เอาข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ใส่หม้อ ใส่น้ำแล้วตั้งไฟ ทำเหมือนกับจะทำต้มยำ ใส่เกลือลงไป  เมื่อน้ำเดือดแล้วก็ใส่เนื้อสัตว์ลงไป แล้วหรี่ไฟลงครึ่งหนึ่ง ค่อยๆช้อนฟองออกทิ้งไปเพื่อให้น้ำแกงใส เติมเกลือลงไปให้น้ำแกงเริ่มออกเค็ม ใส่น้ำมะขามเปียกจนรู้สึกเริ่มจะรู้สึกว่ามีรสเปรี้ยว   ตำพริกแห้ง หอม กระเทียม (หากเผาก่อนเอามาโขลกก็จะได้กลิ่นหอมมากขึ้น) ใส่กะปิลงไปเสมือนหนึ่งตำน้ำพริกเผ็ดๆ  เมื่อจะกิน ก็เอาใบกะเพราแดง (กะเพราขาวก็ได้) ใส่ลงไปในชามแกง ตามด้วยน้ำปลา พริกขี้หนูบุบแหลก บีบมะนาว แล้วตักต้มร้อนๆใส่ลงไป ตักน้ำพริกที่ตำไว้เอาลงไปละลายในปริมาณตามชอบ เท่านี้เองครับ  หรือจะเพิ่มสัมผัสอื่นๆลงไปอีกก็ได้ตามแต่จะคิดสร้างสรรค์ เช่น ต้นหอมสด ใบผักชีฝรั่ง  มะกอกป่า (ที่ใส่ส้มตำ) ผักไผ่ ฯลฯ 

ผมมีข้อสังเกตอยู่ว่า พวกอาหารอร่อย ทำง่ายๆ สูตรแปลกๆ มักจะมีการทำกันอยู่ในพื้นที่แถบนครปฐม ราชบุรี สมุทรสงคราม และเพชรบุรี   เหนือจากนครปฐมขึ้นไปเข้าแขต อ.อู่ทอง ก็จะเป็นกลุ่มอาหารที่มีลักษณะเฉพาะแบบหนึ่ง  ใต้ลงไปเกินเขต อ.ปราณบุรี ก็จะเป็นกลุ่มอาหารในอีกลักษณะเฉพาะอีกแบบหนึ่ง   ในพื้นที่ระยอง จันทบุรี ตราด ก็มีเอกลักษณ์ที่ต่างออกไปเช่นกัน
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 133  เมื่อ 14 เม.ย. 20, 19:15

สำหรับน้ำพริกลงเรือนั้น แต่เดิมก็พอรู้อยู่เลาๆว่าเป็นตำรับอาหารที่มีต้นกำเนิดมาจากในวัง แต่เพิ่งจะมารู้จากข้อมูลของ อ.เทาชมพู ว่าที่มาเริ่มแรกนั้นเป็นเช่นใด    ตนเองมีความรู้สึกตลอดมาว่าที่ทำขายตามร้านอาหารกันอยู่นั้น ดูจะเป็นการรังสรรค์ปั้นแต่งขึ้นมาของแต่ละครัว อาหารดูแห้งและขาดความกลมกล่อม   ถึงตอนนี้ก็เลยพอจะเข้าใจได้ว่าเมนูนี้ถูจักเป็นอาหารมื้อกลางวันของร้านอาหารต่างๆ หากจะทำเป็นข้าวคลุกน้ำพริกกะปิแบบดังเดิม กินเสร็จแล้วก็คงจะไม่ต้องปริปากพูดกันตลอดบ่าย

ที่จริงแล้วข้าวคลุกน้ำพริกกะปนี้ก็ทานค่อนข้างจะเป็นประจำอยู่แล้วเมื่อครั้งยังทำงานสำรวจอยู่ในพื้นที่ป่าดง โดยเฉพาะที่เป็นอาหารเช้าและอาหารเย็นยามค่ำมืด กินกับผักที่ผักป่าที่เก็บหามาได้ในระหว่างการเดินทำงานหรือกับข้าวอื่นใดที่หลงเหลืออยู่ก่อนการเก็บย้ายที่นอน (วันต่อวัน)
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 134  เมื่อ 15 เม.ย. 20, 09:42

ถ้าใครยังกินเนื้อวัว   ในภาวะที่สมควรตุนอาหารกระป๋องเผื่อขาดแคลนอาหารสดในอนาคต   ซื้อคอร์นบีฟที่มีขายทั้งยี่ห้อไทยและฝรั่งมาปรุงรสเอาอย่างในลิ้งค์ข้างล่างนี่  ก็อิ่มไปได้หลายมื้อค่ะ

https://th.wikihow.com/%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B8%9F%E0%B9%81%E0%B8%AE%E0%B8%8A
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 7 8 [9] 10 11 ... 13
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.116 วินาที กับ 19 คำสั่ง