เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2 3 ... 6
  พิมพ์  
อ่าน: 5301 เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



 เมื่อ 09 ก.พ. 20, 11:25

เมื่อวานนี้ (๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓) เวลาบ่าย เกิดเหตุทหารคลุ้มคลั่งก่อเหตุยิงผู้บังคับบัญชาพร้อมแม่ยายของผู้บังคับบัญชาเสียชีวิตที่นครราชสีมา จากนั้นได้ขับรถไปยังคลังอาวุธภายในค่ายทหาร ก่อนขับฮัมวี่พร้อมอาวุธสงครามจำนวนมากหลบหนีเข้าตัวเมือง ระหว่างทางคนร้ายได้ใช้อาวุธที่ขนมากราดยิงชาวบ้านที่สัญจรไปมาและตำรวจที่เข้าระงับเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครองสนธิกำลังปิดล้อมห้างเทอร์มินอล ๒๑ ที่ผู้ก่อเหตุซ่อนตัวอยู่เป็นเวลานานกว่า ๑๗ ชั่วโมง โดยมีประชาชนจำนวนมากติดอยู่ในห้างด้วย

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๓ ยืนยันว่าผู้ก่อเหตุถูกวิสามัญฆาตกรรมแล้วเมื่อเวลาประมาณ ๙.๐๐ น. วันนี้ (๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓) นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมารายงานว่ามีผู้เสียชีวิตทั้งหมด ๒๐ ราย บาดเจ็บ ๔๒ ราย

https://www.bbc.com/thai/live/thailand-51428500

ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครอบครัวของผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บและครอบครัว มา ณ โอกาสนี้  ร้องไห้


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 09 ก.พ. 20, 13:46

อัปเดตตัวเลขผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 09 ก.พ. 20, 15:44

    เมื่อก่อนหน้านี้ เวลาโพสข่าวร้ายต่างๆในกระทู้นี้ต่อเนื่องกันมาเป็นปีๆ  แต่ละข่าวทำให้ใจคอหดหู่  แต่ก็ยังมีความรู้สึกใจชื้นขึ้นนิดหน่อยว่า ยังดีที่ บ้านเมืองเราไม่มีข่าวคนบ้าคลั่งไล่ฆ่าประชาชนคนเดินถนนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่  แบบบ้านเมืองอื่นๆ
     แต่มาวันนี้  ความรู้สึกใจชื้นนั้นหมดไปแล้ว มีแต่ความแห้งผาก  ว่าบทจะเกิดบ้านเราก็ทำลายสถิติบ้านอื่นเมืองอื่นเขาหมด
    ยังไม่มีกะจิตกะใจจะโพสค่ะ  ท่านใดตั้งสติได้เร็วกว่า ขอเชิญก่อนนะคะ 
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 09 ก.พ. 20, 17:54

เช่นกันครับ   และก็หวังว่าคงจะไม่มีการเอาเหตุการณ์ความโศกเศร้าเสียหายในครั้งนี้ไปรังสรรค์ปั้นแต่งให้เป็นสาระที่ยังให้เกิดประโยชน์แก่ตนหรือกลุ่ม
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 09 ก.พ. 20, 20:11

อัปเดตตัวเลขผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 10 ก.พ. 20, 10:11


       อยากให้เป็นฝันร้าย            ตื่นแล้วหายกลายเป็นดี

บ้านเราถึงจุดนี้                        คงไม่มีวันเหมือนเดิม   

ภาพ The Scream (1893) และ Melancholy (1891) โดย Edvard Munch


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 10 ก.พ. 20, 10:30

เมื่อเวลา 1.40 pm (NZT) ได้เกิดเหตุกราดยิงผู้คนในมัสยิดสองแห่งที่ Christchurch, New Zealand  ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายราย(ยังไมีมีการระบุจำนวนแน่นอน)
          
บางรายงานกล่าวว่า จนท.จับกุมผู้ก่อเหตุได้ 4 รายเป็นชาย 3 และหญิง 1 และเชื่อว่า1 ในนั้นเป็นชาวออสเตรเลีย

น่ากลัวมากคะ่   นิวซีแลนด์เคยได้ชื่อว่าเป็นประเทศสงบสันติ ปลอดภัย  ไม่มีปัญหาการเมืองใดๆระหว่างประเทศ

เหตุร้ายครั้งนี้ คนร้ายยิงกระหน่ำเข้าไปในมัสยิด 2 แห่ง ทำเอาคนตายไปอย่างน้อย 49 คน  และอีก 20 บาดเจ็บสาหัส

ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บด้วยค่ะ

บทเรียนจากนิวซีแลนด์

"ขอให้พวกเราเอ่ยชื่อผู้ที่สูญเสีย มากกว่าชื่อคนที่คร่าชีวิตพวกเขาเหล่านั้น"


ส่วนหนึ่งจากถ้อยแถลงของนายกนิวซีเเลนด์ต่อเหตุการณ์กราดยิงในมัสยิดที่เมือง Christchurch มีนาคม ๒๕๖๒

"หนึ่งในสิ่งที่เขาต้องการจากอาชญากรรมนี้ คือการมีตัวตน (ชื่อเสียง) ดังนั้นคุณจะไม่มีวันได้ยินฉันพูดชื่อเขา เขาเป็นผู้ก่อการร้าย เป็นอาชญากร เป็นคนหัวรุนเเรง เเต่เมื่อฉันพูด, "เขาจะไม่มีชื่อ" ฉันขอให้พวกเราเอ่ยชื่อผู้ที่สูญเสีย มากกว่าชื่อของคนที่คร่าชีวิตเขาเหล่านั้น เขาอาจจะอยากมีตัวตน แต่พวกเราชาวนิวซีเเลนด์จะไม่ให้ แม้เเต่ชื่อ"

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 10 ก.พ. 20, 19:01

    ปกติ  สื่อจะเว้นชื่อบุคคลในข่าวหากว่าเป็นผู้เสียหาย  เช่นเด็กหรือผู้หญิงที่ถูกละเมิดทางเพศ    ในกรณีผู้ก่อเหตุกราดยิงโคราช   ดิฉันยังไม่เห็นว่าเสียหายถ้าระบุชื่อจริง
   สรุปข่าวดังนี้

    -  เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันที่ 8 ก.พ. 63 จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา อายุ 32 ปี สังกัด กรมสรรพาวุธกระสุนที่ 22 บชร.2 ได้ก่อเหตุยิง พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ กระแส และ นางอนงค์ มิตรจันทร์ จนเสียชีวิตทั้งคู่
        - จากนั้น ได้ไปที่คลังอาวุธในค่ายสุรธรรมพิทักษ์ แย่งอาวุธปืนจากทหารเวรประจำการ และยิงพลทหารบาดเจ็บ 1 นาย เสียชีวิต 1 นาย ได้อาวุธออกมาเป็นจำนวนมาก ก่อนจะขโมยรถฮัมวีของหน่วยราชการขับหนีออกมาด้วย
         จ.ส.อ.ดังกล่าวใช้อาวุธกราดยิงชาวบ้านที่สัญจรไปมารวมทั้งตำรวจที่เข้าระงับเหตุ พร้อมกับเข้าไปก่อเหตุกราดยิงในวัดป่าศรัทธาธรรม ซึ่งเป็นเส้นทางหลบหนี จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ก่อนจะหลบหนีเข้าไปในห้างเทอร์มินอล 21 โคราช
    -    ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธสงคราม ราดยิงผู้คนบริเวณนั้น พร้อมกับยิงถังแก๊สที่ตั้งอยู่ภายนอกจนระเบิดและเกิดไฟลุกไหม้
      - สถานการณ์ในห้างเทอร์มินอล 21 โคราช อยู่ในความวุ่นวาย ผู้คนพากันหลบหนีออกมาจากห้าง และมีอีกจำนวนมากที่หนีไม่ทัน จำเป็นต้องหลบอยู่ภายในห้างเพื่อรอการช่วยเหลือ  ตำรวจและทหารสนธิกำลังกันเพื่อเร่งคลีคลายสถานการณ์
       พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. สั่งการให้ พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ.  ลงพื้นที่เพื่อปฏิบัติการ
      - สื่อทั้งโทรทัศน์และโซเชียลมิเดียติดตามประเด็นนี้อย่างใกล้ชิด  รวมทั้งไลฟ์บรรยากาศสดในพื้นที่ จนมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม จากการให้รายละเอียดความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่และประชาชนที่ติดอยู่ในอาคาร   จนคนร้ายรับรู้ที่ซ่อนและความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าทีื    จนสำนักงาน กสทช. ได้ขอความร่วมมือ 3 ข้อ ได้แก่
1. ไม่ควรรายงานสด หรือแสดงข้อมูล กระบวนการ และรายละเอียดเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ปฏิบัติงานในสถานการณ์นี้
2. ไม่ควรนำเสนอข้อมูลในสถานที่ที่จะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบ
3. ไม่นำเสนอภาพที่รุนแรง เช่น ภาพผู้เสียชีวิต ภาพการยิงอาวุธ เป็นต้น

- ช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. มีรายงานว่าคนร้ายได้ขึ้นไปที่ชั้น 4 ของห้าง พร้อมจับตัวประกันไว้ 16 คน ทางการจึงส่งหน่วยคอมมานโด หน่วยหนุมานกองปราบ รวมทั้งตำรวจหน่วยนเรศวร 261 ตชด. ลงพื้นที่เกิดเหตุ จากนั้นผู้บัญชาการทหารบก ก็ตามมาลงพื้นที่เกิดเหตุด้วยเช่นกัน

   นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่เปิดเผยว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย และมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 31 ราย

- ประมาณ 22.00 น. ประชาชนที่ติดค้างและหลบซ่อนอยู่บนห้างเทอร์มินอล 21 บริเวณชั้น 4 ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบผ่านการใช้บันไดหนีไฟออกมาได้อย่างปลอดภัย โดยออกมาจากชั้นที่ 1 ประมาณ 60 คน จากชั้นที่ 3 จำนวน 25 คน จากชั้นเครื่องเล่นเด็ก 60 คน โดยทั้งหมดออกมาทางประตูหนีไฟ และเจ้าหน้าที่พยายามกระชับพื้นที่บริเวณชั้น LG
- ประมาณ 01.00 น. ตำรวจควบคุมสถานการณ์ที่ชั้น G ช่วยเหลือประชาชนออกมาได้ และมีรายงานจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ว่าควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล เดินทางมาที่ห้างเทอร์มินอล 21 เพื่อติดตามสถานการณ์ และยืนยันยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 20 คน

- หลังมีรายงานควบคุมสถานการณ์ได้ในเวลา 01.45 น. เจ้าหน้าที่ได้ทยอยนำประชาชนออกมาจากห้างเทอร์มินอล 21 และชุดสุดท้ายได้รับการช่วยเหลือออกมาเมื่อเวลา 02.00 น.

- 03.00 น.เจ้าหน้าเข้าเคลียร์พื้นที่หน้าห้างเทอร์มินอล 21 แต่ในเวลา 03.15 น. สถานการณ์กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง เมื่อมีเสียงปืนดังขึ้นอย่างต่อเนื่องนานหลายนาที จากนั้นมีการนำตัวผู้บาดเจ็บออกมา 4 ราย ปฏิบัติการเคลียร์พื้นที่ยังทำไม่สำเร็จ
- 05.00 น. พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. เดินทางออกจากบริเวณห้างเทอร์มินอล 21 โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ ต่อมาในเวลา 05.30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล ระบุว่าจากเหตุปะทะเมื่อเวลา 03.30 น. มีตำรวจเสียชีวิต 1 นาย รวมขณะนั้นมีผู้เสียชีวิต 21 ราย บาดเจ็บ 33 ราย
- 07.30 น. มีรายงานผู้บาดเจ็บเพิ่มอีก 9 ราย นำส่ง รพ.มหาราช
- เวลาประมาณ 09.50 น. นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พล.ท.ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันแถลงข่าวยืนยันว่า คนร้ายเสียชีวิตแล้วจากปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ในเวลาประมาณ 09.00 น.
- 10.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บินด่วนมาถึง จ.นครราชสีมา รับฟังสรุปเหตุการณ์จาก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และนายอนุทิน ชาญวีรกูล ก่อนไปเยี่ยมคนเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิต ที่ รพ.ค่ายสุรนารี ในเวลา 10.30 น.
- 10.50 น. พล.อ.ประยุทธ์ แถลงข่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยแก้ไขปัญหา และขอแสดงความเสียใจกับเหตุที่เกิดขึ้น
 
    ตัวเลขยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์กราดยิงโคราชอยู่ที่ 30 ราย  (รวมผู้ก่อเหตุ)  และผู้บาดเจ็บ 58 คน
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 10 ก.พ. 20, 19:23

ตามที่ เกิดเหตุคนร้ายประทุษร้ายประชาชน ณ จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันเสาร์ ที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ทำให้มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และได้รับผลกระทบจากภยันตรายดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ความทราบตามข่าวสารที่ปรากฏแล้ว นั้น

เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงพระปรารภห่วงใยผู้ประสบเหตุและผู้สูญเสีย จึงโปรดประทานผ้าไตร ๑ ไตร พร้อมทั้งมีพระบัญชาโปรดให้ไวยาวัจกรจัดกัปปิยภัณฑ์เท่าจำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) ประทานแก่ทายาทของเจ้าหน้าที่และประชาชนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ เพื่อช่วยการบำเพ็ญกุศลศพทุกราย และโปรดประทานเหรียญพระรูป พร้อมทั้งมีพระบัญชาโปรดให้ไวยาวัจกรจัดกัปปิยภัณฑ์เท่าจำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) ประทานแก่ผู้บาดเจ็บทุกรายเพื่อโดยเสด็จพระราชกุศลพระบรมราชานุเคราะห์ในการรักษาพยาบาล

ทั้งนี้ โปรดให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายเทวัญ ลิปตพัลลภ) ในฐานะรัฐมนตรีผู้กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นผู้เชิญสิ่งของและกัปปิยภัณฑ์ประทานไปมอบแก่เจ้าภาพศพและผู้บาดเจ็บทุกรายตามพระประสงค์

อนึ่ง มีรับสั่งประทานกำลังใจแก่ครอบครัว ญาติมิตรของผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้ได้รับผลกระทบทางจิตใจจากเหตุการณ์นี้ เพื่อให้ทุเลาความโศก ความทุกข์ยาก และความหม่นหมอง อีกทั้งโปรดประทานพรให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ผู้ประสบเหตุภยันตรายพร้อมด้วยครอบครัวและญาติมิตร ตลอดจนประชาชนชาวนครราชสีมา และสาธารณชนผู้รู้สึกหดหู่สะเทือนใจ จงถึงพร้อมด้วยศรัทธา ขันติ สติ และปัญญา เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์ความสงบร่มเย็นของสังคมไทยให้เพิ่มพูนยิ่งขึ้นสืบไป

สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=3046387365385685&set=a.3043496855674736&type=3&theater
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 10 ก.พ. 20, 19:59

ยกย่องความกล้าหาญ รปภ. ห้างเทอร์มินอล 21 ช่วยหลายชีวิตรอดตาย #กราดยิงโคราช

https://www.sanook.com/news/8029238/?fbclid=IwAR0czXwU9tAYOOlFLhmrQBgJU1YoBtIz0jRHaES3mhAw0l492KfAQNrexRM
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 10 ก.พ. 20, 20:03

อย่างนี้ควรเอ่ยถึง



คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 10 ก.พ. 20, 21:24

เมื่อ ๓ ปีที่แล้ว ใน พ.ศ. ๒๕๖๐ James N. Meindl ผู้ช่วยศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยเมมฟิส และ Jonathan W. Ivy ผู้ช่วยศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ได้เขียนบทความวิชาการเรื่อง Mass Shootings: The Role of the Media in Promoting Generalized Imitation ในวารสาร American Journal of Public Health  ชี้ว่า ค่าเฉลี่ยของเหตุกราดยิงที่เกิดขึ้นในสหรัฐ จะเกิดขึ้นซ้ำอีกภายใน ๑๒.๕ วัน โดยส่วนหนึ่งเกิดจากการเลียนแบบพฤติกรรม

รองศาสตราจารย์ปณิธาน วัฒนายากร ได้เก็บความสำคัญจากบทความไว้ดังนี้

องค์การอนามัยโลก (World Health Organization) ได้ศึกษาเรื่องนี้มากว่า ๕๐ ปีแล้ว และมีข้อแนะนำที่น่าสนใจว่า

๑. ไม่ควรใส่อารมณ์ความรู้สึกเข้าไปในการรายงานข่าว
๒. ไม่ควรพาดหัวข่าวใหญ่โตเกินไป
๓. ไม่ควรด่วนสรุปว่าเป็นเพราะสาเหตุใดสาเหตุหนึ่ง เพราะในความเป็นจริง จะมาจากหลายปัจจัยประกอบกัน
๔. ไม่ควรจะรายงานซ้ำ ๆ หรือย้ำบ่อย ๆ
๕. ไม่ควรจะนำเสนอขั้นตอนการสังหารโดยละเอียด อันจะนำไปสู่การลอกเลียนแบบ หรือการเรียนรู้ได้ง่าย
๖. จำกัดการนำเสนอของรูปภาพและคลิปวีดิโอให้น้อย เพื่อลดผลกระทบลง
๗. ระมัดระวังในการนำเสนอ ไม่ให้ผู้กระทำผิดถูกยกย่องชื่นชมหรือเป็นแบบอย่าง รวมทั้งเรื่องการสังหารตัวเอง

ซึ่งข้อแนะนำดังกล่าว ทางรัฐบาลอเมริกัน โดย FBI ได้นำไปเป็นนโยบายในการสื่อสารชื่อว่า “อย่าไปเอ่ยชื่อเขา” (Don’t Name Them) และได้นำไปใช้ในกรณีที่อดีตเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเรือนจำชาวอเมริกันที่มีพ่อแม่อพยพมาจากอัฟกานิสถานได้สังหารคนที่มาเที่ยวไนต์คลับไป ๔๙ คนและบาดเจ็บอีก ๕๓ คน ที่เมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา เมื่อหลายปีก่อน

นอกจากนี้ James Meindl และ Jonathan Ivy ยังได้มีข้อเสนอที่น่าสนใจในการสื่อสารอีก ๖ ประการ คือ

๑. สื่อสารให้เห็นถึงความน่าละอาย การละเมิดศีลธรรม จรรยาบรรณ ความขลาดกลัวของมือสังหาร ซึ่งจะป้องกันไม่ให้ผู้ทำผิดถูกชื่นชมหรือยกย่อง
๒. หลีกเลี่ยงการอธิบายเหตุผลของมือสังหาร เพราะซับซ้อน และจะทำให้คนอื่นที่มีปัญหาคล้าย ๆ กัน อาจเลือกแนวทางรุนแรงเป็นทางออกได้
๓. ลดเวลาออกอากาศให้สั้นหรือให้พื้นที่การสื่อสารให้น้อย เพราะการให้เวลาหรือให้พื้นที่สื่อมาก ๆ จะเป็นการให้รางวัลและเพิ่มสถานะทางสังคมของผู้ทำผิด
๔. ควบคุมการให้ข่าวและการแถลงข่าวสดหลังเหตุการณ์ ถึงแม้ว่าอาจจะมีความต้องการบริโภคข้อมูลเป็นอย่างมาก เพราะจะทำให้เกิดความน่าสนใจหรือ “ความตื่นเต้น” เกินความจำเป็น
๕. นำเสนอแต่ข้อเท็จจริงสั้น ๆ อย่าผลิตหรือทำซ้ำอะไรที่เป็น “ดราม่า” โดยเฉพาะไม่ควรพาดหัวว่า “Breaking News” เพื่อสร้างความเร้าใจเพิ่มขึ้น
๖. ไม่ควรลำดับเหตุการณ์โดยละเอียดทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการสังหาร เพราะรายละเอียดเหล่านี้จะถูกนำไปลอกเลียนแบบได้ง่าย

https://www.facebook.com/100000122931524/posts/3361808323833232/
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 11 ก.พ. 20, 08:02

แนวปฏิบัติสื่อต่างชาติรายงานเหตุกราดยิง :  ที่นี่ Thai PBS

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 11 ก.พ. 20, 09:28

ขอตั้งข้อสังเกตบางอย่าง ที่อาจเป็นประโยชน์ในการนำไปถอดบทเรียน เพื่อป้องกันเหตุร้ายไม่ให้ลุกลามใหญ่โตอย่างคราวนี้

1   คนร้ายผู้ก่อเหตุ ฆ่าเหยื่อ 3 รายแรกเมื่อเวลาประมาณ 15  น.    เข้าไปยิงครั้งแรกในเทอร์มินัล 21  เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. (ตามหลักฐานจากปชช.ที่ประสบเหตุ)   
     ระหว่างเวลา 2 ชม.ครึ่งนี้ได้ฆ่าทหารในค่าย ปล้นอาวุธสงคราม   ฆ่าตำรวจและประชาชนตามท้องถนน ด้วยอาวุธปืน ทำให้มีผู้ตายหลายราย เป็นฆาตกรรมที่เปิดเผย ใช้อาวุธสงครามที่มีเสียงดัง   ไม่ใช่การลอบสังการ
     แต่นอกจากตำรวจ 1  รายที่เข้าไปขัดขวางเพื่อจับกุมแล้วถูกยิงตาย      ไม่มีปฏิบัติการจากหน่วยงานใดๆ ทั้งทหารและตำรวจ   แสดงว่ายังไม่รับทราบ หรือรับทราบแล้วแต่ยังไม่เคลื่อนไหวเข้าระงับเหตุ
    เวลา 2  ชั่วโมงครึ่ง   คนร้ายลงมือได้อย่างย่ามใจ  สะดวกในการทำงานมาตลอด

2    คนร้ายปล้นอาวุธของทางราชการ ประกอบด้วย
      1. จากป้อมรักษาการณ์ ปลย.11 จำนวน 1 กระบอก + กระสุน 5.56 จำนวน 40 นัด ,
      2. จากกองร้อย(คลังอาวุธ)ปลย.11 (HK) จำนวน 1 กระบอก / ปก.M60 จำนวน 1 กระบอก
     ,3. จาก บก.พันฯ รยบ.51บี และ. จากคลังกระสุนกองพันฯ กระสุน 5.56 จำนวน 736 นัด
      ด้วยการยิงทหารยามตาย 1 บาดเจ็บ 2   ขโมยรถของกองทัพอีก 1 คันขับออกไปจากค่ายทหาร เข้าสู่ตัวเมือง

     การเข้าถึงอาวุธสงครามทำได้ง่ายมาก   ไม่มีการสแกนบัตรหรือลายนิ้วมือเพื่อเปิดประตูเข้าออกสู่คลังอาวุธได้  ไม่มีกล้องวงจรปิดที่มีเจ้าหน้าที่คอยสังเกตการณ์ความผิดปกติต่างๆ 
     นอกจากนี้      เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น  ในค่ายไม่มีใครได้ยินเสียงปืน ที่ดังอย่างน้อย 3 นัด
      ไม่มีใครเห็นคนร้ายขนอาวุธเข้าออกจากสถานที่ต่างๆซึ่งอยู่คนละแห่งกัน    หรือเห็นแต่ไม่ผิดสังเกต ที่คนร้ายหอบอาวุธสงครามพะรุงพะรังเดินไปมาหลายเที่ยว 
     ไม่มีใครเห็นว่าคนร้ายไปเอากุญแจรถมาจากไหน ถึงไขเข้าไปขับรถฮัมวี่ออกจากค่ายได้   
     ยามที่เฝ้าประตูเข้าออกก็ไม่ผิดสังเกตแต่อย่างใด ที่คนร้ายเข้ามาในค่ายด้วยยานพาหนะชนิดหนึ่ง และออกไปด้วยยานพาหนะอีกชนิดหนึ่ง

    ทั้งหมดนี้ประมวลจากข่าวที่ได้อ่านค่ะ   ถ้าผิดพลาดอย่างไรขออภัยด้วย
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 11 ก.พ. 20, 09:45

   ประมวลจากช่วงเวลาที่เกิดเหตุ  และวิธีการทำงานของคนร้าย ทำให้ดิฉันสงสัยว่าเหตุการณ์นี้มีการวางแผนล่วงหน้าไว้แล้วอย่างดี    ไม่ใช่การบันดาลโทสะจากข้อพิพาทส่วนตัว ยิงคู่กรณีตายแล้วเกิดอารมณ์คลุ้มคลั่ง  เตลิดไปยิงผู้คนตามถนนหนทาง     แต่เป็นการวางแผนไว้ว่าพบคู่กรณีที่ไหน  เวลาไหน วันไหน ถึงยิงตายไปได้ 3 คนโดยไม่มีชาวบ้านแตกตื่นแห่กันเข้ามา หรือโทรแจ้งเหตุ   
   เหตุเกิดตอนบ่ายสามโมง  ไม่ใช่ตีสาม    ถ้าเกิดกลางดึกชาวบ้านอาจไม่กล้าออกจากบ้านมาดู ต้องรอจนเช้า   แต่นี่เป็นเวลาบ่ายวันหยุด   แถวนั้นเป็นบ้านนายทหารมีคนอยู่กันคึกคัก  ไม่ใช่บ้านเดี่ยวกลางทุ่ง 
   นอกจากนี้การปล้นอาวุธ  จะเห็นได้ว่าต้องใช้เวลาพอสมควรจากการขนอาวุธต่างๆหลายชนิด      ยิงทหารยามตายด้วย  หารถขนอาวุธออกไปด้วย    ทั้งหมดนี้ไม่มีการขัดขวาง ไม่มีใครเห็นหรือได้ยินเสียงปืน  ไม่มีใครเอะใจ    คนร้ายจะต้องเลือกวัน เวลา ที่รู้ว่าปลอดคน  และเส้นทางในค่ายทหารที่ปลอดจากสายตาและการรับรู้ของคนในค่าย

   ดังนั้น เรื่องที่พูดกันว่าคนร้ายถูกโกง ได้รับแรงกดดัน จึงทำลงไป น่าจะไม่ใช่ความจริงทั้งหมด
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3 ... 6
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.093 วินาที กับ 20 คำสั่ง