ย้อนกลับไปถึงตอนต้นๆของกระทู้นี้ ที่ดิฉันตั้งคำถามถึงการปล้นอาวุธในค่าย และการหลบหนีออกมาโดยไม่มีผู้ใดทราบ
ได้คำตอบจากข่าวนี้ว่า ทหารในค่ายรู้ว่ามีการปล้นอาวุธ แต่สะกัดไม่ทัน และไม่ได้ระบุว่ามีการติดตามผู้ก่อเหตุ
https://www.thaipost.net/main/detail/56949เพจทหารเล่าเหตุการณ์กราดยิงโคราชก่อนย้อนถามถ้าเป็นผบ.ทบ.จะรับผิดชอบอย่างไร!12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 08:47 น.
12 ก.พ.2563 – เพจทหารหลังกองพัน โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “สรุปเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ #กราดยิงโคราช ถ้าหากท่านฟังจนจบ แล้วหากว่าท่านเป็น ผบ.ทบ. ท่านจะรับผิดชอบอย่างไร??”มีเนื้อหาว่า
1. เล่าเหตุการณ์ก่อน เสาร์ที่ 8 ก.พ. เวลา 14.00 น. ผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืนส่วนตัวสังหารคู่กรณีและเครือญาติ ณ บ้านพัก ด้วย ***ปืนส่วนตัว 5 ชนิด*** (ซึ่งมีขั้นตอนการได้มาที่ถูกต้อง ตามระเบียบ) คือ ก่อนไปปล้นคลังอาวุธ เขามีอาวุธส่วนตัวไปก่อเหตุมาแล้วนั่นแหละ)
ต่อมาเวลา 15.00 น. ได้ใช้ ***รถยนต์ส่วนตัว*** ขับมาที่ป้อมยาม และได้ใช้อาวุธปืนที่พกไป ขู่เจ้าหน้าที่ที่รักษาการอยู่ และได้ชิงปืน HK33 พร้อมกระสุน 40 นัด ***ที่บันจุอยู่ในแมกกาซีน*** (คือยังไม่ได้บรรจุกระสุนอะ อยู่ในแมกกาซีน อยู่ๆมีคนปืนพร้อมมาขู่แล้ว จะสู้ยังไงใช่มะ??) เลยโดนชิง HK33 กระบอกแรกไป ทีนี้ล่ะ ถึงได้ขับรถต่อไปคลังอาวุธ ซึ่ง ณ จุดนั้นเป็นจุดที่มีพลทหารรักษาการอยู่ ผู้ก่อเหตุได้ใช้ปืนที่ปล้นมาตั้งแต่จุดแรก (HK33) กราดยิงพลทหารเมธา เลิศศิริ จนเสียชีวิต
และหลังจากนั้นผู้ก่อเหตุได้ใช้ปืนลูกซอง เรมิงตัน 870 (ปืนตัวเอง) ซึ่งเป็นลูกซองที่มีอานุภาพในการยิงสูง ซึ่งใช้ทำลายประตูและลูกกุญแจ มาก่อเหตุด้วยการยิงกุญแจซึ่งเป็นกุญแจซึ่งมีความแข็งแรง และได้ยิงตัวบานอาวุธคลัง ได้ทำการปล้นปืน HK33 และ ปืนกล M60 อีก อย่างละกระบอก ***ยังไม่ได้กระสุนนะ เพราะคลังอาวุธ และกระสุนอยู่แยกกัน*** (สรุปคือใช้กำลังในการทำลายประตูเข้าไป ไม่ได้ไปชิงกุญแจมาเปิด ซึ่งเป็นการยากมากที่จะไปขู่นำกุญแจมา จากระบบการบริหารจัดการดูแลคลังอาวุธ) จากนั้นใช้ปืน HK33 กราดยิงยามรักษาการซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ฝั่งตรงข้ามบาดเจ็บ ซึ่งไม่ทันได้ตั้งตัวเพราะคาดไม่ถึงว่าพวกเดียวกันจะยิงมา
พอน้องพลทหาร ได้เรียนนาย และทหารภายในเริ่มทราบได้ยินเสียงปืน คนร้ายก็ได้นำรถจิ๊ปที่ดัดแปลงเป็นรถตรวจการ (ไม่ใช่รถฮัมวี่อย่างที่สื่อเข้าใจ) ขโมยรถเสร็จก็เอาไปขับชนประตูคลังกระสุน ซึ่งเป็นคลังที่เป็นประตูเหล็กหนาแน่นจนประตูเสียหาย ***ขับรถชนประตูนะ*** จนเข้าไปในคลังได้ และขโมยกระสุน 5.56 มม.ที่ใช้ HK33 และขณะเดียวกันชุดเผชิญเหตุได้รับแจ้งจากพลทหารพยายามไล่ติดตามไปแต่เนื่องจากรถได้ถูกผู้ก่อเหตุขโมยไปจึงต้องใช้รถยนต์ส่วนตัว อาวุธก็ไม่มีเพราะอยู่ในคลัง ใช้ปืนพกไล่ยิงจนผู้ก่อเหตุออกมานอกค่าย
ได้ไปก่อเหตุกราดยิงประชาชนตามรายทาง ซึ่งมีการแจ้งตำรวจแล้ว จากนั้นผู้ก่อเหตุได้เข้าไปในห้าง เทอมินัล 21”