เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6
  พิมพ์  
อ่าน: 5293 เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 30  เมื่อ 12 ก.พ. 20, 07:54

    ตีสี่สถานการณ์ในรพ.เริ่มคลีคลาย ผู้ป่วยหลายรายผ่าตัดเรียบร้อย หลายรายแอดมิทขึ้นไปแล้ว หลายรายก็กลับบ้านพวกผมแบ่งกันไปพัก คืนนี้ขอพักรบแต่นี่ก็ใกล้เช้าแล้ว

  9 กพ 2563 9.00
   เสียงไลน์เด้งไม่หยุด ให้Trauma teamเตรียมพร้อม ใครอยู่ในรพ.ขอกำลังเสริมด่วน กำลังลำเลียงผู้ป่วยไปรพ.หลายรายมีสาหัส   ผมรีบลุกจากเตียงไปER ไปด้วยใจ  แม้ไม่ได้อยู่เวร พี่ๆน้องๆอ.ศัลย์หลายคนมาพร้อมแล้ว มีรุ่นพี่ศัลยแพทย์จากรพ.อื่นมาช่วยด้วย ผู้ป่วยเริ่มมาถึง การรักษาดำเนินไปอย่างรวดเร็วตามแผน ผู้ป่วยถูกพาไปห้องผ่าตัดอย่ารวดเร็ว ทีมเตรียมพร้อมมาก สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิด ผู้ป่วยถูกยิงมีแผลหลายที่ไม่รู้สึกตัวหายใจอ่อนยังคลำชีพจรได้ แต่ใบหน้าของผู้ป่วยรายนี้พวกเราคุ้นหน้ารู้จักกันดี พี่จนท.นวก.ของภาควิชาศัลย์ดูแลตั้งแต่น้องปี4ถึงextern ทุกคนช๊อก รีบคลำชีพจร คลำไม่ได้ witness arrest start ER thoracotomy, internal cardiac massage เข็นเข้า OR แต่เราก็ยื้อไม่ไหว จากเราไปในที่สุด เกือบเที่ยงทุกอย่างเริ่มคลี่คลายลง ทีมที่ทำงานมาแต่เมื่อวานรวมถึงผมได้ไปพัก ส่งไม้ต่อให้ทีมวันนี้

ขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้สูญเสียทุกๆท่าน ขอทุกดวงวิญญาณจงไปสู่สุคติ ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทุกคนที่เสียสละจะอยู่ในใจของพวกเรา

บารมีย่าโมคุ้มครองลูกหลานชาวโคราชบ้านเอง ให้ปลอดภัย ให้มีกำลังแรงใจสู้ต่อไป
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 31  เมื่อ 12 ก.พ. 20, 07:59

พฤฒิพล ประชุมผล
10 กุมภาพันธ์ เวลา 20:54 น. ·

จากเหตุการณ์กราดยิงที่โคราช ทำให้เราได้รู้ว่ามีคนไทยที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ บ้างก็ยอมเสี่ยงตาย บ้างก็เสียสละทำในสิ่งที่ตนเองถนัด เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้เคราะห์ร้าย รวมทั้งพยายามช่วยให้สถานการณ์เลวร้ายต่างๆ ดีขึ้น ... ซึ่งผมจะพยายามรวบรวม "ผู้ปิดทองหลังพระ" ทุกสาขาอาชีพไว้เป็นจดหมายเหตุ "คนไทยตัวอย่างที่ไม่ทิ้งกันยามมีภัย" และจารึกคำขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ :

๑. ผู้สื่อข่าวช่อง ๗ ที่ยอมเสี่ยงตายเข้าไปบังคับโดรนส่องหาตำแหน่งคนร้ายในอาคาร

๒. คุณนุ้ย-วนิดา รองผู้จัดการสาขาฮาร์เบอร์แลนด์ ที่ช่วยต้อนเด็กเกือบ ๔๐ คนและผู้ปกครองที่เกือบร้อยคนให้เร่งหลบในที่ปลอดภัย

๓. พนักงานแกรปฟู้ด ที่รวมตัวกันบริการส่งประชาชนที่เจ้าหน้าที่พาหนีออกมาได้ ออกนอกพื้นที่กลับบ้าน

๔. เจ้าหน้าที่ประจำรถพยาบาลทุกท่าน
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 32  เมื่อ 12 ก.พ. 20, 08:00

๕. เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้าง พี่อำนาจ บุญเกื้อ ที่พยายามต้อนประชาชนตรงทางออกของห้างเข้าที่กำบัง และสุดท้ายก็เสียชีวิต

๖. เจ้าหน้าที่ของธนาคารไทยพาณิชย์ ที่เร่งพาลูกค้าเข้าไปหลบภายในห้องเซฟเก็บเงินทั้งสองห้อง

๗. น้องอธิวัฒน์​ พรมสุข เสียชีวิตบริเวณห้องเย็นชั้น ​LG.​ เป็นผู้กล้าที่ช่วยดันประตู​ห้องเย็น​เอาไว้ จนคนร้ายพังเข้ามา​ สุดท้ายน้องรับกระสุนแทนคนในห้องนั้น​ เพื่อให้คนอื่นได้วิ่ง ออกมาได้​ 9​ คน​ แต่​คนร้ายตามมายิง​ หนีรอดได้​ 8​ น้องอายุ​18​

๘. แอดมินเพจหมอแล็บแพนด้า แอดมินเพจแหม่มโพธิ์ดำ แอดมินเพจ drama-addict ทำหน้าที่เป็นเครือข่ายออนไลน์ รับส่งต่อข้อมูลช่วยเหลือประชาชนออกจากห้างไปยังเพจกองปราบปราม ... ขอพระคุณแอดมินเพจกองปราบปรามด้วยครับ ... "คนไทย เราจะไม่ทิ้งกัน ขอบคุณครับ"

๙. นายจิรัฐิติกาล นอบไทย หรือ น้องเนย บิ๊กไบค์ที่พยายามไปช่วยช่วยลำเลียงคนเจ็บ แต่ถูกคนร้ายยิงคนช่วยอีกที บาดเจ็บ ยังรักษาตัว

๑๐. คุณหมอที่ไปช่วยผู้บาดเจ็บ ถูกยิงจนเกิดภาวะปอดรั่วเข้า ICU
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 33  เมื่อ 12 ก.พ. 20, 08:01

๑๑. ห้างโคราช เดอะมอลล์ และ บิ๊กซี เซนทรัล คลังพลาซ่า นำข้าวกล่อง น้ำดื่ม กาแฟ แจกนักข่าว เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และสื่อมวลชน หน้าห้างเทอร์มินอล 21 ขอขอบคุณน้ำใจทั้งสองห้าง โดยทีมงานห้างเดอะมอลล์โคราช ได้นำข้าวกล่องหลายร้อยกล่องพร้อมน้ำดื่มมาเดินแจก เพราะทุกคนอยู่ในเหตุการณ์กันข้ามคืน ส่วนพนักงานห้างบิ๊กซี ก็เดินแจกน้ำดื่มและกาแฟกระป๋องให้ทุกคนอีกด้วย (ที่มา: สนามข่าว 7 สี)

๑๒. ร้านเกมชื่อ "นกฮูก" เปิดร้านให้เจ้าหน้าที่เข้าไปพักระหว่างปฏิบัติภารกิจ รวมถึงพนักงานร้านค้าทุกร้านที่ช่วยเรียกลูกค้าเข้าไปหลบในร้านตนเอง ประชาชน หอพัก บริเวณที่ประชาชนหนีออกมาได้แล้ว บริการแจกน้ำดื่ม ... ขอบพระคุณจากใจจริงครับ ... "ยามมีภัย ไทยต้องช่วยกัน"

๑๓. จดหมายเหตุคนไทยไม่ทิ้งกัน ต้องบันทึกหัวใจคนไทยซึ่งเป็นผู้ให้โดยแท้ นั่นคือ "ผู้ที่บริจาคเลือดทั้งในโคราชและจังหวัดใกล้เคียงทั้งหมด" ครับ ... ท่านทั้งหลายคือผู้ปิดทองหลังพระตัวจริง กราบขอบพระคุณที่เราไม่ทิ้งกันครับ

๑๔. อาสากู้ภัยทั้งหมดทั้งมวลที่เข้าพื้นที่ และคอยช่วยเหลือประชาชน อำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ตลอดคืนข้ามวัน ... ทุกคนทราบดีว่าทุกท่านเหนื่อยมาก ขอกราบขอบพระคุณหัวใจที่เต็มเปี่ยมด้วยเมตตาของทุกท่านครับ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 34  เมื่อ 12 ก.พ. 20, 08:01

๑๕. นางสาวกฤษณา ช่างก่อหรือ หมวยลี่ เป็นพนักงานบริษัทเอกชน และเป็นยูทูปเบอร์อิสระ ได้อาสาเดินทางไปแต่งหน้าศพของผู้เสียชีวิตให้สวยที่สุด เมื่อนำร่างไปรดน้ำศพ จะช่วยเยียวยาจิตใจของญาติผู้สูญเสียได้

๑๖. ด.ต.ชัชวาลย์ แท่งทอง อายุ 50 ปี สภ.เมืองนครราชสีมา และ นายทัศนะ หริรักษ์ อาสาสมัครตำรวจบ้าน ขับรถยนต์สายตรวจเข้าไประงับเหตุในช่วงเริ่มต้นเหตุการณ์ แต่ยังไม่ทันได้ลงจากรถ ก็ถูกยิงกระสุนก็เต็มกระจก เสียชีวิตทั้งคู่ทันที (ได้ edit รายชื่อผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมแล้ว)

๑๗. ร้านอึ้งเจริญดีเซล เฮียชื่อเชียรและอาม่า (ไม่ทราบชื่อ) ช่วยนำน้ำและยาดมมาให้ผู้ประสบเหตุหนีออกจากห้าง และรีบปิดประตูร้านให้หลบข้างใน

๑๘. คุณอาคม จิตรตปัญโญ พร้อมภรรยา ช่วยขับรถส่งผู้ประสบภัย คุณ Namtan Mtra จากโคราช ถึง อ.ประทาย ไปกลับ 200 กิโลเมตร...แถมช่วยงัดแม่กุญแจเข้าบ้านให้ด้วย (ปล.กุญแจบ้านติดอยู่ในรถซึ่งจอดอยู่ในห้าง เอารถออกไม่ได้)
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 35  เมื่อ 12 ก.พ. 20, 08:02

๑๙. ขอขอบพระคุณทีมคุณหมอที่มาช่วยชันสูตรศพ ซึ่งมาจากหลายแห่ง บางท่านแม้อยู่ในช่วงลาพักร้อน ก็รีบขับรถมาช่วย เพื่อจะได้นำศพมอบให้กับญาติได้โดยเร็วที่สุด ขอกราบขอบคุณผู้ปิดทองหลังพระอีกหนึ่งทีมครับ

๒๐. กลุ่มแพทย์และพยาบาลสหวิชาชีพ โรงพยาบาลมหาราช และโรงพยาบาลใกล้เคียงที่ทำงานกันอย่างหนักเพื่อรักษาชีวิตผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิง

๒๑. เจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงเทพชั้น 2 ที่พาคนเดินห้างหลบเข้าห้องนิรภัยได้ 18 คน ... ขอบคุณการตัดสินใจที่เด็ดขาด ทันท่วงที และทำให้ทุกคนปลอดภัยครับ

๒๒. ทีมสุขภาพจิตจากกรมสุขภาพจิต ที่มีผู้แทนมาจากโรงพยาบาลต่างๆในสังกัดกรมสุขภาพจิต ประกอบด้วยจิตแพทย์ พยาบาลจิตเวช นักจิตวิทยาคลินิก เภสัชกร นักสังคมสงเคราะห์จิตเวช นักกิจกรรมบำบัด นักอาชีวบำบัด
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 36  เมื่อ 12 ก.พ. 20, 08:03

๒๓. เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทุกท่าน รวมถึงท่านที่ขับรถดับเพลิงคอยเป็นโล่กันกระสุนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยครับ (มีคลิปในคอมเม้นต์ข้างล่างครับ)

๒๔. เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้างเทอร์มินัล (นายไชยวัฒน์ ทำกิน - พี่เสื้อแดง) ที่ช่วยเร่งระบายประชาชนออกจากห้างได้จำนวนมาก

๒๕. พนักงานร้านสตาร์บัค ที่ช่วยเรื่องที่หลบภัยให้ประชาชนรวม 17 คน

๒๖. เจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร ของ. พัน.สห.21 มทบ.21 ที่เข้าไปปิดพื้นที่เป็นชุดแรกๆกับ. ตำรวจ นปพ. และช่วยลำเลียงประชาชนออกมาตั้งแต่เริ่มสภานการณ์คับขันและอยู่กันจนถึงเช้า

๒๗. ส.ต.ท.กรกต อ่ำพันเงิน ผล.หมู่ สภ.เมืองนครราชสีมา ที่ไปกันรถประชาชนไม่ให้เข้าไปพื้นที่บริเวณหน้าวัดที่คนร้ายกำลังกราดยิง แล้วสุดท้ายโดนคนร้ายขับรถมายิงใส่จนขาเกือบขาด ตำรวจท่านนี้ได้ช่วยลดความสูญเสียชีวิตประชาชนบริเวณหน้าวัดได้เป็นจำนวนมาก แม้ตนเองถูกยิงบาดเจ็บสาหัส (มีภาพประกอบในคอมเม้นต์ข้างล่างครับ)
* ถ้าท่านใดทราบ "ผู้ปิดทองหลังพระ" ทุกสาขาอาชีพ ที่ยอมเสียสละเพื่อเข้าช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นภัย ... รบกวนคอมเมนต์เพิ่มเติมให้ผมหน่อยนะครับ ... ผมจะพยายาม edit รายละเอียดและเพิ่มรายชื่อ สาขาอาชีพให้สมบูรณ์ที่สุด เพื่อเป็นจดหมายเหตุ "คนไทยตัวอย่างที่ไม่ทิ้งกันยามมีภัย" ครับ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 37  เมื่อ 12 ก.พ. 20, 08:17

จาก  facebook ของ Army times Thailand

เจ้าหน้ากลุ่มหนึ่งที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงพวกเขาคือ เจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร ของ. พัน.สห.21 มทบ.21 ที่เข้าไปปิดพื้นที่เป็นชุดแรกๆกับ. ตำรวจ นปพ. และช่วยลำเลียงประชาชนออกมาตั้งแต่เริ่มสถานการณ์และอยู่กันจนถึงเช้า


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 38  เมื่อ 12 ก.พ. 20, 08:19

ฆษกกรมสุขภาพจิต เผยสถิติต่างประเทศ คนร้ายกราดยิงสุขภาพจิตปกติที่จัดการอารมณ์ไม่ได้ในตอนนั้น เป็นผู้ป่วยจิตเวชเพียง 25 เปอร์เซ็นต์ แนะอย่าละเลยดูแลความเครียดตัวเอง ห่วงเกิดเหตุซ้ำหากยังไม่เปลี่ยนแปลงการจัดการปัญหา - การนำเสนอของสื่อ ลั่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ไม่ใช่การแก้แค้น เลิกหาเหตุผลมารองรับสร้างความชอบธรรม ต้องทำให้คนร้ายไร้ตัวตน เข้าใจสื่อเพิ่งเคยเจอเหตุแบบนี้ครั้งแรกจึงพลาดกันได้ แต่ถ้ามีครั้งหน้ายากจะให้อภัย

วันที่ 11 ก.พ. 63 ดร.นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกรมสุขภาพจิต ร่วมสนทนาในรายการ "คนเคาะข่าว" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่อง "นิวส์วัน" ในหัวข้อ "บทเรียนจิตใจ จากเหตุกราดยิงโคราช"

นพ.วรตม์ กล่าวว่า การกระทำลักษณะแบบนี้ ขอไม่พูดถึงกรณีในไทย แต่ต่างประเทศ เอฟบีไอได้วิจัยเก็บข้อมูล พบว่าสาเหตุมีความหลากหลายมาก สาเหตุทั่วไปที่ทุกคนมี เช่น งาน เงิน ฯลฯ แต่มี 3 - 4 สาเหตุ มีหลายปัจจัยกระตุ้นให้ก่อเหตุ ซึ่งสัญญาณนั้นส่วนมากคนรอบข้างเห็นอยู่แล้ว 80-90 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่ได้รับการแก้ไข ส่วนเรื่องปัญหาสุขภาพจิต มีเพียง 25 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง ที่พบว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาสุขภาพจิต 75 เปอร์เซ็นต์ คือคนธรรมดา ๆ แบบพวกเรานี่แหละ แต่เกิดปัญหาที่ไม่สามารถจัดการอารมณ์ตัวเองได้ในขณะนั้น

นพ.วรตม์ กล่าวอีกว่า สัญญาณก่อเหตุ ถ้าคนสนิทจะเห็นสัญญาณเล็ก ๆ อยู่แล้ว ความรุนแรงใหญ่ ๆ มาจากสัญญาณเล็ก ๆ เสมอ แต่บางครั้งเราปล่อยผ่าน ที่อเมริกาหลายครั้งผู้ก่อเหตุมักมีการพูดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าที่มีการกระทำ เรียกง่าย ๆ คือการเอาแบบอย่าง ยิ่งถ้ามีการเสียชีวิตมาก ๆ เป็นที่จดจำของสังคม บางทีกลุ่มนี้มองว่าเป็นแบบอย่าง ในเมื่อไม่เป็นที่ต้องการของสังคมแล้ว ทำแบบที่คนนี้ทำดีกว่า
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 39  เมื่อ 12 ก.พ. 20, 08:19

นพ.วรตม์ กล่าวด้วยว่า มันไม่ยุติธรรม ถ้ามองว่าผู้ก่อเหตุเป็นผู้ป่วยจิตเวช ถ้าเป็นเช่นนั้นเราก็จะมองว่าตัวเองไม่ป่วย เราไม่มีโอกาสเป็นผู้ก่อเหตุ จะทำให้ละเลยการพิจารณาดูแลความเครียดของตัวเอง

เมื่อถามว่าเป็นพฤติกรรมเลียนแบบเหตุการณ์ปล้นร้านทองหรือไม่ นพ.วรตม์ กล่าวว่า บอกไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าใช่หรือไม่ เพราะมีปัจจัยหลายอย่างแบบที่บอก แต่ก็ต้องดูว่ามันเกิดติดกัน ต่างประเทศเวลาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็จะเกิดถี่ จนกระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง เช่นเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ เปลี่ยนแปลงการจัดการปัญหาเรื่องนี้ เปลี่ยนการนำเสนอของสื่อ ถ้าปล่อยไปแบบเดิมก็จะเกิดแบบเดิมซ้ำ ๆ

พฤติกรรมเลียนแบบเป็นจิตวิทยาสื่อรูปแบบหนึ่ง เมื่อดูสื่อ เสพสื่อ ก็มีแนวโน้มคล้อยตาม อย่างโฆษณาก็ใช้หลักการเดียวกัน เวลานำเสนอเรื่องอะไรมาก ๆ เช่นยูทูปเบอร์ เด็กเห็นก็อยากเป็นกันเยอะ หรือการฆ่าตัวตายด้วยการรมควัน พอสื่อเสนอหลังจากนั้นก็ใช้วิธีเดียวกันตามมาในหลายครั้ง เพราะมนุษย์ได้รับอิทธิพลจากพวกนี้ตลอด
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 40  เมื่อ 12 ก.พ. 20, 08:20

บางครั้งถ้าภาพที่ออกมา มีความรุนแรงบ่อย ๆ เราจะเริ่มเกิดความชินชา เห็นว่าสิ่งนี้ก็เกิดขึ้นทุกวัน สอง เราจะพบว่าสิ่งนี้มีตัวตนอยู่จริง ทำให้เรียนรู้วิธีจัดการ ยิ่งสื่อลงรายละอียดมากว่าต้องทำอย่างนี้ ๆ ก็เกิดการเลียนแบบขึ้นได้ สาม ผู้รับสื่ออาจเกิดการเบื่อหน่าย เศร้า ความรุนแรงในสื่อมีผลกระทบทั้ง 3 อย่างในมนุษย์

นพ.วรตม์ กล่าวว่า เราถึงจุดแล้วที่ต้องให้ผู้กระทำไม่มีตัวตน นี่เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องสรุปว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่เราต้องระวัง แล้วต้องหาวิธีแก้ด้วย แล้วต้องไม่เอาเหตุผลนั้นไปรองรับพฤติกรรม อาจดูว่าการแก้แค้นเป็นเหตุผล แต่การกราดยิงนี่คือผู้บริสุทธิ์ ต้องแยกพิจารณา ไม่ควรหาเหตุผลมารองรับว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

ส่วนสื่อโดนโจมตี สถานการณ์นี้ยากลำบากจริง เพราะสื่อก็เพิ่งเคยเจอ หน่วยงานต่าง ๆ ก็เพิ่งเคยเจอ จึงผิดพลาดกันได้ เมื่อพลาดก็ต้องยอมรับเสียงสะท้อนสังคม คนไทยพร้อมให้อภัย แต่อนาคตถ้ามีครั้งหน้าอีก น่าจะลำบากที่จะให้อภัย
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 41  เมื่อ 12 ก.พ. 20, 09:09

ย้อนกลับไปถึงตอนต้นๆของกระทู้นี้ ที่ดิฉันตั้งคำถามถึงการปล้นอาวุธในค่าย และการหลบหนีออกมาโดยไม่มีผู้ใดทราบ
ได้คำตอบจากข่าวนี้ว่า ทหารในค่ายรู้ว่ามีการปล้นอาวุธ แต่สะกัดไม่ทัน และไม่ได้ระบุว่ามีการติดตามผู้ก่อเหตุ

https://www.thaipost.net/main/detail/56949

เพจทหารเล่าเหตุการณ์กราดยิงโคราชก่อนย้อนถามถ้าเป็นผบ.ทบ.จะรับผิดชอบอย่างไร!
12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 08:47 น.

12 ก.พ.2563 – เพจทหารหลังกองพัน โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “สรุปเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ #กราดยิงโคราช ถ้าหากท่านฟังจนจบ แล้วหากว่าท่านเป็น ผบ.ทบ. ท่านจะรับผิดชอบอย่างไร??”มีเนื้อหาว่า

1. เล่าเหตุการณ์ก่อน เสาร์ที่ 8 ก.พ. เวลา 14.00 น. ผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืนส่วนตัวสังหารคู่กรณีและเครือญาติ ณ บ้านพัก ด้วย ***ปืนส่วนตัว 5 ชนิด*** (ซึ่งมีขั้นตอนการได้มาที่ถูกต้อง ตามระเบียบ) คือ ก่อนไปปล้นคลังอาวุธ เขามีอาวุธส่วนตัวไปก่อเหตุมาแล้วนั่นแหละ)

ต่อมาเวลา 15.00 น. ได้ใช้ ***รถยนต์ส่วนตัว*** ขับมาที่ป้อมยาม และได้ใช้อาวุธปืนที่พกไป ขู่เจ้าหน้าที่ที่รักษาการอยู่ และได้ชิงปืน HK33 พร้อมกระสุน 40 นัด ***ที่บันจุอยู่ในแมกกาซีน*** (คือยังไม่ได้บรรจุกระสุนอะ อยู่ในแมกกาซีน อยู่ๆมีคนปืนพร้อมมาขู่แล้ว จะสู้ยังไงใช่มะ??) เลยโดนชิง HK33 กระบอกแรกไป ทีนี้ล่ะ ถึงได้ขับรถต่อไปคลังอาวุธ ซึ่ง ณ จุดนั้นเป็นจุดที่มีพลทหารรักษาการอยู่ ผู้ก่อเหตุได้ใช้ปืนที่ปล้นมาตั้งแต่จุดแรก (HK33) กราดยิงพลทหารเมธา เลิศศิริ จนเสียชีวิต

และหลังจากนั้นผู้ก่อเหตุได้ใช้ปืนลูกซอง เรมิงตัน 870 (ปืนตัวเอง) ซึ่งเป็นลูกซองที่มีอานุภาพในการยิงสูง ซึ่งใช้ทำลายประตูและลูกกุญแจ มาก่อเหตุด้วยการยิงกุญแจซึ่งเป็นกุญแจซึ่งมีความแข็งแรง และได้ยิงตัวบานอาวุธคลัง ได้ทำการปล้นปืน HK33 และ ปืนกล M60 อีก อย่างละกระบอก ***ยังไม่ได้กระสุนนะ เพราะคลังอาวุธ และกระสุนอยู่แยกกัน*** (สรุปคือใช้กำลังในการทำลายประตูเข้าไป ไม่ได้ไปชิงกุญแจมาเปิด ซึ่งเป็นการยากมากที่จะไปขู่นำกุญแจมา จากระบบการบริหารจัดการดูแลคลังอาวุธ) จากนั้นใช้ปืน HK33 กราดยิงยามรักษาการซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ฝั่งตรงข้ามบาดเจ็บ ซึ่งไม่ทันได้ตั้งตัวเพราะคาดไม่ถึงว่าพวกเดียวกันจะยิงมา

พอน้องพลทหาร ได้เรียนนาย และทหารภายในเริ่มทราบได้ยินเสียงปืน คนร้ายก็ได้นำรถจิ๊ปที่ดัดแปลงเป็นรถตรวจการ (ไม่ใช่รถฮัมวี่อย่างที่สื่อเข้าใจ) ขโมยรถเสร็จก็เอาไปขับชนประตูคลังกระสุน ซึ่งเป็นคลังที่เป็นประตูเหล็กหนาแน่นจนประตูเสียหาย ***ขับรถชนประตูนะ*** จนเข้าไปในคลังได้ และขโมยกระสุน 5.56 มม.ที่ใช้ HK33 และขณะเดียวกันชุดเผชิญเหตุได้รับแจ้งจากพลทหารพยายามไล่ติดตามไปแต่เนื่องจากรถได้ถูกผู้ก่อเหตุขโมยไปจึงต้องใช้รถยนต์ส่วนตัว อาวุธก็ไม่มีเพราะอยู่ในคลัง ใช้ปืนพกไล่ยิงจนผู้ก่อเหตุออกมานอกค่าย
ได้ไปก่อเหตุกราดยิงประชาชนตามรายทาง ซึ่งมีการแจ้งตำรวจแล้ว จากนั้นผู้ก่อเหตุได้เข้าไปในห้าง เทอมินัล 21”


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 42  เมื่อ 12 ก.พ. 20, 09:10

2. แรงจูงใจมาจากอะไรล่ะ?? เนื่องจากผู้ก่อเหตุไม่ได้รับความเป็นธรรมจาก ผู้บังคับบัญชาและเครือญาติ ซึ่งผู้ก่อเหตุและคู่กรณีได้มีการซื้อขายที่ดิน ผิดสัญญากันในเรื่องผลตอบแทน (ซึ่งในรายละเอียดต้องสืบต่อไป) เมื่อผิดสัญญากันก็จึงทำให้เกิดแรงจูงในในการก่อเหตุครั้งนี้ จนเกิดประโยคหนึ่ง ที่สื่อนำไปทำภาพตัดแปะข้อความ คือ "ณ วินาทีที่ผู้ก่อเหตุได้ลั่นไกสังหารคู่กรณี ณ นาทีนั้นเขาคืออาชญากร ไม่ใช่ทหารอีกต่อไปแล้ว" ถ้าลองได้ฟังที่ท่านพูดจริงๆ กับภาพแปะประโยคสั้นๆนี้ จะรู้เลยว่ามันคนเรื่อง คนละอารมณ์

3. แล้วมาตรการในเรื่องการรักษาความปลอดภัยคลังอาวุธ และกระสุนล่ะ?? กองทัพบกได้มีมาตรการในเรื่องนี้เป็นเวลานานแล้ว แต่อาจมีบางหน่วยที่หละหลวม ก็ต้องดำเนินลงโทษเป็นกรณีไป แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผู้ก่อเหตุปฏิบัติราชการอยู่ในหน่วยนั้น ชำนาญใช้อาวุธและพื้นที่ จึงรู้ว่าไปเอาอะไรที่ไหน จะทำลายอะไรอย่างไร

4. แล้วกองทัพบกคิดจะรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างไร?? “ผมในฐานะ ผบ.ทบ.พร้อมที่จะทำทุกอย่างให้สภาพจิตใจทั้งครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บดีขึ้น ส่วนประชาชนที่เสียชีวิต กองทัพบกพร้อมที่รับเข้ารับราชการตามคุณวุฒิ อีกทั้ง ผู้บาดเจ็บที่เสียโอกาสประกอบวิชาชีพ กองทัพบกอ้าแขนรับท่านโดยไม่มีข้อแม้”

จริงๆแล้ว มีอีกเยอะมากที่ท่านพูดถึงเรื่องของการรับผิดชอบ แต่ก่อนอื่น เสิงอยากให้เข้าใจว่าเรื่องนี้ถ้าว่ากันตามกฎหมาย เหตุการณ์ระหว่างผู้ก่อเหตุกับคู่กรณี เป็นเรื่องส่วนตัว (ไม่ใช่การกระทำผิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพบก) ดังนั้นการจะฟ้ององค์กร หรือเรียกร้องให้ผู้ดูแลต้องลาออก ฯลฯ หรือที่จะสรรหามาเรียกร้อง มันจึงดูไม่ถูก จริงไหมครับ??

เปรียบให้เห็นภาพง่ายๆ บริษัทที่มีพนักงานจำนวนมาก หากวันหนึ่งพนักงานไปปล้นร้านทอง เจ้าของบริษํทต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกใช่หรือไม?? แล้วอีกกระแสที่วิพากษ์วิจารณ์ว่า การที่ท่านร้องไห้เป็นการแสดง บ่งบอกชี้ชัดถึงผู้พูดเลยนะครับ ว่ามีทัศนคติอย่างไร ถ้ามองให้ลึก ท่านก็เป็นคนคนหนึ่ง มีความรู้สึกเหมือนกับเรา การที่ท่านจะเสียใจต่อครอบครัว ต่อผู้สูญเสีย มันเป็นเรื่องที่แย่มากเลยหรือครับ??

ขนาดตัวเราเองที่เสพข่าว อยู่ห่างไกลที่เกิดเหตุมากมาย เรายังมีความรู้สึกเสียใจ และรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย เสิงจึงอยากฝากคำถามไว้กับทุกคนที่ใช้อารมณ์เข้าวิพากษ์วิจารณ์จนลืมดูข้อเท็จจริงไว้ว่า "ถ้าท่านเป็นผู้บัญชาการทหารบกในวันนี้ ท่านจะรับผิดชอบอย่างไร??"
 
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 43  เมื่อ 12 ก.พ. 20, 10:09

  ประเด็นหนึ่งที่ควรกล่าวถึงในกระทู้นี้ด้วย   เป็นการศึกษาเพื่อก้าวต่อ ตามที่คุณเพ็ญชมพูตั้งหัวข้อไว้ให้
  คือบทบาทของสื่อในเรื่องนี้

   ตอนเย็นของวันที่ 8 กพ.  ข่าวทีวีในช่องต่างๆหันมารายงานเรื่องคนร้ายพร้อมอาวุธสงครามบุกเข้าไปที่ห้างห้างเทอมินอล 21 โคราช   เวลาผ่านไปตั้งแต่เย็นจนดึก  สถานการณ์ก็ยังไม่คลี่คลาย   ข่าวทุกช่องก็หันมารายงานกันละเอียดยิบ   หาความคืบหน้ากันทุกนาทีที่ทำได้
   นั่งดูข่าว เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่หลายช่อง   เริ่มตกใจเมื่อพบว่าในบางช่อง ผู้สื่อข่าวและผู้อ่านข่าวไม่ใช่แค่รายงานอย่างกลางๆเท่านั้น แต่เจาะทะลุทะลวงเข้าไปทุกรายละเอียดที่ทำได้  ทั้งๆก็รู้ว่าคนร้ายกำลังติดตาม เสพข่าวอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน
   พูดง่ายๆว่า รายงานให้คนร้ายรู้ความคืบหน้าของเจ้าหน้าที่และเหยื่อทุกช็อทที่ทำได้   กลายเป็นว่าช่วยให้คนร้ายได้รู้เห็นทันเหตุการณ์โดยตลอดว่าเจ้าหน้าที่จะมาไม้ไหน  หรือเหยื่อทำอะไรอยู่ที่ไหนบ้าง
   ที่ช็อกมากคือมีช่องหนึ่งโฟนอิน(สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์) เข้าไปหาประชาชนที่ติดอยู่ในห้าง เพื่อให้เล่าสถานการณ์ แล้วยังถามด้วยว่า “อยู่ตรงไหนของห้าง” นอกจากนี้  มีการซักถามคนที่รอดออกมาได้ ให่เปิดเผยว่าเขาช่วยซ่อนคนอื่นๆไว้ที่ร้านของเขา
   ไม่มีสำนึกว่าเหยื่อจำนวนมากอยู่ในวินาทีเสียงเป็นเสียงตายเท่ากัน   และอาจจะพาคนอื่นตายไปด้วยหากคนร้ายรู้ที่ซ่อน
   ที่เลวร้ายกว่านี้คือสื่อเจ้าหนึ่ง โทรศัพท์สัมภาษณ์พ่อแม่ของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ โดยที่ทางบ้านยังไม่ทราบข่าวร้ายข่าวนี้  ได้ยินเสียงกรีดร้องของผู้รับรู้ข่าวร้ายแบบกะทันหันตั้งตัวไม่ติด  ออกอากาศให้เห็นกันทั่วประเทศ
 
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 44  เมื่อ 12 ก.พ. 20, 10:11

จนสมาคมและกสทช.ต้องออกมาเตือน



คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.049 วินาที กับ 19 คำสั่ง