เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 30 31 [32] 33 34 ... 48
  พิมพ์  
อ่าน: 62031 เกี่ยวกับโคโรนาไวรัส อู่ฮั่น
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 465  เมื่อ 19 พ.ค. 20, 11:51

             วันนี้ 2 - 0, ทั้งสองเป็นผป.ใหม่สัมผัสผป.ยืนยันก่อนหน้านี้ที่นราธิวาส - ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม
และ
            มีรายงานข่าวจากฝรั่งเศส เปิดเผยในวันจันทร์ที่ 18 พ.ค. นี้ว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างน้อย 70 ราย
ในเด็กนักเรียนจากเนอสเซอรี่ และโรงเรียนประถมหลายแห่งนับตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค. ที่มีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
เปิดสถานศึกษาราว 40,000 แห่งให้เด็กกว่า 1.4 ล้านคนกลับโรงเรียนอีกครั้ง
           ทำให้ต้องปิดเนอสเซอรี่และโรงเรียนประถมหลายแห่งอีกครั้ง ในขณะที่นักเรียนมัธยมต้นราว 1.5 แสนกลับไปเรียน
ที่โรงเรียนแล้วในวันที่ 18 พ.ค.


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 466  เมื่อ 19 พ.ค. 20, 12:25

รอยเตอร์ - พบผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในอิตาลี เพิ่มอีก 99 คน ในวันจันทร์ (18 พ.ค.) ลดลงจาก 145 คนหนึ่งวันก่อนหน้านี้ จากการเปิดเผยของหน่วยงานพิทักษ์พลเรือน ถือเป็นจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันต่ำกว่า 100 คน เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม

ในขณะเดียวกัน อิตาลียังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มเติมอีกเพียง 451 คน ในวันจันทร์ (18 พ.ค.) จากระดับ 675 คน ในวันอาทิตย์ (17 พ.ค.) เป็นยอดผู้ติดเชื้อรายวันต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม ตอกย้ำเกี่ยวกับแนวโน้มขาลงของการแพร่ระบาดในระยะหลังๆ

นับตั้งแต่ไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ แพร่ระบาดเข้ามาอิตาลีครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้ยอดเสียชีวิตสะสมอยู่ 32,007 คน สูงสุดเป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากสหรัฐฯและอังกฤษ

ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมที่ได้รับการยืนยันนั้นอยู่ที่ 225,886 คน สงสุดเป็นอันดับ 6 ของโลกรองจากสหรัฐฯ, รัสเซีย, สเปน, สหราชอาณาจักร และบราซิล

จำนวนคนไข้ที่กำลังรักษาตัวอยู่ในตอนนี้ลดลงเหลือ 66,553 จาก 68,351 คน หนึ่งวันก่อนหน้านี้ และมีผู้ป่วย 749 คน ที่ยังนอนรักษาตัวในห้องไอซียูในวันจันทร์ (18 พ.ค.) ลดลงจาก 762 คน วันอาทิตย์ (17 พ.ค.) ถือเป็นแนวโน้มที่ลดลงต่อเนื่องมานานหลายสัปดาห์แล้ว

นอกจากนี้แล้ว ข้อมูลยังพบว่าในบรรดาผู้ติดเชื้อทั้งหมด มีผู้หายไข้จนถึงวันจันทร์ (18 พ.ค.) แล้ว 127,326 คน เพิ่มขึ้นจากระดับ 125,176 คนก่อนหน้านี้

ขณะเดียวกัน ทางหน่วยงานพิทักษ์พลเรือนของอิตาลียังเปิดเผยด้วยว่า ได้ดำเนินการตรวจเชื้อโควิด-19 ประชาชนไปแล้ว 1.959 ล้านคน เพิ่มจากระดับ 1.933 ล้านคน เมื่อวันอาทิตย์ (17 พ.ค.) จากประชากรทั้งหมดทั่วประเทศราวๆ 60 ล้านคน

https://mgronline.com/around/detail/9630000051967
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 467  เมื่อ 19 พ.ค. 20, 12:30

Covid-19 Thailand FACT Today
1 ชม. ·
ข่าวดีที่คนทั้งโลก รอคอย
ลุ้นโลกมีวัคซีนในมกราฯ 64

(Moderna) บริษัทด้านไบโอเทคของสหรัฐพบค้นพบวัคซีน ที่สามารถสร้างสารภูมิต้านทาน หรือแอนติบอดี ที่ฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้
โดยจากผลการทดลองในเบื้องต้น ซึ่งทางบริษัทโมเดอร์นา ร่วมกับพันธมิตร สถาบันสุขภาพแห่งชาติ พัฒนาวัคซีนนี้ขึ้น

ดร.ทัล แซคส์ ประธานเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของโมเดอร์นา กล่าวว่า หากอนาคต ผลการศึกษาเป็นไปด้วยดี วัคซีนของบริษัทอาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ประชาชนใช้ป้องกันไวรัสมรณะเร็วสุดในเดือนมกราคมนี้

แซคส์ กล่าวว่า นี้เป็นข่าวดีที่สุด และเป็นข่าวที่คิดว่าหลายคนรอมาสักระยะหนึ่งแล้ว ข้อมูลเบื้องต้นนี้มาจากการทดลองทางคลินิกระยะแรก ซึ่งได้ทำการศึกษาประชาชนจำนวนหนึ่ง และมุ่นเน้นว่าวัคซีนจะมีความปลอดภัย และกระตุ้นภูมิคุ้มกันหรือไม่ ผลของการศึกษา ซึ่งนำโดยสถาบันสุขภาพแห่งชาติ ยังไม่ได้มีการตรวจสอบ หรือพิมพ์เผยแพร่ในนิตยสารการแพทย์

จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก หรือดับเบิลยูเอชโอ ระบุว่า บริษัทโมเดอร์นา ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ เป็น 1 ใน 8 บริษัททั่วโลกที่ทำการทดลองทางคลินิก ใช้วัคซีนต่อต้านไวรัสโควิด-19 ในคน ส่วนอีก 2 บริษัท คือไฟเซอร์ และอิโนวิโอ บริษัทผู้ผลิตยายักษ์ใหญ่ของสหรัฐเช่นกัน และอีกหนึ่งบริษัทอยู่ที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ในอังกฤษ และอีก 4 บริษัทอยู่ในจีน

โมเดอร์นาให้วัคซีนกับอาสาสมัครหลายสิบคนที่เข้าร่วมการศึกษา และตรวจพบแอนติบอดี หรือสารกระตุ้นภูมิคุ้มกันใน 8 คน โดยทั้ง 8 คน พัฒนาแอนติบาดีลบล้างฤทธิ์ไวรัส ถึงระดับหรือเกินระดับที่เคยพบเห็นในคนที่หายป่วยจากโควิด-19 โดยธรรมชาติ

ซึ่งทำให้ไวรัสไม่สมารถเข้าไปติดเชื้อในเซลส์มนุษย์ได้ ส่วนการทดลองครั้งใหญ่กว่าเพื่อดูว่า วัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสได้อย่างแท้จริงหรือไม่ คาดว่าจะเริ่มได้ในเดือนกรกฎาคม

แซคส์ กล่าวว่า เราได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การสร้างแอนติบอดีเหล่านี้ ซึ่งเป็นการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน สามารถต่อต้านไวรัสได้อย่างแท้จริง

เป็นก้าวแรกที่สำคัญอย่างมากในการเดินทางไกลไปสู่การผลิตวัคซี ขณะที่ ผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่ง ซึ่งไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานของบริษัทโมเดอร์นา กล่าวว่า ผลการทดลองของบริษัท ถือว่ายอดเยี่ยม

ทั้งนี้ งานพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 เกิดขึ้นอย่างเร่งรีบอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยมีประมาณ 80 กลุ่มจากทั่วโลกที่กำลังเร่งพัฒนาวัคซีนอยู่ในขณะนี้ ส่วนบริษัทโมเดอร์นา เป็นบริษัทแรกที่ทำการทดลองวัคซีน ที่เรียกว่า mRNA-1273 ในคน

ข้อมูล :
https://www.nytimes.com/…/…/coronavirus-vaccine-moderna.html

#Thailandfacttoday
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 468  เมื่อ 19 พ.ค. 20, 13:20

คอลัมน์ของคุณเจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้
วันอังคาร ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2563, 08.54 น.

ผู้นำต่ำตม

ไม่ว่าใครก็ตามที่ขึ้นเป็นผู้นำประเทศ สิ่งที่ควรคำนึงถึงมากที่สุดคือประโยชน์สุขของประชาชนในชาติ แต่ไม่น่าเชื่อว่าผู้นำชาติมหาอำนาจอย่างอเมริกา ยุคสมัยรัฐบาลทรัมป์กลับเล่นปาหี่ป้อนคำหวานหลอกสาวกที่สนับสนุนตนให้เชื่อในคำลวงไปวันๆ   นี่ยังไม่นับการสร้างวาทกรรมให้เกิดดราม่ารายวัน เพื่อสร้างความแตกแยกเกลียดชังระหว่างคนในชาติ ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าอเมริกาเข้าสู่ยุคตกต่ำอย่างแท้จริง

เศรษฐกิจกำลังตกต่ำสุดขีด โรคระบาดยังแพร่ระบาดไม่หยุด ผู้คนล้มตายกันเป็นเบือ ตอนนี้ยอดป่วยสะสมล่อเข้าไปที่ล้านห้าแสนกว่าๆ ยอดตายเฉียดแสนรายแล้ว ยอดป่วยยอดตายรายวันไม่มีลด ยังรักษาระดับความน่าสะพรึงไว้อย่างครบถ้วน รักษาหายประมาณสามแสนคนเท่านั้น

แม้หลายรัฐจะออกมาตรการล็อคดาวน์ แต่บรรดาสาวกทรัมป์ก็ลากปืนกลขนอาวุธออกมาประท้วงกันเอิกเกริก ส่วนมาตรการให้ใส่หน้ากากก็ไม่ค่อยจะมีผลอะไรนัก เพราะแต่ละคนใส่กันแบบเสียไม่ได้ ส่วนมากใส่หน้ากากอนามัยซ้ำไปมา แค่เอาไว้กันผีตอนเข้าห้าง ออกจากห้างก็แขวนโทงเทงไว้หน้ารถ ส่วนพวกไม่ใส่ก็ไม่ยอมใส่เลย   ไม่ต้องดูอื่นดูไกล ก็ตาลุงหัวดื้อ 2 คนที่นั่งทำเนียบขาวตอนนี้ไง

เมื่อหัวขบวนไม่ยอมใส่ก็อย่าหวังให้ชาวบ้านทำตาม สองอาทิตย์ก่อน เหตุเกิดที่มิชิแกน ยามร้านขายของทักท้วงลูกค้าที่ไม่ใส่หน้ากาก เลยโดนยิงดับ อาทิตย์ก่อนพนักงานร้านเซเว่นในเมืองที่ผู้เขียนอยู่ในรัฐอินเดียน่า  บอกลูกค้าว่า ถ้าไม่ใส่หน้ากากก็ห้ามเข้า ผลคือลูกค้ากระทืบพนักงานจนฟุบกองกับพื้น

นาทีนี้สิ่งที่ตาลุงผมเป๋ห่วงมากที่สุด ไม่ใช่ประชาชนพลเมือง หากผลคะแนนนิยมของตนเอง แต่ละวันเลยปลุกระดมบ้าบอไปเรื่อย โกหกตอแหลโดยเอาชีวิตพลเมืองมาเสี่ยง เช่น โกหกว่าอเมริกามีการตรวจหาเชื้อมากที่สุดในโลก ซึ่งบอกเลยว่าไม่จริง  อีกเรื่องที่โกหกหน้าด้านๆ คือ เรื่องวัคซีน หลอกให้สาวกดีใจว่าจะมีวัคซีนปลายปีนี้ ในขณะที่หมอทั่วโลกบอกว่า นี่คือเรื่องที่เป็นไปไม่ได้  การพัฒนาวัคซีนต้องใช้เวลายาวนานกว่านั้น

หนักสุดคือเร่งให้ทุกรัฐทุกเมืองเปิดให้ไวที่สุด โดยไม่แคร์ว่าใครจะป่วยใครจะตาย บรรดาสาวต่างหอนรับกันเป็นทอดๆ ว่า ใครป่วยก็อยู่บ้านสิวะ ไอไม่ป่วยจะออกไปกินอาหารร้านนั้นร้านนี้ ออกไปโบสถ์ ออกไปเดินห้าง  คนที่อ้างแบบนี้เนี่ย ว่างๆ หาปลากินบ้างนะ เพราะคนที่ได้รับเชื้อจำนวนมากไม่แสดงอาการใดๆ แต่สามารถแพร่ต่อให้คนอื่นได้

อาทิตย์ที่ผ่านมาอเมริกันถึงกับกุมขมับ แต่ละเรื่องที่ท่านผู้นำพล่ามล้วนทำให้ปวดหัวหนักกว่าติดโควิด  เพราะอยู่ๆ ก็โพล่งออกมาว่า  ต่อให้เราจะไม่มีวัคซีนป้องกัน แต่ในที่สุดไวรัสโคโรน่าจะหายไปเอง ไม่ต้องกังวล เดี๋ยวนะ..ลุง ไอ้ที่ตายไปเฉียดแสนนี่..ไม่ได้ทำให้ลุงสะท้านสะเทือนเลยเหรอ  ในขณะที่หมอเฟาซี่ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐฯ โบกมือร้องเสียงหลงว่า ตราบใดที่ไม่มีวัคซีน การระบาดจะไม่มีทางหายไปเองแน่นอน
ความวัวไม่ทันหาย ความควายก็แทรก เพราะตาลุงผมเป๋เปิดศึกเหวี่ยงวีนใส่นักข่าวอเมริกันเชื้อสายจีน คือเว่ยเจี่ย เจียง แห่ง ซีบีเอสนิวส์ และแคตลัน คอลลินส์ แห่งซีเอ็นเอ็น จะว่าไปแล้วก็ไม่ค่อยน่าแปลกใจหรอก เพราะเจียงนี่หน้าตาคนจีนชัดๆ ส่วนแคตสัน คอลลินส์ก็เป็นนักข่าวจากซีเอ็นเอ็นที่ตาลุงแกชังน้ำหน้า ไม่เหมือนฟอกส์นิวส์ที่อวยไส้แตกเยินยอทรัมป์สุดลิ่มทิ่มประตู

เจียงถามทรัมป์ว่า ทำไมย้ำแล้วย้ำอีกว่าอเมริกาตรวจหาเชื้อมากที่สุด แต่ทำไมอเมริกันยังป่วยและตายจำนวนมาก  ทรัมป์สะบัดผมเป๋ตอบวีนๆ ว่า คนก็ตายทุกหนแห่งในโลกนั่นแหละ แล้วคำถามแบบนี้อย่าถามผม เอาไปถามจีนโน่น เล่นเอาเจียงถามสวนทันทีว่า ทำไมถึงพูดแบบนี้กับตนเป็นการเฉพาะเจาะจง  แทนที่ลุงแกจะได้สติ กลับเหวี่ยงใส่รอบสองด้วยการกระแทกว่า ไอจะพูดแบบนั้นกับทุกคนที่ถามคำถามน่าสะอิดสะเอียน พอแคตสันเข้ามาช่วยเพื่อนนักข่าว ก็โดนทรัมป์วีนใส่ต่อ จากนั้นก็สะบัดก้นเลิกการแถลงข่าว เดินหายจ้อยไปทันที  ดูเอาเถอะ..สาธุชนทั้งหลายกับภาวะความเป็นผู้นำของอเมริกา

หมอเฟาซี่ ซึ่งตอนนี้กักกันตัวเองในบ้าน เพราะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวติดโควิด หมอออกมาแย้งตาลุงผมเป๋เรื่องการเร่งให้เปิดเมืองเปิดรัฐว่า งานนี้หายนะแน่  ถ้าเร่งเปิดเมืองเปิดรัฐ   หมอพูดตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อมว่า

“การเปิดเมืองเปิดรัฐเท่ากับจุดชนวนการแพร่ระบาดที่ไม่สามารถควบคุมได้ และจะไม่ก่อความสูญเสียแค่เพียงชีวิตผู้คนเท่านั้น  แต่จะยิ่งลากเศรษฐกิจถอยหลังเข้าคลองไปด้วย”

ที่น่าสยองกว่านั้นคือ หมอเฟาซี่ยอมรับตรงๆ ว่า จำนวนตัวเลขคนป่วยคนตายที่แสดงผลทุกวันนี่ไม่จริงหรอก เพราะตัวเลขจริงสูงกว่านี้มาก  อย่างกรณีรัฐนิวยอร์ก คนจำนวนมากเสียชีวิตตั้งแต่อยู่ที่บ้าน โดยยังไม่ทันถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยซ้ำ เด็ดกว่านั้นคือหมอเฟาซี่บอกโลกและอเมริกันอย่างไม่หมกเม็ด ขณะที่ทรัมป์ทวิตย้ำๆ ว่า

“จำนวนผู้ติดเชื้อกำลังลดลงในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศของเรา ซึ่งเราต้องเปิดเศรษฐกิจให้กลับมาเดินหน้าอีกครั้ง  เรื่องนี้กำลังเกิดขึ้นอย่างปลอดภัย!”

ตัวเลขคนว่างงานกว่า 30 ล้านคน ทำให้ทรัมป์พยายามกดดันให้รัฐต่างๆ ยกเลิกการล็อกดาวน์  เมื่อหมอเฟาซี่ออกมาปรามอย่างชัดเจน ลุงทรัมป์ก็หัวร้อน  ด่าหมอเฟาซี่กลับรัวๆ ว่า พูดจาแบบนี้รับไม่ได้  ทั้งที่หมอเฟาซี่เตือนด้วยความหวังดีว่า หากรัฐบาลรีบร้อนเปิดเศรษฐกิจและโรงเรียนเร็วเกินไป จะเกิดผลตามมาร้ายแรง นาทีนี้ไม่เชื่อหมอแล้วจะให้เชื่อหมาที่ไหนล่ะลุง

ล่าสุด ตาลุงทรัมป์คุยโม้ลั่นโลกว่าตนเองนั้นกินยาต้านมาลาเรีย ‘ไฮดร็อกซีคลอโรควิน’ เพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 มานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว  ลุงคงลืมไปแล้วสินะว่า เมื่อเดือนก่อนนี้เอง ชายชาวแอริโซน่าตายหลังจากกลืนยาคลอโรควินฟอสเฟต (Chloroquine phosphate)โดยเชื่อว่าจะช่วยป้องกันจากการติดเชื้อไวรัสได้  เมียผู้ตายบอกว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯออกมาแถลงยานี้ว่าป้องกันโควิด 19 ได้จริง 

ขอกราบเรียนด้วยความอ่อนใจว่า หากท่านประธานาธิบดีไม่ใส่หน้ากากผ้าปิดปากก็จะไม่ว่าอะไร แต่แนะนำให้ใส่ตะกร้อครอบปากดีกว่า

https://www.naewna.com/columnonline/44041
บันทึกการเข้า
ดาวกระจ่าง
มัจฉานุ
**
ตอบ: 89


ความคิดเห็นที่ 469  เมื่อ 19 พ.ค. 20, 19:00

เหมือนจะเป็นๆหายๆเรื่อยๆนะคะไม่รู้โรคนี้จะลดความเสียหายลงเมื่อไร และเหมือนอาการคนที่เป็นก็พบนู้นนี่ใหม่ๆกันเรื่อย

ส่วนไทยจะเข้าหน้าฝนแล้วไม่รู้ว่าจะน่ากังวลขึ้นไหมเพราะเชื้อโรคคงชอบความเชื้นที่มากับฝน
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 470  เมื่อ 20 พ.ค. 20, 08:19

บราซิลเป็นอีกประเทศหนึ่ง นอกเหนือจากอเมริกา ที่รัฐบาลเน้นการประคับประคองเศรษฐกิจ มากกว่าประคับประคองชีวิตและสุขภาพของประชาชน

รอยเตอร์ - บราซิลรายงานพบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ถึง 1,179 คนในวันอังคาร(19พ.ค.) ถือเป็นตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดในประเทศ จากการเปิดเผยของกระทรวงสาธารณสุข

จากข้อมูลที่เผยแพร่โดยกระทรวงสาธารณสุข ตัวเลขผู้เสียชีวิตในวันอังคาร(19พ.ค.) ถือเป็นครั้งแรกของบราซิลที่พบผู้เสียชีวิตรายวันเกินกว่า 1,000 คน นับตั้งแต่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แพร่ระบาดเข้ามายังประเทศแห่งนี้เมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์

ตัวเลขผ้เสียชีวิตดังกล่าว ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมของบราซิลเพิ่มเป็น 17,971 คน มากสุดเป็นอันดับ 6 ของโลก รองจากสหรัฐฯ, สหราชอาณาจักร, อิตาลี, ฝรั่งเศส และสเปน ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายใหม่พบเพิ่ม 17,408 คน ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 271,628 คน สูงสุดอันดับ 4 ของโลก รองจากสหรัฐฯ, รัสเซียและสเปน

รัฐบาลบราซิลถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับแนวทางรับมือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยประธานาธิบดีชาอีร์ โบลโซนาโร ปฏิเสธอันตรายของไวรัสตัวนี้ และต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์ ที่ผู้ว่าการรัฐต่างๆ บังคับใช้เพื่อควบคุมการระบาด โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เขาและสมาชิกในคณะรัฐมนตรีหลายคนก็เพิ่งออกไปร่วมกับกลุ่มผู้สนับสนุนที่ออกมาชุมนุมประท้วงมาตรการดังกล่าวด้วย โดยไม่มีการเว้นระยะห่างทางสังคมแต่อย่างใด

โบลโซนารู คัดค้านมาตรการล็อกดาวน์อย่างดุเดือด โดยอ้างว่า ทำให้เศรษฐกิจบราซิลเสียหายโดยไม่จำเป็น สวนทางกับผู้เชี่ยวชาญและผู้ว่าการรัฐต่างๆที่เตือนว่า โครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุขของประเทศอาจล่มสลาย

นับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 เริ่มขึ้น มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของบราซิล ออกจากตำแหน่งไปแล้วถึง 2 คน โดยคนแรกคือ ลูอิซ เฮนริเก แมนเดตตา ซึ่งถูกไล่ออกเมื่อกลางเดือนเมษายน เนื่องจากขัดแย้งกับนายโบลโซนาโร เรื่องนโยบายควบคุมโควิด

ส่วนคนต่อมาได้แก่ เนลสัน ทีช ซึ่งรับตำแหน่งแทนนายแมนเดตตา ซึ่งลาออกเมื่อสัปดาห์ก่อน เพราะไม่พอใจที่ประธานาธิบดีออกคำสั่งบังคับใช้เปิดโรงยิม และร้านเสริมสวย ด้วยการจัดให้เป็นธุรกิจสำคัญ ทั้งที่ไวรัสโคโรนากำลังระบาดในประเทศอย่างหนัก

https://mgronline.com/around/detail/9630000052424
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 471  เมื่อ 20 พ.ค. 20, 09:22

ถ้าปัญหานี้เกิดขึ้นที่อเมริกา   ทรัมป์เอาไม่อยู่แน่   

ชิลีเดือด! เกิดจลาจล ปชช.ตกงาน ขาดแคลนอาหาร ช่วงล็อกดาวน์ โควิด 19

ชาวชิลีลุกฮือ! ประท้วงเดือดรัฐบาล เข้าปะทะกองกำลังเจ้าหน้าที่ หลังขาดแคลนอาหาร และตกงานในช่วงล็อกดาวน์ โควิด 19

เมืองหลวงซานติอาโก ของชิลี กลายเป็นลานประท้วงที่ลุกลามกลายเป็นการจลาจลอีกครั้งวานนี้ (18 พ.ค.) โดยกลุ่มผู้ชุมนุมหลายร้อยคนได้ออกมาสู่ท้องถนนในย่านชุมชนแออัดชานเมืองหลวงซานติอาโกเพื่อเรียกร้องขอให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาการขาดแคลนอาหารและความเดือดร้อนของประชาชนที่หาเช้ากินค่ำท่ามกลางมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

การชุมนุมประท้วงเกิดขึ้นแม้ว่ารัฐบาลจะประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งต้องการให้ประชาชนเก็บตัวอยู่กับบ้าน ไม่ออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็น แต่พวกเขาก็หลั่งไหลกันออกมาเพราะต้องการแสดงให้รัฐบาลเห็นว่า พวกเขากำลังลำบากและต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการประกาศใช้มาตรการควบคุมการแพร่กระจายโรคอย่างเข้มงวด ทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องตกงาน และบางส่วนแม้ยังมีงานอยู่ก็ไม่สามารถทำงานได้เนื่องจากต้องกักกันตัวเองเพื่อป้องกันโรค

ผู้ประท้วงเปิดเผยกับสื่อว่า พวกเขาไม่ได้คัดค้านมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ไม่ได้ต่อต้านการกักตัวอยู่กับบ้าน แต่พวกเขาประท้วงสภาพความเป็นอยู่ที่ยากลำบากต่อการใช้ชีวิตมากขึ้นเมื่อมีมาตรการเหล่านี้ สำนักข่าววอยซ์ ออฟ อเมริกา (วีโอเอ) รายงานว่า การชุมนุมเริ่มทวีความรุนแรงกลายเป็นจลาจลเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงเพื่อสลายการชุมนุมด้วยเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ผู้ชุมนุมในย่าน El Bosque จึงเริ่มขว้างปาก้อนหิน ระเปิดเพลิง และจุดไฟสร้างสิ่งกีดขวางบนท้องถนน

การจลาจลมีขึ้นเพียง 1 วันให้หลัง หลังจากที่นายเซบาสเตียน พิเนรา ประธานาธิบดีชิลี ได้ออกแถลงการณ์ผ่านสื่อโทรทัศน์ของรัฐบาล เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับโครงการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชน ซึ่งมีองวค์ประกอบหลัก ๆ 5 ส่วนสำคัญ เริ่มด้วยการแจกตะกร้าอาหารและของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวันจำนวน 2.5 ล้านชุด มอบให้กับคนยากจนและผู้มีรายได้ระดับปานกลาง

รายงานข่าวระบุว่า มาตรการคุมเข้มการแพร่กระจายไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อคนยากจนและผู้มีรายได้น้อยจำนวนมากในประเทศชิลี การตกงานซึ่งเกิดจากมาตรการล็อกดาวน์ทำให้พวกเขาขาดรายได้และต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขชิลีพบว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันแล้ว 46,059 ราย และมีผู้เสียชีวิต 478 ราย

https://www.springnews.co.th/global/667828
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 472  เมื่อ 20 พ.ค. 20, 12:45

ทบทวนความรู้เพื่อสู้โควิด  ยิงฟันยิ้ม

บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 473  เมื่อ 21 พ.ค. 20, 07:53

ยอดติดเชื้อห้าล้านสะท้านเศร้า
ยอดตายเข้าสามแสนสองต้องโศกศัลย์
โควิดมาคร่าชีพไปให้จาบัลย์
รอเดือนวันโลกสู่บทหมดโรคภัย


https://www.bloomberg.com/graphics/2020-coronavirus-cases-world-map/


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 474  เมื่อ 21 พ.ค. 20, 08:08

ผู้ติดเชื้อ ๔ ล้านแรก

ทุก ๆ ๑๒-๑๓ วัน มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม ๑ ล้านคน  

ผู้ติดเชื้อล้านที่ ๕  อัตราการระบาดของโรคเพิ่มขึ้น ใช้เวลาลดลงเหลือ ๑๑ วัน   ตกใจ


บันทึกการเข้า
ninpaat
ชมพูพาน
***
ตอบ: 167


ความคิดเห็นที่ 475  เมื่อ 21 พ.ค. 20, 15:28

.
วันที่ 20 พฤษภาคม 2563 เป้นวันแรก ที่มีรายงานผู้ติดเชื้อทั่วโลกรวมกัน ประมาณได้ 100,000 คนภายในวันเดียวครับ

https://www.scmp.com/news/world/europe/article/3085353/coronavirus-latest-who-reports-most-cases-day-worldwide
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 476  เมื่อ 22 พ.ค. 20, 13:41

   22 พฤษภาคม 2563 สำนักข่าวซินหัวรายงาน นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่าสหรัฐฯ จะไม่ปิดประเทศ แม้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จะระบาดระลอกสอง

“หลายคนบอกว่ามีโอกาสสูงที่โรคโควิด-19 จะแพร่ระบาดอีกครั้ง และเราจะจัดการกับมัน เราจะไม่ปิดประเทศ แต่เราจะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น” ทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว หลังถูกถามว่าเขารู้สึกกังวลกับการแพร่ระบาดระลอกที่สองหรือไม่ ระหว่างเยือนโรงงานการผลิตของบริษัทฟอร์ด (Ford) ในรัฐมิชิแกน สหรัฐฯ

“การปิดประเทศถาวรไม่ใช่กลยุทธ์สำหรับรัฐหรือประเทศที่แข็งแรง ประเทศของเราไม่สมควรถูกปิดประเทศ” ทรัมป์กล่าว “การปิดประเทศอย่างยาวนานจะนำมาซึ่งหายนะทางสาธารณสุข การจะปกป้องสุขภาพของประชาชนได้นั้น จำเป็นต้องให้เศรษฐกิจเดินหน้าไปได้”

รัฐทั้ง 50 แห่งของสหรัฐฯ ประกาศแผนผ่อนปรนข้อจำกัดควบคุมการแพร่ระบาดของ โรคโควิด-19 และกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจอีกครั้งตามกำหนดการที่แตกต่างกันไปของแต่ละรัฐ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขกล่าวเตือนว่าโรคโควิด-19 อาจกลับมาแพร่ระบาดระลอกสองช่วงฤดูใบไม้ร่วง หรือฤดูหนาว

อนึ่ง สหรัฐฯ มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมเกิน 1.5 ล้านราย และเสียชีวิตแล้วกว่า 90,000 ราย โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ คาดการณ์ว่ายอดผู้เสียชีวิตจะสูงแตะ 100,000 รายภายในช่วงต้นเดือนมิถุนายน


https://www.naewna.com/inter/494356

ด้วยนโยบายนี้   คนอเมริกันที่ป่วยแต่ยังไม่แสดงอาการ (หรือแสดงอาการแล้วแต่ยังเดินทางไหว)จะเดินทางออกนอกประเทศได้อย่างเสรี   จะเข้าประเทศไหนก็ได้ที่ไม่ห้ามคนอเมริกัน    คนเป็นพาหะที่หลุดรอดผ่านด่านตรวจไปได้ก็จะไปแพร่เชื้อได้อย่างเสรี
ด้วยนโยบายนี้เช่นกัน  คนป่วยจากประเทศอื่นก็จะพาเชื้อเข้าอเมริกาได้อย่างง่ายดายเช่นกัน
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 477  เมื่อ 25 พ.ค. 20, 10:36

เช้าวันที่ 25 พ.ค.2563 ตามเวลาประเทศไทย
ประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงอันดับ 1 ยังคงเป็นสหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 1,685,508 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 18,680 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 99,286 ศพ ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 617 ศพ ทำให้สหรัฐฯ ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม  ผู้ติดเชื้อรายใหม่ และผู้เสียชีวิตสะสมสูงที่สุดในโลก           

สำหรับสถานการณ์ทั่วไปในสหรัฐฯ นั้น รัฐนิวยอร์ก ยังคงเป็นรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 366,346 ราย และมีผู้เสียชีวิต 29,046 ศพ

ที่กรุงวอชิงตันดีซี ทำเนียบขาวได้ออกมาตรการเพิ่มเติมให้ผู้ที่เคยเดินทางไปประเทศบราซิลเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสหรัฐฯทุกกรณี


อ่านรายละเอียดได้ที่
https://www.isranews.org/article/isranews/89004-Brazilllt06.html?fbclid=IwAR2nadmqWKiQJ9nPA5vOPi-v7lquAWjD7fif97U23nccLDjqw0aHYDOaNXI
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 478  เมื่อ 26 พ.ค. 20, 13:16

    ตอนนี้จำนวนคนป่วยในอเมริกาพุ่งสูงถึง 1,702,673 ราย และตายหลักแสน อาทิตย์นี้แตะแสนรายพอดี  กระนั้นทั้งผู้นำและพลเมืองต่างก็ไม่นำพา  ตาลุงผมเป๋โวยวายด่าทอทั้งพญามังกรและองค์การอนามัยโลกทุกวัน โทษโน่นโทษนี่รัวๆ แต่ไม่ยักดูตัวเอง เดือนก่อนก็พล่ามเรื่องฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อทีหนึ่งแล้ว อาทิตย์นี้เพ้อเจ้อไปเรื่อยว่า ตนนั้นกินยาไฮดร็อกซีคลอโรควิน (hydroxychloroquine) ซึ่งเป็นยารักษาโรคมาลาเรียทุกวัน มากว่าหนึ่งอาทิตย์แล้ว โดยตาลุงผมเป๋อวดอ้างว่า การทำแบบนี้สามารถป้องกันการโรคโควิด 19 ได้ชะงัดนักแล

    ตาลุงผมเป๋ออกมาอ้างแบบนี้ไม่ใช่หนแรก แต่เป็นหนที่สอง เล่นเอาหมอในอเมริกาสะดุ้งโหยงกันเป็นแถว  เพราะท่านผู้นำเล่นพูดจาไม่คิดหน้าคิดหลัง  มีผลวิจัยออกมาชัดเจนว่า การกินยาตัวนี้ไม่ได้ช่วยป้องกันอะไรเลย  ซ้ำองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) ยังออกมาเตือนถึงอันตรายจากการใช้ยาชนิดนี้แบบผิดวัตถุประสงค์อีกด้วย

    อาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์ที่เป็นวันหยุดยาว เนื่องจากเป็นวันเมมโมเรียลเดย์ ซึ่งหากเป็นช่วงปกติ วันหยุดนี้ถือเป็นการเริ่มต้นเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างไม่เป็นทางการในอเมริกา ชาวบ้านชาวช่องจะเริ่มทำความสะอาดเตาปิ้งย่าง ตัดหญ้าในสนามให้เรี่ยมเร้แล้วโทรตามเพื่อนๆ มาฉลอง ส่วนมากแล้วก็ปิ้งฮอทดอก แฮมเบอร์เกอร์ ปิ้งย่างกันสำราญใจ แกล้มเบียร์ นอนผึ่งพุงในสนามหญ้าหลังบ้าน

     วันเมมโมเรียล ซึ่งเป็นวันที่ระลึกถึงทหารที่เสียชีวิตในสงคราม หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สกลับตีพิมพ์รายชื่อผู้เสียชีวิตโควิด-19 แทน โดยพาดหัวว่า   “They were not simply names on a list. They were us” คนเหล่านี้ไม่ใช่แค่รายชื่อ  แต่คือเราทั้งปวง แต่ละรายมีคำอธิบายรายละเอียด ที่เมื่ออ่านแล้วถึงกับน้ำตาคลอ เช่น ลูวีเนีย เฮนเดอร์สัน, วัย 44 ปีแห่งนิวยอร์ก แม่เลี้ยงเดี่ยวที่ภาคภูมิใจในตัวลูกทั้งสามมาเรียน ครูเกอร์ วัย 85 ปีแห่งรัฐวอชิงตัน คุณย่าอารมณ์ดี  ไลลา เฟนวิค วัย 92 ปี เป็นผู้หญิงผิวดำคนแรกที่สำเร็จการศึกษาจากคณะกฎหมาย มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และโรมี โคห์นวัย 91 ปี ผู้ช่วยชีวิตครอบครัวชาวยิว 56 ครอบครัวจากพวกตำรวจลับเกสตาโป


   ข้างบนนี้ตัดตอนมา   อ่านทั้งหมดได้ตามลิ้งค์นี้ค่ะ
   https://www.naewna.com/columnonline/44115
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 479  เมื่อ 26 พ.ค. 20, 14:14

เพื่อให้ประชาชนได้ระมัดระวังตัวหรือหลีกเลี่ยงสถานที่เสี่ยง และไม่ทำให้สถานที่ใกล้เคียงเดือดร้อน จะดีกว่าไหมถ้าจะระบุชื่อสถานที่แทนที่จะระบุเพียง

รพ.รัฐแห่งที่หนึ่ง
รพ.รัฐแห่งที่สอง
ตลาดแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี
รพ.เอกชนแห่งที่หนึ่ง
รพ.เอกชนแห่งที่สอง
ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
ร้านตัดผมย่านประชาชื่น


ป.ล. เป็นไปได้ไหมที่จะทำกิจกรรมใด ๆ ที่โรงพยาบาลรัฐบาล โดยใช้เวลาเพียง ๕-๑๐ นาที หรือแม้กระทั่ง ๑ ชั่วโมง


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 30 31 [32] 33 34 ... 48
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.048 วินาที กับ 19 คำสั่ง