เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
อ่าน: 4069 Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 15  เมื่อ 21 ม.ค. 20, 08:56

  เมื่อเดือนกรกฎาคม  ปี 2016  เพื่อนคนหนึ่งของเมแกนชักนำเธอไปสู่นัดบอดกับเจ้าชายจากอังกฤษ     เมแกนให้สัมภาษณ์ภายหลังว่าเธอเป็นคนอเมริกัน จึงไม่ค่อยจะรู้เรื่องเจ้าเรื่องนาย  เมื่อรู้ว่าเพื่อนจับคู่นัดให้กับเจ้าชายแฮรี่  ก็ถามเพียงว่า "ท่านใจดีมั้ย" ก็เท่านั้น      
  เมื่อพบกัน  เจ้าชายแฮรี่เป็นฝ่าย "ปิ๊ง" สาวคนนี้อย่างแรง จนกระทั่งขอนัดครั้งที่สอง  จากนั้นทรงมีกำหนดการเสด็จบอตสวานาในแอฟริกา  ก็ขอให้ดาราสาวบินตามไปด้วย เธอก็ตกลง  ทั้งคู่ตั้งแคมป์นอนชมดาวกันอยู่ที่บอตสวานาอย่างสุดโรแมนติค    ความรักก็ก่อตัวขึ้นแนบแน่นและรวดเร็วที่นั่นเอง   บอตสวานา เป็นเมืองแห่งความหลัง
 เห็นได้จากแหวนหมั้นของเมแกน ที่ประดับด้วยเพชร 3 เม็ด  เม็ดใหญ่ตรงกลางเป็นเพชรจากเมืองบอตสวานาแห่งความหลังของคนทั้งสอง ส่วนอีกสองเม็ดมาจากเพชรในคอลเลคชั่นส่วนตัวของไดอาน่า
   เมแกนก็เลิกคบกับแฟนเชฟ มาเป็นแฟนเจ้าชายเต็มตัว    

   เจ้าชายแฮรี่ปิดเรื่องแฟนใหม่ไว้ได้ไม่กี่เดือน  แค่ 31 ตุลาคมปีเดียวกัน  สื่อก็ได้กลิ่นว่าทรงคบอยู่กับดาราสาวจากหนังทีวีชุด Suits    นอกจากชื่อของเมแกน มาร์เคิลจะดังเป็นพลุยิ่งกว่าอาชีพดาราที่เธอทุ่มเทมานานสิบกว่าปี  ผลพวงที่ตามมาคือประวัติตื้นลึกหนาบางของเธอก็ถูกสื่อลากออกมาโชว์กลางแจ้ง   เรียกว่าไม่เหลือหลออะไรให้เก็บไว้กับตัวได้เลย
   นับเป็นชะตากรรมที่หญิงสาวทุกคนที่คบกับเจ้านาย จะต้องประสบกัน ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้        ถ้าหากว่าเธอคนนั้นเป็นผู้หญิงเรียบร้อย ประวัติดีงาม ไม่มีอะไรให้ขุดคุ้ย  เธอก็รอดตัวไป   แต่ถ้าเธอมีอะไรเป็นจุดอ่อน หรือร้ายกว่านี้ มีเรื่องฉาวมาก่อน   ความซวยก็จะติดตามมาทันที  
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 16  เมื่อ 21 ม.ค. 20, 11:02

    ถ้าหากว่าแฟนของเมแกนเป็นหนุ่มอเมริกันสักคน  ต่อให้เป็นเศรษฐีรวยล้นฟ้า   ประวัติของเธอก็ไม่ถือว่าเสียหายตรงไหนในสายตาคนอื่นๆ    อาชีพดารานอกจากเป็นอาชีพมีเกียรติน่านับถือแล้ว  ยังเป็นอาชีพในฝันของหนุ่มสาวจำนวนมาก     การแต่งงานแล้วหย่าก็เป็นเรื่องที่ปกติสามัญมากสำหรับคนอเมริกัน   คนสองคนเข้ากันไม่ได้ก็ต้องแยกทางกันเป็นธรรมดา    ไม่ถือว่าลดคุณค่าของตนเอง   หรือแม้แต่คบแฟนโดยยังไม่ได้แต่งงานกันก็ถือว่าปกติอีกนั่นแหละ  คนเราต้องรู้จักกันถี่ถ้วนก่อนแต่งงานจึงจะรู้ว่าไปกันได้ไหม
  และท้ายสุด  การเป็นลูกครึ่งผิวสีไม่ใช่ความผิด     การเหยียดผิวต่างหากที่ผิดจังๆ   กฎหมายคุ้มครองการเลือกปฏิบัติต่อคนต่างผิว   ใครละเมิดละก็เป็นโดนฟ้องร้องทั้งปรับทั้งจำ
   แต่เมแกนกลับเลือกที่จะมีแฟนเป็นเจ้าชาย  ที่โลกทั้งโลกโดยเฉพาะโลกอังกฤษ เอาตะแกรงมาร่อน กรองผู้ที่จะมาเป็นคู่ของเจ้าชายเขา
   เมแกนเป็นแม่ม่ายร้างหย่ากับสามี     เธอเป็นลูกครึ่งผิวดำ   และที่ร้ายที่สุดคือเธอมีพ่อกับพี่ๆต่างแม่ ที่ทำตัวน่าเกลียดน่าชังมาก    
   พวกนี้แปลก  แทนที่จะแสดงความยินดีด้วยตามมารยาท  กลับฟาดหัวฟาดหาง ส่งข้อความลงทวิตเตอร์บ้าง ให้สัมภาษณ์บ้าง  ด่าว่าเมแกนเสียเละเลย     โดยเฉพาะพี่สาวนั้นทำตัวเหมือนลูกสาวแม่เลี้ยงของซินเดอเรลลาไม่มีผิด คืออิจฉาริษยาจนออกนอกหน้า    นับว่าผิดมารยาทคนอเมริกัน(หรือคนอื่นๆทุกประเทศ)อย่างยิ่ง    
   ทำให้เมแกนกลายเป็นเหยื่อโอชะหนักขึ้นไปอีกสำหรับสื่อ  


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 17  เมื่อ 21 ม.ค. 20, 12:39

  ทั้งสองประกาศตัวว่าเป็นแฟนกันรวดเร็วมาก แค่ 4 เดือนหลังเจอกัน   จึงตกเป็นข่าวจากสื่อที่กระหน่ำเป็นพายุกันมาทุกทิศทุกทาง     ก็นับว่าแปลกอย่างหนึ่งที่เมแกนเดือดร้อนกับเรื่องสื่อเอาเรื่องเล็กเรื่องน้อยจริงบ้างไม่จริงบ้างมาลงกันได้ลงกันดี   
    ที่ว่าแปลกเพราะอาชีพดาราเป็นอาชีพธรรมดาที่จะตกเป็นข่าว  ส่วนใหญ่ก็เป็นข่าวแบบแย่ๆ  ข่าวดีไม่ค่อยจะมี      ดาราทุกคนทำใจกันมานานแล้วว่าถ้าดังเมื่อไหร่ก็ต้องโดน  ถ้าหากว่าไม่โดนคือไม่ดัง    จึงไม่ค่อยมีใครเดือดร้อนกับการเป้าหมายของสื่อ   เว้นเสียแต่ว่าเป็นข่าวที่ทำให้เสียหายถึงหน้าที่การงานจนหมดอนาคต ก็ค่อยลุกขึ้นต่อสู้ฟ้องร้องกันเสียทีหนึ่ง  แต่เมแกนทำใจไม่ได้เลย
  อย่างไรก็ตาม ทั้งสองก็จูงมือเข้าสู่ประตูวิวาห์กันจนได้   ได้รับพระราชทานยศเป็นดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกส์   จากนั้นก็ทำหน้าที่สมาชิกพระราชวงศ์ตามที่ควรทำ คือเจ้าชายกับพระชายาก็เสด็จไปเปิดงานโน่นนี่   ออกงานการกุศลต่างๆ  และที่ขาดไม่ได้คือพิธีหลวงใหญ่น้อยที่มีมาทั้งปี
   จะด้วยอะไรก็ตาม  เมแกนพบว่านอกจากสื่อกระหน่ำเธอไม่ปรานีแล้ว   คนอังกฤษตั้งแต่เจ้านายลงไปถึงชาวบ้านก็ไม่ชอบหน้า   เรื่องบกพร่องเล็กๆน้อยๆของเธอที่เธอไม่เห็นสลักสำคัญ ก็กลายเป็นข่าวพาดหัว   มีรูปขยายใหญ่เอาลงเต็มจอ เต็มหน้ากระดาษ  ประจานกันไม่รู้จบ   ทำเอาเธอเครียดมาก 
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 18  เมื่อ 21 ม.ค. 20, 12:50

   ยกตัวอย่างเรื่องเล็กๆที่ไม่เสียหายเลยสำหรับชาวบ้าน  แต่กลายเป็นเรื่องเสียหายถูกตำหนิติเตียนจากสื่อ กระจายไปทั่วโลก คือเรื่องท่านั่ง
   ค่ะ ท่านั่ง
   เจ้านายสตรีทั้งหลายเมื่อออกงานพิธีต่างๆ  มักจะต้องนั่งกันอยู่นานๆจนกว่าจะจบงาน     ระหว่างนั้นเรียกได้ว่าทุกนาทีจะต้องมีกล้องจับอยู่  พร้อมจะจับภาพออกทีวี หรือขึ้นหน้าหนึ่ง ตอนไหนก็ได้   ดังนั้นสตรีสูงศักดิ์เหล่านี้จะต้องระมัดระวังมากที่จะไม่เผลอตัวนั่งตามสบายแม้แต่นาทีเดียว    เรียกว่าใครกดชัตเตอร์ หรือกวาดกล้องวิดีโอมานาทีไหนต้องดูงามเหมาะสมทุกนาที
  ท่านั่งของผู้หญิงอังกฤษที่ถือว่านั่งเรียบร้อยสุภาพ คือท่านั่งเข่าบีบชิดกัน  น่องวางชิดกันเท่าที่จะทำได้   และถ้านั่งให้สวยคือหัวเข่าชิดกัน  เบนน่องเอนไปด้วยกันทางด้านใดด้านหนึ่ง   ทำให้ขาดูเรียวสวยเมื่อถ่ายภาพหรือวิดีโอออกมา    ท่านี้เรียกกันว่า Duchess slant
  เคท ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์  ชายาเจ้าชายวิลเลียม  เป็นที่มาของคำเรียกท่านี้    เธอนั่งท่านี้เวลาออกงานได้สง่างามมาก  


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 19  เมื่อ 21 ม.ค. 20, 13:01

ทีนี้ นั่งนานๆ ก็ย่อมเมื่อยกันบ้าง     หากจะเปลี่ยนอิริยาบถนิดหน่อยเพื่อคลายเมือย     สตรีอังกฤษก็อาจทำได้ด้วยการขยับขา เปลี่ยนเป็นไขว้ขากันที่ข้อเท้า  แต่หัวเข่ายังคงบีบชิดกัน   
ถือเป็นท่านั่งที่สุภาพได้เช่นกัน


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 20  เมื่อ 21 ม.ค. 20, 13:06

    ส่วนผู้หญิงอเมริกันถือว่า ถ้าต้องนั่งหันตรงมาทางคนอื่น  ท่านั่งที่เรียบร้อย คือท่านั่งไขว่ห้าง แบบไขว้กันตรงหัวเข่า ทำให้เข่าข้างหนึ่งทับอยู่เหนือเข่าอีกข้าง    ท่านี้เป็นท่าปลอดภัยไม่ว่าเจ้าตัวนุ่งกระโปรงแคบและสั้นขนาดไหนก็ตาม  เพราะหัวเข่าจะบังมิดชิดไม่ให้กล้องส่องลอดเข้าไปถึงกกน.ได้    และที่ดีอีกอย่างคือท่านี้ทำให้กระโปรงกระชับคงที่  ไม่ลื่นจนเขยิบร่นขึ้นจากเข่าไปถึงต้นขา  
   ถ้าสังเกตรายการสัมภาษณ์คนดังหรือดารา   หากว่าดาราสาวคนนั้นนั่งหันมาทางคนดู  เธอจะนั่งไขว่ห้างแบบที่ว่านี้  เพราะเรียบร้อยมิดชิดที่สุด
   แต่ถ้าต้องบีบหัวเข่าชิดกัน  ไขว้กันที่ข้อเท้า   ผู้หญิงมักเลือกนั่งหันเบี่ยงไปทางข้างๆ เพื่อความปลอดภัย
 เพราะอาจเผลอ  เบนหัวเข่าออกนิดเดียวก็จะเกิดช่องว่างให้มองลอดกระโปรงเข้าไปได้


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 21  เมื่อ 21 ม.ค. 20, 13:13

     อย่างไรก็ตาม  อังกฤษถือว่าท่านั่งไขว่ห้าง เป็นอิริยาบถตามสบาย ใช้ในโอกาสลำลอง  จะนั่งกับเพื่อนๆ ลูกๆ หรือแฟนไม่มีใครว่า     แต่ถ้าอยู่ในงานพิธี โดยเฉพาะเมื่อมีควีนอยู่ในงานนั้น ใครก็ตามจะนั่งไขว่ห้างต่อหน้าพระองค์ท่านไม่ได้เป็นอันขาด     สมเด็จพระราชินีเองตั้งแต่ยังสาวจนพระชนม์ 93  ก็ยังไม่เคยนั่งไขว้พระชงฆ์ออกงานให้ชาวบ้านเห็นเลยสักครั้ง
    เมแกนเองไม่รู้ว่าตั้งใจหรือเผลอ   ไปนั่งไขว่ห้างขณะนั่งอยู่แถวเดียวกับสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ  แม้ว่ามีอีกภาพหนึ่งเธอเปลี่ยนท่าเป็นนั่งไขว้ตรงข้อเท้าเรียบร้อยแล้ว    ภาพแรกที่เธอนั่งไขว่ห้างก็ถูกตีพิมพ์กระจายไปทั่วโลก  พร้อมด้วยเสียงติฉินนินทาตามมาอีกระนาว


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 22  เมื่อ 21 ม.ค. 20, 19:23

      พ่อของเมแกนบอกว่า ลูกสาวไม่รังเกียจหรอกที่เป็นข่าวขึ้นหน้าสื่อทุกวัน  แต่ที่เธอทนไม่ได้คือเป็นข่าวในทางลบไม่ว่าจะกระดิกตัวไปทางไหนต่างหาก
     ที่จริงผู้หญิงที่เผชิญศึกหนักอย่างเมแกนก็ไม่ใช่มีคนเดียว  สตรีที่เข้ามาเป็นสะใภ้ในพระราชวงศ์ล้วนโดนสื่อจับตา สาดสีใส่ไข่ด้วยเรื่องจริงบ้างไม่จริงบ้างกันมาทุกคน   ต้องทนสาหัสกันทั้งนั้น   ลองเรียงลำดับดู  ตั้งแต่คามิลล่า  เฟอร์กี้ชายาเจ้าฟ้าชายแอนดรูว์    โซฟีชายาเจ้าฟ้าชายเอ็ดเวิร์ด   แม้แต่คนที่ประชาชนทั้งโลกรักอย่างไดอาน่าก็โดนสื่ออังกฤษขุดคุ้ยแฉเธอไม่เว้นแต่ละวัน   แม้แต่เคทเองก็ถูกเขม่นว่าแม่จุ้นจ้านเข้ามาในวังตั้งแต่เธอแต่งงานใหม่ๆ    
     เมแกนแตกต่างจากสตรีข้างบนที่กล่าวมาคือเธอไม่ทน     คามิลล่าใช้วิธีทน  โซฟีปฏิบัติภารกิจอย่างเงียบเชียบไม่เป็นจุดเด่น ส่วนเฟอร์กี้กระเด็นออกไปแต่ก็แอบกลับมาพึ่งใบบุญเจ้าชายสามีอย่างเงียบๆ   ผิดกับเมแกนที่ปักหลักสู้สื่ออย่างแข็งกร้าวและเปิดเผย
    ยิ่งตอบโต้ ก็ยิ่งโดนหมัดกระหน่ำจากทุกทิศทุกทาง   นำมาซึ่งทางออกแบบฟ้าผ่าลงกลางพระราชวงศ์ แบบเดียวกับเสด็จลุงของควีนเอลิซาเบธเคยทำมาแล้วเมื่อสละราชสมบัติไปแต่งงานกับแม่ม่ายอเมริกัน  
   เมแกนเดินออกจากวังไป  แต่ไม่เดินเปล่าๆ เธอลากเอาเจ้าชายออกจากวังไปกับเธอด้วย
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 23  เมื่อ 21 ม.ค. 20, 19:38

  Megxit (อ่านว่าเม็กสิท) กับ Brexit คล้ายกันในหลายประเด็น   คือเป็นเรื่องคุณอนันต์โทษมหันต์เหมือนกัน    เป็นเรื่องกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเหมือนกัน    เป็นเรื่องที่ความเห็นประชาชนอังกฤษแตกออกเป็นสองฝ่ายเหมือนกันอีก     และเป็นเรื่องที่ไม่มีใครรู้ว่าในอนาคตจะจบลงอย่างไร  เหมือนกันอีกเช่นกัน
  ไม่มีใครรู้ว่าเมื่ออังกฤษออกจากอียูขึ้นมาจริงๆ  อนาคตประเทศจะดีขึ้นหรือย่ำแย่     ไม่มีใครรู้ว่าชีวิตของเจ้าชายแฮรี่และเมแกนเมื่อออกจากราชวงศ์อังกฤษแล้ว จะมีชีวิตที่สงบสุขตามปรารถนาหรือว่าจะมีความตกต่ำอับจนรออยู่เบื้องหน้า
  แต่เท่าที่รู้แน่ๆคือ
 1   ทั้งสองไม่ใช่เจ้านายในพระราชวงศ์อีก    แฮรี่ไม่ใช่ Prince Harry  ต่อไปนี้จะถูกเรียกว่า  Harry, Duke of Sussex  และเมแกน คือ Meghan, Duchess of Sussex     จะไม่มีใครเรียกว่า Your Highness หรือใต้ฝ่าพระบาท
  2  แฮรี่ไม่มียศทางทหารอีก
  3  แฮรี่ไม่มีสิทธิ์จะไปประกอบพระราชภารกิจหรือเยือนต่างประเทศในฐานะตัวแทนพระองค์ อย่างเมื่อก่อน
  4  ต้องจ่ายค่าซ่อมตำหนักคืนให้หลวง 2.4 ล้านปอนด์
  5  รัฐบาลงดถวายเงินปีที่เคยถวายเจ้านายทุกองค์สำหรับประกอบพระภารกิจต่อประเทศชาติ

   แต่เจ้าชายก็ยังมีสิทธิ์ได้รับเงินอุดหนุนจากพระบิดา คือเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์   ยังได้เงินมรดกประมาณ 5 ล้านปอนด์จากพระมารดา   และมีสิทธิ์ไปทำงานประกอบอาชีพหารายได้ให้ตัวเองได้
   Megxit จบลงแล้ว  เมื่อเจ้าชายแฮรี่และเมแกนพ้นจากพระราชวงศ์ไปดำเนินชีวิตอย่างสามัญชน    ส่วนผลของมันเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น  ไม่รู้ว่าจะลงเอยอย่างไร

   ขอจบกระทู้แค่นี้ค่ะ


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 24  เมื่อ 22 ม.ค. 20, 14:29

            ควีนในวัย 90 กว่าชันษาควรจะเป็นวัยเวลาพักผ่อนสำราญพระทัยแล้ว กลับต้องมาพบกับเรื่องเครียดๆ
จากลูก(เจ้าชายแอนดรูว์) และหลานชาย


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 25  เมื่อ 22 ม.ค. 20, 14:31

             พระองค์ได้ผ่านวิกฤตหม้ายเมกันพรากเจ้าชายออกจากราชวงศ์มาแล้ว คร้งแรกแบบไม่น่าจะเครียด
เพราะยังทรงพระเยาว์ แต่ครั้งที่สองนี้ทรงต้องรับจัดการปัญหาไปเต็มๆ


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 26  เมื่อ 22 ม.ค. 20, 14:32

              แต่ ถึงอย่างไร,เหตุการณ์(หลาน)สะใภ้ปฏิวัติครั้งนี้ก็ยังนับได้ว่าไม่หนักหนามากมายนัก เมื่อเทียบกับ
สะใภ้ปฏิวัติครั้งก่อนที่ส่งผลกระทบต่อความนิยมในราชวงศ์อย่างรุนแรงหลังจากที่ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์
เสียชีวิตลง


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 27  เมื่อ 22 ม.ค. 20, 14:33


ป.ล. หวังว่าสามชีวิตใหม่นอกวังจะดำเนินต่อไปอย่างสงบสุข ไม่เป็นไปแบบนี้


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 28  เมื่อ 22 ม.ค. 20, 17:22

การ์ตูนล้อเลียน    อาชีพใหม่ของแฮรี่


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 29  เมื่อ 22 ม.ค. 20, 19:13



บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.07 วินาที กับ 19 คำสั่ง