เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
อ่าน: 4783 อนาสตาเซียแห่งโรมานอฟ เจ้าหญิงผู้หายสาปสูญ
uglykidney
อสุรผัด
*
ตอบ: 7


 เมื่อ 10 ก.ย. 19, 02:31

    ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ถ้าเทียบกับบ้านเราก็จะตรงกับยุคสมัยของ ร.5 ทวีปยุโรปนั้นได้เข้าสู่ความเจริญอย่างขีดสุด ซึ่งนอกจากความเจริญในด้านเทคโนโลยีแล้ว แนวความคิดในเรื่องของระบบการเมืองการปกครองนั้นก็ได้มีแนวความคิดใหม่ๆเกิดขึ้นมาเหมือนกัน และนั่นก็ได้ทำให้ราชวงศ์หลายๆราชวงศ์ของยุโรปนั้นได้จบลงในยุคสมัยนี้ และหนึ่งในนั้นนั่นก็คือซาร์ นิโคลาส ที่สองแห่งราชวงศ์โรมานอฟ ซึ่งราชวงศ์โรมานอฟนั้นถือได้ว่าเป็นราชวงศ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของยุโรปราชวงศ์หนึ่ง แต่ทว่าในปี 1917 ราชวงศ์โรมานอฟที่เคยปกครองรัสเซียมาเกือบ 300 ปีนั้น ได้ถูกเลนินผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์บอลเชวิกล้มโค่นอำนาจลง ซึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจที่ตกต่ำของรัสเซียในยุคนั้น หลังจากจบสงครามโลกครั้งที่ 1 รวมทั้งประชาชนเสื่อมความนิยมจากกษัตริย์ ซาร์ นิโคลาส อันเนื่องมาจากทั้งในเรื่องอื้อฉาวของรัสปูตินและการที่รัสเซียแพ้สงครามกับญี่ปุ่นในช่วงปี 1905 นั้น เป็นเหตุผลให้พรรคบอลเชวิกได้นำมาเป็นโฆษณาชวนเชื่อเพื่อให้ประชาชนเสื่อมอำนาจลงจากกษัตริย์ ซาร์ นิโคลาส และหลังจากการปฏิวัติจบลงอย่างนองเลือด กษัตริย์ ซาร์ นิโคลาส และพระราชินีอเล็กซานดร้า รวมถึงเจ้าหญิงเจ้าชายทั้ง 5 พระองค์นั้น ได้ถูกนำตัวไปขังยังวังที่อยู่ห่างไกลจากกรุงเซนต์ ปีเตอร์เบริกส์ และอีกไม่กี่เดือนต่อมา เมื่อเลนินนั้นเริ่มตระหนักว่าตนนั้นจะยังไม่สามารถกุมอำราจได้เบ็ดเสร็จ ตราบใดที่ราชวงศ์โรมานอฟนั้นยังมีชีวิตอยู่ และนั่นก็เป็นเหตที่ทำให้เกิดการสังหารอย่างโหดเหี้ยม โดยเลนินนั้นได้สั่งให้สังหารหมดทั้งครอบครัว ไม่ว่าจะเป็น กษัตริย์ ซาร์ นิโคลาส หรือรัชทายาททั้ง 5  และเมื่อการสังหารนั้นจบลง พระศพของซาร์ นิโคลาส และราชินีอเล็กซานดร้ารวมถึงพระรัชทายาททั้ง  พระองค์ นั่นคือ โอก้า มาเรีย และทรัทเทรียน่า ได้ถูกค้นพบในสถานที่ใกล้เคียงกับที่คุมขัง หากแต่ว่าศพของ อเล็กซี่ รัชทายาท และเจ้าหญิงอนาสตาเซียนั้น ไม่ได้มีใครพบเห็นแต่อย่างใด และนั่นก็เป็นเหตที่ทำให้ทุกๆคนต่างพร้อมใจเชื่อกันว่า อเล็กซี่และอนาสตาเซียทั้งสองคนนั้นสามารถหนีรอดไปได้ และยังมีชีวิตอยู่ นั่นก็คงเป็นเพราะว่าทุกๆคนนั้นไม่มีใครอยากที่จะให้เด็กน้อยไร้เดียงสาอายุเพียงแค่ 13 และ 17 ปีนั้นถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม และปริศนาการหายตัวไปของเจ้าหญิงและเจ้าชายสองพระองค์นี้ ทำให้เป็นแรงบันดาลใจของหนังและนิยายรวมไปถึงการ์ตูนอีกหลายๆเรื่อง
    ในเวลาอีกหลายปีต่อมา ที่สถานบำบัดโรคจิตในประเทศเยอรมันนั้น มีคนพบว่า มีคนไข้รายหนึ่งที่หน้าตาเหมือนกับเจ้าหญิงอนาสตาเซียทุกประการ แต่หญิงสาวคนนี้นั้นสูญเสียความทรงจำ ไม่สามารถที่จะจดจำเหตการณ์อะไรได้ โดยแพทย์ให้ความเห็นว่าถูกกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างหนัก ทำให้สูญเสียความทรงจำ และไม่สามารถจำได้ว่าตัวเองนั้นคือใคร แต่ว่านอกจากหน้าตาที่เหมือนกันทุกประการแล้ว หญิงสาวคนนี้ยังพูดด้วยสำเนียงที่ติดภาษารัสเซีย จึงกลายเป็นข่าวที่โด่งดังไปทั่วโลก และนั่นก็ทำให้ทุกๆคนสงสัยกันว่าผู้หญิงคนนี้คือ เจ้าหญิงอนาสตาเซียผู้หายสาปสูญไป หรือว่าเป็นเพียงแค่การจัดฉากแหกตาคนทั้งโลก

บันทึกการเข้า
uglykidney
อสุรผัด
*
ตอบ: 7


ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 10 ก.ย. 19, 02:31

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 10 ก.ย. 19, 08:51

เราเคยคุยเรื่องนี้กันมาแล้วในเรือนไทยค่ะ

http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1114.0
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 10 ก.ย. 19, 08:56

https://teen.mthai.com/variety/156019.html

“แอนนา แอนเดอร์สัน”
ผู้หญิงที่โกหกคนทั้งโลก
ประวัติเจ้าหญิงอนาสตาเซีย

หลังการล่มสลายของราชวงศ์โรมานอฟแห่งรัสเซียที่ปกครองมายาวนานกว่า 300 ปี  โศกนาฏกรรมของจักรพรรดินิโคลัสที่ 2 และสมาชิกเชื้อพระวงศ์ทั้งหมด รวมถึงเจ้าหญิงอนาสตาเซีย ถูกจองจำก่อนจะถูกปลงพระชนม์ด้วยการยิงเป้า ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นกลับไม่พบร่างของเจ้าหญิงอนาสตาเซีย ในขณะเดียวกันมีการพบหญิงสาวคนหนึ่ง ที่กำลังพยายามจะฆ่าตัวตาย แต่ได้รับการช่วยเหลือจากพลเมืองดีคนหนึ่งซะก่อน ซึ่งเมื่อช่วยสำเร็จ จึงได้สอบถามข้อมูลต่างๆ แต่หญิงสาวคนนั้นกลับไม่ยอมบอกว่าตัวเองเป็นใคร จนมีหลายคนเริ่มทักว่าเธอมีใบหน้าคล้ายคลึงกับเจ้าหญิงองค์หนึ่งแห่งราชวงศ์โรมานอฟ จู่ๆ เธอจึงยอมรับว่า “ฉันคือเจ้าหญิงอนาสตาเซีย ผู้รอดตาย”
แอนนา หรือที่แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหญิงอนาสตาเซีย เธอเล่าให้ผู้คนฟังว่า เธอถูกสังหารพร้อมกับบิดามารดาและพี่น้องจริง แต่ที่รอดมาได้นั้น เป็นเพราะกระสุนไม่ถูกจุดสำคัญ จึงทำให้เธอแค่สลบไป เมื่อตื่นขึ้นมาก็ได้พบกับทหารหนุ่มนายหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มบอลเชวิค เขาสงสารเธอจึงแอบดูแลเธออย่างลับๆ และใช้ชีวิตด้วยกันจนมีลูกชายหนึ่งคน เธอได้เปลี่ยนมาใช้ชื่อ  แอนนา ไชคอฟสกี้แต่หลังจากนั้นสามีของเธอก็ได้เสียชีวิตในสงคราม เธอตัดสินใจทิ้งลูกไว้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และคิดที่จะกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย

สิ่งที่ทำให้การโกหกของแอนนาต้องชะงัก คือเรื่องที่จักรพรรดินิโคลัสที่ 2 แห่งรัสเซีย สมัยยังทรงครองราชย์ ได้ฝากเงินก้อนโตไว้ในธนาคารนอกประเทศ โดยเป็นเงินมากถึง 20 ล้านรูเบิลส์ ซึ่งถ้าแอนนาสามารถพิสูจน์ต่อศาลได้ว่า เธอคือองค์หญิงผู้รอดตายจริงๆ เธอจะได้รับเงินส่วนนี้ไปครอบครอง เรื่องนี้ทำให้เจ้าชายเออเนสต์ หลุยส์ แกรนด์ดยุคแห่งเฮสส์ ที่ทรงเป็นพระปิตุลาแท้ๆ ของเจ้าหญิงอนาสตาเซีย ได้จ้างนักสืบฝีมือดี ให้ตามสืบเรื่องของหญิงสาวผู้แอบอ้างรายนี้ ว่าจริงๆ แล้วหญิงสาวผู้นี้คือใคร เพราะหน้าไม่เหมือนกับหลานของตน

นักสืบ สามารถสืบจนทราบว่า ชื่อจริงของเธอก็คือ ฟรานซิสก้า ซานคอสก้า เป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาคนหนึ่งในโรงงานอุตสาหกรรม หญิงสาวรายนี้ได้หายตัวไปในวันเดียวกับ วันที่มีคนช่วยเธอจากการกระโดดน้ำ จากหลักฐานนี้ทำให้เธอไม่มีสิทธิ์ในเงินจำนวนนี้

หมือนเรื่องราวจะจบหลังแอนนาจากไป แต่ทางการก็ได้ออกค้นหากระดูกของราชวงศ์โรมานอฟ เพื่อนำมาประกอบพิธีอย่างสมเกียรติ ในเดือนมกราคม 2008 นักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซีย ได้พบซากศพตอตะโกสองร่าง เป็นร่างเด็กชายหนึ่ง และเด็กหญิงอีกหนึ่ง พร้อมยืนยันว่า ร่างทั้งสองนั้นเป็นพระศพพระโอรส (อะเลกเซย์ นีโคลาเยวิช) และพระธิดาที่เคยค้นหากันไม่เจอ

จึงทำให้ต้องมีการพิสูจน์ว่า แล้ว แอนนา แอนเดอร์สัน เธอคือใคร?  นักวิทยาศาตร์จึงได้นำปอยผมที่สามีของแอนนาได้เก็บเอาไว้ มาเปรียบเทียบกับ DNA ของโครงกระดูกที่พบ ผลพิสูจน์ออกมาว่า DNA ของแอนนาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับราชวงศ์เลย แต่ดันไปตรงกับหญิงสาว ฟรานซิสก้า ซานคอสก้า ที่ได้หายตัวไปนั่นเอง!

เรื่องราวของ แอนนา แอนเดอร์สัน ได้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง Anastasia (1956) อีกด้วย
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 10 ก.ย. 19, 09:41

เรื่องของแอนนา แอนเดอร์สัน เจ้าหญิงกำมะลอ

http://www.reurnthai.com/index.php?topic=5734.msg125902#msg125902
บันทึกการเข้า
uglykidney
อสุรผัด
*
ตอบ: 7


ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 10 ก.ย. 19, 12:13

    โดยเจ้าหญิงอนาสตาเซียนั้นเกิดในปี 1900 และมีบรรดาศักดิ์เป็นถึง แกรนด์ ดัชเชส มีพี่สาวสามคนคือ โอก้า มาเรีย และทรัทเทรียน่า และเธอนั้นเป็นพี่สาวของ เจ้าชายอเล็กซี่ รัชทายาทผู้ซึ่งควรที่จะได้สืบทอดบัลลังก์รัสเซียองค์ต่อไป โดยเจ้าหญิงอนาสตาเซียนั้นนอกจากจะมีรูปโฉมที่งดงามแล้วยังมีความเฉลียวฉลาด มีอุปนิสัยที่ร่าเริงและชอบเล่นซุกซน บุคลิกคล้ายทอมบอย และชอบปีนเล่นไปทั่ว เจ้าหญิงอนาสตาเซียนั้นใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในพระราชวังของเธอ แต่ทว่าในเวลาต่อมาราชวงศ์โรมานอฟนั้นก็ได้พบกับจุดเปลี่ยน เมื่อได้พบกับรัสปูติน นักบวชแห่งนิกายออร์โธดอกซ์ โดยพระราชชินีอเล็กซานดร้านั้นเชื่ออย่างปักใจว่า รัสปูตินนั้นเป็นเพียงผู้เดียวที่สามารถรักษาโรค hemophilia ของอเล็กซี่ได้ เนื่องจากภาวะโลหิตที่ไหลไม่หยุดของอเล็กซี่นั้น ที่ผ่านมาหมอทุกคนไม่มีใครรักษาได้ แต่ว่ารัสปูตินนั้นเพียงแค่เอามือจับอเล็กซี่อาการก็ดีขึ้น ซึ่งแพทย์ในยุคปัจจุบันนั้นลงความเห็นกันว่า นั่นเป็นเพราะแพทย์ในยุคนั้นยังไม่มีใครรู้กันว่า คนที่เป็นโรค hemophilia นั้นห้ามกินยาแอสไพรินอย่างเด็ดขาด และเมื่อรัสปูตินมารักษาอเล็กซี่นั้น รัสปูตินสั่งห้ามไม่ให้อเล็กซี่กินยาทุกชนิด และเมื่อหยุดยาแอสไพรินอเล็กซี่อาการก็เลยดีขึ้น นั่นก็เลยทำให้ทุกๆคนต่างปักใจเชื่อกันว่ารัสปูตินสามารถรักษาโรคของอเล็กซี่ได้ เลยทำให้ทุกคนเชื่อในข่าวลือที่ว่ารัสปูตินมีพลังวิเศษในการรักษาโรคนั้นเป็นเรื่องจริง และนั่นก็เลยทำให้รัสปูตินได้เข้ามาอยู่ในพระราชวัง ในฐานะแพทย์ประจำตัวของอเล็กซี่ ด้วยความที่อเล็กซี่นั้นเป็นลูกชายคนแรกและคนเดียวที่รอมานาน เพื่อหวังจะให้สืบทอดตำแหน่งกษัตริย์แห่งรัสเซีย กลับมาป่วยจนใกล้ตาย ไม่มีใครสามารถรักษาให้หายได้ พอได้รัสปูตินมารักษา อาการกลับดีขึ้น ซาร์ นิโคลาส และพระราชินีอเล็กซานดร้านั้นจึงไม่ยอมให้รัสปูตินออกห่างไปไหน ให้อยู่ใกล้ชิดในพระราชวังจนมีความสนิทสนม และไม่ว่ารัสปูตินนั้นจะพูดอะไร ทั้งสองพระองค์ก็เชื่อไปหมดทุกอย่าง และก็เพราะการมาของรัสปูตินในครั้งนี้นี่เอง ที่ทำให้ซาร์ นิโคลาสนั้นเริ่มมีบุคลิกที่เปลี่ยนไป เพราะรัสปูตินเป็นผู้ที่แนะนำให้ซาร์ นิโคลาส และพระราชินีอเล็กซานดร้า ได้รู้จักกับการใช้ โคเคน มอร์ฟีน และฝิ่น เชื่อกันว่ารัสปูตินใช้ยาเหล่านี้เพื่อใช้ในการสะกดจิต และจากบุคลิกที่เปลี่ยนไปของซาร์ นิโคลาส นั้นทำให้อนาสตาเซีย ไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง จนเป็นผลทำให้อนาสตาเซียกลายเป็นคนที่ต่อต้านการใช้ยา และยึดติดกับการดูแลสุขภาพแบบธรรมชาติ จนถึงขั้นเปลี่ยนมากินมังสวิรัติ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่อนาสตาเซียนั้นไม่สบายและปฏิเสธการใช้ยาทุกชนิด โดยเธอนั้นได้บอกว่า เธอไม่ต้องการให้ตนเองนั้นเป็นเหมือนพ่อและรัสปูติน และในอีกเรื่องความอื้อฉาวของรัสปูตินนั่นก็คือ ในช่วงที่เจ้าหญิงทั้ง  พระองค์ได้เข้าสู่วัยรุ่นในขณะนั้นเจ้าหญิงอนาสตาเซียอายุได้ 10 ขวบ บรรดาพวกพี่เลี้ยงเด็กได้รายงานว่า รัสปูตินนั้นเข้าไปห้องบรรทมของเจ้าหญิงทั้ง 4 ทุกค่ำคืน โดยพี่เลี้ยงเด็กได้พยายามบอกกับพระราชินีอเล็กซานดร้าว่า รัสปูตินนั้นได้ข่มขืนเจ้าหญิงทั้ง 4 แต่ก็เพราะอเล็กซานเดรียนั้นถูกรัสปูตินล้างสมอง พระองค์จึงไม่เชื่อพี่เลี้ยงเด็กแต่อย่างใด และก็กลับไล่พี่เลี้ยงเด็กคนนั้นออก โดยรัสปูตินอ้างว่าตัวเองก็เพียงแค่เล่านิทานให้เจ้าหญิงทั้ง 4 ฟังก่อนนอน

บันทึกการเข้า
uglykidney
อสุรผัด
*
ตอบ: 7


ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 10 ก.ย. 19, 13:50



คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
uglykidney
อสุรผัด
*
ตอบ: 7


ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 10 ก.ย. 19, 13:53

และหลายปีต่อมาช่วงใกล้จบสงครามโลกครั้งที่ 1 ถึงแม้ว่ารัสเซียจะอยู่กับฝ่ายชนะสงคราม (รัสเซียประกาศยอมแพ้ แล้วขอถอนตัวจากสงครามกลางทาง) ช่วงสงครามรัสเซียเสียหายอย่างหนักและก็เกิดสภาวะข้าวยากหมากแพงทั่วประเทศ ประชาชนนั้นอดอยากไปทั่ว และก็มองว่าเป็นความผิดของซาร์ นิโคลาสที่ตัดสินใจเข้าร่วมสงคราม ในที่สุดเมื่อเข้าปี 1917 (ก่อนจบสงครามโลก 1 ปี)  พรรคคอมมิวนิสต์บอลเชวิกที่นำโดยเลนินจึงได้ทำการปฏิวัติราชวงศ์โรมานอฟ  และเมื่อการปฏิวัตินั้นสำเร็จ ซาร์ นิโคลาส ซาร์ริน่า อเล็กซานดร้า และเจ้าหญิงเจ้าชายทั้ง 5 พระองค์ ได้ถูกนำตัวไปกักขังบริเวณยังที่ที่อยู่ห่างไกลจากกรุงเซนต์ ปีเตอร์เบริกส์  โดยในช่วงที่กุมขังบริเวนนั้น จากบันทึกของทหารผู้คุ้มกันได้ระบุว่า เจ้าหญิงอนาสตาเซียเป็นเพียงผู้เดียวที่ยังมีสติอยู่อย่างเต็มเปี่ยม เป็นผู้ที่คอยกระตุ้น ให้ทุกๆคนนั้นมีกำลังใจ และพยายามทำให้ทุกๆคนนั้นมีรอยยิ้มอยู่เสมอ จนกระทั่งหลายเดือนต่อมา เมื่อเลนินเริ่มตระหนักว่าตนยังไม่สามารถกุมอำนาจได้เบ็ดเสร็จ ตราบใดที่ราชวงศ์โรมานอฟนั้นยังมีชีวิตอยู่ โอกาสที่เลนินจะโดนปฏิวัติซ้อนจากผู้ที่ยังจงรักภักดีกับราชวงศ์โรมานอฟนั้นก็มีสูง จึงได้สั่งให้ทหารนั้นปลงพระชนม์หมดทั้งครอบครัว โดยทหารผู้ทำการสังหารนั้นคือ Rudolf Lacher ทหารสัญชาติออสเตรีย ผู้ซึ่งเป็นเชลยสงครามที่ถูกรัสเซียจับตัวมาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่  และสาเหตที่เสนินนั้นเลือกที่จะไม่ใช้ทหารสัญชาติรัสเซียนั้น ก็เป็นเพราะว่า ถ้าหากใช้ทหารสัญชาติรัสเซียนั้นก็มีความเป็นไปได้ ที่ว่าจะยังมีความจงรักภักดีต่อราชวงศ์โรมานอฟอยู่ ซึ่งเหตการณ์ในตอนสังหารได้มีการบันทึกไว้ว่า ในตอนแรกทหารได้ยิงไปที่ทรวงอกของบรรดาเจ้าหญิง และถึงแม้ว่าจะยิงไปหลายนัดแต่บรรดาเจ้าหญิงนั้นก็ยังมีชีวิตอยู่ ต่อมาจึงพบว่าชุด corset ที่เจ้าหญิงสวมใส่อยู่นั้น มีเพชรและพลอยประจำราชวงศ์ประดับไว้อยู่หลายเม็ด เลยทำให้ชุด corset นั้นเป็นเหมือนกับชุดเกราะกันกระสุน ทำให้ต้องยิงไปที่ศรีษะของเจ้าหญิงบางพระองค์เพื่อเป็นการปลงพระชนม์ หากแต่ทว่าในเวลาต่อมา Rudolf Lacher ได้ออกมาเปิดเผยว่า ในช่วงที่กำลังขับรถขนพระศพออกไปนั้น รถได้เกิดติดหล่มโคลนจึงได้ลงไปเพื่อที่จะพยายามฉุดรถขึ้นมา และเมื่อได้ยินเสียงจากท้ายรถ จึงได้เปิดออกดู พบว่าเจ้าหญิงอนาสตาเซียนั้นยังมีชีวิตอยู่ เขานั้นจึงช่วยให้เจ้าหญิงอนาสตาเซียหลบหนีออกไปได้ และเมื่อมาบวกกับการที่ไม่มีใครพบพระศพของอเล็กซี่ และอนาสตาเซีย คนทั่วไปจึงปักใจเชื่อกันว่าทั้งสองพระองค์นี้ยังมีชีวิตอยู่



-- สถานที่คุมขัง ราชวงศ์โรมานอฟ --


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
uglykidney
อสุรผัด
*
ตอบ: 7


ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 10 ก.ย. 19, 13:57




-- แกรนด์ดัชเชส อนาสตาเซีย--



-- อเล็กซี่ รัชทายาท--



คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ

คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
uglykidney
อสุรผัด
*
ตอบ: 7


ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 10 ก.ย. 19, 20:56

    ต่อมาในปี  1920 ที่กรุงเบอร์ลินประเทศเยอรมัน ได้มีหญิงสาวอยู่คนหนึ่งพยายามที่จะกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย แต่ว่าโชคยังดีที่ตำรวจนั้นช่วยได้ทัน และส่งไปรักษาตัวยังรพ.จิตเวช โดยหญิงสาวผู้นี้มีหน้าตาที่สวยงาม และพูดด้วยสำเนียงที่ติดภาษารัสเซีย แต่เธอไม่รู้ว่าตัวเธอนั้นคือใคร และเธอมีรอยแผลเป็นทั่วร่างกาย แพทย์วินิจฉัยว่าเธอนั้นถูกกระทบกระเทือนทางจิตใจ จนสูญเสียความทรงจำ ในช่วงกลางดึกเธอนั้นจะตื่นขึ้นมาเพื่อกรีดร้องด้วยความกลัวในทุกๆค่ำคืน และด้วยความที่ไม่รู้ว่าเธอนั้นคือใคร แพทย์ต่างพากันเรียกเธอว่า Miss Unknown และ  Miss Unknown ก็ได้แอดมิตที่รพ.นีอยู่ถึงสองปี


    และแล้วจนกระทั่งวันหนึ่งก็ได้มีหญิงสาวชาวรัสเซียคนหนึ่งได้เข้ามารักษาตัวที่รพ.แห่งนี้ แต่เมื่อทันทีที่เธอได้พยกับ Miss Unknown นั้น เธอถึงกับช็อกด้วยความตกใจและรีบคุกเข่าลงต่อหน้า Miss Unknown โดยเธอนั้นได้บอกกับทุกคนว่าหญิงผู้นี้คือเจ้าหญิงอนาสตาเซียที่หายตัวไป แต่ Miss Unknown นั้นก็ไม่ได้ยืนยันหรือปฏิเสธว่าเธอนั้นคือเจ้าหญิงอนาสตาเซียหรือไม่ เพราะเธอไม่สามารถที่จะจำเหตการณ์อะไรได้เลยก่อนที่จะมาถึงรพ.แห่งนี้ และเมื่อหญิงสาวผู้นี้สอบถามกับทางแพทย์เมื่อได้รู้ว่า Miss Unknown นั้น ได้รับการกระทบ จิตใจจากเหตการณ์ที่โหดร้ายและรุนแรง และทั่วทั้งตัวนั้นมีรอยแผลเป็นอยู่เต็มไปหมด ทุกอย่างมันจึงชี้ชัดว่า หญิงสาวคนนี้นั้นคือเจ้าหญิงอนาสตาเซียที่หายสาปสูญไปอย่างแน่นอน และเมื่อดูจากอายุหรือรูปร่างหน้าตาแล้ว ทุกอย่างมันจึงลงตัวไปหมด





คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.039 วินาที กับ 19 คำสั่ง