เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 30 31 [32] 33 34 ... 68
  พิมพ์  
อ่าน: 77159 ไปตลาด
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 465  เมื่อ 22 ธ.ค. 19, 18:15

ที่จริงแล้วก็อาจจะเปรียบเทียบกันได้ยาก เพราะว่าอาหารฝรั่งเป็นลักษณะของอาหารจานเดียวที่จัดสำหรับแต่ละคน แต่ของเอเซียมีลักษณะเป็นอาหารที่จัดเป็นสำรับกินร่วมกัน   ฝรั่งมีซุปจัดให้เป็นของแต่ละคน ของเอเซียจัดเป็นแกง/ต้มวางเป็นชามกลาง ในแต่ละมื้อของฝรั่งแต่ละคนจะเลือกกินเนื้อสัตว์ชนิดเดียว แต่ในสำรับอาหารของคนเอเซียอาจะมีเนื้อสัตว์หลายชนิดให้เลือกตักกินได้  เรามีจานผักในสำรับอาหารที่มักจะมีผักหลายอย่างและเป็นได้ทั้งที่เป็นผักสดและผักสุกแบบต่างๆ (นึ่ง ต้ม ย่าง ผัด...) และก็ยังมีแบบที่กินด้วยการจิ้มกับน้ำพริกอีกด้วย (dip sauce) ซึ่งต่างกับฝรั่งที่จะจัดเป็นของกินเล่นนอกโต๊ะอาหาร     

วิถึแบบเอเซีย/แบบไทยของเรานี้กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วตามสภาพสิ่งแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจ  แต่ก็ยังดีที่แม้จะเปลี่ยนไปเป็นแบบฝรั่งนิยมมากขึ้น ก็ยังคงรักษาวิถีเดิมนี้ไว้ในวาระที่มีการพบกันของคนในครอบครัว   
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 466  เมื่อ 22 ธ.ค. 19, 19:00

กล่าวถึงอาหารเป็นสำรับที่กินร่วมกันภายในครอบครัวในวาระต่างๆ เลยทำให้นึกถึงว่าอาหารเหล่านั้นส่วนมากจะเป็นอาหารที่ทำเองตามที่ได้รับถ่ายทอดกันรุ่นต่อรุ่นส่งต่อกันมา ส่วนอาหารที่ซื้อมาสมทบนั้นมักจะเรียกกันว่าอาหารพิเศษ  ในความเห็นของผมนั้นเห็นว่า อาหารที่ถ่ายทอดต่อๆกันมานี้ล้วนแต่อร่อยและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งนั้น   ผมได้มีโอกาสกินของเหล่านั้นมิใช่ด้วยเพราะว่าเป็นคนในครอบครัวของเขา แต่ด้วยผลจากการเอื้อเฟื้อช่วยเหลือเผื่อแผ่ ความสนิทใจ ช่วยเหลือ และความซื่อที่มีต่อกัน  ซึ่งได้กลายมาเป็นความพอจะที่รู้ที่นำไปทำกินเอง นำไปพูดคุยแลกเปลี่ยนหาความรู้ต่อๆไปกับผู้คนอื่นๆต่างถิ่นต่างท้องที่กัน 
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 467  เมื่อ 22 ธ.ค. 19, 20:14

เลยกลายเป็นความสุขและการผ่อนคลายที่ได้เดินตลาดท้องถิ่น ไปทุกแห่งเท่าที่จะมีเวลาและโอกาสที่จะทำได้  โดยเฉพาะที่เป็นตลาดสดยามเช้าทั้งในและ ตปท. ซึ่งทำให้ได้เห็นว่าของสิ่งเดียวกันนั้นมันมีความต่างกันในความคิดของคนขาย คนซื้อ และคนทำ   การที่คนขายจัดแต่งสิ่งสินค้าและจัดวางของนั้นๆแบบแยก แบบวางเป็นหมวดหมู่ หรือแบบวางคละกัน โดยเฉพาะกับของที่หาได้ตามฤดูกาลนั้นๆ ล้วนแต่เป็นการจุดประกายน้อยๆหรือสื่อให้ผู้ซื้อนึกถึงว่าจะซื้อไปทำอะไรดี    ฝ่ายคนซื้อ/คนทำก็จะนึกถึงว่า ซื้อเอาไปทำไอ้นั่นหรือไอ้นี่ถ้าจะดี

แต่ก่อนนั้นของขายในตลาดหลายๆอย่างจะมีวางขายตามที่หาได้ตามฤดูกาล ในปัจจุบันนี้เกือบจะกล่าวได้ว่ามีทุกอย่างทั้งในหรือนอกฤดูกาล เพียงแต่ราคาจะต่างกันค่อนข้างมาก  ก็เลยอาจจะทำให้ความกระตือรือร้นในการอยากขาย อยากซื้อ อยากทำลดน้อยลงและไม่เด่นชัด
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 468  เมื่อ 23 ธ.ค. 19, 07:59

ตลาดสดกรุงเทพ ตลาดอ.ต.ก.


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 469  เมื่อ 23 ธ.ค. 19, 08:01

ตลาดสดต่างจังหวัด


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12602



ความคิดเห็นที่ 470  เมื่อ 23 ธ.ค. 19, 12:12

ตลาดสดปากช่อง  ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 471  เมื่อ 23 ธ.ค. 19, 12:19

ตลาดติดแอร์


บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 472  เมื่อ 23 ธ.ค. 19, 18:48

ภาพใน คห.469 นั้น เป็นลักษณะของตลาดที่หลายคนเรียกกันว่า ตลาดแบกะดิน   

ภาพของตลาดในลักษณะนี้ ใน ตจว.จะบ่งบอกว่าผู้ขายจะเป็นชาวบ้านที่เอาพืชผลที่มีการปลูกอยู่ในท้องถิ่นมาวางขาย ซึ่งพอจะแบ่งอย่างคร่าวๆได้ว่ามีอยู่สองกลุ่ม คือ กลุ่มผู้ขายที่มีลักษณะเป็นพ่อค้าคนกลาง เสาะหาสินค้าต่างๆตามฤดูกาลมาวางขาย และกลุ่มผู้ขายที่เอาผลิตผลที่ได้จากการเพาะปลูกและจากการเก็บเกี่ยวอื่นใดของตนเองมาวางขาย    ซึ่งทั้งสองกลุ่มนี้จะพบเห็นเป็นปกติในพื้นที่นอกตัวตลาด (ในตลาดจะวางมีแผงขายของและต้องเสียค่าเช่า) กลุ่มแรกมักจะอยู่ใกล้บริเวณเส้นทางเข้าออกของตลาด กลุ่มที่สองจะอยู่กระจายกันห่างออกไป

ผมนิยมที่จะเดินในส่วนที่เป็นบริเวณของชาวบ้านเอาของที่ตนหาได้และทำเองมาวางขาย แม้ของขายเหล่านั้นจะมิได้มีความสวยงามใดๆนัก แต่เราก็จะได้ของที่อย่างน้อยก็ค่อนข้างจะมีความเป็นของที่ปลอดสารอันตราย แล้วก็มีพืชผักหลายๆอย่างที่เป็นผักป่าหรือพื้นบ้านที่เป็นพืชผลอินทรีย์ที่แท้จริง 
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 473  เมื่อ 23 ธ.ค. 19, 19:23

ภาพใน คห.470  เป็นลักษณะของตลาดพื้นบ้านที่ออกไปในลักษณะธุรกิจขายครั้งละจำนวนมาก (ขายส่ง) ระหว่างผู้ผลิตกับผู้ใช้โดยตรง(เช่น การซื้อของร้านอาหาร)    ก็ยังเป็นภาพของผู้ขายที่ตั้งแผงขายอยู่นอกตัวตลาด  ตลาดปากช่องนี้ก็เป็นตลาดที่น่าเดินทีเดียว อุดมไปด้วยของขายประเภทดอกผลของพืชผักมากมาย ค่อนข้างจะต่างไปจากตลาดชุมชนอื่นๆที่มักจะวางขายพืชผักประเภทใบและเหง้า   

สำหรับคนที่เดินทางผ่านและนึกแวะเที่ยวชมตลาดปากช่องนั้น ผมมีความเห็นว่าในใจน่าจะนึกถีงเรื่องของผลไม้เสียมากกว่า(นอกเหนือไปจากตลาดกลางดง) และคิดว่าหลายคนคงจะนึกถึงพวกสัตว์น้ำที่จับได้ในอ่างเก็บของเขื่อนเก็บน้ำลำตะคอง (โดยเฉพาะ ปลากระทิง)
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12602



ความคิดเห็นที่ 474  เมื่อ 23 ธ.ค. 19, 21:06

ปากช่องมีตลาดสดอยู่ ๒ แห่ง แห่งแรกเป็นตลาดสดเทศบาล อยู่ในตัวเมือง



อีกแห่งคือ ตลาดสดมิตรภาพ เป็นของเอกชน อยู่นอกเมืองออกไปนิดหน่อย

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 475  เมื่อ 24 ธ.ค. 19, 09:35

นครปฐมเป็นเมืองอาหาร  ทั้งของสดและของสำเร็จรูป   เป็นแหล่งป้อนอาหารให้กรุงเทพซึ่งไม่มีเนื้อที่ผลิตของสดด้วยตัวเอง
นครปฐมจึงมีตลาดสดมากมาย น่าเดินมากๆ  คุณตั้งคงเคยแวะไปแล้วหลายแห่ง

ตลาดข้างล่างนี้เป็นตลาดย้อนยุคเล็กๆที่ของกินไม่มากนัก แต่ก็มีพอให้อิ่ม   เหมาะจะขับรถไปเที่ยวในวันหยุด  แวะซื้อส้มโอของขึ้นชื่อประจำอำเภอกลับมากินกันที่บ้านค่ะ



บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 476  เมื่อ 24 ธ.ค. 19, 18:45

หน้าตาดูคล้ายตลาดท่านานะครับ    ถ้าใช่ ในบริเวณตัวตลาดจะมีร้านอาหารดังและอร่อยมากอยู่ร้านหนึ่ง คนเต็มตลอด   

เป็ดพะโล้ของเจ้าที่ทำอยู่ในตลาดก็อร่อยใช้ได้เลยทีเดียวนะครับ ซื้อกลับมาบ้านแล้วจัดการเลาะกระดูก เอาเนื้อมาหั่นแบบ slide (แทนที่จะสับเป็นชิ้นๆเท่านิ้วมือ)ก็จะยิ่งอร่อยมากขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง อร่อยและกินง่ายกว่าที่สับเป็นชิ้นหนาหรือสับทั้งกระดูก  ส่วนที่เลาะเนื้อไม่ได้ (คอ ปีก แข้ง ตีน และบั้นท้าย) ก็แยกออกมาไว้เป็นเสบียงสำหรับนักนิยมเมรัยยามบ่ายแก่ๆ    เลยพาลให้นึกถึงลิ้นเป็ดและปากเป็ดที่มีการทำแยกออกมาขายซึ่งเป็นของอร่อยราคาสูง เพียงแต่ความอร่อยจะได้มาจากการกินด้วยมือ   ก็แปลกอยู่ที่นักนิยมเมรัยมักจะเป็นพวกนิยมแทะเนื้อติดกระดูก

ก็ยังนึกไปถึงตีนเป็นผัดกับหน่อไม้(ฝรั่ง)กระป๋อง  หากินได้ยากเต็มทีแล้ว ที่พอจะหากินได้ก็น่าจะพอมีอยู่ในภัตตาคารอาหารจีนรุ่นเก่า แถวสี่แยกวิสุทธิกษัตริย์ก็มีอยู่ร้านหนึ่ง       
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 477  เมื่อ 24 ธ.ค. 19, 19:27

ได้เป็ดมาตัวหนึ่งแล้วและรู้ว่าไม่มีคนนิยมแทะกระดูก ก็อาจคิดไปถึงต้มจับฉ่ายโดยใช้โครงกระดูกเป็ดที่เลาะเอาเนื้อออกมากินนั้น ต้มเป็นน้ำซุปสำหรับต้มจับฉ่ายพร้อมไปกับผักใช้ใส่ในจับฉ่าย (หรือจะเป็นโครงเป็ดย่างก็ได้)   จับฉ่ายเป็นอาหารที่มีประโยชน์มาก เป็นอาหารสุขภาพ ไม่มีกลิ่นฉุนรุนแรง ทำได้ง่ายๆด้วยตนเอง อุ่นเก็บไว้ได้หลายวันและจะอร่อยมากยิ่งขึ้นทุกๆวัน ที่สำคัญคือเกือบจะไม่มีสูตร ข้อจำกัด หรือข้อที่ต้องทำ จะกล่าวว่าเป็นอาหารผักต้มที่ได้ความหวานจากรสผักที่มีรสและกลิ่นของซีอิ๊วก็น่าจะพอได้อยู่   

จับฉ่ายดูจะเป็นอาหารของคนในเมืองโดยเฉพาะ ผมเองไม่เคยเห็นมีเมนูนี้ในสำหรับอาหารของชาวบ้าน และก็เกือบจะไม่เห็นมีการวางขายที่ใช้ในการทำจับฉ่ายในตลาดพื้นบ้าน อาทิ ผักโขม มะระจีน ผักกวางตุ้ง หัวผักกาดขาว ผักกาดขาว คื่นช่าย ...
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 478  เมื่อ 24 ธ.ค. 19, 19:34

ใช่ค่ะ ตลาดท่านา หรือตลาดนครชัยศรี
ต้มจับฉ่ายเป็นของอร่อยอีกอย่าง ที่ไม่ตกยุค  แต่หากินตามตลาดและตามร้านไม่ได้


บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 479  เมื่อ 25 ธ.ค. 19, 18:43

ขอข้ามเรื่องต้มจับฉ่ายไปสองสามกระทู้นะครับ 

มีเรื่องแปลกอยู่อย่างหนึ่ง คือเราเกือบจะไม่เห็นว่ามีเป็นสดวางขายอยู่ในตลาดสดใดๆเลย (หรือว่าผิดที่ ผิดเวลาก็ไม่ทราบ)  ผมเคยเห็นอยู่เพียงครั้งหรือสองครั้งเท่านั้นตลอดหลายสิบปีที่เดินตลาด และก็ยังขายเป็นทั้งตัว ไม่แบ่งขายอีกด้วย ไม่มีวางขายแม้นว่าจะเป็นตลาดที่อยู่ในพื้นที่ๆมีการเลี้ยงเป็ดก็ตาม

เป็ดมีหลายสายพันธุ์ทั้งพันธุ์ไข่และพันธุ์เนื้อ  เคยพยายามจะเลี้ยงแบบพื้นบ้านตามที่เคยเห็นเมื่อครั้งยังเด็กๆที่ๆบ้านเลี้ยงไว้เป็นฝูงเล็กๆ มันน่ารักดี เช้าได้กินอาหารแล้วก็ออกไปว่ายน้ำหาอาหารเสริม ตกเย็นก็เดินกลับเข้าคอกตามหัวหน้าฝูงที่เดินนำเด่นอยู่ เข้าคอกแล้วก็ทำการไซร้ขนทำความสะอาดตัวเองก่อนจะเข้านอนเงียบๆ    ก็มีวิธีการเลี้ยงแบบไล่ทุ่ง คือเลี้ยงเป็ดเป็นฝูงใหญ่ๆในพื้นที่นาข้าวที่ฉ่ำน้ำ คนเลี้ยงจะใช้เพียงถุงพลาสติกผูกที่ปลายไม้ ชูสูงเหนือหัวแล้วเดินนำฝูงเป็ดไปยังพื้นที่ๆจะให้พวกเป็ดได้สนุกสนาน หากินหอย หากินกบเขียด... ถึงที่ก็เอาไม้นั้นปักไว้ ฝูงเป็ดก็จะไม่ไปใหนไกลเกินกว่าที่สายตาจะมองเห็นถุงพลาสติคที่ปลายไม้นั้น  ตกเย็น คนเลี้ยงก็เพียงยกเอาไม้ที่ผูกถุงพลาสติกนั้นเดินกลับมายังคอกเป็ด เป็ดทั้งหลายก็จะเดินตามมาทั้งฝูง ไม่ตัวใดพยายามจะแหกคอกหนีไป เป็นภาพที่น่ารักดี
 
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 30 31 [32] 33 34 ... 68
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.052 วินาที กับ 19 คำสั่ง