เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 14 15 [16] 17 18 ... 22
  พิมพ์  
อ่าน: 37893 รถยนต์ในเมืองไทยเมื่อ 50+ ปีก่อน
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 225  เมื่อ 14 มี.ค. 19, 08:30

รถในภาพคือรถมอรีส (Morris) รุ่น Minor Series II เป็นรถของอังกฤษ ซึ่งบริษัทผู้ผลิตเจ๊งไปนานแล้ว
(ที่จำได้เพราะเคยนั่งของคุณลุง)





มอริส ไมเนอร์ ก็เป็นรถอีกยี่ห้อหนึ่งซึ่งเคยใช้เป็นรถแท็กซี่

ภาพพระสงฆ์เรียกแท็กซี่ที่ถนนสนามไชย หน้ากระทรวงกลาโหม พระนคร พ.ศ. ๒๕๐๔ โดย Jack Garofalo ช่างภาพชาวฝรั่งเศสของนิตยสาร Paris Match


บันทึกการเข้า
choo
มัจฉานุ
**
ตอบ: 95


ความคิดเห็นที่ 226  เมื่อ 14 มี.ค. 19, 09:57

  ในยุคนั้นภาษีรถยังน้อยกว่าปัจจุบันมาก    ดิฉันก็เลยบวกภาษีเข้าไปด้วย
  ถ้ารถราคาหนึ่งล้านห้าแสนบาทในปัจจุบัน  ถือว่าเป็นรถหรูที่ถูกมากทีเดียวนะคะ

ถูกต้องเลยครับอาจารย์ไม่ว่าจะสมัยนี้หรือเมื่อ 50+ปีก่อน เพราะเหตุนี้และความที่ยังไม่เชื่อถือว่าจะดีเท่ารถ Sport จากยุโรปรถจึงขายได้น้อยคือขับแล้วดูไม่ภูมิฐานนั่นเองซึ่งเป็นค่านิยมที่ผิดจนปัจจุบัน ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 227  เมื่อ 14 มี.ค. 19, 10:31


 ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ

งงไป 10 นาทีกว่าจะเก๊ท
ขอบคุณมากค่ะ


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 228  เมื่อ 14 มี.ค. 19, 14:49

เอาตำนานรถซีตรองของคุณ  NAVARAT.C มาเล่าใหม่

สวัสดีตอนค่ำครับ
เข้ามาแก้ตัวเรื่องรถซีตรองก่อน คือผมก็เข้าใจแต่แรกว่ารถที่จอมพลป.จะใช้หนีไปคือธันเดอร์เบิร์ดตัวดัง คิดว่าเคยอ่านเจออย่างนั้นเหมือนกัน แต่พอถึงตอนเขียนกระทู้ แบบอ่านไปเขียนไปทีละหน้า พอถึงตอนนี้ เอ้า หนังสือเล่มที่กำลังเอาข้อมูลมาใช้อยู่เขาว่าเป็นซีตรอง หยิบอีกเล่มนึงมาดู ก็เป็นซีตรองอีก แต่ไม่มีรายละเอียดสักเล่มเดียวว่าเป็นรุ่นอะไร พอดีผมเคยเป็นแฟนรถซีตรอง ซึ่งเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังตอนท้าย เลยเข้าเวปซีตรองหาดูว่ารุ่นล่าสุดที่จอมพลป.จะใช้ในทริปสำคัญปี2500นั้นควรจะเป็นรุ่นไหน แล้วก็หยิบตัวท็อปมาลงไว้ ไม่นึกว่าจะเป็นรุ่นDS 19 เพราะเป็นแค่รถบ้านเท่านั้น แต่เมื่อมีหลักฐานของคุณอำพล  โหตระกิตย์แห่งชมรมซีตรองแห่งประเทศไทย ผมก็ขอสารภาพครับว่าเดาผิด

ซีตรองเป็นรถวิเศษอย่างที่คุณอำพลว่าไว้จริงๆ เมื่อประมาณยี่สิบปีก่อน ผมไปซื้อรถมือสองของท่านเศรษฐีคนหนึ่งมาใช้เป็นรถประจำตัวของผม เป็นซีตรอง รุ่นเพรสตีจตัวท็อปที่เคยอิมพอร์ตเข้ามาในประเทศไทย ถามว่าทำไมเจ้าของเดิมจึงขาย เขาบอกว่าโรงรถที่บ้านเขาจอดรถได้แค่10คัน พอดีไปออกรถใหม่มาก็ต้องขายทิ้งเสียคันหนึ่ง ผมเห็นสภาพกับราคาแล้วไม่ต้องคิด ถ้าไปซื้อรถป้ายแดงจะได้แค่รถญี่ปุ่นตัวเล็กสุดเท่านั้น
 
เส้นทางที่วิ่งประจำคือกรุงเทพ-กระบี่ สมัยโน้นสภาพถนนทางใต้ก็เหมือนอย่างที่คุณอำพลว่า เป็นลูกรังก็มี แต่ถึงจะลาดยางแล้วก็ขรุขระ เป็นหลุมเป็นบ่อ ซีตรองเป็นรถล้ำสมัยที่ระบบกันสะเทือนเป็นไฮโดรลิก ระบบการทรงตัวดีมาก เข้าโค้งไม่มีหวาดเสียว ล้อหายไปล้อหนึ่งเหลือ3ล้อก็ยังวิ่งได้ และไม่สะเทือนเหมือนแหนบหรือโชคอัพ แต่จะประคองตัวถังให้ลอยขึ้นๆลงๆเหมือนเรือมากกว่ารถ นั่งสบายมาก แต่ที่คนไม่นิยมเพราะระบบนี้มันเสียทีนึง เจ้าของแทบร้องไห้ และ“เขาว่า”เสียบ่อย ผมใช้สมบุกสมบันไม่จริงเรื่องเสียบ่อย แต่จริงเรื่องค่าซ่อมแพง อาศัยต้นทุนตัวรถถูก ก็ทนได้

ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ผมคิดว่าผมตัดสินใจเลือกรถคู่กายถูก ครั้งนั้นเป็นขากลับจากกระบี่ในคืนหนึ่ง ปกติผมจะมีลูกน้องนั่งไปด้วย เขาเป็นสารพัดช่างไม่ใช่คนขับรถ ผมจึงจะขับเองนอกจากง่วงจัดขึ้นมา ก็สลับให้เขาขับ นอนสักชั่วโมงสองชั่วโมงหายง่วงแล้วผมก็ขอขับต่อ  มาตีสามกว่าๆใกล้ถึงเพชรบุรีแล้ว เขานอนหลับสนิท ผมก็ขับมาด้วยความเร็วประมาน100-110 รู้สึกมีเสียงดังปุแล้วพวกมาลัยกระดิกนิดนึง ผมนึกว่ารถทับพวกกระป๋องนมหรืออะไรสักอย่าง แต่ก็ไม่ได้เสียความเร็วอะไร วิ่งมาอีกสักพักใหญ่ๆก็เห็นด่านตำรวจที่ผมต้องชะลอรถผ่านด่าน ตำรวจให้สัญญาณผมลดกระจกลงแล้วเดินเข้ามา ผมก็ถามออกไปก่อนว่าผมทำอะไรผิดหรือครับ ตำรวจยิ้มๆบอกว่าพี่ไม่ได้ทำอะไรผิดหรอก แต่จอดรถแอบก่อนแล้วเชิญลงมาดูรถพี่สักหน่อย ผมรีบทำตามตำรวจสั่ง มองไปทางที่เขาชี้ โอ้ย-โหย่ย-โย้ ล้อหน้าขวาของผมมีแต่กระทะล้อกับเศษยางนอกรุ่งริ่งติดขอบอยู่นิดเดียว นี่ผมวิ่งซีตรอง3ล้อด้วยความเร็วร้อยกว่ามาอย่างน้อย15นาที ผ่านโค้งซ้ายขวาไม่ทราบกี่โค้งโดยไม่รู้ตัวเลย ตำรวจมามุงรถผมกันใหญ่บอกว่าเกิดมาไม่เคยเห็น ตอนนี้ลูกน้องผมตื่นแล้วและหายง่วงสนิท เขาเปลี่ยนยางอะไหล่แล้วก็เป็นคนขับต่อกลับบ้าน

ตอนนี้ซีตรองสีทองคันนี้ผมยังเก็บไว้ เพราะทำใจไม่ได้ที่จะขายทิ้ง เล่นตีราคาให้ผมถูกๆ เลยทำสีใหม่เบาะใหม่อย่างดี เอี่ยมอ่องเสร็จก็ไม่ได้วิ่ง จอดคลุมผ้าไว้เฉยๆ

http://www.reurnthai.com/index.php?topic=3438.msg69954#msg69954



บันทึกการเข้า
กิมซัว แซ่ตั้ง
มัจฉานุ
**
ตอบ: 55


ความคิดเห็นที่ 229  เมื่อ 14 มี.ค. 19, 14:49

Jaguar XJ6L Series2


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ

คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ

คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
กิมซัว แซ่ตั้ง
มัจฉานุ
**
ตอบ: 55


ความคิดเห็นที่ 230  เมื่อ 14 มี.ค. 19, 14:57

ขอเลี้ยวไปถามช่างหน่อยนะครับ ว่าช่างพอจะรู้มั้ยว่าจอมพลนั่งรุ่นไหนหนีไประหว่าง Traction Avant หรือ id/DS  ยิงฟันยิ้ม


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
คำบรรณ
อสุรผัด
*
ตอบ: 9


ความคิดเห็นที่ 231  เมื่อ 14 มี.ค. 19, 18:21

เมื่อคืนอ่านหนังสือ" อยากลืมกลับจำ "
เรื่องราวเกี่ยวกับคุณจีรวัสส์ ปันยารชุน บุตรสาวจอมพล ป.
เขียนว่าจอมพล ป. หนีไปกับรถ ซีตรอง แต่ไม่บอกว่ารุ่นอะไร
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 232  เมื่อ 14 มี.ค. 19, 20:15

ขอเลี้ยวไปถามช่างหน่อยนะครับ ว่าช่างพอจะรู้มั้ยว่าจอมพลนั่งรุ่นไหนหนีไประหว่าง Traction Avant หรือ id/DS  ยิงฟันยิ้ม

คุณอำพล  โหตระกิตย์แห่งชมรมซีตรองแห่งประเทศไทยให้ข้อมูลว่า

จอมพล ป. มื Ford Thunderbird และ Citroen DS 19 ปี ๑๙๕๖ แต่เลือกใช้  DS 19 หนืรัฐประหารเพราะสมัยนั้นถนนสุขุมวิทยังขรุขระมืหลุมช้างเหยืยบตลอดทางจากเมืองชลไม่ใช่ทาง divided highway อย่างปัจจุบีน ถ้าเป็น Ford Thunderbird ถีงจะวิ่งเร็วแต่คงไปไม่ถีง  และ DS 19 ชนะ Montrcarlo Rally ปื ๑๙๕๕ เป็นเครึ่องรับประกันอยู่แล้ว

ท่านจอมพล ป.ใช้ซีตรองรุ่นไหนหนีเมื่อ ปี 2500
http://www.citroenthai.org/forum/lofiversion/index.php/t3087.html

บันทึกการเข้า
กิมซัว แซ่ตั้ง
มัจฉานุ
**
ตอบ: 55


ความคิดเห็นที่ 233  เมื่อ 14 มี.ค. 19, 20:40

ขอเลี้ยวไปถามช่างหน่อยนะครับ ว่าช่างพอจะรู้มั้ยว่าจอมพลนั่งรุ่นไหนหนีไประหว่าง Traction Avant หรือ id/DS  ยิงฟันยิ้ม

คุณอำพล  โหตระกิตย์แห่งชมรมซีตรองแห่งประเทศไทยให้ข้อมูลว่า

จอมพล ป. มื Ford Thunderbird และ Citroen DS 19 ปี ๑๙๕๖ แต่เลือกใช้  DS 19 หนืรัฐประหารเพราะสมัยนั้นถนนสุขุมวิทยังขรุขระมืหลุมช้างเหยืยบตลอดทางจากเมืองชลไม่ใช่ทาง divided highway อย่างปัจจุบีน ถ้าเป็น Ford Thunderbird ถีงจะวิ่งเร็วแต่คงไปไม่ถีง  และ DS 19 ชนะ Montrcarlo Rally ปื ๑๙๕๕ เป็นเครึ่องรับประกันอยู่แล้ว

ท่านจอมพล ป.ใช้ซีตรองรุ่นไหนหนีเมื่อ ปี 2500
http://www.citroenthai.org/forum/lofiversion/index.php/t3087.html



สำหรับผม ไม่คิดว่าเป็นid/DS เพราะในปี1957 รถอย่างid/DS เป็นรถที่หน้าตาล้ำสมัยและโดนเด่นมากๆครับ ถ้าจะต้องการหลบหนีออกจากพระนคร ในเวลาที่ฝ่านตรงข้ามกำลังตามหาตัว ก็ไม่ควรจะไปด้วยรถที่หน้าตาเด่นมากเกินไป ไปด้วยid/DSนี่ เจอด่านที่ไหนก็โดนดักเรียกทุกด่านแน่ๆ แต่ควรเป็นรถที่หน้าตากลมกลืน ไม่เด่นแต่สมรรถนะในการเดินทางไกล เดินทางไว บนทางที่ไม่ค่อยดี ต้องเชื่อถือได้ ผมถึงคิดว่าจอมพล ป. เดินทางออกจากพระนครด้วย Traction Avant ที่เป็นรถรุ่นก่อนหน้าid/DSครับ


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
choo
มัจฉานุ
**
ตอบ: 95


ความคิดเห็นที่ 234  เมื่อ 14 มี.ค. 19, 21:00

ผมได้ฟังจากคุณตาเล่าว่าท่านจอมพลรู้ว่าท่านต้องหนีเพราะมีนายตำรวจท่านหนึ่งชื่อเนื่องมาบอกข่าวท่านไปด้วยรถ Citroen Traction Avant  ครับ
บันทึกการเข้า
choo
มัจฉานุ
**
ตอบ: 95


ความคิดเห็นที่ 235  เมื่อ 14 มี.ค. 19, 21:25

รถ Citroen Traction Avant นี้ผู้ใหญ่เล่าให้ฟังว่าในช่วงปี 2483-2484 ซึ่งเป็นสงครามอินโดจีนไทย-ฝรั่งเศสใครใช้รถรุ่นนี้เอาออกจากบ้านมาวิ่งตามถนนไม่ได้ผู้คนรุมด่าว่าเป็นขี้ข้าฝรั่งเศสคนสมัยนั้นรู้จักรถรุ่นนี้ว่าเป็นรถฝรั่งเศสเพราะรูปร่างมันแปลกกว่ารถอื่นและตรา"สิบโท"คว่ำที่หน้ารถนั่นเอง
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 236  เมื่อ 21 มี.ค. 19, 15:02

  พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิตฯ ทรงเล่าไว้ในคำนำเรื่อง" ปริศนา" ว่าทรงแต่งเรื่องนี้ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2    แต่เนื้อเรื่องไม่มีกลิ่นอายของเมืองไทยยุคสงครามสักฉากเดียว  เว้นแต่กล่าวไว้สั้นๆถึงตัวละครชื่อนพ เพื่อนของนางเอก ว่าแต่งชุดยุวชนทหาร   แต่ก็เล็กน้อยมากจนคนอ่านส่วนใหญ่อาจไม่สังเกต
   ในเรื่องนี้กล่าวถึงรถหรูไว้หลายคัน เช่น Bentley ที่ท่านชายพระเอกเอามาจากอังกฤษ   อีกคันเป็นรถปอร์ตของท่านชายพจน์เหมือนกัน  บอกยี่ห้อว่า Riley จอดอยู่ในห้องโชว์รถยนต์ในกรุงเทพ   เป็นรถสปอร์ตสีดำเบาะแดง 
   ไม่เคยเห็นรถยี่ห้อนี้    นึกไม่ออกว่าในกรุงเทพมีใครขับ Riley sport   จนกูเกิ้ลให้เบาะแสว่า รถไรลีย์เป็นของบริษัทไรลีย์ มอเตอร์  ประเทศอังกฤษ  เลิกกิจการไปเมื่อปี 1969  ทุกวันนี้บริษัทที่เป็นเจ้าของไรลีย์คือ BMW

   วาดภาพว่ารถท่านชายพจน์หน้าตาคล้ายๆอย่างนี้ แต่เป็นสีดำแทนสีครีม  ภาพนี้คือ Riley sport 1945 ค่ะ

   มีใครพอจะให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยี่ห้อนี้ในประเทศไทยบ้างไหมคะ      ดิฉันเดาว่าองค์ผู้ประพันธ์คงทรงเห็นรถไรลีย์ที่เจ้านายด้วยกันทรงใช้ จึงเลือกมาถ่ายทอดลงในนิยาย     


บันทึกการเข้า
กิมซัว แซ่ตั้ง
มัจฉานุ
**
ตอบ: 55


ความคิดเห็นที่ 237  เมื่อ 22 มี.ค. 19, 08:52

ไรลีย์สปอร์ตมีคันที่สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีพระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 ทรงเคยใช้ครับ

https://mgronline.com/motoring/detail/9510000086020



บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 238  เมื่อ 22 มี.ค. 19, 09:01

ไม่เคยทราบมาก่อนเลย  ขอบคุณคุณกิมซัวค่ะ


บันทึกการเข้า
คำบรรณ
อสุรผัด
*
ตอบ: 9


ความคิดเห็นที่ 239  เมื่อ 22 มี.ค. 19, 18:07

พอ.วิชา ฐิตวัฒน์ เขียนถึงถนนสายหนึ่งในกรุงเบอร์ลิน
ในหนังสือ     -คนไทยในกองทัพนาซี-


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 14 15 [16] 17 18 ... 22
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.075 วินาที กับ 20 คำสั่ง