เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
อ่าน: 3986 หลวงนายสิทธิ์
cinephile
อสุรผัด
*
ตอบ: 0


ความคิดเห็นที่ 15  เมื่อ 07 ก.ย. 18, 16:57

อ่านของคุณ NAVARAT ดีกว่าครับ ที่ผม scan มาไม่ได้เรื่อง ขอสำคัญมีอยู่ว่า
หลวงนายสิทธิ์มีเรื่องวิวาทกับขุนบำรุงโยธาด้วยเรื่อวอะไร แล้วทำไมเจ้าพระยา
มหินทรถึงเฉไฉๆ ไป เป็นไปได้หรือเปล่าว่าต้นเหตุของข้อวิวาทมาจาก "หวิง" ผู้
เป็นเด็กของเจ้าพระยามหินทร์ที่ฝูมฝักมาตั้งแต่เป็นเด็ก แต่ต่อมาหวิงได้มาหลงรัก
กับ"คุณหญิงไลย์" ที่เป็นภรรยาของเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี ซึ่งในปีนั้นเจ้าพระยา
สุรศักดิ์มนตรียังติดราชการปราบฮ่ออยู่ที่เมืองซ่อน อันนี้หรือเปล่าที่ทำให้พระยา
มหินทร์ถึงได้ "เฉไฉๆ"
บันทึกการเข้า
cinephile
อสุรผัด
*
ตอบ: 0


ความคิดเห็นที่ 16  เมื่อ 07 ก.ย. 18, 17:28

ปัญหาเรื่องคุณหญิงไลย์กับอำแดงหวิงคงทำให้เจ้าพระยาสุศักดิ์มนตรีถึง
กับขอพระราชทานอนุญาติให้ภรรยาขึ้นมาอยู่ด้วยที่เมืองซ่อนซึ่งอยู่ในลาว
(หัวพันห้าทั้งหก) ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานอณุญาติ (ผมเดา
ว่าท่านคงระแคะระคายเรื่องอำแดงหวิงกับคุณหญิงไลบ์แล้ว เลยตัดไฟแต่ต้น
ลมโดยส่วคุณหญิงไลย์ไปอยู่กับเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรีให้มันหมดเรื่องหมด
ราวไป แต่เรื่องต่อไปจะเป็นอย่างไรผมยังค้นคว้าไม่ถึง หากใครรู้ก็แชร์กันมา
ก็ดีเหมือนกันครับ)


บันทึกการเข้า
cinephile
อสุรผัด
*
ตอบ: 0


ความคิดเห็นที่ 17  เมื่อ 07 ก.ย. 18, 19:12

คำให้การของอำแดงหวิง


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 18  เมื่อ 09 ก.ย. 18, 15:39

เอกสารสแกนของท่าน cinephile เล็กมากค่ะ  ท่านต้องถ่ายเอกสารแล้วสแกนระดับ 800x600 อาจจะอ่านชัดขึ้น
ขนาดที่ส่งลงทั้งสองครั้ง  เอาเข้าโปรแกรมขยายเองยังไงก็ไม่ชัด
แต่ดิฉันก็พยายามแกะลายแทง ถอดออกมาได้ประมาณ ๙๐%   ที่เว้นไว้คือแกะไม่ออก  ต้องขอสายตาท่านอื่นๆมาช่วยเติม

คนในกรมทหารหน้า ซึ่งได้จัดให้ชำระเพิ่มเติมขึ้นใหม่ คือเลขพระยามณเฑียรบาลบัว ๖๐๐ เศษ เลขพระองค์เจ้าวรภักตร์ ......เศษ   เลขส่วย....ในกรมหมอวังหน้า ๔๐๐ เศษ  คงจะได้ตัวตนจริงไม่ต่ำกว่าพันหนึ่ง......เป็นคนวังหลวงหมด   แต่การเก่านั้นยังดูยุ่งเหยิงวุ่นวายกันอยู่    ให้ตรวจจำนวนคนที่รับราชการเมื่อใดจะครบ ๕ ปีเป็นพวกๆ  ก็ยังไม่ได้จำนวนคนว่าเท่าใด  เพราะขุนบำรุงโยธาไปทำการวิวาทกับหลวงนายสิทธิ์   เจ้าพระยามหินทร์ก็เฉๆไฉๆไป    เราเห็นว่าถ้าไม่สางการเก่าเสียให้สอาด....รับคนใหม่เข้าไป  ก็คงจะพากันยุ่งอีก   ราชการทั้งปวงสงบเรียบร้อยดีอยู่

เดาจากเนื้อความว่าเป็นเรื่องพระบรมราชโองการให้ขุนนางไปชำระเลข  คือตรวจจำนวนเลข( คือชายฉกรรจ์ที่จะเกณฑ์มาเป็นทหารได้)จากบัญชีชื่อที่ลงไว้ในเอกสาร ว่ามีจำนวนเท่าใด    ก็รวบรวมจากหลายแห่งมาได้ ประมาณหนึ่งพันกว่าคน   
และจากนั้นมีพระบรมราชโองการให้สำรวจคนที่รับราชการมาครบ ๕ ปีมาแล้วว่ามีจำนวนเท่าใด    (ตรงนี้ไม่ชัดว่าหมายถึงพวกเลข หรือพวกขุนนางผู้น้อยที่ไหน) 
แต่ปรากฏว่าจนแล้วจนรอด ก็ยังไม่ได้คำตอบสักที  เพราะขุนนางที่(น่าจะ)ไปรับหน้าที่นับจำนวนคนเหล่านี้ เกิดวิวาทกันขึ้นมา   คือขุนบำรุงโยธากับหลวงนายสิทธิ์
เดาว่าหลวงนายสิทธิ์ในฐานะรองหัวหมื่นมหาดเล็ก รับพระบรมราชโองการไปนับคนที่รับราชการมาแล้ว ๕ ปี  (ซึ่งอาจจะทำให้ได้เว้นสิทธิ์ หรือได้เบี้ยเลี้ยง หรือได้สิทธิ์ประโยชน์อะไรสักอย่าง ก็ไม่รู้ละ)  ไม่อาจประสานงานกับผู้ที่รับผิดชอบ (คือถือบัญชีรายชื่อและจำนวนคน ) อันได้แก่หลวงบำรุงโยธา
คุณหลวงแกทำบัญชีขาดหาย เลยแจ้งไม่ได้  หรือแกยักท่ามีแต่ไม่ส่งคำตอบให้หลวงนายสิทธิ์ ก็ไม่รู้อีกเหมือนกัน
รู้แต่ว่าสองคนนี้ขัดกันขึ้นมา งานเลยไม่เสร็จสักที  ค้างเติ่งอยู่ยังงั้น
ผู้ใหญ่ที่มีหน้าที่ไปตามเรื่อง  มีบัญชาให้เลิกทะเลาะกัน   สั่งว่าเอางานมาถวายเดี๋ยวนี้ ได้แก่เจ้าพระยามหินทรฯ  ก็เกิดทำงานไม่ได้เรื่อง  อาจจะเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ไม่ถูกต้อง  ในที่นี้เดาว่าไปเข้าข้างหลวงบำรุงโยธา   จึงทรงใช้คำว่า เฉๆไฉๆ  แปลว่าไม่ตรง  หรือจะแปลว่าบ่ายเบี่ยงก็ได้ค่ะ

ทั้งหมดนี้ยังไม่เห็นว่าเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี ค่ะ

เรื่องคุณหญิงไลย์ จำได้รางๆว่าน่าจะถึงแก่กรรม     เจ้าคุณท่านก็เลยแต่งงานอีกหนกับน้องสาวคุณหญิงไลย์ แต่ก็เลิกกันอีกค่ะ 
บันทึกการเข้า
cinephile
อสุรผัด
*
ตอบ: 0


ความคิดเห็นที่ 19  เมื่อ 10 ก.ย. 18, 12:36

เท่าที่จำได้ก็ตือคุณหญิงไลย์(ท่านผู้หญิง?) เป็นภรรยาคนที่สองต่อจากคนที่ถึงแก่กรรมครับ
ที่ผมสงสัยว่ากรณีวิวาทระหว่างหลวงนายสิทธิ์กับนบำรุงโยธาน่าจะเป็นข้อวิวาทระหว่างพระยา
มหินทร์กับพระนายไวยฯ คงจะมีปฐมเหตุจากคุณหยิงไลย์กับอำแดงหวิงที่เป็นอนุภรรยาของพระยา
มหินทร์ถึงขนาดที่พระนายไวย์ขอพระราชทานเอาคุณหญิงไลยฺมาอยู่ด้วยในสนามรบโดยมีหลวงนาย
สิทธิ์จะเป็นคนนำคุณหญิงไลย์ไปหาพระนายไวยที่เมืองซ่อน

อันนี้เป็นการเดาเอาล้วนๆ นะครับ แต่ลงท้ายพระนายไวยไม่ได้เอาคุณหญิงไลย์ไปอยู่ด้วยตามที่ท่านบันทึก
เอาไวเครับ
บันทึกการเข้า
cinephile
อสุรผัด
*
ตอบ: 0


ความคิดเห็นที่ 20  เมื่อ 10 ก.ย. 18, 14:02

อันนี้คัดมาจากพระราชหัตถเลขาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕
ราชการในกรุงเทพฯ นี้ก็สงบเรียบร้อยดีอยู่ มีแต่ทูตฝรั่งเศสมีหนังสือ
มาเร่งรัด จะตั้งกงซุลฝรั่งเศสที่เมืองหลวงพระบางให้จงได้ ฝ่ายเราตอบ
ว่า คนฝรั่งเศสมีประโยชน์อันไดในเมืองหลวงพระบางที่กงซุลจะต้องไปรักษา
เรายังไม่ยอมให้ เอกสกวาเดอ ก็มีหนังสือ
ตอบมาอีก ว่าท่านเสนาบดีผู้ว่าการต่างประเทศให้ขอตั้งให้ได้ ฝ่ายเราก็ยังไม่ยอม
ว่าถ้าฝรั่งเศสจะชี้ให้เห็นได้ว่าผลประโยชน์อันใดของฝรั่งเศสมีในเมืองหลวง
พระบางจึงจะยอม แต่เพื่อจะให้เป็นพะยานในทางไมตรี จึงได้มีคำสั่งให้ข้าหลวง
สำหรับเมืองหลวงพระบาง สีบสวบแล้วมีริโปตลงมาว่าการค้าขายที่เมืองหลวงพระบาง
ชองคนในบังคับฝรั่งเศสมีอันใดบ้าง ตราบังคับเรื่องนี้ถ้ามีขึ้นไปแล้ว เจ้าหมื่นไวยอยู่ใน
เมืองหลวงพระบาง ให้ช่วยเปนที่ปฤกษาหาฤๅพระยาพิชัย

ตำถามก็คือ เอกสกวาเตอ แปลว่าอะไรครับ (หมายถึงอะไรหว่า)
บันทึกการเข้า
CVT
องคต
*****
ตอบ: 452


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 21  เมื่อ 10 ก.ย. 18, 15:10

เอกสกวาเดอ ก็มีหนังสือ
ตอบมาอีก ว่าท่านเสนาบดีผู้ว่าการต่างประเทศให้ขอตั้งให้ได้ ฝ่ายเราก็ยังไม่ยอม
ว่าถ้าฝรั่งเศสจะชี้ให้เห็นได้ว่าผลประโยชน์อันใดของฝรั่งเศสมีในเมืองหลวง
พระบางจึงจะยอม

ตำถามก็คือ เอกสกวาเตอ แปลว่าอะไรครับ (หมายถึงอะไรหว่า)

น่าจะเป็นชื่อคน
หรือว่าจะเป็น Ambassador ครับ
บันทึกการเข้า
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1899



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 22  เมื่อ 10 ก.ย. 18, 15:14

เอกสกวาเดอ คือ exequatur ครับ an official recognition by a government of a consul, agent, or other representative of a foreign state, authorizing them to exercise the duties of office.
บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
cinephile
อสุรผัด
*
ตอบ: 0


ความคิดเห็นที่ 23  เมื่อ 10 ก.ย. 18, 15:28

สุดยอดครับคุณม้าบ้า ถามมาหลายคนแล้วไม่มีใครรู้เลยครับ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 24  เมื่อ 10 ก.ย. 18, 18:33

exequatur =    อนุมัติบัตร (ให้ปฏิบัติหน้าที่กงสุล)

ราชการในกรุงเทพฯ นี้ก็สงบเรียบร้อยดีอยู่ มีแต่ทูตฝรั่งเศสมีหนังสือมาเร่งรัด จะตั้งกงซุลฝรั่งเศสที่เมืองหลวงพระบางให้จงได้ ฝ่ายเราตอบว่า คนฝรั่งเศสมีประโยชน์อันไดในเมืองหลวงพระบางที่กงซุลจะต้องไปรักษา
เรายังไม่ยอมให้เอกสกวาเดอ  (ทูตฝรั่งเศส)ก็มีหนังสือตอบมาอีก ว่าท่านเสนาบดีผู้ว่าการต่างประเทศให้ขอตั้งให้ได้ ฝ่ายเราก็ยังไม่ยอม


ถอดความได้ว่า ทูตฝรั่งเศสอยากให้ตั้งกงศุลฝรั่งเศสที่เมืองหลวงพระบาง     แต่ทางสยามเห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีกงศุลฝรั่งเศสในหลวงพระบาง
ก็เลยไม่อนุมัติให้มีการตั้งกงศุลสักที   ทางนั้นก็เร่งรัดมา    ทางสยามก็ไม่ยอมอยู่นั่นเอง

ึป.ล. คุณม้าเก่งมากค่ะ  ถอดรหัสคำนี้ออก  ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 25  เมื่อ 10 ก.ย. 18, 18:40

อยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับหลวงนายสิทธิ์ว่าคุณหลวงเป็นใคร รับราชการอะไร

หลวงนายสิทธิ์เป็นคำเรียกขานมหาดเล็กชั้นรองหัวหน้าเวรสิทธิ์  ซึ่งมีบรรดาศักดิ์เป็น หลวงสิทธิ์ นายเวร

หลวงสิทธิ์นายเวรผู้นี้คือ นายบุศย์ บุตรชายของเจ้าพระยามหินทรศักดิ์ธำรง (เพ็ง เพ็ญกุล)

พ.ศ. ๒๔๒๗ เป็นนายเสน่ห์ หุ้มแพร (บุศย์ เพ็ญกุล) เลขานุการของพระองค์เจ้าปฤษฎางค์ ร่วมกันลงชื่อในเอกสารกราบบังคมทูลความเห็นจัดการเปลี่ยนแปลงการปกครองราชการแผ่นดิน ร.ศ. ๑๐๓ (๑)

พ.ศ. ๒๔๒๘ เมื่อเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรีครั้งเป็นเจ้าหมื่นไวยวรนารถเป็นแม่ทัพไปปราบปรามพวกฮ่อ โปรดเกล้าฯ ให้เป็นหลวงสิทธิ์นายเวร เป็นผู้บังคับการกรมทหารหน้าแทน (๒)

(๑) เหตุการณ์ ร.ศ. ๑๐๓

(๒) ตำนานกรมทหารราบที่ ๔
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 26  เมื่อ 10 ก.ย. 18, 18:41

พ.ศ. ๒๔๒๙  เป็นกรรมการพิจารณาการจัดสร้างโรงพยาบาลศิริราช

http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2430/005/34_1.PDF


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 27  เมื่อ 10 ก.ย. 18, 18:50

พ.ศ.๒๔๔๓ ลาออกจากราชการ บรรดาศักดิ์สุดท้ายคือ เจ้าหมื่นไวยวรนาถ

เวลาเดียวกัน นายบุศย์ (ซึ่งดำรงตำแหน่ง เจ้าหมื่นไวยวรนารถ) บุตรชายคนหนึ่งของเจ้าพระยามหินทรศักดิ์ธำรง (เพ็ง เพ็ญกุล) ได้เปิดตัวโรงละครใหม่ขึ้นอย่างใหญ่โตมโหฬาร ซึ่งทำให้มีหนี้สินมากมาย เป็นเหตุให้ตัดสินใจขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตไปแสดงละครยังต่างประเทศ ซึ่งล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕ ได้มีพระราชโองการโปรดเกล้าว่า ถ้าจะนำคณะละครไปแสดงก็ต้องถอดยศ หรือ ลาออกจากการเป็นเจ้าหมื่นเสียก่อนจะไปทั้งตำแหน่งไม่ได้ต้องไปในฐานะนายบุศย์ ประชาชนคนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น ดังปรากฏเอกสารแจ้งความลาออกของนายบุศย์ จากราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ ๑๗ หน้า ๑๕๖ วันที่ ๘ กรกฏาคม ๑๑๙

http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2443/015/156.PDF


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 28  เมื่อ 10 ก.ย. 18, 18:57

...คณะละครนายบุศย์มหินทร ถูกส่งกลับเนื่องจากการแสดงขาดทุนอย่างยับเยิน ไม่มีแม้ค่าเดินทางกลับบ้างก็ว่าหญิงละครบางคนต้องนำชุดละครออกขายฝรั่งเพื่อเป็นค่าเดินทางกลับสยาม บ้างก็ว่าได้รับความช่วยเหลือจากราชฑูตในยุโรป ทั้งนายบุศย์เองเมื่อกลับมาถึงยังโดนหญิงละครภายในคณะฟ้องร้องเรื่องค่าแรงตามสัญญาอีกด้วย

คณะละครนายบุศย์มหินทรกลับถึงสยามราวๆ กลางปี พ.ศ. ๒๔๔๔ โดยอ้างถึงหลักฐานจากหนังสือพิมพ์บางกอกไตมส์ฉบับวันที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๔๔ ว่า

"ตั้งแต่กลับมาจากประเทศยูโหรบแล้ว บัดนี้เจ้าหมื่นไวยวรนารถได้ป่วยไป เข้าใจว่าเป็นเพราะเปลี่ยนอากาศ ร่างกายกระทบความร้อนในกรุงเทพฯ เข้า แต่ก็หวังว่าโรคที่ป่วยนั้น ไม่ช้าคงจะหายดีอย่างเดิม"

นายบุศย์ ถึงแก่กรรมเมื่อวันจันทร์ที่ ๑๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๔๔

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 29  เมื่อ 10 ก.ย. 18, 20:00

ยิงฟันยิ้ม
เป็นอันว่าท่าน Cinephile ได้คำตอบแล้วนะคะ


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.049 วินาที กับ 20 คำสั่ง