เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 6 7 [8] 9
  พิมพ์  
อ่าน: 13678 13 หมูป่า : วีรกรรมถ้ำหลวง
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 105  เมื่อ 25 ก.ย. 18, 10:29

จาก "ถ้ำหลวง" สู่ "ฮอลลีวูด"

Universal Pictures เดินหน้าสร้างหนัง “ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยถ้ำหลวง” หลังได้รับสิทธิ์อย่างเป็นทางการในการสร้างหนังเกี่ยวกับชีวิตของผู้เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยกู้ภัย รวมถึงโค้ช และสมาชิกทีมหมูป่าด้วย

The Variety รายงานว่าสตูดิโอผลิตภาพยนตร์ Universal Pictures จากฮอลลีวูดได้คว้าสิทธิ์การสร้างหนังจากชีวิตของนายแพทย์ริชาร์ด แฮร์รีส, นายสัตวแพทย์เคร็ก คัลเลน และ โค้ชเอก เอกพล จันทะวงษ์ รวมถึงสมาชิกทีมฟุตบอลหมูป่าทั้ง ๑๒ ชีวิต อย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เชื่อว่า หนังของ Universal Pictures น่าจะเน้นเล่าเรื่องเกี่ยวกับภารกิจช่วยชีวิตที่คนทั่วโลกร่วมจับตามอง และให้กำลังใจ ทั้งหน่วยกู้ภัย และโค้ชกับเด็ก ๆ ที่สามารถเอาชีวิตในถ้ำได้อย่างเหลือเชื่อ

งานนี้ Universal Pictures จะได้ ไมเคิล เดอ ลูก้า กับ เดนา บรูเน็ตติ ที่เคยสร้างหนังดังไม่ว่าจะเป็น The Social Network, Fifty Shades of Grey และ Captain Philips มาดูแลโปรเจกต์ ซึ่งทั้งคู่ก็ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า พวกเขาตื่นเต้นมากที่จะได้เล่าเรื่องการทำงานอันน่าตื่นเต้นของเหล่านักดำน้ำจากนานาชาติ ที่ได้มีส่วนร่วมกันทำงานในภารกิจช่วยเหลือชีวิตครั้งนี้

โปรเจกต์ของ Universal Pictures คือ ๑ในภาพยนตร์ ๓ เรื่องเกี่ยวกับเรื่องราวของถ้ำหลวง ที่มีการพัฒนาโครงการกันอยู่อย่างจริงจังในขณะนี้ รวมถึงโปรเจกต์ของ DeWarrenne Productions ที่ดำเนินการโดย ทอม เวลเลอร์ คนทำหนังชาวไทยเชื้อสายไอริช ที่หนังน่าจะได้เปิดกล้องก่อนใคร และจะใช้ชื่อว่า “นางนอน” หรือ The Cave

นอกจากนั้น ก็ยังจะมีหนังของ Ivanhoe Pictures กับผู้กำกับชาวอเมริกันเชื้อสายจีน จอน เอ็ม ชู ที่กำลังดังเป็นพลุแตกจาก Crazy Rich Asians ที่เคยประกาศอย่างจริงจังว่า เขาจะไม่ยอมให้ฮอลลีวูดนำเหตุการณ์ “ถ้ำหลวง” มาฟอกขาว และทำหนังให้กลายเป็นเรื่องราวของคนต่างชาติอย่างเด็ดขาด

https://mgronline.com/entertainment/detail/9610000095395

https://variety.com/2018/film/news/thai-cave-rescue-movie-universal-1202944116/


บันทึกการเข้า
Naris
องคต
*****
ตอบ: 421


ความคิดเห็นที่ 106  เมื่อ 25 ก.ย. 18, 14:10

ผมก็อยากดูครับ ภาพยนตร์เรื่องนี้
แต่ผมสงสัยครับ
อ้างถึง
ได้คว้าสิทธิ์การสร้างหนังจากชีวิตของนายแพทย์ริชาร์ด แฮร์รีส, นายสัตวแพทย์เคร็ก คัลเลน และ โค้ชเอก เอกพล จันทะวงษ์ รวมถึงสมาชิกทีมฟุตบอลหมูป่าทั้ง ๑๒ ชีวิต อย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

"สิทธิอย่างเป็นทางการ" เกี่ยวกับเรื่องนี้ ถือครองโดยใครครับ หมายถึงว่า บ.Universal Pictures ต้องติดต่อบุคคลแต่ละบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อขออนุญาตจากบุคคลเหล่านั้นเป็นรายบุคคล อย่างนั้นใช่ไหมครับ

และถ้าท่านใดไม่อนุญาต ก็จะไม่สามารถปรากฎเรื่องราวของบุคคลผู้นั้นในภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ อย่างนั้นสินะครับ

ถ้างี้ มีลุ้นเป็นหนัง ออสเตรเลียน ฮีโร่ แล้วแหละครับ   
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 107  เมื่อ 25 ก.ย. 18, 15:51

ตามข่าว Universal Picture ไม่ได้ไปติดต่อเอง แต่ให้ Creative Artists Agency (CAA) เป็นตัวแทนไปดำเนินการเรื่องสิทธิ์ทั้งปวง

The studio announced on Monday that it has acquired the life rights of Coach Ekkapol Chantawong, Dr. Richard Harris, Dr. Craig Challen, and the players on the Wild Boar soccer team. CAA agent Matt DelPiano led a team effort and travelled to Thailand and Australia to secure the rights for all involved.

https://variety.com/2018/film/news/thai-cave-rescue-movie-universal-1202944116/

https://www.wsj.com/articles/a-tension-filled-thai-cave-dramafor-the-movie-rights-1537805006
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 108  เมื่อ 25 ก.ย. 18, 16:17

บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 109  เมื่อ 25 ก.ย. 18, 18:27

"สิทธิอย่างเป็นทางการ" เกี่ยวกับเรื่องนี้ ถือครองโดยใครครับ หมายถึงว่า บ.Universal Pictures ต้องติดต่อบุคคลแต่ละบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อขออนุญาตจากบุคคลเหล่านั้นเป็นรายบุคคล อย่างนั้นใช่ไหมครับ

และถ้าท่านใดไม่อนุญาต ก็จะไม่สามารถปรากฎเรื่องราวของบุคคลผู้นั้นในภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ อย่างนั้นสินะครับ

ข้อสงสัยกรณีหนัง “ถ้ำหลวง” : หนัง Based on a True Story ใครเป็นเจ้าของเรื่อง, ใครควรได้รับเงิน

เกิดคำถามขึ้นทันที เมื่อมีข่าวว่าผู้สร้างหนังจากฮอลลีวูดกำลังจะสร้างหนังจากเหตุการณ์กู้ชีวิตในถ้ำหลวงที่เกิดขึ้นที่ประเทศไทย ว่าสุดท้ายแล้วใครคือ เจ้าของเรื่องกันแน่, บุคคลที่เกี่ยวข้องสามารถหาผลประโยชน์จากการสร้างหนังเหล่านี้ได้หรือไม่ และผู้สร้างหนังจำเป็นต้องจ่ายเงินให้กับใครในการสร้างหนังจากเรื่องจริงแบบนี้

เหตุการณ์จริงคือ “สมบัติของสาธารณะ”

จริงแล้วโดยทั่วไปตามกฎหมายของประเทศต่าง ๆ “เหตุการณ์จริง” คือสมบัติของสาธารณะที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้ใด นอกเสียจากว่าจะมีใครนำเหตุการณ์ดังกล่าวไป “เขียนเล่าเรื่องราว” ในมุมมองที่แตกต่างก็จะได้รับความคุ้มครองในฐานะเป็น ลิขสิทธิ์ผลงานส่วนบุคคล

ซึ่งหากใครต้องการนำ “งานเขียน” ถึงเหตุการณ์จริงดังกล่าวไปสร้างเป็นภาพยนตร์ ก็จำเป็นที่จะต้องจ่ายเงินให้กับผู้เขียนในฐานะเจ้าของผลงาน เหมือนกับหนังคลาสสิกของฮอลลีวูดอย่าง All the President's Men ที่แม้จะสร้างมาจากเหตุการณ์จริง แต่หนังก็ถือว่าเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวจากหนังสือของสองนักข่าวคนดัง คาร์ล เบิร์นสตีน และ บ็อบ วูดเวิร์ด โดยตรง หรือหนังเกี่ยวกับชีวิตของอดีตผู้จัดการทีมฟุตบอล น็อตติงแฮม ฟอร์เรสต์ ไบรอัน คลัฟ ที่ไม่ได้อ้างอิงจากชีวิตของ คลัฟ โดยตรง แต่มีเนื้อหามาจากหนังสือ The Damned United ของ เดวิด เพียซ ต่างหาก

แต่แน่นอนว่างานเขียนเกี่ยวกับเหตุการณ์จริงที่จะอ้างลิขสิทธิ์ได้จะต้องมีแง่มุม หรือข้อมูลที่แตกต่างจากที่สาธารณะชนรับรู้กันอยู่โดยทั่วไปอย่างชัดเจนอยู่ด้วย

ทุกคนทีสิทธิ์สร้างหนังจากเหตุการณ์จริงโดยไม่ต้องไปขออนุญาต (และจ่ายเงิน) ให้ใคร

สุดท้ายแล้วผู้สร้างหนังจึงมีสิทธิ์ที่จะหยิบเหตุการณ์จริงใด ๆ มาสร้างเป็นภาพยนตร์ก็ได้ โดยไม่ต้องไปขออนุญาตใครเลย เหมือนกับหนังเกี่ยวกับชีวิตของคนดังอย่าง The Social Network ที่สร้างจากหนังสือเล่มหนึ่ง โดยที่บุคคลจริงในหนังอย่าง มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เองก็ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก

หนังเกี่ยวกับชีวิตของเทพกีตาร์ระดับตำนาน จิมมี เฮนดริกซ์ ที่ชื่อว่า Jimi: All Is by My Side ก็ไม่ได้ไปขออนุญาตใครเช่นเดียวกัน และยังไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้เพลงของ เฮนดริกซ์ ในหนังเรื่องนี้ด้วยซ้ำไป

หนังจากชีวิตของคนดัง ๆ มากมาย ส่วนใหญ่ก็สร้างขึ้นโดยไม่ได้ถามเจ้าตัวแต่อย่างใด หลายครั้งที่แม้เจ้าตัวจะไม่พอใจ แต่เลือกที่จะ “ปล่อยผ่าน” และบางครั้งก็เกิดการฟ้องร้องตามมาว่าหนังมีเนื้อหาบิดเบือนความเป็นจริง

ทำไมผู้สร้างหนังยอมต้องจ่ายเงินให้กับบุคคลเจ้าของเรื่อง ?

อย่างไรก็ตามแม้เหตุการณ์จริงจะเป็น “สมบัติสาธารณะ” แต่ผู้สร้างหนังจำนวนไม่น้อยก็ยังยินดีที่จะจ่ายเงินเพื่อขอใช้สิทธิ์ในการสร้างหนังจากเหตุการณ์เกี่ยวกับบุคคลนั้น ๆ “อย่างเป็นทางการ” แม้กฎหมายของหลาย ๆ ประเทศโดยเฉพาสหรัฐฯ ดินแดนแห่งหนังฮอลลีวูดจะไม่ได้บังคับเอาไว้ก็ตาม

เหตุผลก็คือ ผู้สร้างหนังหลายรายเลือกที่จะจ่ายเพื่อ “ความสะดวก” ในการสร้างหนังเรื่องนั้น ๆ นั่นเอง

โดยผู้สร้างที่จ่ายเงินให้กับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์จริงมักจะได้รับข้อมูล “พิเศษ และลับเฉพาะ” ที่เป็นรายละเอียดที่ไม่เคยเปิดเผย หรือถูกบันทึกในสื่อใด ๆ จากบุคคลดังกล่าว เพื่อเสริมให้หนังมีเนื้อหาที่แตกต่าง และมีรายละเอียดที่ชัดเจนที่สุด

อย่างไรก็ตามสาเหตุสำคัญที่ผู้สร้างหนังบางรายยอมจ่ายเงินเพื่อให้ได้สิทธิ์ดังกล่าว ก็เพื่อเป็นการป้องการฟ้องร้องนั่นเอง โดยเฉพาะหากบุคคลจริงรู้สึกว่าหนังอาจจะมีเนื้อหาที่ “บิดเบือนความจริง” และอาจจะทำลายชื่อเสียงของของพวกเขา หากหนังได้ออกฉายไปในวงกว้าง ก็อาจจะยื่นฟ้องร้องเพื่อขอค่าเสียหายได้

จึงเป็นเรื่องที่ผู้สร้างหนังต้องตัดสินใจเองว่าสุดท้ายแล้วจะยอมจ่ายเงินเพื่อป้องกันการฟ้องร้อง หรือหากมั่นใจในข้อมูลสาธารณะ และเชื่อว่าหนังของตนเองจะมีความถูกต้องตรงตามเหตุการณ์จริง ก็ไม่จำเป็นต้องไปจ่ายเงินให้กับบุคคลในเรื่องแต่อย่างใด
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 110  เมื่อ 25 ก.ย. 18, 18:28

สร้างได้ตามสบาย ... แต่อาจโดนฟ้องถ้าบิดเบือนความเป็นจริง

แต่ถึงจะจ่ายเงินไปแล้ว หนังหลาย ๆ เรื่องก็ยังมีปัญหาเรื่อง ข้อเท็จจริง จนนำมาซึ่งการฟ้องร้องอยู่ดี บางครั้งเจ้าตัวเองก็ไม่พอใจที่ผู้สร้างหนังเลือก ตีความ ชีวิตของพวกเขาออกมาในมุมมองของตัวเองโดยไม่ได้รับอนุญาต เหมือนหนัง Foxcatcher (2014) ที่เล่าเรื่องคดีฆาตกรรมนักกีฬาโอลิมปิก ซึ่ง มาร์ค ชูลซ์ นักมวยปล้ำเหรียญทองโอลิมปิกได้ให้ข่าวว่าเขาไม่พอใจเลย ที่หนังใส่เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องรักร่วมเพศลงไปด้วย

หรือบางครั้งแม้หนังจะจ่ายเงินให้กับบุคคลจริงที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ไปแล้ว แต่ก็ยังมีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์รายอื่น ๆ ที่ไม่พอใจ (และไม่ได้เงิน) จนเรื่องราวอาจจะไปถึงโรงถึงศาลได้ หากบุคคลเหล่านั้นเลือกที่จะฟ้องร้องหนังว่าบิดเบือนข้อเท็จจริง

อย่างเมื่อ ๕ ปีก่อน มีกรณีที่ลูกเรือหลายคนในเรือเดินสมุทร MV Maersk Alabama ได้ตัดสินใจยื่นฟ้องผู้สร้างหนัง Captain Phillips (2013) ว่าหนังบิดเบือนข้อเท็จจริง ด้วยการจงใจนำเสนอภาพของ กัปตัน ฟิลลิปส์ ให้ออกมาเป็นฮีโร่ ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้ทำอะไรสำคัญเลย อย่างที่ลูกเรือคนหนึ่งบอกว่าตน "อยากให้สาธารณะได้รู้ว่าแท้จริงแล้ว เจ้าหน้าที่ของทหารเรือ และลูกเรือคนอื่นต่างหากที่เป็นวีรบุรุษที่แท้จริง"

บางกรณีขอสิทธิ์เพื่อ “แต่งเติม” เรื่องราวนอกเหนือความเป็นจริง

นอกจากนั้นก็ยังมีหนังประเภทที่ “อิง” เหตุการณ์จริง หรือ เป็นเรื่องจริง ผสมเรื่องแต่งอะไรทำนองนั้นด้วย ซึ่งบางครั้งหนังประเภทนี้ยิ่งจำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพราะชัดเจนว่าส่วนที่ “แต่งเพิ่ม” ไม่ได้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง และบางครั้งอาจสร้างความเสียหายให้กับผู้เกี่ยวข้อง แต่หากได้รับอนุญาต จะแต่งเพิ่มยังไงก็ไม่มีปัญหา

หนังที่เล่าเรื่องราวในชีวิตของ สตีฟ จอบส์ เรื่อง Steve Jobs ที่อ้างอิงเนื้อหาจากหนังสือชีวประวัติอย่างเป็นทางการของผู้ก่อตั้งบริษัท Apple ก็เคยสร้างความฮือฮามาแล้ว เมื่อนักเขียนคนดัง แอรอน ซอคิน ใช้วิธีแต่งทั้งเรื่อง, เหตุการณ์ และบทสนทนาเอาเองโดยไม่อ้างอิงเหตุการณ์จริง แต่ยืนยันว่าจะเป็นวิธีที่ทำให้ผู้อ่านเข้าใจชีวิตของ จอบส์ ได้ดีที่สุด

ซึ่งหนังสามารถใช้วิธีแบบนี้ได้อย่างไม่มีปัญหาใด ๆ ก็เพราะผลงานเรื่อง Steve Jobs ของ แดนนี บอยล์ เป็นหนังชีวประวัติอย่างเป็นทางการ ที่ได้รับสิทธิ์มาจากผู้ดูแลทรัพย์สินกองมรดกของ จอบส์ นั่นเอง


การทำหนังจากเหตุการณ์จริง ไม่สามารถหลีกเลี่ยงข้อกล่าวหา “บิดเบือนความจริง” ไปได้เลย ไม่ว่าจะมีการจ่ายเงินให้กับบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือไม่ก็ตาม ... สำหรับ “หนังถ้ำหลวง” มีข่าวว่าผู้สร้างหนังจากฮอลลีวูดบางราย ก็เลือกที่จะขอซื้อสิทธิ์มาจากผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์โดยตรงบางคนเช่นเดียวกัน

ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่าหนัง ถ้ำหลวง (ที่น่าจะมีมากกว่า ๑ เรื่อง) จะมีปัญหาเรื่องความถูกต้องของข้อเท็จจริง และความพอใจ หรือไม่พอใจของบุคคลในเหตุการณ์ตามมาเหมือนกับหนังที่สร้างจาก “เหตุการณ์จริง” อีกหลาย ๆ เรื่องหรือไม่

https://mgronline.com/entertainment/detail/9610000095804
บันทึกการเข้า
Naris
องคต
*****
ตอบ: 421


ความคิดเห็นที่ 111  เมื่อ 26 ก.ย. 18, 13:54

คือ.. ต้องกราบขออภัยท่านอาจารย์อีกครั้งครับ (ผมว่า ระบบวิธีคิดผมต้องประหลาดแน่เลย ทำไมผมสงสัยไปหมดทุกเรื่อง)

ถ้า
1) เหตุการณ์จริงคือ “สมบัติของสาธารณะ” และ
2) ทุกคนทีสิทธิ์สร้างหนังจากเหตุการณ์จริงโดยไม่ต้องไปขออนุญาต (และจ่ายเงิน) ให้ใคร
จริงแล้วไซร้

เหตุใด Universal Pictures จึงต้องประกาศว่า "ได้คว้าสิทธิ์การสร้างหนังจากชีวิตของนายแพทย์ริชาร์ด แฮร์รีส, นายสัตวแพทย์เคร็ก คัลเลน และ โค้ชเอก เอกพล จันทะวงษ์ รวมถึงสมาชิกทีมฟุตบอลหมูป่าทั้ง ๑๒ ชีวิต อย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว" ด้วยหละครับ เพราะเขาสามารถสร้างได้ทันทีโดยไม่ต้องขอใครอยู่แล้ว ข้อจำกัดมีเพียงแค่ถ้าสร้างไม่ตรงความจริง ผู้สร้างก็ต้องรับผิดชอบ อาจถูกฟ้องร้องดำเนินคดี หรือเรียกค่าเสียหายได้หากไปทำให้ต้นเรื่องเขาเสื่อมเสียเท่านั้นเองนี่ครับ

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 112  เมื่อ 27 ก.ย. 18, 11:30

ขออนุญาตตีความ
เหตุการณ์ กับชีวิตคน มันคนละเรื่องกัน

ถ้าผู้สร้างภาพยนตร์จะสร้างหนังจากเหตุการณ์เด็กและโค้ชติดในถ้ำหลวง  นี่คือเหตุการณ์ สร้างได้เลย   เหมือนอยากสร้างหนังเกี่ยวกับเหตุการณ์สึนามิที่ภาคใต้   ก็สร้างได้โดยไม่ต้องไปขออนุญาตจากบรรดาเจ้าของโรงแรม เจ้าของร้านอาหารริมหาด เจ้าของบริการให้เช่าเรือ นักท่องเที่ยวอีกล้านเจ็ด ฯลฯ ในบริเวณที่เกิดคลื่นยักษ์
แต่ถ้าจะทำหนังจากชีวิตของผู้ที่มีตัวจริง อย่างเด็กสาววัย 14 ชื่อ เอมม่า เยทส์ ที่ถูกคลื่นยักษ์ซัดจากที่พักบนเขาหลักลงไปลอยคอในทะเล 3 ชั่วโมง  ก่อนจะถูกคลื่นซัดกลับมาริมฝั่ง ชาวบ้านช่วยลากขึ้นมา รอดตายมาได้
อย่างนี้ละก็  ผู้สร้างต้องไปขอลิขสิทธิ์จากเจ้าตัว หรือพ่อแม่ (เพราะเธอยังเป็นผู้เยาว์)   ไม่มีสิทธิ์จะเอาเรื่องราวของเธอไปทำหนังโดยอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์จริง
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 113  เมื่อ 04 ต.ค. 18, 10:07

โกอินเตอร์  ขยิบตา



กำหนดการหมูป่าเดินสายโชว์ตัว-สัมภาษณ์สื่อสหรัฐ

วันที่ ๓ ตุลาคม เวลา ๒๓.๐๐ น. เดินทางไปสนามบินอาตาร์เติร์ก เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี สายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ เที่ยวบิน TK69 ถึงเวลาประมาณ ๐๕.๓๐ น. 

วันที่ ๔ ตุลาคม เวลา ๙.๔๐ น. เดินทางจากอิสตันบูล ไปสนามบินการูลโฮส เซาเปาโล ประเทศบราซิล ถึงประมาณ ๑๖.๕๐ น. จากนั้น เวลา ๑๘.๕๐น. เดินทางจากบราซิล ไปกรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา

วันที่ ๖ ตุลาคม เข้าร่วมพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกเยาวชน

วันที่ ๗-๘ ตุลาคม เยาวชนทีมหมูป่าเข้าร่วมกิจกรรมโอลิมปิกเยาวชน ส่วนโค้ชเอก จะเดินทางไปกรุงนิวยอร์ก โดยวันเดียวกัน นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าฯ พะเยา จะเดินทางจาก กทม.ถึงกรุงนิวยอร์กวันเดียวกัน เพื่อร่วมพิธีมอบรางวัลให้โค้ชเอก


สมาชิกทีมหมูป่าที่เหลือ อยู่ที่ประเทศอาร์เจนตินา ถึงวันที่ ๙ ตุลาคม ก่อนจะเดินทางไปอเมริกา ในวันที่ ๑๐ ตุลาคม

วันที่ ๑๑ ตุลาคม ให้สัมภาษณ์รายการ Today Show ช่อง NBC จากนั้น สัมภาษณ์รายการ Late night ช่องเดียวกัน

วันที่ ๑๕-๑๗ ตุลาคม เดินสายออกรายการ เช่น Ellen Show ทั้งหมดอยู่ที่สหรัฐอเมริกาถึงวันที่ ๑๙ ตุลาคม กลับถึงไทยวันที่ ๒๐ ตุลาคม และเดินทางถึงยังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ในเวลา ๑๖.๔๕ น.

https://www.thairath.co.th/content/1389544
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_1638277
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 114  เมื่อ 07 ต.ค. 18, 17:06

เมื่อวันเสาร์ที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๑ เวลา ๒๐.๐๐ น. ตามเวลาท้องถิ่นสาธารณรัฐอาร์เจนตินา (วันที่ ๗ ตุลาคม เวลา ๗.๐๐ น. ตามเวลาในประเทศไทย) ทีมหมูป่าอะคาเดมี เข้าร่วมพิธีเปิดมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเยาวชนฤดูร้อน ณ ลานอนุสาวรีย์ Obelisco โดยมีประชาชนเข้าร่วมพิธีเปิดหลายพันคน เนืองแน่นตลอดความยาวของถนนสาย 9 de Julio

โดย นายโทมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ได้กล่าวในพิธีเปิดมีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า

“...ความตั้งมั่นและความกล้าหาญของนักกีฬาผู้ยิ่งใหญ่ จะเป็นปัจจัยที่คอยช่วยเหลือสนับสนุนในทุกแง่มุมของชีวิต เราทุกคนคงจำได้ว่ามีกลุ่มเยาวชนไทยผู้กล้าหาญกลุ่มหนึ่งติดอยู่ในถ้ำนานถึง ๑๗ วัน นั่นก็คือ เหล่าสมาชิกทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของความตั้งมั่นและความกล้าหาญนี้ จึงเป็นเหตุผลที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากลได้เชิญทีมหมูป่าอะคาเดมี มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกับนักกีฬาอื่น ๆ ยินดีต้อนรับ...หมูป่า...”

https://mgronline.com/politics/detail/9610000100213

บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 115  เมื่อ 10 ต.ค. 18, 10:20

หมูป่าท่องโลก  ยิงฟันยิ้ม

บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 116  เมื่อ 10 ต.ค. 18, 10:29

ทีมกู้ภัยถ้ำหลวงฯ คว้ารางวัล 'เอเชีย เกม เชนเจอร์ อวอร์ดส' (Asia Game Changer Awards) ประจำปี ๒๐๑๘ จากสถาบันเอเชีย โซไซตี้ (Asia Society) ในฐานะผู้สร้างแรงบันดาลใจให้คนทั่วโลก

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการค้นหาทีมหมูป่าอะคาเดมี ร่วมพูดคุยและตอบคำถามสื่อมวลชนทั่วโลก ที่สถาบันเอเชีย โซไซตี้ ในนครนิวยอร์ก ซึ่งสื่อมวลชนทั่วโลกต่างให้ความสนใจเรื่องปฏิบัติการถ้ำหลวง ที่จุดประกายความหวังและปาฏิหาริย์ให้คนทั่วโลก

โดยนายณรงค์ศักดิ์ บอกถึงความสำคัญของรางวัลนี้ว่า เป็นรางวัลของทีมปฏิบัติการนับหมื่นชีวิตที่ไม่สามารถมาร่วมงานนี้ได้ และเป็นของคนไทยทุกคน

ด้านนายทอม นาร์โกสกี รองผู้อำนวยการอาวุโสของสถาบัน Asia Society บอกว่า รางวัลที่มอบให้กับทีมปฏิบัติการถ้ำหลวง สะท้อนถึงศักยภาพของคนไทยและความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเป้าหมายเดียวกัน ซึ่งถือเป็นการสร้างการเปลี่ยนแปลง หรือ game changer ของประเทศไทย ที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ สถาบันเอเชีย โซไซตี้ (Asia Society) จัดพิธีมอบรางวัล Asia Game Changer of the year ประจำปี ๒๐๑๘ ต่อเนื่องเป็นปีที่ ๕ แล้ว มุ่งคัดเลือกบุคคลหรือกลุ่มบุคคล หรือสถาบันในทวีปเอเชีย ที่ฝ่าฟันอุปสรรค มีความกล้าหาญทำงานที่สร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลก

ทีมค้นหากู้ภัยถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ที่สร้างปาฏิหารย์จากการระดมกำลังช่วยเหลือเยาวชนและโค้ชทีมฟุตบอลทั้ง ๑๓ คนที่ติดอยู่ในถ้ำ ที่จังหวัดเชียงราย ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการ ให้เป็น ๑ ใน ๙ คณะบุคคลที่ได้รับรางวัลในปีนี้

นอกจากนี้ ยังมีบุคคลและกลุ่มคนสำคัญระดับโลก ที่ได้รับรางวัลเดียวกันในปีนี้ อาทิ นางอินทรา นูยี อดีตซีอีโอของ PepsiCo, ทีมนักเรียนหญิงชาวอัฟกันที่เข้าแข่งขันหุ่นยนต์ระดับโลก, กลุ่ม Syrian White Helmet และกลุ่มนักเทคนิคและเจ้าหน้าที่ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่จังหวัดฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น

โดยพิธีมอบรางวัลมีขึ้นในวันอังคารที่ ๙ ตุลาคม ตามเวลาที่นครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา

https://www.voathai.com/a/asia-game-changer-awards-new-york/4607074.html


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 117  เมื่อ 10 ต.ค. 18, 14:10

The incredible success of the Thai cave rescue mission is far more than just a feel-good story in a world that could use more of them. It’s a story of how a courageous group of Thai Navy SEALs risked their lives by attempting the rescue mission without specialist knowledge or equipment — and a governor who remained calm, reassuring, and informative throughout. It’s also an example of how a team assembled from all over the world could work together under enormous pressure to save 13 lives — through intelligence, persistence, and sheer bravery.

Now fully recovered, the boys were ordained monks along with their coach in a ceremony that also honored a Navy SEAL member who died during the operation. His example — and those of his peers — are poised to have a lasting influence on the lives of the young survivors.

“I want to be a Navy SEAL,” said one boy. “Because I want to help others.”


https://asiasociety.org/asia-game-changer-awards/rescue-team-tham-luang-caves


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 118  เมื่อ 11 ต.ค. 18, 11:00

จาก FB คุณแหวนพลอย

https://www.facebook.com/663120329/posts/10156584219430330/

The real Game-Changer

2018 Asia Game Changers กับผู้ว่าณรงค์ศักดิ์, โค้ชเอก และอดุลย์ สัมภาษณ์พูดคุยบรรยากาศสบาย ๆ อเมริกันสไตล์ มีไรก็ว่ามาตรง ๆ พิธีกรก็ถามตรง ๆ ตอนหลังที่เปิดให้ถามคำถามก็ถามกันตรง ๆ real world ดี ผู้ว่าณรงค์ศักดิ์พูดดีมากกกกก ท่านพิสูจน์ความเป็นผู้นำออกมาผ่านทางการพูดคุยครั้งนี้ได้อย่างบริ๊งๆๆๆ ๕๕๕ คือแบบเหมือนมีรังสีความเก่งออกมารอบตัว ไม่รู้จะอธิบายยังไง ก่อนหน้าที่จะดูไลฟ์เราคุยกับเพื่อนอเมริกันที่อยู่ในกรุ๊ปติดตามข่าวนี้ (กรุ๊ปของฝรั่ง) เค้าก็คุยกันแบบประมาณว่ารู้นะว่านี้คือ leader แต่ก็ไม่ได้อะไรมาก แต่พอดูจบ คือฝรั่งคอมเม้นกันแบบ “Governor. I got a little chocked up.” แล้วก็ชมอีกมากมายแบบว่า เข้าใจแล้วว่าคนนี้สุดจริงอะไรจริง เห็นแล้วปลื้มแทนท่านและครอบครัว

แอบฮาตอนที่คุณทอมพิธีกร (จริง ๆ แล้วเป็น vice president ขององค์กร) ถามเรื่องอีลอน มัสก์ขึ้นมาดื้อ ๆ ๕๕๕๕ คือจะบอกว่า อเมริกันมันแซะกันเองเก่งยิ่งกว่าชาวท่าแซะบ้านเราเยอะะะะะ คือถามขึ้นมานี่ ทอมกับผู้ว่าหันมายิ้มให้กันเลย คนดูก็หัวเราะกันอิสระเสรี ๕๕๕ ซึ่งแน่นอนว่าผู้ว่าก็ตอบเหมือนทุกรอบที่พูดมาว่า ขอบคุณอีลอนมัสค์ แต่เค้าบังเอิญโชคไม่ดีที่พาน้อง mini-sub มาเอาวันหลัง ๆ ที่เราตัดสินใจว่าจะใช้แผนเดิมคือดำน้ำออกกันไปแล้ว แต่ถึงยังไง mini-sub ก็จะนำไปเก็บไว้ที่หน่วยงานทางวิทยาศาสตร์ของรัฐ เพื่อใช้ศึกษาหรือเป็นประโยชน์ในอนาคต พูดจบก็ต่างคนต่างยิ้ม ๆ

พิธีกรถามเรื่องตอนเจอตัวเด็ก ผู้ว่ารู้จากไหน อย่างไร เมื่อไหร่ อันนี้ฟังแล้วลุ้นเลยเพราะบางอย่างไม่เคยรู้มาก่อน ผู้ว่าเล่าว่าคืนนั้นเป็นคืนที่ ๑๐ กำลังประชุมกันอยู่ ก็มีซีลหนึ่งนายวิ่งมาลากตัวออกจากห้องประชุม เอาออกไปไกลระยะนึงเลย แล้วบอกว่าเจอเด็กแล้ว ยังมีชีวิตและสุขภาพสมบูรณ์ ผู้ว่าทีแรกไม่เชื่อ บอกว่าเช็ครึยังเพราะต้องรอนักดำน้ำอังกฤษออกมาก่อนนะถึงจะชัวร์ ซีลบอกว่าออกมาแล้วคนนึง แล้วมาบอกคนข้างนอกแล้ว จากนั้นก็เลยเรียกประชุมว่าจะแถลงเลยหรือรอเช็คข่าว ๑๐๐ % ก่อนจากนักดำน้ำ แต่ก็ได้ข้อสรุปว่าต้องแถลงเลย เพราะถ้ารอช้าข่าวลือจะแพร่ออกไปก่อน แล้วประชาชนจะไม่เชื่อข่าวทางการอีก แล้วจากนั้นสิ่งที่ผู้ว่าทำคือ ไปหาพ่อแม่เด็กก่อนเลย เพื่อบอกว่า ‘เราเจอลูกคุณแล้ว มีชีวิตอยู่ทุกคน และจะทำเต็มที่เพื่อพาออกมาโดยมีชีวิตอยู่ให้ได้’ พิธีกรฟังตรงนี้แล้วอุทาน oh my goodness! เลย

ช่วงเวลาที่รอคอยมาถึงเมื่อทอมถามว่าได้บทเรียนอะไรจากเหตุการณ์ครั้งนี้ นั่นคือคำตอบที่ผู้ว่าเตรียมมาและพูดให้ฟังภาคภาษาไทยไปก่อนแล้ว ท่านก็ตอบตามนั้นว่า “คนมากกว่าหมื่นคน มาช่วยโดยไม่รู้จักเด็ก ๆ มาก่อน และผมคิดว่าถ้าเราเอาบทเรียนตรงนี้ ไปใช้ในภายภาคหน้า อยู่เพื่อคนอื่น ทำประโยชน์ให้ผู้อี่น โลกก็จะน่าอยู่”

มีหนุ่มคนนึงถามขึ้นมาว่า เค้าเขียนหนังสือเด็กเกี่ยวกับเรื่องถ้ำหลวงนี้อยู่ เค้ามีคำถามที่ยังไม่เคยมีการอธิบายที่ไหนมาก่อนเลย ขอถามโค้ชเอกกับอดุลย์ ว่าตอนอยู่ข้างในถ้ำ นอกจากเนินทรายที่นั่งอยู่กันและบริเวณน้ำที่ลงมาเจอนักดำน้ำนั้น รายละเอียดอื่น ๆ เป็นยังไง ทำอะไรบ้าง ขุดหิน ดำน้ำ ทำด้วยกันหรือต่างคนต่างทำ ทำสมาธิคือแบบไหน ช่วยอธิบายแบบ physically หน่อย คือแบบ physically อ่ะ ไม่ใช่แค่บอกว่าทำ แต่อธิบายว่าทำอย่างไร อะไรประมาณนี้ อันนี้ผู้ว่าเลยตอบให้แทนว่า “จะมีการรวบรวมข้อมูลโดยทำ Action Review กันอีกที” เห้ยอันนี้ข้อมูลใหม่เด้ออ ทอมยังแปลกใจนิด ๆ ด้วยเลย จะมีการเก็บข้อมูลโดย Action Review (คล้ายๆแบบไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพงี้ปะ) แล้วถึงจะมีการเผยแพร่ข้อมูลรายละเอียดหลังจากนั้น (อันนี้เลยสงสัยเลยว่า แล้วพวกหนังที่เปิดกองไปแล้วจะทำยังไง? เกิดข้อมูลไม่ตรงกันกับข้อมูลที่ออกมาทีหลังก็เซ็งอี๊กก)

คำถามสุดท้ายดี มีผู้หญิงคนไทยถามว่า ผู้ว่าคิดยังไงกับรางวัลนี้ และคิดว่ามันสำคัญต่อคนไทยยังไง ผู้ว่าตอบว่า “รางวัลนี้เป็นของคนหมื่นกว่าคนที่ทำงานร่วมกันมา จริง ๆ แล้วทั้งหมื่นกว่าคนนั้นควรจะมาอยู่ที่นี่ในห้องนี้ (คนฮากันเล็กน้อยเพราะทอมตบมุกให้ประมาณว่า เดี๋ยว ๆๆ ห้องมันไม่พอเด้ออ) และจะเป็นเครื่องเตือนใจว่า คนไทยประเทศไทยเป็นประเทศเล็ก ๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่เราก็มีศักยภาพในการทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้สำเร็จได้ด้วยความสามัคคี ผู้ว่าบอกว่า คนไทยถ้ามีความสามัคคีและมีเป้าหมายเดียวกัน เราทำได้ทุกอย่าง ในมุมมองของท่านนี่คือความหมายและคุณค่าของรางวัลนี้สำหรับชาวไทย”

***ไม่อนุญาตให้ก๊อปข้อความไปโพสใหม่โดยไม่ให้เครดิต***


คลิปเต็มการสัมภาษณ์ นาทีที่ ๑.๒๐.๔๐ - ๑.๕๘.๐๓

บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 119  เมื่อ 11 ต.ค. 18, 11:24

 ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 6 7 [8] 9
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.07 วินาที กับ 19 คำสั่ง