เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
อ่าน: 23085 ประวัตินักบุญมงฟอร์ต
เปาเล่งถูกงอั้น
บุคคลทั่วไป
 เมื่อ 21 ก.ย. 00, 12:00

(ขออนุญาติเรียน่านนักบุญหลุยส์ มารีว่า
มงฟอร์ตเพื่อป้องกันการสับสนกับนักบุญหลุยส์กษัตริย์แห่งฝรั่งเศส)(บทความนี้จากคุณหฤทัยชนนีในอิสระ.คอม)
/>
ประวัตินักบุญ

นักบุญหลุยส์ มารี เดอ มงฟอร์ต


/>
องค์อุปถัมภ์ของคริสตชนที่สวดลูกประคำอย่างศรัทธาถวายแด่พระมารดามารีอา


เกิดวันที่ 31 มกราคม 1673

 บิดามารดาของหลุยส์เป็นคนจน
ผู้ซึ่งต้องทำงานอย่างหนักเพื่อเลี้ยงดูครอบครัวที่มีลูกทั้งหมดแปดคน
เขาเป็นลูกชายคนโต ตามเหตุการณ์ เขาควรเรียนค้าขายเพื่อจะได้ช่วยส่งเสียน้องๆ
เข้าโรงเรียน แม่ได้รับการดลใจจากเบื้องบนว่า
เด็กคนนี้ต่อไปภายหน้าจะได้เป็นพระสงฆ์ โดยคำอ้อนวอนของครู
แม่ได้อนุญาตให้เขาเล่าเรียนเป็นนักบวช มีคนใจบุญให้ทุนการศึกษาแก่เขา
สมัยที่ยังเป็นเด็ก เขาได้ตั้งกลุ่มลูกประคำเทศน์ให้คนฟัง เล่าประวัตินักบุญ
และเป็นหัวหน้านำเด็กๆ ในหมู่บ้านสวดลูกประคำพร้อมกัน


/>
ในวัยเด็ก หลุยส์มีความศรัทธาต่อการเฝ้าศีล
และชอบสวดภาวนาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ต่อหน้าศีลมหาสนิท เมื่ออายุครบ 12
ปี เขาได้เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเยซูอิทที่เมืองเรนนีส
ก่อนเข้าเรียนหรือหลังเลิกเรียนแล้ว เขาต้องแวะเข้าวัดสวดภาวนาเสมอไม่เคยขาด
เขาได้เข้าร่วมกับกลุ่มชายหนุ่ม ที่ในวันหยุดเรียนไปเยี่ยมคนจน
หรือคนที่เป็นโรคเรื้อรังในโรงพยาบาล
และอ่านหนังสือชวนศรัทธาให้เขาทั้งหลายฟังในเวลารับประทานอาหาร


/>
หลุยส์ อายุ 19 ปี ได้เดินทางด้วยเท้าประมาณ 200 ไมล์ไปกรุงปารีส
เพื่อศึกษาวิชาเทวศาสตร์ ระหว่างทาง เขาตากแดดตากฝน นอนบนฟางหญ้าและใต้สะพาน
ช่วยเหลือคนจนด้วยเงินทุกบาททุกสตางค์ที่มีอยู่
แลกเปลี่ยนเสื้อผ้ากับเขาทั้งหลาย
และได้ปฏิญาณตนที่จะเจริญชีวิตด้วยเงินบริจาคเท่านั้น เมื่อถึงกรุงปารีส
เขาได้เข้าสามเณราลัยอนาถาที่ซึ่งนักเรียนขาดแคลนอาหาร เพราะฉะนั้น
เขาจึงได้ป่วยหนัก ใกล้เวลารับศีลอนุกรม
ผู้มีพระคุณได้งดส่งเงินทุนการศึกษาสำหรับเขา ดูเหมือน
เขาจะต้องถูกส่งกลับบ้านแน่ แต่เขายังโชคดี
พระสงฆ์องค์หนึ่งผู้ซึ่งมีใจเมตตากรุณาได้รับอุปการะเขาไว้


/>
ในปี 1700 หลุยส์ได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์เมื่อมีอายุ 27 ปี
หลังจากเขาได้ถวายมิสซาแรกที่วัดแม่พระแห่งนักบุญซัลปิส
เขาได้รับมอบหมายเป็นพระสงฆ์ประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่ปอยติเออร์
โรงพยาบาลแห่งนี้บริหารไม่ถูกหลัก และพนักงานทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นประจำ
เขาพยาบาลคนป่วยอย่างดีจนเป็นที่เคารพรักของเขาทั้งหลาย
เมื่อเขาปรับปรุงการบริหารบุคาลากรใหม่ ผู้จัดการหลายคนขุ่นเคืองใจมาก
ในที่สุดเขาจำใจต้องลาออกจากโรงพยาบาล



ในปี 1795
เมื่อหลุยส์มีอายุ 32 ปี เขาได้รับพระกระแสเรียกให้เป็นนักเทศน์ เป็นเวลา 17
ปีเขาได้เทศนาพระคัมภีร์ตามเมืองและหมู่บ้านต่างๆ นับไม่ถ้วน
เขาเป็นนักพูดที่มีพรสวรรค์ เขาใช้ภาษาธรรมดาๆ
แต่เต็มไปด้วยความร้อนรนและความรักต่อพระเป็นเจ้า
ตลอดชีวิตเขาดำรงอยู่ในฤทธิ์กุศล ซึ่งคนในสมัยนั้นไม่อาจเข้าใจได้
การสวดภาวนาอย่างสม่ำเสมอ ความรักต่อคนจน
การถือความยากจนชนิดที่ไม่เคยมีใครได้ยินมาก่อน
ความยินดีในความสุภาพถ่อมตนและการถูกเบียดเบียน


/>
ตัวอย่างสองอันนี้แสดงถึงคุณงามความดีของหลุยส์
ครั้งหนึ่งเขาได้เทศนาให้กองทหารฟังที่เมืองลาโรเชล
บทเทศน์ของเขาได้จับจิตจับใจทหารยิ่งนัก น้ำตาได้ไหลนองแก้ม
เขาทั้งหลายได้ร้องไห้ขออภัยบาป ก่อนจบพิธีได้มีการแห่
นายทหารคนหนึ่งเดินเท้าเปล่า นำหน้าขบวนถือธง และกองทหารเดินตาม
เท้าเปล่าเช่นเดียวกัน มือข้างหนึ่งถือไม้กางเขน อีกข้างหนึ่งถือสายประคำ
ขับร้องเพลงสรรเสริญพระเป็นเจ้า
เรื่องกัลวาริโอที่เมืองปอนชาโต้แสดงถึงความดีเหนือธรรมชาติของท่าน
เมื่อท่านปรารถนาจะสร้างการเดินรูปสิบสี่ภาคบนเนินเขาใกล้ๆ บริเวณนั้น
ความคิดของท่านได้รับการเห็นชอบจากคนแถวนั้นอย่างท่วมท้น
ชาวนาประมาณสองร้อยถึงสี่ร้อยคนได้มาทำงานทุกวัน
โดยไม่มีค่าแรงเป็นเวลาสิบห้าเดือน
เมื่องานเสร็จเรียบร้อยพระราชาได้ออกคำสั่งให้รื้อถอนสิ่งก่อสร้างทั้งหมด
และปรับพื้นที่ผืนนั้นให้เหมือนเดิมทุกประการ
พวกนับถือนิกายเจนเซ่นได้รับอนุมัติจากข้าหลวงแห่งเมืองบริแทนนิ
ให้สร้างป้อมปราการบนเนินเขาลูกนั้นสำหรับต่อสู้กับพวกกบฏ
ภายใต้การควบคุมของกองทหารเป็นเวลาหลายเดือน
ชาวนาห้าร้อยคนถูกบังคับให้ทำลายสิ่งที่เขาทั้งหลายได้สร้างไว้เป็นอนุสรณ์
คุณพ่อเดอ มงฟอร์ตไม่สะทกสะท้านเมื่อท่านได้ทราบข่าวการรื้อถอน
ท่านเพียงแต่อุทานว่า "จงสรรเสริญพระเป็นเจ้า"


/>
หลุยส์อยากเป็นนักแพร่ธรรมในประเทศแคนนาดา
แต่เขาได้รับคำแนะนำให้อยู่ในประเทศฝรั่งเศส
เขาได้เดินทางทั่วภาคตะวันตกของประเทศ จากสังฆมลทลหนึ่งไปสู่อีกสังฆมลทลหนึ่ง
จากวัดหนึ่งไปสู่อีกวัดหนึ่ง สั่งสอนอบรมคริสตชน เทศนา ช่วยเหลือคนจน ฟังแก้บาป
จัดเข้าเงียบ เปิดโรงเรียน และบูรณะพระวิหาร
งานของเขาได้บังเกิดผลอย่างมหัศจรรย์ เขาได้บอกว่า
คนบาปทุกคนที่เขาสัมผัสด้วยสายประคำได้เป็นทุกข์ถึงบาป กลับใจ
และเริ่มต้นชีวิตใหม่ในพระหรรษทานของพระเป็นเจ้า


/>
เนื่องจากหลุยส์ได้รับการต่อต้านจากเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจทางศาสนาอย่างแข็งขัน
โดยเฉพาะพระสังฆราชประจำเมืองปอยติเออร์ ได้สั่งห้ามเขาเทศนาในสังฆมลทลของท่าน
เขาจึงตัดสินใจเดินทางไปกรุงโรมเพื่อขอเข้าเฝ้าพระสันตะปาปา
เขาจะได้ถามพระองค์ว่า
งานที่เขากำลังทำอยู่เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าหรือเปล่า
และเขาควรจะทำงานนั้นต่อไปหรือไม่ เขาได้เดินด้วยเท้า ระยะทางประมาณ 1000 ไมล์
ถึงกรุงโรม และยื่นเรื่องของเขาต่อพระสันตะปาปาเคลมเม้นท์ที่ 11
ให้ทรงตัดสินพระทัย พระองค์ได้บอกเขาให้ทำงานแพร่ธรรมต่อไป
และแต่งตั้งเขาเป็นพระสงฆ์แพร่ธรรมโดยอนุมัติจากสำนักวาติกัน
แต่พระองค์ได้ทรงแนะนำว่า เขาควรนบนอบเสมอๆ เจ้าหน้าที่ประจำแต่ละสังฆมลทล




หลุยส์ได้เริ่มเทศน์ที่เมืองบริแทนนิ
และประสบความสำเร็จในการปลูกฝัง ความศรัทธาต่อพระนางพรหมจารีมารีอา ในคริสตชน
โดยการสวดลูกประคำและรำพึงถึงภาคศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ทุกวัน
ด้วยวิธีนี้เขาทั้งหลายยึดมั่นในความรักต่อพระเยซูเจ้าและแม่พระ และเกลียดปิศาจ
อภิมหาศัตรูของพระนาง


/>
พยานหลายคนได้ให้การต่อเจ้าหน้าที่ดำเนินการแต่งตั้งหลุยส์เป็นนักบุญว่า
เมื่อเขายังมีชีวิตอยู่ เขาทั้งหลายได้ยินบ่อยครั้ง การต่อสู้ของเขากับปิศาจ
เสียงชกต่อยกัน และเสียงร่างกายของเขาถูกหวดด้วยแส้


/>
หลุยส์ได้ก่อตั้งสองคณะนักบวช: คณะธิดาแห่งพระปรีชาญาณ ซึ่งเริ่มงานในปี
1703
พยาบาลคนจนที่เจ็บป่วยในโรงพยาบาลแห่งเมืองปอยติเออร์ที่ซึ่งท่านได้เป็นพระสงฆ์ชั่วคราว
และสอนหนังสือให้กับเด็กหญิงยากจนจำนวนหนึ่งโดยไม่คิดค่าสอน
คณะนักแพร่ธรรมแห่งพระนางมารีอา (พระสงฆ์และภารดามงฟอร์ต) เริ่มงานในปี 1715
และภารดาคณะเซนต์คาเบรียลผู้ซึ่งสอนหนังสือในโรงเรียนมีหลุยส์เป็นคุณพ่อจิตาธิการ




ก่อนหลุยส์สิ้นใจที่เมืองเซ็นต์-ลอเรนท์-เซอร์-เซเวียร์
ประเทศฝรั่งเศส เขาได้จูบไม้กางเขนและรูปปั้นพระมารดามารีอา และอุทานออกมา
เหมือนพูดกับปิศาจ ว่า: "เจ้าได้โจมตีข้าไม่สำเร็จ
ข้าอยู่ระหว่างพระเยซูเจ้าและพระนางมารีอา ข้าได้ทำงานของข้าสำเร็จแล้ว
ทุกสิ่งได้จบลงแล้ว ข้าจะไม่ทำบาปอีกต่อไป"
แล้วเขาก็หมดลมหายใจอย่างสงบสุขเมื่อวันที่ 28 เมษายน 1716


/>
หลุยส์ได้เขียนหนังสือ: "ความศรัทธาอย่างแท้จริงต่อพระนางพรหมจารี (True
Devotion to Mary)," ซึ่งเป็นที่นิยมอ่านกันมาก
และเขาได้ทำนายว่าลูกสมุนของปิศาจจะซ่อนหนังสือเล่มนี้ เป็นความจริงตามคำทำนาย
หนังสือได้ถูกซ่อนไว้ เกือบ 200 ปี ก่อนที่คริสตชนทั่วโลกจะมีโอกาสได้อ่าน
นอกจากนี้ เขายังได้แต่งหนังสืออีกหลายเล่ม เช่น
"ความลึกลับมหัศจรรย์แห่งการสวดลูกประคำ (The Secret of the Rosary)" และ
"ความลับของพระนางมารีอา (The Secret of Mary)"
ในระหว่างการดำเนินงานแต่งตั้งหลุยส์เป็นนักบุญ
สำนักวาติกันได้ตรวจสอบหนังสือทั้งหมดที่เขาได้ประพันธ์ และประกาศว่า
ไม่มีอะไรในหนังสือเหล่านี้ที่เป็นอุปสรรคขัดขวางการเป็นนักบุญของเขา
พระสันตะปาปาปิโอที่ 12 ได้แต่งตั้งเขาเป็นนักบุญในปี 1947


/>
นักบุญหลุยส์ มารีย์ เดอะ มงฟอร์ตได้ยืนยันว่า การสวดลูกประคำอย่างศรัทธา
พร้อมกับการรำพึงถึงภาคศักดิ์สิทธิ์ต่างๆก่อให้เกิดสิ่งมหัศจรรย์เหล่านี้
/>


1. เราจะได้รับความรู้อย่างครบครันเกี่ยวกับพระเยซูคริสตเจ้า


2. วิญญาณของเราจะได้รับการซักฟอกให้สะอาดบริสุทธิ์ ปราศจากมลทิน


3. เราจะได้รับชัยชนะต่อศัตรูของเรา ฺ

4.
เราจะฝึกฝนฤทธิ์กุศลได้อย่างง่ายดาย ฺ

5.
เราจะรักพระเยซูเจ้าด้วยความเร่าร้อน ฺ

6.
เราจะอุดมด้วยพระหรรษทานและบุญกุศล ฺ

7.
เราจะชดเชยบาปที่เราได้ทำผิดต่อพระเป็นเจ้าและเพื่อนมนุษย์
และได้รับพระหรรษทานทุกชนิดจากพระเป็นเจ้า ผู้ทรงสรรพานุภาพ


/>
นักบุญหลุยส์ยังได้พูดว่า "ถ้าท่านสวดลูกประคำอย่างซื่อสัตย์
จนกระทั่งวันสุดท้าย ข้าพเจ้าขอสัญญาว่า ไม่ว่าท่านได้ทำบาปหนักแค่ไหนก็ตาม
ท่านจะได้รับมงกุฎแห่งความรุ่งเรืองชั่วนิรันดร
ถึงแม้ท่านอยู่บนขอบเหวแห่งความพินาศตลอดกาล ถึงแม้ขาข้างหนึ่งของท่านอยู่ในนรก
ถึงแม้ท่านได้ขายวิญญาณให้ปิศาจเหมือนพวกหมอผีผู้มีฤทธิ์เดชแห่งความมืด
และถึงแม้ท่านไม่มีความเชื่อในพระศาสนา และดื้อดึงเหมือนปิศาจ
ในไม่ช้าท่านจะกลับใจ เปลี่ยนแปลงการดำรงชีวิตของท่านใหม่
และกอบกู้วิญญาณของท่าน ถ้าท่านสวดลูกประคำอย่างศรัทธาทุกๆ วัน
จนกระทั่งวันสุดท้าย ด้วยจุดมุ่งหมายที่ต้องการแสวงหาความจริง
การเป็นทุกข์ถึงบาปและการอภัยบาปของท่าน"


/>
ข้อความต่อไปนี้ของนักบุญหลุยส์ มารีย์ เดอะมงฟอร์ต คัดมาจากหนังสือ:
"ความลับของพระนางมารีอา"


/>
"พระนางมารีอาเป็นเสียงสะท้อนของเราที่สรรเสริญองค์พระเจ้า เมื่อเราสวดว่า
"วันทามารีอา" พระนางตอบว่า "ข้าแต่พระเป็นเจ้า" โดยคำทักทายของนักบุญเอลิซาเบธ
เราเรียกพระนางว่า "ทรงบุญนักหนา"
พระนางก็ถวายพระสิริโรจนาแด่องค์พระเจ้าสูงสุด"



"ในโลกนี้
คริสตชน ที่มีความสุขหนึ่งพันเท่า คือ
ผู้ที่ได้รับการเปิดเผยจากพระนางมารีอาถึงความลับสุดยอดของพระนาง"
/>


"บรรดาสิ่งทั้งมวลที่พระเป็นเจ้าได้ทรงสร้าง
รวมทั้งนักบุญและเทวดาเชอรูบิมและเซราฟิมในเมืองสวรรค์
ไม่มีมนุษย์คนไหนและไม่มีมนุษย์อีกแล้ว
ที่องค์พระเจ้าจะได้รับการถวายพระเกียรติสูงสุดอย่างในพระนางพรหมจารีมารีอา
พระนางเป็นวิมานสวรรค์ของพระเป็นเจ้า และโลกที่ไม่ปริปากพูดของพระองค์"
/>


"ปิศาจกลัวพระนางพรหมจารีมารีอา ยิ่งกว่า
นักบุญทั้งหลายและเทวดาทั้งหมดในสวรรค์รวมกัน หมายความว่า
ปิศาจกลัวแม่พระมากกว่าองค์พระเจ้าเสียอีก"



ให้เราภาวนา:
ข้าแต่พระเป็นเจ้า โดยคำวิงวอนของนักบุญหลุยส์ มารีย์ เดอะ มงฟอร์ต
โปรดให้คริสตชนมีความศรัทธาอย่างแท้จริงต่อพระนางพรหมจารีมารีอา
พระมารดาของพระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรของพระองค์
เขาทั้งหลายจะได้มีความเพียรพยายามอย่างศักดิ์สิทธิ์ในการสวดลูกประคำทุกวัน
จนกว่าชีวิตจะหาไม่ พร้อมกับการรำพึงถึงภาคยินดี ภาคมหาทรมาน และภาครุ่งเรือง
อาแมน

 

 

 
src='http://vcharkarn.com/reurnthai/uploaded_pics/LMMonfort.jpg'>
บันทึกการเข้า
เปาเล่งถูกงอั้น
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 21 ก.ย. 00, 00:00

เมืองแซงค์ลอรังค์ซูแซฟ ที่ที่ท่านเสียชีวิต
http://vcharkarn.com/reurnthai/uploaded_pics/stlauren.jpg'>
บันทึกการเข้า
BCC
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 21 ก.ย. 00, 00:00

Good to know!  Thanks!
บันทึกการเข้า
น้องลูกหมู
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 22 ก.ย. 00, 00:00

ถ้าเด็กมงฟอร์ตมาอ่านเจอคงจะปลื้มใจแล้วก็ซาบซึ้งมากเลยนะครับเนี้ย

``oo``
 
บันทึกการเข้า
เปาเล่งถูกงอั้น
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 22 ก.ย. 00, 00:00

นักบุญหลุยส์มารี เป็นที่เคราพของนักเรียนใน

โรงเรียนต่างๆเช่น อัสสัมชัญกรุงเทพ ธนบุรี ศรีราชา

นครราชศรีมา ลำปาง ระยอง อุบลราชธานี

พานิชการ สำโรง

 ม.อัสสัมชัญ เซนต์คาเบียล มงฟอร์ตเชียงใหม่

เซนต์หลุยส์ ฉะเชิงเทรา

และสถาบันในเครือคณะภราดาเซนต์คาเบียล
http://vcharkarn.com/reurnthai/uploaded_pics/reurnthai70x4.jpg'>
บันทึกการเข้า
Le Roi du Soleil
อสุรผัด
*
ตอบ: 18

กำลังศึกษาระดับปริญญาเอกแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอเรเนียน ประเทศฝรั่งเศส


ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 08 ธ.ค. 05, 21:27

 นักบุญหลุยส์ มารี กรียอง เดอ มงฟอร์ต คือชื่อเต็มของท่านครับ
ผมก็เป็น OMAC (ศิษย์เก่าอัสสัมชัญ บางรัก) นะครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.049 วินาที กับ 19 คำสั่ง