ขยับที่เผื่อท่านอื่นๆด้วยนะคะคุณนริศ

ก่อนอื่น ขอเล่าเรื่องย่อของเรือนมยุราเสียหน่อย สำหรับท่านที่ยังไม่เคยอ่านเรื่องนี้ จะได้ปะติดปะต่อเนื้อหาในกระทู้ได้
"เรือนมยุรา" เป็นจินตนิยาย หรือเรียกกันว่านิยายแฟนตาซี ตามแนวของ "แก้วเก้า" เนื้อหาคาบเกี่ยวกับสองยุคคืออยุธยาเมื่อพ.ศ. 2310 ปี่ที่เสียกรุงครั้งที่ 2 กับยุคปัจจุบัน สองร้อยกว่าปีหลังจากนั้น ตอนแก้วเก้าเขียนเรื่องนี้ลงในพลอยแกมเพชร จำได้ว่าประมาณพ.ศ. 2535
ขอเรียงลำดับเรื่องว่า ในสมัยอยุธยามีคนตระกูลพราหมณ์เดินทางมาจากอินเดียตอนเหนือ เข้ามาสวามิภักดิ์กับพระเจ้าปราสาททอง แล้วก็รับราชการเรื่อยมา กลายเป็นขุนนางไทยเชื้อสายแขกขาว จนถึงยุคพระเจ้าเอกทัศ ขุนนางในตระกูลนี้มีชื่อว่าพระยาเทพสงคราม เป็นขุนนางคนสนิทเป็นที่ไว้พระทัยของพระเจ้าอุทุมพร
พระยาเทพสงครามมีน้องสาวชื่อเจ้าจอมแส หรือหม่อมแส เป็นหม่อมของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ (เจ้าฟ้ากุ้ง) ตอนเปิดฉากเรื่องนี้ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์สิ้นพระชนม์ไปหลายปีแล้ว นอกจากน้องสาว พระยาเทพสงครามมีลูกชาย 4 คนและลูกสาวคนเดียวเป็นลูกคนสุดท้องชื่อนกยูง อายุ 16 ปี เป็นสาวสวยหน้าตาเหมือนแขกขาวตามเชื่อสายพ่อ
ความลับของตระกูลนี้คือ นกยูงสำริด ซึ่งแพนหางของมันหมุนได้ด้วยอาคมขลังที่ตกทอดมาตั้งแต่ต้นตระกูลพราหมณ์ สามารถบังคับเวลาในสถานที่ที่นกยูงตั้งอยู่ ให้เวลาเดินช้ากว่าภายนอก 100 เท่า
ในพ.ศ. 2310 พระยาเทพสงครามพาลูกชายออกไปสู้ศึกพม่า ด้วยความเป็นห่วงลูกสาวจึงปิดเรือน ให้นกยูงอยู่กับพี่เลี้ยงและบ่าวไพร่ผู้หญิง กับเด็กรับใช้ตัวจิ๋วไว้จุกชื่อเจ้าสัมฉุน ใช้อาคมทำให้แพนหางนกยูงหมุนช้ากว่าธรรมดา 100 เท่า เวลาในเรือนผ่านไป 1 วันภายนอกจะเท่ากับ 100 วัน เพราะพระยาเทพสงครามไม่รู้ว่าศึกจะยืดเยื้อเท่าใด ก็ตั้งใจว่าเสร็จศึกแล้วจะมาเปิดเรือน กลับเข้าบ้าน
ก่อนปิดเรือน นกยูงไปหาเจ้าจอมแสผู้เป็นอาในวัง ขากลับ พบขุนนางหนุ่มชื่อจมื่ยไวยวงศา หรือพระนายไวยที่ท่าน้ำ จมื่นไวยวงศาหลงรักนกยูงจึงส่งเพลงยาวมาติดต่อจนลอบมาพบนกยูงได้ในเรือน นกยูงนัดให้จมื่นไวยมาหาอีกครั้งก่อนเรือนปิด เพื่อจะได้อยู่ด้วยกัน แต่จมื่นไวยมาถึงช้าเกินไป เรือนถูกปิดผนึกและหายไปในมิติเวลาต่อหน้าต่อมา
แม่นกยูง ยี่ภู่พี่เลี้ยงสาวของนกยูง เจ้าส้มฉุนกับบ่าวหญิงอีกหลายคนก็เลยติดอยู่ในเรือน พ่อกับพี่ชายไปทำศึกไม่ได้กลับมาอีกเลย จนเวลาผ่านไป 2 ปี เสบียงอาหารหมด นกยูงต้องเปิดเรือนออกมาซื้อเสบียง จึงพบว่าเวลาผ่านไปแล้ว 200 ปี
หญิงสาวสมัยปลายอยุธยาก็เลยต้องออกมาผจญโลกในยุคปัจจุบัน พร้อมด้วยองครักษ์หัวจุกตัวน้อย