เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 71 72 [73] 74 75 ... 77
  พิมพ์  
อ่าน: 84295 ฉากประทับใจในหนังเก่า (3)
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 1080  เมื่อ 18 เม.ย. 22, 09:06

J. Allen Hynek นัก UFO ชั้นนำจัดระดับการพบเห็น UFO ดังนี้

Nocturnal Lights
•   Lights in the night sky

Daylight Discs
•   UFOs seen in the daytime, generally having discoidal or oval shapes

Radar-Visual
•   UFO reports that have radar confirmation—these supposedly try to offer harder evidence that the objects are real, although radar propagation can be occasionally discredited due to atmospheric propagation anomalies

Close Encounters of the First Kind
•   Visual sightings of an unidentified flying object, seemingly less than 500 feet (150 m) away, that show an appreciable angular extension and considerable detail

Close Encounters of the Second Kind
•   A UFO event in which a physical effect is alleged; this can be interference in the functioning of a vehicle or electronic device, animals reacting, a physiological effect such as paralysis or heat and discomfort in the witness, or some physical trace like impressions in the ground, scorched or otherwise affected vegetation, or a chemical trace

Close Encounters of the Third Kind
•   UFO encounters in which an animated entity is present—these include humanoids, robots, and humans who seem to be occupants or pilots of a UFO


หนังที่ผมดู (ครั้งแรกทาง vdo) เรื่องนี้มีชื่อว่า Close Encounters of the Third Kind (1977) เป็นงานเขียนเรื่องและกำกับโดยผู้กำกับคลื่นลูกใหม่ไฟแรง (ในตอนนั้น) ชื่อ Steven Spielberg  โดยได้แรงบันดาลใจมาตั้งแต่ครั้งเด็ก ๆ เมื่อคืนหนึ่งผู้ปกครองของเธอก็ต้อนบรรดาลูก ๆ ขึ้นรถแล้วขับออกไปในทุ่งกว้าง  บริเวณนั้นมีคนหนาแน่น  ทุกคนมารวมตัวกันที่นั่นเพื่อดู ปรากฏการณ์ฝนดาวตก

เนื้อเรื่องในเรื่องนี้เป็นการติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวโดยใช้แสงและเสียงเป็นการสื่อสารซึ่งกันและกัน

หนังยาวเพราะค่อย ๆ ปูพื้นไปเรื่อย ๆ แต่สนุกและตื่นเต้นมากเมื่อถึงจุด Climax  ฉากอลังการแม้จะสร้างในปี 1977 โน่น  งานด้านเทคนิคพิเศษทุกแขนงได้ชิง Oscar

เริ่มต้นเรื่อง  มีคนพบเครื่องบินรบตั้งแต่ครั้งสงครามโลกครั้ง 2 ในสภาพสมบูรณ์แบบเพียงแต่ไร้วี่แววของคนขับ


นักวิทยาศาสตร์ในเรื่องแสดงโดยศิลปินชาวฝรั่งเศสผู้มากด้วยพรสวรรค์ในด้านการบันเทิงหลายแขนงทั้ง กำกับ เขียนบท แสดง ฯลฯ  เธอชื่อ Francois Truffaut  ผมรู้จักชื่อนี้ครั้งแรกจากบทความใน นส. Starpics   (ถ้าไม่สับสน) จำได้ว่างานของเธอเป็นบทเรียนในชั้นของนิสิตคณะหนึ่งในมหาวิทยาลัย  ไม่แน่ใจว่า จุฬาฯ หรือ ศิลปากร  ในชั้นเรียนนักศึกษารู้จักเธอจากงานกำกับ  ผลงานระดับเข้าชิง Oscar

นี่เป็นหนังเรื่องเดียวที่ FT แสดงเฉย ๆ ไม่ได้มีส่วนในการกำกับ  และเป็นหนังภาษาอังกฤษเพียงเรื่องเดียวที่รับเล่น  ระหว่างเล่นหนังเรื่องนี้เธอก็เขียนบทหนังที่จะกำกับในอนาคตและเขียนนิยายไปด้วยเป็นการฆ่าเวลา

เธอไม่ถนัดในภาษาอังกฤษ  เมื่อมาเล่นเรื่องนี้ในฉากที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ เธอต้องเอาเศษกระดาษเขียนบทพูดแปะไว้ตรงโน้นตรงนี้ที่กล้องจะจับภาพไม่ได้  มีครั้งหนึ่งที่เธอต้องสนทนาเป็นภาษาอังกฤษกับนายทหารซึ่งยืนหันหลังให้กล้อง  เธอพูดกับนายทหารโดยการอ่านบทบนกระดาษที่แปะอยู่ที่หน้าอกของนายทหารผู้นั้น

FT ตายในปี 1984




ฉากตื่นตาตื่นใจอื่น ๆ





ฉากสื่อสารโดยใช้แสงและโน้ตดนตรี  อลังการงานสร้าง



ฉากท้ายเรื่อง





(ภาษามือนี้เรียกว่า Curwen hand signs)



ตัวอย่างหนัง


บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 1081  เมื่อ 18 เม.ย. 22, 09:11

แพ้สังขารมั้งคะ
พอเปลี่ยนจากสาวน้อยเป็นสาวใหญ่  เจนนิเฟอร์ก็ขาดเสน่ห์อย่างที่เคยมีใน Flash Dance

ตอนนี้ก็...คุณโหน่งเติมคำเอาเอง

... เฮ้อออ อนิจจัง... ครับ

หมายเหตุ - ล่าสุดได้ยินว่า Cameron Diaz เลิกเล่นหนังไปแล้วครับ เธอมีความสุขกับครอบครัว
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1082  เมื่อ 18 เม.ย. 22, 10:07

ได้ข่าวมาก่อนหน้านี้ค่ะว่าเธอโบกมือลาไปจริงๆ
ในคลิปนี้มีกวิเนธ พัลโธรว์ โผล่ออกมาให้ใจหายนิดหน่อยตอนเห็น  เพราะยังจำภาพนางเอก Shakespeare in Love ได้ว่าสวยคลาสสิคเป็นผู้ดีขนาดไหน
บัดนี้เป็นป้าไปเสียแล้ว อนิจจา

บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 1083  เมื่อ 18 เม.ย. 22, 15:21

        หนึ่งในตำนานเล่าขานต่อเนื่องยาวนานของฮอลลีวู้ด คือ เรื่องราวสุดแค้น แสนชัง ระหว่างสองตัวแม่
Bette Davis กับ Joan Crawford

bazaar เรียบเรียงเรื่องราวให้อ่านที่ https://www.harpersbazaar.com/culture/film-tv/a20666/feud-bette-davis-joan-crawford-timeline/

ภาพประกอบจากฉากในหนังเรื่อง WHAT EVER HAPPENED TO BABY JANE? (1962)ฺ


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 1084  เมื่อ 18 เม.ย. 22, 15:29


บางคำคมจนบาด(ที่ว่ามา)จากคุณทวด


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1085  เมื่อ 19 เม.ย. 22, 07:34

สมกับเล่น Jezebel จริงๆ
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 1086  เมื่อ 19 เม.ย. 22, 09:07

ผมดูหนัง (เอาเฉพาะหนังม้วนเดียวที่เข้าโรง) มาเยอะมาก  แต่ไม่จำเป็นว่าทุกเรื่องจะต้องนำมาเอ่ยถึง  ส่วนมากดูเสร็จก็ลืมไปเลย  บางเรื่องอย่างหนังทำเงินในสาขาต่าง ๆ ก็สนุกแต่ไม่รู้จะเอามาเล่าทำไม  ใคร ๆ ก็ดูกันทั้งนั้น  นอกจากมีบางอย่างที่น่าเอ่ยถึง

แต่ก็ยังมีหนังประเภทที่ไม่คุ้นหูชาวบ้านที่ดูแล้ว  ‘เออแฮะ  หนุกดี’  อยากเอามาเล่า (ซึ่งมักแย่ตรงที่หา clip มาเสริมไม่ค่อยได้) บางเรื่องมีจุดเด่นที่น่าเอามาเอ่ยถึงเช่นเพลงประกอบ เกร็ดโน่นนี่  หรือบางเรื่องที่ใคร ๆ (หมายถึงนักวิจารณ์เป็นหลัก) ด่ากันแหลก  แต่ผมดูแล้ว  ‘…’ไรวะ  หนุกดีออก’ เช่น National Lampoon’s Class Reunion ที่เคยเอ่ยถึงไปแล้ว  แล้วก็มาถึงเรื่องนี้

Joe’s apartment (1996) เป็นเรื่องของ Joe หนุ่มนิสัยดีที่เพิ่งสำเร็จจากมหาวิทยาลัยมาหมาด ๆ  ออกหางานทำ  ระหว่างที่ยังไม่มีงานก็ต้องอาศัยอยู่ใน apartment ซอมซ่อที่กำลังจะถูกรื้อ แต่ยังไม่สามารถไล่ผู้เช่าอาศัยออกไปได้หมด  พอเข้ามาอยู่ได้ไม่นานเท่าไรเธอก็พบว่า  ไม่ได้อยู่ในห้องคนเดียวแต่ยังมีแมลงสาบนับไม่ถ้วนร่วมอาศัยอยู่ด้วย

แมลงสาบพวกนี้ต่างจากที่อื่นคือพูดได้แถมชอบร้องเพลงแล้วก็ชอบทำป่วน



แต่ก็ไม่ได้ป่วนไร้สาระ  หลังจากช่วยไล่ขโมย  ทั้งคนและแมลงสาบก็เป็นมิตรกัน



ฉาก climax ของเรื่องคือหลังจากที่ทำป่วนจนแฟนของ Joe ต้องเปิดแนบ  เหล่าแมลงสาบก็ชดเชยความผิดด้วยการช่วยกันจัดสวนให้รอบ ๆ apartment ของชายหนุ่มเพื่อดึงดูดแฟนของเธอให้กลับมา (หาฉากนี้ใน clip แบบคุณภาพดี ๆ ไม่ได้)



ตัวอย่างหนัง



หนังเจ๊งไม่เป็นท่า  นักวิจารณ์พร้อมใจกันด่ายับ บ้างก็ว่าแมลงสาบเต้นรำยังดูมีเสน่ห์ตัวละครเลย


หมายเหตุ – เป็นหนังเรื่องแรกที่สร้างโดย MTV – Music Television เป็น cable tv ของอเมริกาที่เริ่มมาตั้งแต่ ส.ค. 1981  ช่วงปีแรก ๆ นำเสนอเฉพาะ music video  ชุดแรกคือเพลง Video killed the radio star โดยคณะนักร้องแนว new wave จากอังกฤษชื่อ The Buggles  วิทยุในเมืองไทยเปิดบ่อยเหมือนกัน


บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 1087  เมื่อ 20 เม.ย. 22, 09:30

มีคนสงสัยมาตลอดว่าทำไมผมถึงรู้เรื่องราวเกี่ยวกับวงการบันเทิงของฝรั่ง (หนัง เพลง นักแสดง นักร้อง)ได้มากมาย  บางคนตั้งสมมติฐานว่าตอนเด็ก ๆ แม่น่าจะเอาผมไปทิ้งไว้ในถังขยะในโรงถ่ายฮอลลีวู้ด

คำตอบแรกคือ ต้องมี ความสอดรู้สอดเห็น ซึ่งผมมีอยู่เต็มเปี่ยม ไปถามใคร ๆ ก็ได้  ทุกคนที่บ้านรู้ว่าถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้น  ต้องมี ไอ้โหน่ง ไปเจ๋ออยู่กลางวง

พอมีสิ่งนี้เป็นฐาน  เมื่อถึงจุดที่สามารถบอกได้ว่าชอบ/ไม่ชอบอะไร  อย่างอื่นก็ตามมาเอง 

ผมอ่านหนังสือ Starpics มาตั้งแต่เล่มแรก (รวมถึงหนังสือเพลงต่าง ๆ  มี 3 ชื่อ I.S. Song Hits, Current Song Hits แล้วก็ Savvy Song Hits)  ตอนนั้นยังอยู่ชั้นประถม  พออ่านสิ่งที่รู้ว่าชอบมันก็ซึมซับไปเอง  ต่อยอดจากหนังสือที่เอ่ยถึง  ผมก็สอดส่ายไปเก็บเกี่ยวจากแหล่งอื่น ๆ  ยิ่งต่อมาได้รู้จัก เพื่อนฝรั่ง ซึ่งเค้า ‘inside’ เรื่องบันเทิงบ้านเค้ามากกว่า  ความรู้ผมก็เพิ่มพูนขึ้น

ก่อนยุค อตน. สิ่งเหล่านี้คือบางส่วนของฐานข้อมูลของผม

หมวดหนัง



หมวดเพลง



หมวดรถ



ฐานข้อมูลของผมมีแต่ภาษาอังกฤษนั่นเป็นเพราะสิ่งที่ผมชอบมันเกิดที่บ้านเค้า  เป็นโชคดีที่เซลล์สมองของผมพอจะสั่นสะเทือนกับภาษาอังกฤษได้บ้าง  ไม่งั้นคงเซ็งไม่น้อย  ต่อมาพอ อตน. ถือกำเนิด  มีแหล่งต่าง  ๆ ทั้งหนัง เพลง ข้อมูลมากมายให้ผมสามารถเติมเต็มความรู้เดิมที่มีอยู่ได้  ผมก็ไปโลด...

ดังนี้แล...


ผมดู For whom the bell tolls (1943) ทางช่อง I/UBC  เพราะอยากเห็น Gary Cooper  ที่ซี้คลาสสิกเคยเล่าว่าหล่อนักหล่อหนา  ผมไม่เคยเห็นเธอ ‘in action’  มาก่อน  เคยเห็นแต่ในรูปภาพ  แม้ในหนังเรื่องนี้เธอจะแก่แล้ว  แต่ก็ยังมีเค้า  ซึ่งต่อมาก็ได้เห็นความหล่อเป็นที่ประจักษ์ในหนัง Morocco ที่เคยเล่าไปแล้ว

นอกจากนี้เคยได้ข้อมูลมาจาก SP นานนมแล้วว่ามีดาราหญิงคนหนึ่งชื่อแปลกเพราะเป็นชาวกรีกว่า Katina Paxinou  เธอได้ Oscar สาขาตัวประกอบจากเรื่องนี้  และเป็นรางวัลเดียวของหนังจากทั้งหมดที่เข้าชิงรวม 9 สาขา

หนังเล่าเรื่องของความรักระหว่างนายทหารอาสาสมัครอดีตครูสอนภาษาชาวอเมริกัน (Gary Cooper) กับสาวสวยนักต่อสู้เพื่ออุดมการณ์กลุ่ม guerilla fighters (Ingrid Bergman – หนังสีเรื่องแรกของเธอ) ที่ก่อตัวขึ้นท่ามกลางสงครามกลางเมืองสเปน  โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่การระเบิดสะพานสำคัญเพื่อขัดขวางกองทัพของเผด็จการ Francisco Franco




ตอนแรกกะจะดูคร่าว ๆ พอให้ตอบสนองความอยากรู้อยากเห็น  แต่พอถลำลงไปแล้ว  โอ้... หนังสนุกแฮะ โดยเฉพาะฉากลอบวางระเบิดสะพาน  ลุ้นระทึก  ประมาณใจเต้นตูมตาม
 
แปลกแต่จริง  ตอนผมเตรียมเรื่องนี้เมื่อไม่นานยังมี clip ฉากของ KP อยู่เลย  พอได้คิวลง  โค้ดของ youtube หายไปแล้ว  เหลือแต่ clip หนังเต็มฉบับเรื่องนี้ เธอรับบทเป็นหญิงยิปซีเมียหัวหน้ากลุ่มใต้ดิน  ต่อมาเธอขยับขึ้นมาเป็นหัวหน้าเสียเอง


(53.50 – 59.00) และ (1.20.20 – 1.20.00) เป็นฉากเกี่ยวกับเธอที่ผมชอบ
2.21.00 – climax ของหนัง  ตื่นเต้นจนลืมหายใจเลยละ


KP รับรางวัล Oscar



ตั้งแต่แรกเริ่มมีงาน Oscar  คำพูดที่เป็นเครื่องหมายการค้าของงานคือ ‘And the winner is…’  มาปี 1989 กับงานแจกรางวัลครั้งที่ 61 ให้กับหนังที่ฉายในปี 1988  คณะกรรมการพร้อมใจกันเปลี่ยนเครื่องหมายการค้าของงานใหม่เป็น ‘And the Oscar goes to…’  ด้วยเหตุผลว่า ...to take the competitiveness out of the show…

มีต่อ...

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 1088  เมื่อ 21 เม.ย. 22, 08:03

ดู Ingrid Bergman ในเรื่อง FWTBT แล้วจำได้ว่าเคยดูหนังของเธอในยุครุ่งเรืองคือเรื่อง Gaslight (1944) อันเป็นหนังสั่นประสาท  เริ่มเรื่องตรงจุดที่เกิดการฆาตกรรมขึ้นกับนักร้องโอเปร่าชื่อดัง  ขณะที่ฆาตกรกำลังเริ่มกวาดของมีค่าซึ่งก็คือเครื่องเพชรเขาก็โดนขัดจังหวะโดยหลานสาวของผู้ตาย (IB) จึงต้องเผ่นหนีเอาตัวรอดก่อน

หลานสาวต่อมาเดินทางไปอิตาลีเพื่อศึกษาการร้องเพลงโอเปร่าเช่นกันและได้พบหนุ่มหล่อ  ทั้ง 2 แต่งงานแล้วย้ายกลับมาอังกฤษยังคฤหาสน์ที่ป้าของเธอโดนฆาตกรรมโดยที่เธอไม่เต็มใจเพราะไม่อยากรื้อฟื้นความน่าสยดสยองที่เกิดขึ้น

ตอนต้นเรื่อง IB สวยมาก ๆ  อีกคนคือนักแสดงอังกฤษ Dame May Whitty



หลังจากแต่งงานแล้วทั้งคู่กลับมาอยู่ที่คฤหาสน์ของป้าที่โดนฆาตกรรม



สามี (ในเรื่อง) ของเธอคือนักแสดงชาวฝรั่งเศส Charles Boyer ผมเห็นการแสดงของเธอครั้งแรกจากหนังเรื่องนี้  ก่อนหน้านี้รู้จักแค่ชื่อกับหน้าของเธอ ข้อมูลบอกว่าเธอเป็นดาราระดับเบ้ง  เคยเข้าชิง Oscar ถึง 5 ครั้ง  หนึ่งใน 5 นั้นคือบทนำในเรื่องนี้

ใน clip นี้จะเห็น Angela Lansbury ในบทสาวใช้สวย (แต่แสบ) เธอเล่นเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก  จำได้ว่ามีฉากเธอสูบบุหรี่แต่หา clip ไม่เจอ  ที่เอ่ยถึงเพราะมาอ่านข้อมูลเพิ่มเติมในยุค อตน. ว่า  ตอนนั้น AL อายุ 17  ตามกฎหมายของอังกฤษยังห้ามสูบบุหรี่อยู่  ต้องอายุ 18 เสียก่อน  ฉากที่ว่าเลยยังถ่ายไม่ได้  โชคดีที่อายุ 18 ของเธอมาถึงในขณะที่ยังถ่ายทำหนังเรื่องนี้อยู่  ข่าวเล่าว่า  พอทีมงาน ‘Happy birthday’ กับเธอพร้อมกินเค้กกันอิ่มหมีพีมันแล้ว  ก็เริ่มถ่ายฉากสูบบุหรี่เป็นฉากแรก  เธอบอกว่าคนถามว่าทำอะไรเป็นอย่างแรกในวันเกิดอายุ 18  เธอบอกว่า ‘สูบบุหรี่ค่ะ’

clip นี้ถ่ายในคฤหาสน์ที่ป้าของ IB โดนฆาตกรรม CB กำลัง ‘หลี’ AL ต่อหน้าเมียซึ่งตอนนี้กำลังเริ่มหวาดระแวง  หลังจากฉากนี้ไปก็หาความสวยหวานของ IB ไม่เจอแล้ว  เพราะเธอต้องเปลี่ยนบุคลิกเป็นคนโรคประสาท



ดูถึงแถว ๆ นี้ก็พอระแคะระคายได้ว่า CB มีแผนอะไรบางอย่างอยู่ในใจ  เขาเริ่มป่วน IB ให้สับสนระหว่างความจริงกับความเพ้อฝัน







จดหมายฉบับนี้เป็นตัวเฉลยว่าใครคือฆาตกร บทตำรวจแสดงโดย Joseph Cotten อีกหนึ่งนักแสดงความดังระดับปานกลาง



ในที่สุดความลับของ CB ก็เผยออกว่าเขาคือฆาตกรที่เข้ามาตีสนิทกับ IB เพื่อจะตามหาเครื่องเพชรที่เขาหยิบไปไม่ได้เพราะโดนขัดจังหวะเสียก่อน (เฉลยในตอนท้ายของ clip ตัวก่อนที่ ตำรวจ JC ปะติดปะต่อไว้)  

(ดู IB แสดงแล้วเพลินดีแฮะ)


แผนของฆาตกร CB คือเมื่อมาถึงคฤหาสน์แล้วเขาก็ยุให้ IB ขนข้าวของเครื่องใช้ของป้าที่โดนฆาตกรรมไปเก็บไว้บนห้องใต้หลังคา  เพื่อตัวเองจะได้หาโอกาสแอบเข้ามาโดยผ่านจากห้องว่างข้างเคียงในเวลากลางคืนโดยอ้างว่าออกไปทำธุระนอกบ้าน  ในเวลานั้นยังไม่มีไฟฟ้า  ต้องใช้ gaslight เป็นตัวช่วยในการส่องสว่าง  ตอนที่ CB เปิดไฟห้องใต้หลังคา  ไฟที่อื่น ๆ ในคฤหาสน์จึงกระตุก (เดาเอานะ ผมเกิดไม่ทันเลยไม่รู้ธรรมชาติของ gaslight)  IB ซึ่งอยู่ข้างล่างก็รู้สึกถึงความผิดปกติ  เพราะตอนนั้นเธออยู่คนเดียวในบ้าน  พอ CB (แกล้งทำเป็น) กลับมาเธอจึงรีบรายงานแต่โดนดุว่าเธอมโนไปเอง

ผมหา clip ฉากไฟกระตุกเพราะ gaslight อันเป็นชื่อเรื่องซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ IB ควรจะเอะใจก่อนหน้านี้ไม่ได้  แต่เจอในช่วงต้นของหนัง  ได้เห็นวิธีจุดไฟส่องสว่างในยุคที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้  เมืองบางกอกของเราคงไม่ต่างกัน

(เพลงหลอนดีชะมัด)


หนังเรื่องนี้ดังมากในยุคนั้น  ผมว่าเนื้อเรื่องทันสมัยสามารถเอามาดัดแปลงทำเป็นหนังให้เข้ากับยุคสมัยนี้ได้สบาย ๆ

ตัวอย่างหนัง



เทคนิคการแสดงเป็นแบบโบราณซึ่งแสดงออกทางท่าทางให้เกินความปกติ  IB แสดงได้ ‘สมจริง’ และได้รับ Oscar เป็นตัวแรกจากทั้งหมด 3 ตัว



ผมดูหนังเรื่องนี้มานานนนนนนมาก  ตั้งแต่ครั้งยังอยู่กับ ซี้คลาสสิก  ความจำกระท่อนกระแท่น  ต้องมาอ่านใน Wikiฯ  แล้วหา clip ประกอบ  ผมจำได้ว่าในช่วงท้ายของหนัง IB ร้องกรี๊ดกร๊าดและแสดงท่าทางเกินจริงจนเวียนหัว  ผมนินทากับ ซี้คลาสสิกว่า ‘I think she screamed her way to the Oscar’  ซี้คลาสสิกหัวเราะลั่น


มีต่อ...

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1089  เมื่อ 21 เม.ย. 22, 08:32

คุณโหน่งคงดู Ingrid  ใน   Casablanca  แล้ว  เรื่องไหนเธอสวยกว่ากันคะ
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 1090  เมื่อ 22 เม.ย. 22, 08:37

คุณโหน่งคงดู Ingrid  ใน   Casablanca  แล้ว  เรื่องไหนเธอสวยกว่ากันคะ

ไม่ได้ดู Casablanca ครับ  มันดังมากจน เก็บไว้ก่อน ๆ  มาถึงตอนนี้ก็เลิกอยากดูหนังโรแมนติกไปแล้ว  ชะล่าใจครับ

มีหนังคลาสสิกหลายเรื่องที่อยู่ข่ายชะล่าใจ  เท่าที่นึกออกก็  It's a wonderful life (1946)  ความจริงดูแต่หลับตั้งแต่ต้นเรื่อง  ก็เลย เก็บไว้ก่อน
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 1091  เมื่อ 22 เม.ย. 22, 09:02

แต่เรื่องนี้ดูแบบตั้งใจครับ

Ingrid Bergman ได้ Oscar ตัวที่ 2 ในบทสาวที่เป็นหุ่นเชิดให้รับบทเป็น Anastasia (1956) ธิดาของกษัตริย์องค์สุดท้ายของรัสเซียที่เป็นปริศนาว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ 
 
งานนี้กลั่นมาจากสมองของนายพลรัสเซียคนหนึ่ง (Yul Brynner – ผมว่าเธอเป็นคนหัวล้านที่เท่) เพื่อหวังเงิน Trust fund ของ Anastasia ที่เกิดจาก stockholders จำนวน 10 ล้านปอนด์ที่ฝากอยู่ในธนาคารอังกฤษ  YB ได้ยินมาว่ามีสาวความจำเสื่อมชื่อ Anna Anderson (IB) รักษาตัวอยู่ในรพ.  เธออ้างว่าตัวเองคือ Anastasia  แผนก็คือนำตัวสาวคนนี้มาใส่ตะกร้าล้างน้ำแล้วปรุงแต่งให้กลายเป็นเจ้าหญิง Anastasia  เพื่อนำไปเข้ารับการพิสูจน์จาก ‘ย่า – แม่ของ Tsar’ ของเธอที่ยังมีชีวิตอยู่ที่เดนมาร์ก

แม้จะเป็นหนังสร้างในสมัยโบราณแต่สนุกมาก  plot แตกต่างจากที่คิด








ย่าของ Anastasia แสดงโดย Helen Hayes (2 Oscars เป็นประกันความสามารถของเธอ  แต่ตอนแสดงเรื่องนี้เธอได้มา 1 ก่อน)



ฉากสอบสวนนี้เครียดและตื่นเต้นทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่หนัง action  ในเรื่องนี้ IB อายุ 41  แต่ต้องเล่นเป็นตัวละครอายุ 27  ขณะที่ HH อายุ 56 สวมบท 'ย่า' อายุ 80



ฉากสุดท้ายนี้มีความลับแต่ไม่บอกว่าคืออะไร  มันทำให้ตอนจบของหนังพลิกผันไปเลย



ตัวอย่างหนัง



ตัวละครเอกในหนังเรื่องนี้คือ Anna Anderson ที่มีชีวิตอยู่จริงและเคยอ้างว่าตัวเองเป็น Anastasia ที่รอดชีวิตมาได้  แต่ต่อมาก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นเรื่องไม่จริง อย่างไรก็ตามเนื้อเรื่องเป็นแค่พาดพิงเพราะในความเป็นจริง AA ไม่เคยได้พบ 'ย่า' ของ Anastasia เรื่องราวทั้งหมดในหนังจึงแต่งขึ้นเอง


IB เป็นนักแสดงชั้นแนวหน้าในยุคทองของฮอลลีวู้ด  เธอเป็นชาวสวีเดน  เกิดในปี 1915  เธอเคยสร้างตำนานไว้ในฮอลลีวู้ดในแง่ที่ไม่ดีนัก 
 
เมื่อปี 1949 เธอบินไปถ่ายหนังที่อิตาลีโดย ผกก. ชาวอิตาเลียนชื่อ Roberto Rossellini  2 คนตกหลุมรักกัน  เรื่องเลยเถิดถึงขั้น IB ท้อง  ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นเธอยังแต่งงานอยู่กับสามีอาชีพหมอ  เรื่องฉาวนี้ดังข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงฮอลลีวู้ดซึ่งตอนนั้นอยู่ในรูปแบบของ Studio System  สร้างความน่าอับอายให้กับฮอลลีวู้ด  และเธอก็ดังมากด้วย  ผลคือเธอโดนพักงาน  เมื่อไม่สามารถกลับมาทำงานที่ฮอลลีวู้ดได้  IB ก็เลยอยู่ต่อที่อิตาลีแล้วดำเนินเรื่องหย่ากับสามีคนแรกให้เป็นการเป็นงาน  เธอมีลูกหลายคนกับสามี ผกก. หนึ่งในนั้นคือ Isabella Rossellini ดารานักแสดงที่พวกเรา (น่าจะ) รู้จักดี




ในปี 1956 IB ตัดสินใจหันมาขอโทษฮอลลีวู้ดและของาน (ที่มีคุณภาพมากกว่า) ทำ  ฮอลลีวู้ดใจอ่อนกับสาวสวยมากความสามารถจึงมอบบทนำในเรื่อง Anastasia ให้เธอ  อย่างไรก็ตาม  การถ่ายทำหนังเรื่องนี้ใช้สถานที่ในโรงถ่ายของอังกฤษ กับวิวทิวทัศน์ที่อังกฤษและฝรั่งเศส  ไม่มีส่วนไหน ‘made in America’  การได้ Oscar จากเรื่องนี้ (เป็นตัวที่ 2) หมายความว่าฮอลลีวู้ดยกโทษให้แล้ว  แต่ในงานแจกรางวัล IB ไม่ได้มารับแต่ให้ Cary Grant รับแทน  เธอไม่ได้เหยียบย่างเข้ามาในฮอลลีวู้ดจนกระทั่งปี 1969

IB มาได้ Oscar ตัวที่ 3 ในปี 1974 จากเรื่อง Murder on the Oriental Express  เป็นนักแสดงหญิงที่ได้ Oscar 3 ตัวคนแรก (ไม่นับ Katherine Hepburn ที่ได้ 4 ตัว) ต่อมาคือ Meryl Streep และ Frances McDormand (2 คนนี้อยู่ในยุคนี้  FM ได้สาขาดารานำทั้ง 3 ตัว  นอกนั้น นำ 2 ประกอบ 1)


ตัวอย่างหนัง  ถ้าจำไม่ผิดฉายที่สยามสแควร์ จะเป็นลิโดหรือสยามก็จำไม่ได้  สับสน





หมายเหตุ - การได้ดูหนังจากการแสดงของ IB  3 เรื่องที่เธอได้ Oscar จาก 3 ช่วงเวลาที่ห่างกันมาก (1944, 1956, 1974)  ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของการแสดงของเธอจาก เว่อร์เวิ่น อันเป็นปกติของการแสดงยุคก่อน เป็น ธรรมชาติ  อันเป็นปกติของการแสดงยุคปัจจุบัน  ทำให้ทึ่งในความสามารถของเธอ


จบแต่เพียงเท่านี้

บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 1092  เมื่อ 22 เม.ย. 22, 15:12

           คุณทวดอินกริด มีผลงานการแสดงทางจอแก้วที่เป็น "เพลงหงส์" ก่อนจะเสียชีวิต โดยรับบทสำคัญเป็น
มาตาอิสราเอล -  Golda Meir ในเรื่อง A Woman Called Golda มินิซีรี่ส์ ปี 1982 - ช่วงนั้นช่องสามนำเข้า
ซีรี่ส์ดังๆ ต่อเนื่อง
           ผลงานการแสดงยอดเยี่ยมส่งให้คุณทวดได้รับรางวัล Emmy สาขานักแสดงนำหญิง หลังจากที่คุณทวด
ได้จากไปแล้ว


บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 1093  เมื่อ 25 เม.ย. 22, 08:42

Galaxy Quest (1999) เป็นหนังตลกแนวอวกาศ  เล่าเรื่องมนุษย์ต่างดาวจาก 2 โลกเกิดกรณีพิพาทขัดแย้ง  ฝ่ายที่อ่อนแอกว่ากำลังจะโดนรุกรานจึงจำเป็นต้องออกเร่หาผู้ที่สามารถให้ความช่วยเหลือ  สมาชิกหนึ่งในนั้นเผอิญไปรับสัญญาณหนังชุดทางทีวีเกี่ยวกับการผจญภัยในอวกาศจากโลกมนุษย์ที่ออกอากาศมานานแล้ว (ยุค 80s)  ได้  ก็ไปเข้าใจว่านี่คือสารคดีถ่ายทำจากเรื่องจริง  จึงออกตามหาเหล่านักแสดงที่ร่วมเล่นในหนังทีวีชุดนั้น ด้วยความเข้าใจผิดว่าเป็นนักรบ ให้มาช่วยเหลือ 


(ดูไปแป๊บก็รู้ว่าหนังล้อเลียนหนังดังทางทีวีชุด Star trek)


เรื่องที่มนุษย์ต่างดาวไม่รู้คือนอกจากสิ่งที่พวกเขาเห็นจะเป็นการถ่ายทำแล้ว  บัดนี้เหล่าดาราล้วนตกงานเพราะหนังชุดนี้เลิกสร้างมานานแล้ว  วัน ๆ ก็หากินอยู่กับการรับจ้างไปออกโชว์ตัวและแจกลายเซ็นให้แฟนคลับ



ในที่สุดก็สามารถตามหาผู้ที่ ‘คิดว่า’ สามารถให้ความช่วยเหลือได้ (มีช่วงตลกนิดนึง)



เริ่มต้นผจญภัยของจริง



ฉากสนุก ๆ บางฉาก



หนังได้รับทั้งคำชมจากเหล่านักวิจารณ์และเงินจากคนดู  ในเวลาต่อมาก็กลายเป็น หนังโปรดของเหล่าสาวกหนัง Star trek ไปด้วย

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1094  เมื่อ 25 เม.ย. 22, 10:54

ได้ดูทาง UBC ค่ะ  สนุกแบบไม่คิดอะไรมาก  เขาน่าจะล้อเลียน Star Trek
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 71 72 [73] 74 75 ... 77
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.111 วินาที กับ 20 คำสั่ง