ฉากประทับใจในหนังเก่า (3)

[เทาชมพู]

ดิฉันได้มาดูหนังมิสมาร์เปิลของคุณย่ามาร์กาเร็ต รูเธอร์ฟอร์ด ก็ดูเหมือนเธอจะขึ้นสวรรค์ไปแล้ว   ได้ยินชื่อว่าเธอเล่นบทนี้ได้ดี  มีชื่อเสียงมาก   
หนังขาวดำชุดนี้ไม่ได้ฉายในไทย  ได้มาดูอีกทีก็เมื่อมียูทูป   ในยูบีซีและเน็ทฟลิกซ์ ไม่มี

ดูแล้วก็งั้นๆ  เพราะมิสมาร์เปิลในใจมีรูปร่างหน้าตาบุคลิกแตกต่างจากคุณย่ามาก   ดิฉันวาดภาพคุณป้าเป็นสตรีอังกฤษตัวผอมๆ ท่าทางสงบเสงี่ยมเอาแต่ถักไหมพรม   แต่คุณย่ามาร์กาเร็ตดูโผงผางมากไปหน่อย หุ่นก็ใหญ๋เทอะทะด้วย

ดาราหลายคนเคยรับบทนี้ค่ะ

[เทาชมพู]

คนที่ตรงกับมิสมาร์เปิลในใจมากที่สุดคือคนนี้ Geraldine McEwan
มีหนังชุด  Marple ให้ดูได้ทางยูทูปค่ะ

[nathanielnong]

          ช่วงหลังๆ มานี้ ได้เพียงเห็นผ่านตา แต่แทบไม่ได้ดูหนังต่างๆ ทั้งไทยและเทศ ทั้งทางจอแก้วและจอเงิน
ที่จะไปดูในโรงก็มักจะเป็นหนังนอกกระแสและอะนิเมะเป็นหลัก
         
         

เอ่ยถึงหนัง อะนิเมะ  แล้วนึกถึงหนังของ Miyasaki  ตั้งแต่ได้ดู Spirited Away แล้ว  ตามมาอยู่ชั่วเวลาหนึ่ง

[nathanielnong]

How to make an American quilt (1995) เป็นหนังอบอุ่น เล่าเรื่องของ Wynona Ryder ซึ่งแสดงเป็นสาวน้อยโดนหนุ่มสู่ขอ  แต่ตัวเองลังเล  ก็เลยขอเวลาคิดด้วยการหลบไปหาคุณยาย 2 คนพี่น้องที่ต่างเมือง  ที่นั่นคุณยายและเพื่อน ๆ กำลังทำ quilt  แต่สาวน้อยไม่รู้ว่า quilt นี้เมื่อเสร็จแล้วมันจะเป็นของขวัญวันแต่งงานของเธอ

Quilt ที่ว่าก็คือ (เอารวม ๆ นะ) การนำเศษผ้าที่ได้รับการประดิษฐ์ประดอยให้สวยหรูแล้วมาเย็บติดต่อกันเป็นผ้าผืนใหญ่  จะเอาไว้คลุมเตียงหรือเป็นผ้าห่มก็ตามสะดวก
เศษผ้าเหล่านี้ถ้าประดิษฐ์ให้มีโครงเรื่อง  เป็น theme เดียวกัน  เมื่อนำมาเย็บต่อกันเป็น Quilt จะมีราคาแพงระยับ (+ ค่าฝีมือด้วย)




Quilt ที่คุณยายของสาวน้อยและเพื่อน ๆ กำลังขะมักเขม้นทำนี้อยู่ภายใต้โครงเรื่อง “Where love resides”  คุณยายและเพื่อนต่างก็นำเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับความรักที่ตัวเองประสบมาในอดีต มาเย็บปักถักร้อยบนแผ่นเศษผ้าของตน จากนั้นก็นำมาสานต่อกันเป็นผ้าผืนใหญ่ยักษ์

ตอนสนุกของหนังคือการย้อนเวลากลับไปถึงเหตุการณ์ของแต่ละคนอันเป็นบ่อเกิดของความรัก  ซึ่งมีทั้งสมหวังและผิดหวัง

หนังสวยมากและจบด้วยความอบอุ่น  ผมดูที่โรงหนึ่งรอบ แล้วตามด้วยทางทีวีอีกหนึ่งจำนวนรอบ




Wynona Ryder ตอนนั้นน่ารักสุดขีด  เธอกำลังรุ่ง  เสียดายที่ไปหลงผิดจนอนาคตดับวูบไปเลย

[nathanielnong]

กาลครั้งหนึ่งช่อง TCM เอาหนัง War and Peace มาฉาย  ผมรู้จักหนังเรื่องนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่ไม่มีโอกาสได้ดู เพราะไม่มีใครพาไปดู วันนี้ก็เลยเตรียมพร้อม

พอหนังฉายไปได้แป๊บผมก็เห็น Audrey Hepburn  แล้วรู้สึกแหม่ง ๆ  เลยลุกไปค้นข้อมูลจากหนังสือรวบรวมรายละเอียดหนังที่จัดทำโดย Leonard Maltin (นักวิจารณ์หนัง) ก็พบว่าฉบับที่ TCM กำลังฉายอยู่นี้เป็นฉบับที่สร้างมาตั้งแต่ปี 1956  นักแสดงหลังคือ AH แล้วก็ Henry Fonda แล้วก็ Mel Ferrer




แต่ฉบับที่ผมอยากดูสร้างในปี 1966 โดยรัสเซีย  นักแสดงเป็นชาวรัสเซียทั้งหมด  จำได้ว่า SP ลงรูปนางเอกชื่อ Ludmila Savelyeva  ซึ่งน่ารักมาก  จำได้ว่าหนังยาวสุดกู่ ใช้ชื่อไทยว่า สงครามกับสันติภาพ (ทำนองนี้)




มีใครเคยดูฉบับนี้ตอนมาฉายที่เมืองไทยบ้างครับ

[SILA]

             หนังเข้าฉายที่ เอเธนส์ ราชเทวี เป็นฉบับย่อ ความยาวประมาณ 3 ชม. นางเอก Lyudmila Saveleva
ที่ได้เติบโตขึ้นไม่เป็นเพียงเด็กสาวสดใสอย่างในหนังบินมาเมืองไทยด้วย
             ข้อมูลประชาสัมพันธ์ว่า รัสเซียทุ่มทุนมหาศาลในการสร้างหนังจากวรรณกรรมแห่งชาติเรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ฉากสงคราม ที่ไม่มีการใช้ CG ช่วย

ภาพจำและภาพโปรโมทจากหนัง

[SILA]

         ที่เว็บนี้ มีเรื่องราวและลิงค์ให้ชมฉบับ 431 นาที

https://filmclubthailand.com/articles/war-and-peace/

Part 1/4

[เทาชมพู]

ชอบ War and Peace ปี 1956  เพราะออเดรย์เล่น   ฉากลีลาศ เธอเต้นรำได้สวย ดูเบาพลิ้วไหว สมเป็นบัลเลริน่าเก่ามาก่อนเป็นดารา

[เทาชมพู]

อีกฉากหนึ่ง

[เทาชมพู]

ฮอลลีวู้ดเพิ่งสูญเสียดาราเก่ายุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2  ไปเมื่อ 29 พย. ที่ผ่านมา คุณทวด Arlene Dahl  จากไปในวัยสุกงอมเต็มที่ คือ 96 ปี
เธอเป็นดาราเกรด B   ที่สวยสะดุดตามากในวัยสาว   

[เทาชมพู]

[เทาชมพู]

[nathanielnong]

คราวที่แล้วเอ่ยถึงนักแสดง Mel Ferrer  ผมคุ้นหูชื่อนี้มาประปราย  จำได้ว่าเธอเป็นสามีของ Audrey Hepburn  ได้ดูหนังเธอเล่น 2-3 เรื่อง  และไม่เคยเห็นเธอหล่อ  ในหนัง War and Peace นี้  เค้าจับเธอมาทำหล่อจนสำเร็จ




หนังลิเกฝรั่งอีกเรื่องที่เธอเล่นและเข้ามาฉายให้ผมดูคือ Scaramouch (1952) เธอเล่นเป็นตัวร้าย  พระเอกคือดาราชั้นนำในยุคทองของฮอลลีวู้ดอีกคนหนึ่ง Stewart Granger

SG เป็นนักแสดงจากอังกฤษ ข่าวว่าเธอมาจากตระกูลไฮโซ และมีชื่อเดิมว่า James (+ ชื่อกลาง) Stewart  พอมาเล่นหนัง  คนในวงการแนะนำให้เปลี่ยนชื่อเพื่อกันความสับสนกับดาราชั้นนำของฮอลลีวู้ดที่มีชื่อเหมือนกัน  เธอจึงเอา ‘maiden name’ ของญาติผู้ใหญ่มาสับเปลี่ยน




อีกเรื่องที่ MF เล่นที่ได้ชมคือ Lili (1953)  เธอเล่นกับ Leslie Caron  LC เล่นเป็นเด็กกำพร้าที่เข้ามาคลุกคลีในแวดวงของคณะหุ่นละครชักและพบรักกับคนชักหุ่น




พอมาถึงฉากนี้ผมก็คุ้นหูกับเพลงนี้ทันที  แสดงว่าสถานีวิทยุต้องเคยเอาเพลงนี้มาเปิดให้ฟังในสมัยเด็ก ๆ

[เทาชมพู]

 คุณโหน่งช่างสังเกตจริงๆ   เมล เฟอร์เรอร์ไม่เคยหล่อเลยยกเว้นใน War and Peace   หน้าตาโหดแบบเลือดเย็นหน่อยๆ
เรื่องที่เล่นกับเลสลี่ คารอง  เป็นพระเอกสไตล์มนต์รักอสูร   ดูแล้วสงสารนางเอกค่ะ

พูดถึงเลสลี่  เธอมีสมญาว่า ลูกเป็ดขี้เหร่ แต่ก็ข้ามจากฝรั่งเศสไปดังในฮอลลีวู้ด  คงเพราะเต้นรำเก่ง สมกับเป็นนักบัลเล่ต์มาก่อน  เลยเหมาะกับยุคที่ยังฮิทหนังเพลงไพเราะ ระบำงามตา

[เทาชมพู]

เลสลี่เล่นหนังซินเดอเรลลา เรื่อง The Glass Slipper ในปี 1955   เรื่องก็อย่างที่รู้ๆกัน  แต่มีฉากหนึ่งที่น่าสนใจคือฉากเจ้าชายเล่นเปียโนร้องเพลง Take My Love