เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 61 62 [63] 64 65 ... 77
  พิมพ์  
อ่าน: 83374 ฉากประทับใจในหนังเก่า (3)
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 930  เมื่อ 24 ธ.ค. 21, 08:33

แม่้แต่มิกกี้ เม้าส์ก็ได้แสดงนำในเวอร์ชั่นการ์ตูน

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 931  เมื่อ 24 ธ.ค. 21, 09:38

ผมเป็นคนชอบช่วงเทศกาล Christmas ที่สุด  น่าจะเป็นเพราะผมเริ่มต้นเรียนหนังสือที่โรงเรียนคริสต์  เลยโดนหล่อหลอมมาตั้งแต่วัยเยาว์  ผมว่าเทศกาลเข้ากับบรรยากาศของหน้าหนาวอย่างกลมกลืน

ในสมัยนั้นกรุงเทพฯ ในหน้าหนาวนี่หนาวจริง ๆ  อุณหภูมิลดลงมาถึงแค่ 10 (ต้น ๆ) กว่าองศา  รร. ผมตั้งอยู่กลางทุ่งโล่งหลายไร่  แล้วชุดนักเรียนก็เป็นแบบขาสั้น  เวลาอยู่นอกห้องเรียนนี่ต้องออกมาเต้นแร้งเต้นกากลางแดด  หลบอยู่ในที่ร่มไม่ได้ถ้าลมพัดมาทีเล่นเอาหนาวขนลุกเกรียว

พอใกล้ช่วงเทศกาลฯ ทาง รร. จะเปิดเพลง Christmas พร้อมออกอากาศเตือนพวกเราว่าอย่าลืมมางานของ รร. ที่จะเริ่มวันที่ 24 ธ.ค.  แหม... มีหรือที่พวกเราจะลืม 

วันนั้นสนุกกันเต็มที่  ไม่มีการเรียน  มีแต่การละเล่น  ทั้งในห้องและกลางแจ้งท่ามกลางความหนาวเย็น

เกริ่นจบแล้วก็มาฝอยเรื่องหนัง  ผมได้ดูหนังเกี่ยวกับเทศกาล Christmas มาเยอะ  แต่ฉบับที่โดนใจที่สุดมาพบเอาเมื่อแก่  ชื่อเรื่องว่า The Polar Express ออกฉายในปี 2004  เป็นหนังที่สร้างสถิติว่าเป็น The first all-digital capture film เรื่องแรก
 
หนังเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวัน Christmas Eve  เมื่อเด็กชายคนหนึ่งนอนอยู่ในห้องของตนแล้วจู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงหวูดรถไฟดังขึ้นทั้ง ๆ ที่แถวบ้านไม่มีรางรถไฟ  แล้วรถไฟขบวนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นและรับเขาไปเที่ยวขั้วโลกเหนือ  ระหว่างการเดินทางนั้นการผจญภัยเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เกิดขึ้นเป็นระยะ

บรรยากาศหนังโดนใจที่สุด  ขนาดแก่ป่านนี้ผมยังนึกในใจว่าถ้ามีรถไฟแบบนี้มารับ  ผมเป็นวิ่งขึ้นโดยไม่มีการลังเลแบบพ่อหนูคนนี้หรอก


(เสียง conductor ฟังดูก็รู้โดยไม่ต้องคิดว่าเป็นเสียง Tom Hanks)

การผจญภัยระหว่างทาง


ฉากนี้ทำได้ตื่นเต้นดีจริง ๆ


แล้วก็มาถึงขั้วโลกเหนือ


การผจญภัยเล็ก ๆน้อย ๆ ที่ขั้วโลกเหนือ


พ่อหนูได้กระดิ่งมาเป็นที่ระลึก  คนที่จะได้ยินเสียงก็ต่อเมื่อคนนั้นเชื่อในเรื่อง Christmas


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 932  เมื่อ 26 ธ.ค. 21, 10:51

หนังคริสต์มาสอมตะตลอดกาล

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 933  เมื่อ 27 ธ.ค. 21, 08:12

What we do in the shadows (2014) เป็นหนังเก่า (ไม่มาก) จากประเทศ New Zealand เล่าเรื่องเกี่ยวกับ Vampires กลุ่มหนึ่งที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับชีวิตในยุคปัจจุบัน เช่น ต้องจ่ายค่าเช่า  ต้องทำงานบ้านไม่งั้นบ้านจะรก มีการประชุมเพื่อแบ่งงาน ฯลฯ

ปกติหนัง Vampires ทุกเรื่องจะเล่าในมุมมองของ ‘คน’  แต่ในเรื่องนี้เล่าเรื่องในมุมมองของ Vampires เอง  ผลออกมาจึงตลกกลิ้ง

แค่ฉากเปิดเรื่องก็ชวนหัวแล้ว


เป็นไอเดียที่บรรเจิดมาก  ไม่เคยได้เห็นได้ดูหนังแบบนี้มาก่อน  ดูแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่า  ทำไมคนไทยไม่คิดทำอะไรแหวกแนวแบบนี้บ้างทั้ง ๆ ที่เรามีวัตถุดิบมากมาย  เอามาเลียนแบบก็ได้เช่น มุมมองของผีกระสือ  ต้องออกไปเร่รอนหาของกิน  บางทีเจอพวกเดียวกันก็หยุดทักทาย  ผีกระสือเป็นผู้หญิงก็คุยเรื่องแต่งหน้าโน่นนี่  หรือนินทาผีตัวอื่น  เหยียดหยามผีกระหังเพราะชอบมาเกาะแกะ  ทำเจ้าชู้  หรืออย่างช่วง covid ก็หาของกินลำบาก  ฯลฯ  สร้างมุขได้มากมาย

หนัง WWDITS เป็นหนังเล็กที่ได้รับความนิยมอย่างท่วมท้นไปครึ่งค่อนโลก  ถึงขนาดอเมริกาซื้อลิขสิทธิ์มาทำเป็นหนังชุดทางทีวี  จะได้สามารถใส่มุขเข้าไปอีกอย่างไม่จำกัด  ซึ่งผู้คนก็ชื่นชอบ  เป็นหนังชุดที่ได้รับความนิยมเรื่องหนึ่ง
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 934  เมื่อ 27 ธ.ค. 21, 08:18

ถ้าชอบไอเดียแบบนี้ คุณโหน่งต้องดู Love at First Bite  ปี 1979  เป็นชีวิตรักของแดร๊คคูล่าผู้ตกอับ ถูกไล่ที่จากถิ่นเดิมซึ่งกลายเป็นประเทศสังคมนิยมไปแล้ว  มาอยู่อเมริกา
แล้วหลงรักมนุษย์สาว  แต่ไม่รู้จะหาทางออกยังไง

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 935  เมื่อ 28 ธ.ค. 21, 08:47

ถ้าชอบไอเดียแบบนี้ คุณโหน่งต้องดู Love at First Bite  ปี 1979  เป็นชีวิตรักของแดร๊คคูล่าผู้ตกอับ ถูกไล่ที่จากถิ่นเดิมซึ่งกลายเป็นประเทศสังคมนิยมไปแล้ว  มาอยู่อเมริกา
แล้วหลงรักมนุษย์สาว  แต่ไม่รู้จะหาทางออกยังไง


ได้ดูครับ  ที่โรงสยาม (หรือ ลิโด)  จำได้แม่นว่าวันนั้นดู 2 เรื่องคือเรื่องนี้กับเรื่อง Goin' Coconuts เล่นโดย 2 พี่น้อง Donny & Marie Osmond




ดูจบ 2 เรื่องแล้วสรุปว่าเรื่องหลังตลกกว่า
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 936  เมื่อ 28 ธ.ค. 21, 08:52

หนังเรื่อง Cleopatra (1963) มาฉายที่โรงเฉลิมไทย 




ผมไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้  แต่มีความหลังที่ไม่เคยลืม  วันนั้นไปไหนก็ไม่รู้กับบรรดาผู้ปกครอง  เรามาติดการจราจรบนถนนราชดำเนิน  ฝั่งมุ่งหน้าไปวัดสระเกศเพื่อกลับบ้าน  รถติดนานมาก  มารู้สาเหตุในภายหลังว่าเกิดอุบัติเหตุ

ระหว่างคอยเวลา  ผมมองโน่นนี่แต่ภาพที่จำได้ไม่ลืมคือแผ่นภาพเขียนโฆษณาหนังเรื่องนี้ติดอยู่หน้าโรงเฉลิมไทย  สีสันสดใสมาก  ดูจนเพลินแล้วก็ผ่านไปด้านข้างโรงก็เห็นกลุ่มรถยนต์ BMW รุ่น 700 เครื่องท้ายตั้งโชว์อยู่  จำได้ว่ามีการชิงรางวัล  และรถเหล่านี้ก็คือรางวัล  จำรายละเอียดอื่น ๆไม่ได้เลย




จบแล้ว  วันนี้ไม่มีสาระอะไรเพียงแต่หาคนร่วมประสบการณ์นี้ครับ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 937  เมื่อ 28 ธ.ค. 21, 11:32

ได้ดูหนังคลีโอพัตรา ประทับใจความอลังการของฉากนี้เช่นกันค่ะ   ไม่มีใครเล่นบทพระนางได้สง่าเท่าลิซอีกแล้ว 
ฉากนั่งเสลี่ยงลงบันไดมาจากสฟิงซ์  คุณป้าเธอทรงตัวได้ดีจริงๆ  รวมทั้งดาราเด็กในเรื่องด้วย    สงสัยว่าเวลาถ่ายทำจะซ้อมกันกี่หน  ดาราซ้อมจริงกี่หน
มันน่าหวาดเสียวมากกว่าถ้าแบกไม่ดี    พระนางจะคะมำลงมาง่ายๆ  จริงๆคงต้องมีอะไรยึดเธอไว้กับเก้าอี้รึเปล่า ป้องกันอุบัติเหตุ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 938  เมื่อ 28 ธ.ค. 21, 12:54

ฉากที่เคยฮิอฮากันมากในหนังใหญ๋ลงทุนพันล้านเรื่อง  The Ten Commandments  ปี1956
เปฺ็นฉากโมเสสเสกให้น้ำในทะเลแดงแหวกออกไปจนเห็นพื้น    มาดูตอนนี้เห็นการตัดต่อว่าไม่สมจริงมากๆ
พื้นทะเลก็แห้งผากเหมือนทะเลทราย ไม่เหมือนก้นทะเล

แต่ย้อนหลังไป 65 ปี เป็นฉากประทับใจของเรื่อง

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 939  เมื่อ 29 ธ.ค. 21, 09:47

BlacKkKlansman (2018) เล่าเกี่ยวกับตำรวจหนุ่มผิวดำที่พยายามแทรกแซงเข้าไปในกลุ่ม Ku Klux Klan เพื่อเปิดโปงพฤติกรรม  อ่านแล้วท่าทางเครียด  แต่เปล่าเลยเป็นหนังตลกแบบที่เรียกว่าตลกร้าย
 



หนังกำกับโดย Spike Lee  ซึ่ง ในส่วนตัว ผมว่าเธอสร้างแต่เรื่องหนัก ๆ ที่เกี่ยวข้องกับชาวผิวดำ  ผมไม่เคยดูหนังของเธอสักเรื่อง  แต่เรื่องนี้ดังมาก  ทั้งในโรงและบนเวทีรางวัล  จนอดเอามานั่งดูไม่ได้  ซึ่งก็สนุกจริง ๆ

ฉากนี้พระเอกเรากำลังเลียนเสียงคนผิวขาว  ผมไม่ใช่ฝรั่งพูดอังกฤษมาแต่อ้อนแต่ออกเลยแยกความแตกต่างไม่ออก  ถามเพื่อนว่า เอ็งแยกออกมั้ย  เพื่อนบอกออกซีวะ  ก็ข้าเป็นฝรั่งอเมริกัน


(ได้รู้ slang ที่คนอเมริกันเรียกชนชาติอื่น ๆ (แบบเหยียดหยาม) มากมาย)

พอเหยื่อติดเบ็ดก็มีการนัดเจอตัว  ทีนี้พระเอกเราผิวดำ  ไปโชว์ตัวทั้งแบบนั้นก็จบเห่  เลยต้องหาตัวปลอมผิวขาว (เล่นโดย Adam Driver  1 ใน นักแสดงคนโปรดของผม)  ฉากตลก ๆ นี้คือการซักซ้อมที่ต้องเอาไปใช้ในงานจริงในอนาคตที่ตื่นเต้นมาก



 
ท้องเรื่องของหนังเกิดขึ้นในยุค 70s  ดังนั้นเพลงประกอบจึงเป็นเพลงในยุคนั้น  และเป็นเพลง Soul ที่เพราะ ๆ ทั้งนั้น  ฉากนี้เยี่ยมมาก  It’s too late to turn back now  เปิดออกอากาศทางวิทยุในบ้านเราบ่อยมากจนกลายเป็นเพลงโปรดเพลงหนึ่งของผม พอมาถึงฉากนี้  ผมรู้สึก โอ้โฮ... โลกสดใสทันที




หมายเหตุ: ดารานำคือ John David Washington เป็นลูกชายของดาราดัง Denzel Washington  นักวิจารณ์ชมว่าเธอเล่นหนังเก่งมาก

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 940  เมื่อ 30 ธ.ค. 21, 09:26

นักแสดงอีกคนในเรื่อง BlacKkKlansman คือ Adam Driver  เป็นนักแสดงที่กำลังร้อนที่สุดคนหนึ่งในปัจจุบัน  ในเรื่องที่เล่าไปนี้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง Oscar  ในปีต่อมาเธอก็ได้ตอกย้ำความ hot ด้วยการได้รับเสนอชื่ออีกเป็นครั้งที่ 2 ในบทที่แตกต่างกับบทแรกลิบลับ
 
เรื่อง Marriage Story (2019) เล่าเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวหนุ่มสาวที่กำลังอยู่ในช่วงสร้างเนื้อสร้างตัว  แต่แล้ววันหนึ่งสิ่งที่ไม่ชอบมาพากลก็ปูดขึ้นมาสั่นคลอนสถานภาพของการแต่งงาน




ตอนแรกผมไม่นึกอยากดูเพราะไม่ชอบหนังชีวิตหนัก ๆ   ชีวิตของตัวเองก็วุ่นวายอยู่แล้ว  ไปเจ๋อกับชีวิตชาวบ้านทำไม  แต่ความดังของหนังทำให้  เอาวะ  เจ๋อสักหน่อย  หนังเริ่มต้นด้วยบรรยากาศเบา ๆ จนผมหลวมตัว  แล้วค่อย ๆ คืบคลานเข้าสู่บรรยากาศที่หนักอึ้งขึ้นเรื่อย ๆ แบบไม่รู้ตัว  กว่าจะรู้ว่ากำลังดูหนังชีวิตหนัก ๆ ก็เลิกดูกลางคันไม่ได้เสียแล้ว

ฉากนี้จ้องตาไม่กระพริบ จากความหวานชื่นในตอนต้น  มาลงที่ฉากเชือดเฉือนกันแบบนี้  อะไรกันนี่




(ฉากเดียวกันแต่มีบทให้อ่านตาม)

ตอนจบของหนังเป็นอย่างไรต้องไปหาหนังมาดูครับ

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 941  เมื่อ 03 ม.ค. 22, 08:50

Moonlight ออกฉายในปี 2016  หนังเล่าเกี่ยวกับชีวิตของคนผิวดำคนหนึ่งโดยเริ่มตั้งแต่วัยเด็ก ข้ามมายังวัยรุ่น หนังจบที่ตอนเธอเริ่มเข้าวัยผู้ใหญ่

เด็กคนนี้มีความเก็บกดคือเป็นเกย์  จึงต้องใช้ชีวิตในแบบ 2 ด้าน  คือด้าน ‘เว้ย... เฮ้ย...’ ในเวลาอยู่กับโลกภายนอกที่มีแต่ความดิ้นรนแก่งแย่งเพื่อรอดพ้นจากการตกเป็นเบี้ยล่าง  และด้าน ‘อ้างว้าง โหยหา’ เวลาอยู่ในโลกส่วนตัว
 



ฉากโรแมนติกระหว่างผู้ชาย 2 คน  เพลงนี้มีอยู่จริงในฉากนี้  แต่ผมนำเสนอ clip ที่เป็นภาพนิ่งดูจะให้อารมณ์กว่า




หนังเรื่องนี้สร้างสถิติในงานแจกรางวัล Oscar คือเป็นหนังเกย์เรื่องแรกในประวัติศาสตร์ของการแจกรางวัลที่ได้รับรางวัลหนังยอดเยี่ยมประจำปี และยังสร้างสถิติอื่นอีกเช่น เป็นหนังที่มีต้นทุนในการสร้างต่ำที่สุด  มีนักแสดงหลักเป็นผิวดำล้วนเรื่องแรก  นักแสดงประกอบชายที่ได้รางวัลนับเป็นนักแสดง Oscar คนแรกที่นับถือศาสนาอิสลาม (เธอได้อีกเป็นตัวที่ 2 จากเรื่อง Green book ที่เคยเล่าถึงไปแล้ว) ฯลฯ

ก่อนหน้านี้มีหนังเกย์ที่ ‘หวุดหวิด’ ทำลายสถิติมาแล้ว คือ Brokeback Mountain ปี 2005   คะแนนหนังเรื่องนี้มาเป็นที่ 2  ในงานประกาศผล Oscar  พอผลออกมาว่าหนังยอดเยี่ยมไม่ใช่ BM  จะได้ยินเสียงแสดงความประหลาดใจจากแขกดังกระหึ่ม  แม้แต่ Jack Nicholson ผู้ประกาศผลก็ประหลาดใจเพราะเธอรู้มาจากวงในว่า BM ได้รางวัลนี้



บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 942  เมื่อ 03 ม.ค. 22, 11:17

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 943  เมื่อ 04 ม.ค. 22, 09:27

หลังจาก Moonlight  ในปีต่อมาก็มีหนังเกย์ที่ได้เข้าไปชิงรางวัลหนังยอดเยี่ยมเป็นเรื่องที่ 2 คือ Call me by your name  หนังเล็ก ๆ เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการแสวงหาของวัยรุ่นหนุ่มน้อยชาวอิตาเลียน (ตามท้องเรื่อง) ที่มีความสุขกับชีวิตสดใสและสาว ๆ ในวัยเดียวกัน

วันหนึ่ง  ครอบครัวนักวิชาการของเธอได้ต้อนรับนักศึกษาชาวอเมริกันมาช่วยกันทำงานวิจัย  บุคลิกที่แปลกไม่เหมือนใครในพื้นที่ของนักศึกษาหนุ่มหล่อทำให้วัยรุ่นหนุ่มน้อยชักสับสนว่า  จริง ๆ แล้วฉันต้องการความรักจากใครกันแน่

เป็นหนังถ่ายทำในเมืองบ้านนอกเล็ก ๆ ชื่อ Crema ของอิตาลี  ให้บรรยากาศสงบสวยดูแล้วสบายใจ  ส่วน Soundtracks ของหนังเรื่องนี้ก็เข้ากับบรรยากาศมาก คนทำได้รับเสนอชื่อเข้าชิง Oscar ด้วย




ฉากลาที่เรียบง่ายแต่ประทับใจ (คนดู)   




หนังเล็ก ๆ เรื่องนี้เป็นหนังนอกกระแส  ออกอาละวาดครั้งแรกในงานแสดงหนังนอกกระแสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก Sundance Film Festival ในปี 2017  หลังจากหนังจบคนดูลุกขึ้นตบมือให้กึกก้อง  จากนั้นหนังออกโชว์ตัวตามเทศกาลหนังนานา  ที่งาน New York Film Festival  คนดูลุกขึ้นตบมือให้หลังจากหนังจบนานเกิน 10 นาที  นับเป็นสถิติของงานที่นี่

หนังออกอาละวาดไปเรื่อย ๆ จนเหล่านักวิจารณ์อดพากันสงสัยและไปหามาดูไม่ได้  เมื่อดูแล้วต่างให้คะแนนกันสูงลิบ (นำโดย Rotten Tomatoes จอมขี้เหนียวยังให้คะแนนถึง 94%) 

จากปากต่อปากเป็นเหตุให้หนังสามารถแหวกวงล้อมหนังทุนใหญ่จากค่าย studio เข้าไปประกวดชิงรางวัล Oscar หนังยอดเยี่ยม  ส่วนนักแสดงหนุ่มน้อยได้เข้าชิงดารานำยอดเยี่ยม  อีก 1 สาขา (จากทั้งหมด 4) ที่เข้าชิง (และได้) คือ บทหนังยอดเยี่ยม

ความดังของหนังทำให้วงการท่องเที่ยวของอิตาลีถึงกับจัดโปรแกรมพิเศษพานักท่องเที่ยวชมจุดต่าง ๆ ของเมือง Crema  ที่นำมาเป็นฉากในหนัง

บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 944  เมื่อ 04 ม.ค. 22, 11:25

          หนึ่งบุคคลสำคัญน่ากล่าวถึงสำหรับแวดวงการบันเทิงไทย คือ ผู้กำกับภาพของเรื่องนี้ - สยมภู มุกดีพร้อม
          ได้รับการยกย่องจากสื่อหลายสำนัก จนมีการคาดการว่า น่าจะได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ แต่ ไม่ได้


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 61 62 [63] 64 65 ... 77
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.074 วินาที กับ 19 คำสั่ง