เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 54 55 [56] 57 58 ... 77
  พิมพ์  
อ่าน: 83926 ฉากประทับใจในหนังเก่า (3)
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 825  เมื่อ 20 พ.ย. 21, 08:57

เคยดูหนังเรื่องนี้ค่ะ จะดูจากยูทูปหรือ Netflix  จำไม่ได้แล้ว   จำแม่นแต่ฉากที่สถานีรถไฟและเมืองเล็กๆที่ร้างโรยรา    ดูแล้วก็ห่อเหี่ยว  หดหู่เหมือนดูชีวิตจริงของคน
คุณย่าเล่นเก่งเสียจนเหมือนเรากำลังดูยายแก่จริงๆที่ไม่น่าสนใจแต่ดึงดูดใจ

ดิฉันมาถึงยุคที่ดูหนังดีวิเศษ ยิ่งใหญ่อลังการ หรือตื่นเต้นระทึกใจ ไม่ได้ผลเสียแล้ว   เพราะของจริงมันเหนือกว่านั้น   
ตอนนี้ดูได้อย่างเดียวคือหนัง Hallmark ซึ่งไม่มีอะไรเหมือนชีวิตจริงเลย

https://www.youtube.com/results?search_query=hallmark+movies+2021

ดีใจจังที่มีคนได้ดูหนังเรื่องนี้  อ. น่าจะดูจาก UBC/IBC นะครับ  มาฉายวนอยู่หลายเดือน

ช่วงเทศกาล Christmas ช่อง Hallmark จะสร้างหนังเกี่ยวกับความรักในเทศกาลออกมาบานเลย
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 826  เมื่อ 20 พ.ย. 21, 09:07

ผมชอบ Bette Midler  เธอยิ้มได้หวานมาก เธอเริ่มอาชีพจากการเป็นนักร้องและแสดงตามเวที  มาโด่งดังในฐานะดารา Hollywood เมื่อรับบทอิงชีวิตจริงของ Janis Joplin, ‘Blue eyed rocker’ ที่ดังคับวงการเพลงในตอนปลาย 60s  โด่งถึงขีดสุดแล้วดับทันทีเพราะตายจากการเสพย์ยาเกินขนาดเมื่ออายุได้แค่ 27 ขวบ

บทจากหนังเรื่อง The Rose (1979) ทำให้เธอได้เข้าชิง Oscar พร้อมขึ้นทำเนียบดารา Hollywood เต็มตัว

หนัง The Rose ไม่มาฉายในเมืองไทยเพราะคนไทยน้อยคนที่รู้จัก Janis Joplin  แล้วก็ไม่คุ้นชื่อ Bette Midler  ขืนซื้อมาฉายเป็นเจ๊ง  อย่างไรก็ตามที่มาคือแผ่นเสียง soundtracks ของหนังที่มีเพลงดัง The Rose กระหึ่มอยู่ตาม สถน.วิทยุ




อาชีพดาราของ Bette Midler พุ่งทันที  เธอรับงานดี ๆ หลายเรื่อง  ผมได้ดูเสียส่วนมากและชอบบทตลกของเธอเป็นที่สุด  

ในปี 1987 เธอเล่นหนังเรื่อง Outrageous Fortune เล่าเกี่ยวกับผู้หญิง 2 คน  มีบุคลิกต่างกันคนละขั้ว  ทั้งคู่มีแฟนคนเดียวกันโดยไม่รู้ตัว  วันหนึ่งผู้ชายหายตัวไป  2 สาวเลยต้องรวมการเฉพาะกิจเพื่อตามหา  เพื่อจะพบความจริงที่ไม่ขาดฝันในตัวชายหนุ่ม



เสียดายที่ฉากตลก ๆ ไม่มีเหลือให้ ‘โหลด’ มาให้ชมแล้ว


อีกเรื่องที่ตลกมาก  เป็นเรื่องของคู่แฝดประเภทผิดฝาผิดตัวที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนในเรื่อง Big business (1988)




ฉากสนุกที่สุด


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 827  เมื่อ 20 พ.ย. 21, 09:11

็Hallmark Christmas Romance มักจะมีแนวซ้ำๆกันคือนางเอกเป็นสาวเมืองกรุง  ช่วงคริสต์มาสมีอันต้องเดินทางไปยังเมืองเล็กๆ แล้วก็พบพระเอกที่เบื่อหน่ายเมืองใหญ่ ตั้งถิ่นฐานอยู่ในเมืองนั้น   ก็เลยจบกันด้วยดี
เป็นแนวคล้ายๆนิยายรักของไทยในอดีตเมื่อสัก 70 ปีมาแล้ว  ประเภทพระเอกเป็นเจ้าของไร่ที่ดูไฮโซ  ไม่ใช่ประเภทอ้ายขวัญหรืออ้ายคล้าว   นางเอกเป็นสาวเมืองหลวง
เมืองเล็กประดับประดาด้วยบรรยากาศคริสต์มาส ดูแล้วเพลินดีค่ะ

แต่ในความเป็นจริง ในเมืองเล็กๆช่วงคริสต์มาสเป็นช่วงที่เหงาสำหรับนักเรียนไทย   เพราะฝรั่งเขาฉลองกันในครอบครัว อยู่กันในบ้าน    ถนนหนทางร้างสนิท

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 828  เมื่อ 20 พ.ย. 21, 09:16

หนังอีกเรื่องที่ชอบมากคือ Sister Act  ตั้งชื่อภาษาไทยได้แย่มาก  เลยไม่เอามาลงดีกว่า
เป็นเรื่องนักร้องสาวในไนท์คลับที่มาเจอฆาตกรรมเข้าโดยไม่ทันตั้งตัว ในฐานะพยานเอก ตำรวจต้องเอาเธอไปซ่อนตัวในคอนแวนต์แม่ชีแห่งหนึ่ง โดยปลอมตัวเป็นชี   
หลังจากทุลักทุเลในฐานะชีปลอมอยู่พักหนึ่ง  ก็พบว่าแม่ชีในวัดร้องเพลงประสานเสียงไม่เข้าท่าเลย
เธอก็เลยไปสอนเหล่าแม่ชีให้ร้องเพลง ตามแบบของเธอ  จนขึ้นชื่อลือชาไปถึงองค์สันตปาปาในฉากจบ

มีภาค 2 แต่ไม่สนุกเท่าภาคแรก

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 829  เมื่อ 20 พ.ย. 21, 09:16

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 830  เมื่อ 20 พ.ย. 21, 09:23

หนังอีกเรื่องที่ชอบมากคือ Sister Act  ตั้งชื่อภาษาไทยได้แย่มาก  เลยไม่เอามาลงดีกว่า
เป็นเรื่องนักร้องสาวในไนท์คลับที่มาเจอฆาตกรรมเข้าโดยไม่ทันตั้งตัว ในฐานะพยานเอก ตำรวจต้องเอาเธอไปซ่อนตัวในคอนแวนต์แม่ชีแห่งหนึ่ง โดยปลอมตัวเป็นชี   
หลังจากทุลักทุเลในฐานะชีปลอมอยู่พักหนึ่ง  ก็พบว่าแม่ชีในวัดร้องเพลงประสานเสียงไม่เข้าท่าเลย
เธอก็เลยไปสอนเหล่าแม่ชีให้ร้องเพลง ตามแบบของเธอ  จนขึ้นชื่อลือชาไปถึงองค์สันตปาปาในฉากจบ

มีภาค 2 แต่ไม่สนุกเท่าภาคแรก



เห็นด้วย 100% ครับ
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 831  เมื่อ 20 พ.ย. 21, 09:24

Happy weekend ด้วย Robert Taylor ครับ


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 832  เมื่อ 20 พ.ย. 21, 10:29

เดี๋ยวจะน้อยหน้า  ส่งพระเอกหล่อหยาดฟ้ามาดินในอดีตมาประชันอีกคนค่ะ

ดิฉันไม่ทันดูหนังของ Tyrone Power  น่าจะเกิดไม่ทัน หรือทันก็ยังเล็ก    
จำได้แต่ว่าป.อินทรปาลิต เขียนเกทับว่า เมื่อสามเกลอไปเที่ยวฮอลลีวู้ด   พล พัชราภรณ์หล่อจนข่มไทโรนให้ด้อยลงไปถนัด  

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 833  เมื่อ 22 พ.ย. 21, 08:20

ย้อนหลังไปปี 1961 หรือ พ.ศ. 2504 เมื่อสมาชิกเรือนไทยส่วนใหญ่ยังไม่เกิด   มีหนังวัยรุ่นจากอังกฤษก่อนยุคเดอะบีตเติ้ลส์ที่ทำให้วัยรุ่นไทยคลั่งไคล้พระเอกกันไปพักใหญ่
หนังฉายที่เฉลิมไทย คนดูแน่นโรงทุกรอบ ชื่อ The Young Ones
พระเอกเป็นหนุ่มวัยรุ่นหน้าหวาน ชื่อ Cliff Richard  เป็นดารายอดนิยมของอังกฤษ แต่ในอเมริกาไม่เป็นที่รู้จักกันเท่าใดนัก
ปัจจุบันกลายเป็นคุณปู่  มีคำว่า เซอร์ นำหน้าไปแล้ว

เพลงในยุคนั้น มักเป็นเพลงนิ่มๆ  ร้องออกเสียงชัดถ้อยชัดคำ  ถ้าเป็นเพลงเร็วก็ยังแค่เปล่งเสียงดังๆ แต่ยังฟังรู้เรื่อง  ไม่ได้ตะโกนโหวกเหวกฟังไม่ออกอย่างในยุคหลัง

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 834  เมื่อ 22 พ.ย. 21, 08:23

เพลงดังของเรื่องนี้ 
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 835  เมื่อ 22 พ.ย. 21, 09:15

แสดงว่าดังนาน  ถึงยุคโหน่ง เธอส่งหนังเรื่องนี้มาอาละวาดครับ Take me high (1973)  ไม่ได้ดูในโรง  ฟังแต่เพลง

มาดูทาง UBC

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 836  เมื่อ 22 พ.ย. 21, 09:22

ต่อหนังของ Bette Midler สาวยิ้มหวานอีกนิด...

The First Wives Club (1996)  เป็นอีกเรื่องที่เธอแสดงเป็น 1 ใน 3 เพื่อนนักเรียนสมัยมหาวิทยาลัยที่ไม่ได้เจอกันมานาน พวกเธอมาพบกันในงานศพเพื่อนสนิทในกลุ่มคนที่ 4  แล้วเรียนรู้ว่าแต่ละคนมีผัวซังกะบ๊วยกันทั้งนั้น  เธอ ๆ ก็มารวมตัวกันในงานเฉพาะกิจเพื่อหาทางแก้แค้น




เป็นหนังเบา ๆ ที่ดูแล้วสนุกดี  BM แสดงบทตลกตามถนัด  ลื่นไหลจนเป็นจุดเด่นเช่นฉากนี้

(สังเกตแว่นตาของ Dianne Keaton ตอนเธอตกใจสุดขีด (0.15) ไม่รู้ตั้งใจรึเปล่า)


มีฉากร้องเพลงตามเคย  เอาเพลงดังของ Leslie Gore ของร้อง


ย้อนหลังไป 3 ปี  มีหนังของ BM มาฉายชื่อ Hocus Pocus  เกี่ยวกับความอลวนในคืนวัน Halloween  ตอนออกฉายนักวิจารณ์บอกว่างั้น ๆ   นักดูหนังที่ฟังเสียงวิจารณ์ก็เลยไม่ค่อยไปดูกัน  ส่งผลให้ Disney ขาดทุนไปกับหนังเรื่องนี้




แต่ทาง Studio ไม่ยอมแพ้  เอาหนังไปลงทางทีวีในช่องของตัวเองอยู่เนือง ๆ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล Halloween  ผลก็คือหนังกลายเป็นส่วนประกอบอย่างหนึ่งสิ่งที่ทุกคนต้องขวนขวายหามาดูในช่วง Halloween  (เหมือนหนัง It’s a wonderful life (1946) ที่มีอิทธิพลของชาวคริสต์ในช่วง Christmas)

โดยส่วนตัว  ผมว่าหนัง Hocus Pocus สนุกมาก (หรือเป็นเพราะตอนนั้นคลั่งเธออยู่ก็ไม่รู้)  มีมุขตลก ๆ เพียบ  ผมชอบมุขช่วงที่เหล่าแม่มดขี่ไม้กวาดออกบินไปในอากาศ  แต่มีแม่มดตนหนึ่งหาไม้กวาดไม่ได้  เธอเลยไปคว้าเครื่องดูดฝุ่นมาขี่แทน




ผมว่าจุดเด่น (ตามเคย) อยู่ที่ฉากร้องเพลงของของเธอ  จากที่สังเกต หนังทุกเรื่องของ BM ที่ดูมา  ต้องมีฉากแสดงการร้องเพลงของเธอเสมอ



สำหรับตัว BM นั้น  อย่างไรก็ตามปรากฏว่าบทที่นักวิจารณ์ชื่นชมมากกลับเป็นบทหนัก ๆ  อย่างในเรื่องแรกที่เล่าไปแล้ว  แล้วก็เรื่องนี้ For the boys (1991) ที่ทำให้เธอได้เข้าชิง Oscar เป็นครั้งที่ 2  ผมชอบหนังเรื่องนี้มาก  เข้าฉายที่สยามเซ็นเตอร์ในยุคที่ชอบสร้างโรงหนังเล็ก ๆ ไม่ก็เอาโรงหนังใหญ่ ๆ มาหั่นเป็นโรงย่อย ๆ (จะได้โกยเงินเยอะ ๆ)

หนังเรื่องนี้ยาวแต่ไม่รู้สึกเบื่อเลย  ในเรื่องนี้นอกจากจะโชว์ฝีมือการแสดงแล้ว  ยังโชว์เสียงร้องที่เพราะมาก ๆ




นี่เป็นฉากต้นเรื่อง  BM เธอเล่าเรื่องย้อนไปในอดีตตอนที่เธอยังสาว
ในฉากห้องอัดเสียง  สาวคนกลางคือ Melissa Manchester นักร้องดัง (ไม่มาก) อีกคนหนึ่งของวงการ  เพลงที่คนไทยรู้จักดีคือ Through the eyes of love กับ Don't cry out loud
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 837  เมื่อ 23 พ.ย. 21, 07:42

คุณโหน่งกับคุณหมอSILA  น่าจะเคยดูหนัง The Others (ปี 2001)ที่แสดงนำโดยนิโคล คิดแมน   สมาชิกท่านอื่นๆอาจเคยดูเช่นกัน
จะพูดถึงหลอนมันก็หลอน แต่ไม่หลอนโหดเท่าหนังบางเรื่องที่ผีออกมาทุก 3 นาที     ที่ชอบคือเขาสร้างบรรยากาศเงียบเหงาวังเวงของบ้านใหญ่ เต็มไปด้วยหมอกห่อหุ้มอยู่นอกบ้านทุกหนทุกแห่ง เหมือนอยู่ในอีกโลกหนึ่ง    ทั้งๆมันไม่มีอะไร  ก็เหมือนมี "อะไร" ทุกย่างก้าว
ความลับของคนใช้ทั้งสามในเรื่องก็สุดยอด
และที่ชอบคือการเฉลยตอนจบ  หักมุมได้ไม่ซ้ำใคร


บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 838  เมื่อ 23 พ.ย. 21, 08:38

คุณโหน่งกับคุณหมอSILA  น่าจะเคยดูหนัง The Others (ปี 2001)ที่แสดงนำโดยนิโคล คิดแมน   สมาชิกท่านอื่นๆอาจเคยดูเช่นกัน
จะพูดถึงหลอนมันก็หลอน แต่ไม่หลอนโหดเท่าหนังบางเรื่องที่ผีออกมาทุก 3 นาที     ที่ชอบคือเขาสร้างบรรยากาศเงียบเหงาวังเวงของบ้านใหญ่ เต็มไปด้วยหมอกห่อหุ้มอยู่นอกบ้านทุกหนทุกแห่ง เหมือนอยู่ในอีกโลกหนึ่ง    ทั้งๆมันไม่มีอะไร  ก็เหมือนมี "อะไร" ทุกย่างก้าว
ความลับของคนใช้ทั้งสามในเรื่องก็สุดยอด
และที่ชอบคือการเฉลยตอนจบ  หักมุมได้ไม่ซ้ำใคร




เห็นด้วยทุกประการครับ  จำได้ว่าทางต้นสังกัดขอร้องไม่ให้คนนำตอนจบมาเฉลยไม่ว่าจะลงใน youtube หรือ ปากต่อปาก  หรือถ้าจะมีคนเล่าก็ขอให้อย่าไปฟัง  คนร่วมมือกันพร้อมเพรียง  แม้แต่ในเมืองไทย  ก็ไม่มีข่าวรายละเอียดตอนจบแพลมออกมาเลย
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 839  เมื่อ 23 พ.ย. 21, 08:46

ปี 1984 สร้างประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งบนเวที Oscar เมื่อ ดารานำหญิงเข้าชิงรางวัลจากบทผู้หญิงแกร่งเหมือนกัน 3 คน ขับเคี่ยวกันว่าใครจะคว้ารางวัลได้ระหว่าง

Jessica Lange ใน Country เกี่ยวกับผัวเมียชาวไร่ที่ต้องดิ้นรนเพื่อหาทางรอดให้กับครอบครัวของตน




Sissy Spacek ใน The River เกี่ยวกับครอบครัวชาวไร่ที่ต้องต่อสู้กับพายุอันรุนแรงที่พร้อมจะกลืนผืนดินทำมาหากินของตัวเอง

ในหนังมีอยู่ฉากหนึ่ง เกิดขึ้นกับผัวเมีย SS กับ Mel Gibson  เมื่อ MG หัวเสียแล้วหน้างอกลับมาขึ้นรถ  SS จ้องมองเงียบ ๆ จน MG รู้สึกตัวเลยหันมาแว้ดว่า  มองทำไม  SS บอกว่า ‘เวลาเธอโมโหนี่  หล่อที่สุด’  ไม่มีใครนำฉากนี้มาลงให้ดู  คงละเอียดเกินไป  ไม่รู้ว่าเป็นไปตามบทหรือว่า SS ทำโจ๊กเพราะ MG ทำหน้างงแบบ หลุด  (ในฉากที่ว่า MG หล่อจริง ๆ)




ส่วนคนที่ 3 คือ Sally Fields (หรือซิสเตอร์ เบอร์ทรีล ใน แม่ชีกายสิทธิ์) ใน Places in the Heart เกี่ยวกับหญิงหม้ายที่ผัวตายโดยกะทันหัน  ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาผืนดินบ้านเกิดของตน  โดยมีตัวช่วยคือ ชายตาบอด กับ หนุ่มผิวดำ




หนังเรื่องหลังนี้เรื่องเดียวที่มาฉายในเมืองไทย  ซึ่งหลังจาก ในที่สุด ได้ดูครบทั้ง 3 เรื่อง (อีก 2 เรื่องดูทาง VDO)  สรุปเป็นการส่วนตัวว่า Places in heart สนุกสุด  คะแนนเป็นต่ออยู่ที่เป็นหนังย้อนยุค เรื่องราวเกิดขึ้นในยุค 30s  ร้อนระอุไปด้วยการแบ่งสีผิวและความเถื่อน

ฉากเริ่มต้น



หน้าที่ทำโทษลูกเป็นของพ่อ  แต่ตอนนี้พ่อไม่อยู่แล้ว



ฉาก Tornado กระหน่ำ  ตื่นเต้นมาก



ฉากจบทำได้เลิศมาก  ตัวละครทุกตัวทั้งที่ตายไปแล้วตั้งแต่เริ่มเรื่องเป็นต้นมาและที่ยังมีชีวิตอยู่ต่างมารวมตัวกันในโบสถ์  ขนลุก


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 54 55 [56] 57 58 ... 77
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.06 วินาที กับ 19 คำสั่ง