เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 52 53 [54] 55 56 ... 77
  พิมพ์  
อ่าน: 84177 ฉากประทับใจในหนังเก่า (3)
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 795  เมื่อ 12 พ.ย. 21, 09:13

หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่อยากดูมากสมัยเข้าโรงฉาย  แต่จะด้วยอะไรจำไม่ได้ พลาดไปไม่ได้ดู แต่ก็ยังไปซื้อรูป ออเดรย์ในชุดราตรีดำมาเก็บเอาไว้หลายปี  ผ่านไปหลายสิบปี จนยูทูปถือกำเนิดในโลกเสมือนจึงได้ดูสมใจ
ดูแล้วผิดหวัง  สวนทางกับความรู้สึกของคุณโหน่ง ค่ะ

อย่างแรกคือออเดรย์สวยน่ารักมาก  ตั้งใจเล่นมาก  ฝีมือเธอแสดงหายห่วงได้    แต่ปัญหาคือเธอไม่สามารถทำให้ดิฉันเชื่อได้ว่าเธอคืออดีตเด็กสาวบ้านนอก  ที่หนีผัวตาแก่คราวพ่อมาเป็นสาวสังคมกลางคืนในนิวยอร์ค
อาชีพเธอถึงไม่ได้บอกตรงๆมันก็รู้ว่าคืออะไรน่ะแหละ  
อ่านพบว่าบทนี้เดิมตั้งใจจะให้มาริลีน มอนโรเล่น   ถ้าได้คนนี้ละใช่เลย    ออเดรย์ดูเป็นผู้ดีเกินไป  เซกซี่น้อยไป  ดูเป็นองค์หญิงแปลงกายมาเป็นคุณโสเสียมากกว่า
ส่วนจอร์ช เปบปาร์ดก็เช่นกัน  หล่อสำอางมาก ดูสุขสมบูรณ์เป็นคุณชายบ้านทรายทอง เกินกว่าจะเหมาะกับบทนักเขียนถังแตก    พระเอกน่าจะดูบ้านๆ  จืดๆ หน้าซีดๆ(เพราะไม่ค่อยมีกิน) มากกว่านี้
เห็นว่าในเวอร์ชั่นหนังสือหรืออะไรที่มีมาก่อนหนังเรื่องนี้  ตอนจบฮอลี่ โกไลท์ลี่ปฏิเสธความรักของหนุ่ม เพราะเขายากจน ไม่มีทางตอบสนองความฝันหรูเริ่ดของเธอได้     มันสมจริงมากกว่าจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งในหนังค่ะ

ส่วนเพลง Moon River  ติดใจกับเสียงของ Andy Williams ไปแล้ว  เลยรู้สึกว่าในหนัง นางเอกร้องเพลงเสียงไม่เพราะเลย  

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 796  เมื่อ 12 พ.ย. 21, 09:21

ประมาณเดียวกับ Deborah Kerr กับ Lana Turner

ดาราสาวทั้งสอง สวยแบบเดียวกัน คือเฉิดฉายสไตล์เซกซี่แบบผู้ดี เลดี้เจ้าของคฤหาสน์  จะไปรับบทโทรมๆเป็นป้าบ้านนอกคอกนา ขุดดินฟันหญ้าก็ไม่เหมาะ   รับบทโรคจิตก็ไม่เหมาะ


บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 797  เมื่อ 13 พ.ย. 21, 09:08

หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่อยากดูมากสมัยเข้าโรงฉาย  แต่จะด้วยอะไรจำไม่ได้ พลาดไปไม่ได้ดู แต่ก็ยังไปซื้อรูป ออเดรย์ในชุดราตรีดำมาเก็บเอาไว้หลายปี  ผ่านไปหลายสิบปี จนยูทูปถือกำเนิดในโลกเสมือนจึงได้ดูสมใจ
ดูแล้วผิดหวัง  สวนทางกับความรู้สึกของคุณโหน่ง ค่ะ

อย่างแรกคือออเดรย์สวยน่ารักมาก  ตั้งใจเล่นมาก  ฝีมือเธอแสดงหายห่วงได้    แต่ปัญหาคือเธอไม่สามารถทำให้ดิฉันเชื่อได้ว่าเธอคืออดีตเด็กสาวบ้านนอก  ที่หนีผัวตาแก่คราวพ่อมาเป็นสาวสังคมกลางคืนในนิวยอร์ค
อาชีพเธอถึงไม่ได้บอกตรงๆมันก็รู้ว่าคืออะไรน่ะแหละ  
อ่านพบว่าบทนี้เดิมตั้งใจจะให้มาริลีน มอนโรเล่น   ถ้าได้คนนี้ละใช่เลย    ออเดรย์ดูเป็นผู้ดีเกินไป  เซกซี่น้อยไป  ดูเป็นองค์หญิงแปลงกายมาเป็นคุณโสเสียมากกว่า
ส่วนจอร์ช เปบปาร์ดก็เช่นกัน  หล่อสำอางมาก ดูสุขสมบูรณ์เป็นคุณชายบ้านทรายทอง เกินกว่าจะเหมาะกับบทนักเขียนถังแตก    พระเอกน่าจะดูบ้านๆ  จืดๆ หน้าซีดๆ(เพราะไม่ค่อยมีกิน) มากกว่านี้
เห็นว่าในเวอร์ชั่นหนังสือหรืออะไรที่มีมาก่อนหนังเรื่องนี้  ตอนจบฮอลี่ โกไลท์ลี่ปฏิเสธความรักของหนุ่ม เพราะเขายากจน ไม่มีทางตอบสนองความฝันหรูเริ่ดของเธอได้     มันสมจริงมากกว่าจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งในหนังค่ะ

ส่วนเพลง Moon River  ติดใจกับเสียงของ Andy Williams ไปแล้ว  เลยรู้สึกว่าในหนัง นางเอกร้องเพลงเสียงไม่เพราะเลย  



อ่านแล้วมานึกย้อนกลับไป  เห็นด้วยกับ อ. หมดทุกข้อเลยครับ  ตอนดูโหน่งคง 'อิน' กับหนังจนลืมความเสมือนจริง
ถ้าอยู่ในวงการหนัง อ. ต้องเป็นไม่ Producer ก็ Director  โหน่งเป็นได้แค่ Actor   ยิ้ม

แล้วนึกถึงกาลครั้งหนึ่ง  โหน่งซื้อ dvd หนังชุดเรื่อง The Tudors (2007)  มี 4 seasons  
คงเข้าอีหรอบนี้  คือดูแล้วชอบมาก  
โทร. คุยกับพี่มนันยา  เธอขอดูบ้าง
หายไปแป๊บนึง เธอเอามาคืนบอกว่า  รับไม่ได้  เรื่อง casting นักแสดง

ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลยแฮะ  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 798  เมื่อ 13 พ.ย. 21, 09:19

วันหนึ่งผมได้ดูหนังเรื่อง Love Field (1992)  เป็นหนังย้อนยุค (ของโปรดของผม) เล่าเรื่อง สาวนักทำผมชาวใต้ที่คลั่งไคล้ประธานาธิบดี Kennedy เป็นอย่างยิ่ง  พอรู้ข่าวว่าประธานาธิบดีโดนสังหารเธอก็ตัดสินใจออกเดินทางไกลไปร่วมงานศพ  ระหว่างการเดินทางเธอพบพ่อลูกผิวดำคู่หนึ่งที่ส่งอิทธิพลต่อจุดประสงค์ในการเดินทางครั้งนี้ของเธอ




บรรยากาศของหนังเบา ๆ  องค์ประกอบของการสร้างแบบย้อนยุคสวยมาก  ทั้งวิว รถรา (สวย ๆ ทั้งนั้น) รวมถึงเพลง ฯลฯ  

Michelle Pfeiffer สวยสะเด็ด  เธอได้เข้าชิง Oscar จากบทนี้

หมายเหตุ: หนังชื่อ Love Field  ตอนแรกผมคิดว่าเป็นหนังรัก  แต่เปล่า Love Filed เป็นชื่อสนามบินของเมือง Dallas (ก่อนจะเปลี่ยนสถานที่ในปี 1974)

ความโกลาหลหลังจากเกิดเหตุร้าย  (ผมตะลึงลานกับรถสวย ๆ)



เจอพ่อลูกผิวดำ  ก่อนเกิดเรื่องโกลาหล



ผมเคยก็อปปี้ฉากที่คุณพ่อผิวดำขโมยรถ  ซึ่งจี้มาก  ความที่เป็นคนดี  เธอไม่อยากขโมยรถชาวบ้าน  เลยไปขโมยรถที่กำลังซ่อมอยู่มาขับหนีตำรวจ  เป็นฉากที่จี้ที่สุด  ตอนนี้หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ เฮ้อ...
(ตอนที่ 0.30)




บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 799  เมื่อ 13 พ.ย. 21, 09:38

คุณโหน่งและคุณหมอ SILA  น่าจะเคยดูหนังตลกล้อเลียนประธานาธิบดี ชื่อ Dave  ปี 1993 

 Kevin Kline เล่นเป็นเดฟ  เจ้าของสำนักงานหางานที่มีจ๊อบพิเศษ รับจ้างแสดงโชว์ล้อเลียนตัวประธานาธิบดี บิลล์ มิตเชล เพราะหน้าตาคล้ายกันมาก
จนกระทั่งถูกหน่วยราชการลับของทำเนียบขาวจ้างให้ไปแสดงตัวแทนประธานาธิบดีตัวจริง ชั่วคราว    ตัวจริงอยู่ในภาวะโคม่า จากน็อคกะทันหันขณะกำลังจู๋จี๋กับสาวพนักงานทำเนียบขาว      เดฟได้สร้างสรรค์สิ่งดีๆหลายอย่างในนามประธานาธิบดี จนหมดเวลาของเขา ต้องอำลากลับไปอยู่บ้านเดิม
แต่ก็ไม่มือเปล่าเสียทีเดียว เพราะสตรีหมายเลข 1  แสดงโดยซิกกอนีย์ วีเวอร์  ที่รู้คุณค่าของเดฟกว่าดีกว่าสามีเธอขนาดไหน ได้ตามมาสมัครงานที่สำนักงานของเขาด้วย

เรื่องนี้เสียดสีประธานาธิบดีได้เจ็บๆคันๆดีค่ะ

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 800  เมื่อ 14 พ.ย. 21, 08:56

คุณโหน่ง คุณหมอ SILA และท่านอื่นๆในเรือนไทยคงเกิดไม่ทันหนัง The  Prince and the Showgirl ปี  2500   คือ 64 ปีมาแล้ว
ดาราคือมาริลีน มอนโร  กับดาราใหญ่ เซอร์ลอเรนซ์ โอลิเวียร์
เป็นซินเดอเรลลาที่จบลงแบบสมจริงกว่าเทพนิยาย

บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 801  เมื่อ 14 พ.ย. 21, 09:54

        รุ่นหลังๆ ต้องเรื่องนี้

ปล. (เ)ขาว่า - สองขาในโปสเตอร์นี้ที่แท้เป็นขาของนางแบบขา


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 802  เมื่อ 15 พ.ย. 21, 08:07

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 803  เมื่อ 15 พ.ย. 21, 08:43

คุณโหน่งและคุณหมอ SILA  น่าจะเคยดูหนังตลกล้อเลียนประธานาธิบดี ชื่อ Dave  ปี 1993 

 Kevin Kline เล่นเป็นเดฟ  เจ้าของสำนักงานหางานที่มีจ๊อบพิเศษ รับจ้างแสดงโชว์ล้อเลียนตัวประธานาธิบดี บิลล์ มิตเชล เพราะหน้าตาคล้ายกันมาก
จนกระทั่งถูกหน่วยราชการลับของทำเนียบขาวจ้างให้ไปแสดงตัวแทนประธานาธิบดีตัวจริง ชั่วคราว    ตัวจริงอยู่ในภาวะโคม่า จากน็อคกะทันหันขณะกำลังจู๋จี๋กับสาวพนักงานทำเนียบขาว      เดฟได้สร้างสรรค์สิ่งดีๆหลายอย่างในนามประธานาธิบดี จนหมดเวลาของเขา ต้องอำลากลับไปอยู่บ้านเดิม
แต่ก็ไม่มือเปล่าเสียทีเดียว เพราะสตรีหมายเลข 1  แสดงโดยซิกกอนีย์ วีเวอร์  ที่รู้คุณค่าของเดฟกว่าดีกว่าสามีเธอขนาดไหน ได้ตามมาสมัครงานที่สำนักงานของเขาด้วย

เรื่องนี้เสียดสีประธานาธิบดีได้เจ็บๆคันๆดีค่ะ

เรื่องนี้อยู่ในเหตุการณ์ตลอดเพราะอ่านจาก SP ตั้งแต่เนื้อเรื่อง  วิจารณ์  วันฉาย/ตัวอย่าง (ทางทีวี)  แต่ก็ไม่ได้ดูครับ

เหตุผลส่วนตัว คือ ไม่ถูกชะตากับ SW ครับ
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 804  เมื่อ 15 พ.ย. 21, 08:53

จากประสบการณ์  ตอนเด็ก ๆ หนังจากค่าย Walt Disney จะมาลงโรงฮอลลีวู้ดเป็นขาประจำ  (แต่ตอนดู The sword in the stone หนังฉายที่โรงแกรนด์ คงจะก่อนประเพณีนี้มั้งผมเดาเอา) ผมจำไม่ได้ว่าโรงฯ รับเฉพาะหนังเด็กจากค่ายนี้หรือค่ายอื่น ๆ ด้วย

ค่ายอื่น ๆ ก็มีหนังเด็กประปราย  โดยเฉพาะหนังที่เรียกว่า stop motion model animation ของ Ray Harryhausen เช่น อภินิหารขนแกะทองคำ คาวบอยผจญไดโนเสาร์ (จำชื่อไทยได้ 2 เรื่อง) Jason and the Argonauts  แล้วก็ Sinbad ตอนต่าง ๆ มากมาย  มาจบที่ Clash of the Titans ที่มาฉายตอนผมโตสามารถไปดูคนเดียวได้เอง  หนังพวกนี้ถ้าจำไม่ผิดไปลงโรงที่อื่นเช่น เมโทร หรือ พาราเมาท์

หนังของ RH สนุกสุดขีดสำหรับเด็ก ๆ ที่อุดมไปด้วยจินตนาการอย่างผมจริง ๆ  ได้ดู ยักษ์ตาเดียว (Cyclops), ตัวมังกรหลายหัว (Hydra), เจ้าแม่กาลี, โครงกระดูกฟันดาบ, นางเมดูซ่า หรือ ปูยักษ์ ไข่นกยักษ์ ฯลฯ




กลับมาที่หนังของค่าย WD  เท่าที่จำได้หนังฝรั่งเรื่องแรก ๆ ในชีวิตที่ได้ดูคือ  หนังแมวน้ำแสนรู้ Sammy, the way-out seal




พอ อตน. ถือกำเนิดให้ผมสามารถค้นหาข้อมูลที่ค้างคามาแต่อดีตได้  ผมใช้เวลานานมากกว่าจะหาข้อมูลหนังเรื่องแมวน้ำนี้  เพราะจำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่ชื่อไทย  จำได้แต่ฉากแมวน้ำเข้าไปป่วนใน supermarket

ในที่สุดผมก็ค้นพบหนังที่ว่าว่าชื่ออะไร ข้อมูลบอกว่าหนังออกฉายในปี 1962  พอรู้แล้วก็ประหลาดใจว่าปีนั้น  อายุผมยังไม่ถึง 5 ขวบเลย  ผู้ปกครองคิดอย่างไรถึงพาไปดูหนัง  ผมว่าตอนนั้นอย่าว่าแต่พูดฟังภาษาไทยเลย  พูดฟังภาษาคนผมยังไม่ค่อยจะเป็นประสาด้วยซ้ำ  แล้วจะไปดูหนังฝรั่งอ่านบรรยายไทยรู้เรื่องได้อย่างไร 

อย่างไรก็ตามผมยังอุตส่าห์จำบางฉากได้

สมัยก่อนมีคนนำ clip ย่อย ๆ ของหนังเรื่องนี้มาปล่อย รวมถึงฉากป่วนใน supermarket  ผมยังก็อปปี้เก็บไว้  แต่ตอนนี้ clip พวกนี้หายไปหมดแล้ว

บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 805  เมื่อ 15 พ.ย. 21, 11:01

            ยุคโน้นนานโพ้น, โรงรุ่นหลังๆ รวมทั้งฮอลลีวู้ดยังไม่เกิด, หนังดังๆ จะเข้าฉายที่สามโรง ณ วังบูรพา,เฉลิมไทย,เฉลิมกรุง,
โอเดียน การ์ตูนของดิสนีย์ก็เข้าฉายที่เฉลิมไทย,แกรนด์
            หนังในตำนานของ เรย์ แฮร์รีเฮาเซน กับเทคนิคเคลื่อนไหว SM ของสัตว์ประหลาดทั้งหลาย เป็นที่ตื่นตาและติดตาผู้ชม
สมัยนั้นและกล่าวขวัญถึงต่อๆ มา รวมถึงเรื่อง (Cowboys Battle Monsters in) The Valley of Gwangi
เชิญร่วมรำลึก 100 ปีชาตกาล “เรย์ แฮร์รีเฮาเซน”(1920-2013) ที่

https://www.matichonweekly.com/column/article_380141


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 806  เมื่อ 15 พ.ย. 21, 11:54

ตื่นเต้นทุกคราเมื่อเห็นสัตว์ประหลาดของ Ray Harryhausen ในโรงภาพยนตร์เมื่อครั้งยังเป็นเด็กน้อย ยิงฟันยิ้ม

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 807  เมื่อ 15 พ.ย. 21, 12:21

เรื่องนี้เป็นเรื่องโปรดค่ะ  ดูตอนเด็ก   ยังกลัวเจ้ายักษ์ยางในเรื่องไม่หาย ทั้งๆรุ้ว่าเป็นแค่ตุ๊กตา
เมื่อเขาผลิตเป็นเทปวิดีโอคาสเส็ตต์ เอามาให้เด็กน้อยในบ้านดู   เด็กน้อยเลยกลัวสัตว์ประหลาดมาจนโต


บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 808  เมื่อ 16 พ.ย. 21, 09:43

ในปี 2013 มีการนำเรื่องนี้มาสร้างใหม่  ใส่ plot และ special effects ให้ตื่นตาตื่นใจขึ้นแล้วตั้งชื่อว่า Jack, the giant slayer
สนุกตามประสาเด็กฝันเฟื่องครับ


บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 809  เมื่อ 16 พ.ย. 21, 09:48

คุยต่อ...

อีกเรื่องที่มาฉายทีหลังแต่หาข้อมูลได้ยากกว่าเรื่องแรกมากเพราะไม่มีอะไรเชื่อมกับชื่อภาษาอังกฤษต้นฉบับได้เลย  เรื่องแรกยังมี keywords เช่น แมวน้ำ หรือ supermarket

ส่วนเรื่องหลังนี่ผมจำได้ว่าชื่อไทยคือ วิมานคนแคระ  คำว่า คนแคระ ถ้าเป็นภาษาอังกฤษก็ ‘dwarf’ หรือ ‘midget’ อะไรทำนองนี้  ผมหาอยู่เป็นนานทั้งทางรายชื่อหนังของ WD ฯลฯ  ในที่สุดวันหนึ่งผมก็เจอ  ชื่อหนังภาษาอังกฤษมีว่า ‘The Gnome-Mobile’  มิน่าหาเท่าไรก็ไม่เจอ  ไม่มีคำไหนเกี่ยวโยงถึงคำภาษาอังกฤษที่แปลเป็นไทยว่า คนแคระ หรือ วิมาน อะไรเลย

อย่างไรก็ตามนี่เป็นหนังสุดโปรดของผมเลย  ที่ติดอยู่ในความทรงจำคือ ฉากเลือกคู่  สนุกและลุ้นจนนั่งไม่ติด  ในหัวสมองของเด็กอายุไม่ถึง 10 ขวบ (หนังฉายปี 1967) มันช่างเหมือนจริงชะมัด  กลับไปถึงบ้านผมต้องรีบไปดูในพงหญ้าหลังบ้านคุณยายว่าจะมีคนแคระหลบอยู่บ้างรึเปล่า



เด็ก 2 คนนี้ถ้าคุ้นหน้าก็เพราะเคยเล่นด้วยกันใน Mary Poppins มาก่อน


หมายเหตุ – ก่อนหน้านี้ก็มีหนังทำนองนี้ของ WD เรื่อง Darby O'Gill & The Little People แต่ผมไม่น่าจะได้ดูเพราะยังกำลังตั้งไข่อยู่  ผู้ปกครองคงยังฉุกคิดได้บ้าง  หนังเรื่องนี้ผมมาดูทาง IBC  เห็น Sean Connery ตอนหนุ่มซึ่งหล่อเฟี้ยว


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 52 53 [54] 55 56 ... 77
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.047 วินาที กับ 19 คำสั่ง