เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33584
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 405 เมื่อ 31 ธ.ค. 19, 16:47
|
|
ฉากไตเติ้ลของเรื่องคือฉากที่โลลิต้ายื่นเท้าให้พ่อเลี้ยงทาเล็บเท้าให้ เป็นฝีมือของผู้กำกับที่แสดงความสัมพันธ์ของคนทั้งสอง ผ่านการกระทำเล็กๆที่ไม่ต้องมีคำพูดสักคำ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33584
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 406 เมื่อ 01 ม.ค. 20, 08:54
|
|
หลังจากดังระเบิดในบทสาวน้อยเซกซี่ บทนี้ก็เลยตรึงติดอยู่กับตัวซู ไลออน 2 ปีต่อมา เธอมาเล่นหนัง The Night of the Iguana ก็ได้บทสาววัยรุ่นยั่วยวนชายวัยกลางคน รับบทโดยริชาร์ด เบอร์ตัน อีก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33584
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 407 เมื่อ 01 ม.ค. 20, 09:11
|
|
ซูยังมีหนังให้เล่นมาอีกเรื่อยๆตลอดช่วง 1960s แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าเรื่องแรก ชื่อเสียงค่อยๆตกลงในช่วง 1970s จนต้องไปเล่นหนังเกรดบี แล้วจบลงในหนังเรื่องสุดท้ายเมื่อปี 1980 หลังจากนั้นเธอก็อำลาวงการไป
ด้านชีวิตส่วนตัว ซูก็มีปัญหาไม่น้อย แต่งงาน 5 หน หย่าทั้ง 5 หน หนึ่งในจำนวนนี้เป็นนักกีฬาผิวดำ มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน ส่วนสามีอีก 1 คนก็เจอกันขณะเขาเป็นอาชญากรติดคุกข้อหาฆ่าและปล้น แต่เธอก็ยังแต่งงานด้วย จนมาหย่ากันทีหลัง เพราะเขากลับไปปล้นอีก
ซูป่วยเป็น bipolar มาตั้งแต่ยังสาว ถึงแก่กรรมเมื่ออายุ 73 ปี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33584
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 408 เมื่อ 11 ม.ค. 20, 10:35
|
|
เคยพูดถึงดาวดวงเล็กดวงนี้มาแล้วในกระทู้หนึ่ง บัดนี้เขาดับลับฟ้าไปแล้วในวัย 87 ปี ชื่อเอ๊ด เบิร์นส์ (Edd Byrnes) เอ๊ดเริ่มต้นด้วยเป็นนักแสดงประกอบเล็กๆ ในหนังนักสืบทางทีวีเรื่องยาว ชื่อ 77 Sunset Strip เป็นหนังฮิท ยาวนานถึง 6 ปี ในตอนแรกหนุ่มวัย 25 คนนี้ไม่มีบทอะไร นอกจากโผล่มาตอนไตเติ้ลเป็นพนักงานประจำลานจอดรถของสำนักงานนักสืบ และได้แสดงเป็นผู้ร้ายใน 1 ตอนของช่วงนำเรื่อง แต่รูปร่างหน้าตาและท่าหวีผมที่เอ๊ดคิดค้นขึ้นมา กลายเป็นท่าฮิทระเบิดเถิดเทิง จดหมายสาวๆ นับหมื่นต่อสัปดาห์หลั่งไหลเข้าไปที่โรงถ่ายวอเนอร์ เพื่อส่งถึงนักแสดงประกอบโนเนมคนนี้ ทำเอาผู้สร้างหนังชุดต้องรีบหาบทแสดงนำให้เขาในหนังทีวีเรื่องนี้ กลายเป็นดารานำคนหนึ่งในเรื่อง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33584
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 409 เมื่อ 11 ม.ค. 20, 10:37
|
|
ดูฉากเปรี้ยวสุดเมื่อ 50 กว่าปีก่อนแล้วอย่าเพิ่งหัวเราะนะคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33584
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 410 เมื่อ 11 ม.ค. 20, 10:39
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33584
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 411 เมื่อ 11 ม.ค. 20, 21:41
|
|
ชีวิตของเอ๊ด เหมือนซินเดอเรลลาชาย ถือกำเนิดในครอบครัวยากจน พ่อติดเหล้่า แม่ต้องเป็นฝ่ายหาเลี้ยง ตัวลูกๆเองก็เติบโตมาอย่างยากจนค่นแค้น ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงตัวเองเมื่อออกจากโรงเรียนแล้ว เอ๊ดเป็นเด็กหนุ่มรูปหล่อ มีเสน่ห์ในตัว เมื่ออายุ 17 ก็มีคนชวนไปถ่ายแบบเป็นนายแบบภาพ"หวิว" ในตอนนั้นเองเอ๊ดเริ่มรู้จักลูกค้าชายกระเป๋าหนักหลายคนที่ถูกตาต้องใจเด็กหนุ่มอย่างเขา จนเอ๊ดกลายเป็น"เกรดเอ" คนหนึ่งในแวดวงค้ากาม หนึ่งในลูกค้าไฮโซจำนวนนี้ชักนำให้เอ๊ดก้าวไปสู่อาชีพการแสดง อดีตของเขาถูกเจ้าตัวบันทึกไว้ในหนังสืออัตชีวประวัติ
บทเล็กๆที่ได้รับนำความสำเร็จมาแบบไม่คาดฝัน กลายเป็นซินเดอเรลลาชายไปในพริบตา แม้ว่าร้องเพลงไม่เป็นสับปะรด เพลง Kookie, Kookie, Lend Me Your Comb ฟังเหมือนหนุ่มสาวบ่นอะไรกัน ก็กลับทะยานขึ้นถึงอันดับ 4 ในบิลบอร์ด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33584
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 412 เมื่อ 11 ม.ค. 20, 21:52
|
|
เอ๊ดได้อัดแผ่นหลายเพลง เพราะเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง จนบริษัทต้องรีบตีเหล็กเมื่อร้อน โชว์เขาต่อคนดูทุกวิถีทาง น่าเสียดาย แม้ว่าดัง แต่เขาก็ถูกสัญญากับบริษัทวอเนอร์เจ้าของหนังชุดทางทีวีมัดตัวไว้กระดิกกระเดี้ยไม่ได้ เขาติดอยู่ที่นี่โดยไม่มีโอกาสจะเล่นหนังใหญ่ เท่ากับโอกาสจะเป็นดาราใหญ่หลุดลอยไปอย่างน่าเสียดาย กว่าจะเป็นอิสระ อายุเขาก็มากเกินกว่าจะเป็นไอดอลของคนดูวัยรุ่นอีกแล้ว เอ๊ดจึงออกจากอเมริกาข้ามทวีปไปเล่นหนังอิตาเลียน ที่กำลังผลิตหนังคาวบอยเป็นล่ำเป็นสัน โดยจ้างดาราฮอลลีวู้ดไปประกบดาราอิตาเลียน แล้วขายเป็นสินค้าไปทั่วโลก
หมดยุคคาวบอยมักกะโรนี เอ๊ดกลับมาฮอลลีวู้ดอีกครั้ง รับบทตัวรองๆบ้าง ผู้ร้ายบ้างในหนังทีวีทั่วไป พร้อมกับสร้างครอบครัว เขาดำเนินอาชีพนักแสดงไปอย่างไม่ติดขัด แต่วันเวลาแห่งความสำเร็จก็ล่วงผ่านไปไม่กลับมาแล้ว เขายังทำงานอยู่จนชราก็อำลาจอแก้วไปอยู่กับครอบครัว ถึงแก่กรรมด้วยเหตุธรรมชาติ อายุ 87 ปี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 413 เมื่อ 06 ก.พ. 20, 15:17
|
|
เคยส่องแสงแรงเจิดจ้าดาราหนุ่ม ปลายคางบุ๋มแววตากร้าววาวสดใส
แต่คืนนี้ดาวมืดดับลับฟ้าไป คงเหลือไว้เพียงภาพจำเป็นตำนาน
Kirk Douglas (December 9, 1916 – February 5, 2020)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33584
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 414 เมื่อ 06 ก.พ. 20, 15:32
|
|
RIP Kikk Douglas
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33584
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 415 เมื่อ 06 ก.พ. 20, 19:50
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33584
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 416 เมื่อ 07 ก.พ. 20, 09:37
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 417 เมื่อ 07 ก.พ. 20, 11:08
|
|
เมื่อพระเอกคางบุ๋ม,เข้มแกร่ง ผู้เป็นตำนานจากยุคทองของฮอลลีวู้ด Golden Age จากไปด้วย วัย 103 ปี เปรียบเสมือนได้ว่าหลักไมล์บ่งชี้การสิ้นสุดแห่งยุคสมัยได้ถูกตั้งขึ้นอีกครั้งหนึ่ง(ก่อนหน้านี้ที่รู้สึกได้ คือ การจากไปของคุณย่าลิซ)
ไม่ทันดูหนังสมัยแรกของคุณทวดในโรงใหญ่, บทจำอย่าง Spartacus(1960) ก็เป็นภาพในจอแก้วที่ เทียบไม่ได้เลยกับภาพบนจอเงิน
ส่วนหนึ่งจาก บีบีซีไทย เล่าถึง ขบถของวงการ
การที่เคิร์กมีเชื้อสายยิวและครอบครัวของเขาเป็นผู้อพยพจากรัสเซียที่ยากจน ทำให้เคิร์กมีจุดยืนต่อต้าน กลุ่มอภิสิทธิชนและผู้เกลียดชังชาวยิวมาโดยตลอด ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องนี้ทำให้เขามีศัตรูมากมาย ในปี 1957 เคิร์กตั้งบริษัทผลิตภาพยนตร์ของตนเอง เพื่อหลีกหนีจากเงื้อมมือของผู้มีอิทธิพลในวงการ ซึ่งอาจจะว่าจ้างหรือปลดดาราคนไหนก็ได้ตามใจชอบ เขายังต่อต้านกระแสล่าแม่มดในยุคที่ชาวอเมริกันหวาดกลัวระบอบคอมมิวนิสต์ โดยว่าจ้าง ดัลตัน ทรัมโบ นักเขียนที่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีดำมาเขียนบทภาพยนตร์เรื่อง Spartacus อีกด้วย ภาพยนตร์เรื่องนี้คว้ารางวัลออสการ์มาครองได้ถึง 4 รางวัล ทั้งมีนักวิจารณ์หลายคนมองว่า เรื่องราวของ สปาร์ตาคัส ทาสผู้ก่อกบฏต่อต้านจักรวรรดิโรมัน ก็คือการเปรียบเปรยถึงความเป็นขบถของเคิร์กที่มีต่อผู้กุมอำนาจ ในแวดวงฮอลลีวูดนั่นเอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 418 เมื่อ 07 ก.พ. 20, 11:09
|
|
คุณทวดฝากผลงานไว้มากมาย ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ 3 ครั้ง(แต่ไม่ได้รางวัล) จากเรื่อง Champion(1949) The Bad and the Beautiful(1952) Lust for Life(1956)
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 419 เมื่อ 07 ก.พ. 20, 11:11
|
|
มาทันดูคุณทวดในโรงใหญ่ก็เมื่อเป็นหนังรุ่นหลัง ที่ไม่ได้ความรู้สึกเหมือนเช่นยุคก่อนแล้ว
ไฟนรกสุดขอบฟ้า ครั้งเดียวไม่เคยพอ อาถรรพณ์ 2000 นรก 3 พันล้านไมล์ (Holocaust 2000) (Saturn 3)
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|