ถ้าความจำยังไม่เลอะเลือนไปตามอายุ ประมาณ 50 ปีขึ้นไป สถานีวิทยุในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ออกอากาศทางคลื่น AM
ช่วงที่ผมเรียนอยู่ชั้น ม.ศ. 2 กำลังบ้าเพลงฝรั่งเลยละ อาวุธคู่กายผมคือวิทยุทรานซิสเตอร์ยี่ห้อ ธานินทร์ ของคุณยาย คุณยายจะใช้ฟังรายการ หนุ่มน้อยฝอยข่าว ทุกเช้าขณะทำอาหารเช้าให้พวกเรากิน หลังจากช่วงเวลานั้นมันก็ตกอยู่ในความครอบครองของผม
ความจริงที่บ้านยังมีวิทยุทรานซิสเตอร์อีกเครื่อง ยี่ห้อ Schaub Lorenz เป็นของน้าสาว แต่เธอห้ามผมใช้ เพราะเธอมีคลื่นฟังประจำคือรายการน้ำยาซักแห้งครอสซุปเปอร์ เสนอเพลงของคณะสุนทราภรณ์ เธอจะเปิดฟังในตอนเช้าเช่นกันขณะแต่งหน้าเตรียมตัวไปทำงาน ถ้าให้ผมร่วมใช้ด้วย ผมจะหมุนหาคลื่นฟังเพลงฝรั่งมั่วไปหมด ทำให้เธอต้องมาเสียเวลาหมุนหาคลื่นประจำทุกเช้า ก่อให้เกิดอารมณ์หงุดหงิด (แต่ไม่เห็นคุณยายหงุดหงิดเลย)
ผมเคยแอบลองใช้เครื่องของเธอซึ่งมีปุ่มให้เลือกทั้ง AM และ FM พบว่าช่อง FM มีคลื่นน้อยมาก และดำเนินรายการโดยฝรั่งทั้งนั้น แถมเปิดเพลงฝรั่งเพราะ ๆ ทั้งนั้นด้วย จำได้แม่นว่ารู้จักเพลง Delta Dawn ของ Helen Reddy จากที่นี่ ผมไม่เคยได้ยินเพลงนี้ทางคลื่น AM ที่จัดโดยคนไทยเลย ส่วนใหญ่จะเปิด Leave me alone เพลง Delta Dawn นี่แหละชักชวนให้ผมเป็นแฟนอย่างเหนียวแน่นกับ HR และผูกสมาชิกแผ่นเสียงของเธอทุกแผ่นที่ผลิตออกมา
และถ้าจำไม่ผิด สมัยนั้นพอเวลา 1 ทุ่มปั๊บ ทุกสถานีจะเปลี่ยนเป็นรายข่าวกันพร้อมเพรียง อีกราวครึ่ง ชม. ต่อมาก็จบข่าว กลับเข้าสู่รายการปกติ และอีกราวครึ่ง ชม. ต่อมาก็เข้าสู่รายการข่าว 2 ทุ่มอีกครั้ง ทำไมอย่างนั้นก็ไม่รู้
ช่วงทุ่มครึ่งผมก็มีรายการเพลงประจำของผม ชื่อรายการกับชื่อผู้จัดจำไม่ได้แล้ว แต่วันหนึ่ง ผู้จัดก็นำเสนอเพลงฝรั่งร้องโดยนักร้องผู้หญิง เสียงเธอหงุงหงิง ไม่เหมือนนักร้องฝรั่งคนอื่น ๆ ที่เคยได้ยินมา พอจบเพลงผู้จัดก็บอกว่าเป็นเสียงของนักร้องจากเกาะฮ่องกง ชื่อ Agnes Chan เพลงที่เพิ่งจบไปชื่อ Sweet Dreams
ตั้งแต่คืนนั้น เป็นประจำในทุกคืนต่อมารายการนี้จะต้องประเดิมเพลงแรกด้วยเพลงนี้ ฟังทุกวัน ในวันหนึ่งมันก็เพราะขึ้นมาจนได้
นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของกองทัพนักร้องหญิงจากเอเชีย ทยอยกันเข้ามาโชว์เสียงเพลงฝรั่งในเมืองไทยคนแล้วคนเล่าเหมือนคลื่นกระทบฝั่ง
แต่ทั้งหมดนี้ Agnes Chan ดังที่สุด และต้องดังในฮ่องกงบ้านของเธอด้วย เพราะเธอตอกย้ำความดังของตัวด้วยการเล่นหนังด้วย
มันเป็นหนังจากค่ายดัง Shaw Brothers เข้าฉายในเมืองไทยในปีต่อมา ที่โรงหนังรามา ตั้งอยู่แถวหัวลำโพง โดยใช้ชื่อว่า ‘แอ็กเนส ชาน ยอดรัก’ ชื่อภาษาอังกฤษก็ ‘Generation Gap’ ส่วนชื่อจีนไม่รู้เพราะอ่านไม่ออก เนื้อเรื่องก็เกี่ยวกับวัยรุ่นวุ่นรักของหนุ่มสาวโดยมีผู้ใหญ่ของทั้งฝ่ายเป็นอุปสรรคขัดขวาง เธอเล่นกับ เดวิด เจียง
ความดังของเธอถึงกับมีการเชิญตัวมาร่วมงานปฐมทัศน์หนังเรื่องนี้ด้วย
(ภาพสำเนาจากแผ่นเสียงของเธอ)
ตอนสื่อประโคมข่าวฟังแล้วอยากดูจัง แต่ทว่าชื่อโรงหนังและทำเลที่ตั้งที่เอ่ยมานี้ผมไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน สรุปแล้วไปไม่เป็น นี่คือข้อเสียของเด็กที่โดนเลี้ยงแบบไข่ในหิน คือไปไหนเองไม่เป็น (แทบไม่น่าเชื่อว่า ในเวลาต่อมาจะสามารถร่อนไปตามลำพังได้ทั่วโลก)
ผมชวนพี่ ๆ น้า ๆ ก็ไม่มีใครสนใจ พวกเธอชอบดูแต่หนังฝรั่ง ชวนป้าสะใภ้ซึ่งชอบดูหนังไทยกับจีนแต่หนังจีนเรื่องนี้เธอบอกผ่าน บอกว่าชอบดู หลินปอ จีบกับ หลีชิง มากกว่า
ผมเลยหันมาชวนเพื่อนที่โรงเรียน
ผมมีเพื่อนคนหนึ่ง ไม่รู้จะเรียกว่า สนิท ได้รึเปล่า เพราะน้อยคนที่อยากเป็นเพื่อนกับเธอ คือเธอเป็นนักเลงประจำห้อง เธอแกล้งดะระรานไปทั่ว แต่ยกเว้นผม เพราะเธอรู้ว่าเรามีความชอบอย่างหนึ่งเหมือนกัน คือชอบฟังเพลงฝรั่ง เพียงแต่คนละแนว ขณะผมฟังเพลง pop ทั่วไป แต่เธอฟังเพลง hard rock, underground ว่าไปโน่น
แต่บางครั้งเพลงแนวผีสิงของเธอบางเพลงก็เพราะเสนาะหูผมเหมือนกันอย่าง D’yer Mak’er ของ Led Zeppelin หรือ Behind blue eyes ของ The Who ยิ่งรู้ว่า The Park ของ Uriah Heep (ช่วงที่ยังไม่โดนผีเข้า) เป็น 1 ในเพลงโปรดของผม เธอก็เลยมีเมตตายกเว้นไม่แกล้ง ได้แต่แขวะ
วันหนึ่งในชั่วโมงวาดเขียน ผมฮัมเพลง Goodbye to love ของคณะ Carpenters ด้วยอารมณ์สุนทรี เพื่อนเธอยื่นหน้าเข้ามาขัดจังหวะ (ขออนุญาตคัดลอกคำพูดต้นฉบับที่สนับสนุนรสชาติดั้งเดิม) ‘มึงไปอกหักที่อื่นเหอะ ไป๊ กูรำคาญเพลงพวกนี้’
ผมเถียง (ในใจ) ว่า ‘ใครเค้าฮัมเพลง Highway star ในชั่วโมงวาดเขียนกันวะ’
เพื่อนคนนี้แหละที่ผมตัดสินใจเสี่ยงเข้าไปกะลิ้มกะเหลี่ยถามเผื่อเธอจะสนใจทำหน้าที่พี่เลี้ยง
คำตอบที่ได้เป็นไปตามที่คาดไว้ ‘ไม่ไปโว้ย กูยังไม่บ้า’ เพื่อนตอบปฏิเสธอย่างสุภาพ ‘มึงหาทางไปของมึงเองเหอะ’
ผมก็เลยต้องบากหน้าไปหาที่พึ่งรายอื่น ในที่สุดก็ได้เหยื่อมา 1 คน เธอก็พาผมขึ้นรถเมล์ไปโรงหนังรามา
จำได้ว่าที่หน้าโรงฯ คนมืดฟ้ามัวดิน ดูเหมือนคนกรุงเทพฯ จะมารวมตัวกันที่นี่กันหมด นี่ขนาดไม่ใช่วันปฐมทัศน์ที่มีการปรากฏตัวของ AC ด้วยนะ
ในที่สุดผมก็ได้ดูหนังตามที่ตั้งใจไว้ หนังก็สนุกดี เพลงประกอบเพราะ ๆ ทั้งนั้น ฉากที่ประทับใจก็เป็นฉากที่นำเสนอเพลงเหล่านี้
สมัยก่อนนานโพ้น มีคนมาปล่อย clip ใน youtube มากมาย เดี๋ยวนี้หาไม่เจอแล้ว อยากนำเสนอฉากเปิดเรื่องที่มีเพลง Original I ซึ่งผมว่าเป็นเพลงที่เพราะเพลงหนึ่ง แต่หาไม่เจอแล้ว
ตัวอย่างบางฉากในหนัง (เท่าที่หาได้)
หมายเหตุ – ตอนโตเป็นควายแล้ว ผมมีเพื่อนฝรั่งเพิ่มขึ้นมาจากการมีเพื่อนคนไทย ผมเคยเอาเพลงของ AC ไปเปิดให้ฟัง อธิบายโหมโรงก่อนเปิดให้นิดว่าในยุคข้าเด็ก ๆ นักร้องคนนี้ดังไปทั่วประเทศไทย (หมายถึงกรุงเทพฯ) แล้วก็เริ่มเปิดเพลงของเธอ เพื่อนทำหน้าแบบอยากฟังจัง แต่พอได้ยิน AC เอื้อนเสียงใส ๆ ออกมา พวกมันก็พากันร้องเสียงหลง... ‘What the fuck?!?’