เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 10 11 [12] 13 14 ... 19
  พิมพ์  
อ่าน: 21980 ตามหารูปสมัยรบฮ่อ
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 165  เมื่อ 22 ก.พ. 18, 10:17

แล้วภาพนี้ มีคำบรรยายว่า Seen of rustic and Siamese occupied Mueang Houaphan Province, Laos during the long stretch of the regional conflict - 1883 เป็นค่ายที่งอย หรือที่ท่านกำลังหาอยู่หรือเปล่าครับ


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
cinephile
อสุรผัด
*
ตอบ: 0


ความคิดเห็นที่ 166  เมื่อ 22 ก.พ. 18, 10:35

วัดที่เห็นในภาพของตุณ NAVARAT.C ตือวัด โอกาด ไชยะราม (Vat Okad Sayaram) จะเป็น
วัดที่อยู่บนเนินเหนือค่ายของทหารไทยตนับ พระนายไวยกับพวกทหารสร้างเจดีย์อยู่ที่วัดนี้ครับ
แต่ถูกพวกฝรั่งเศสรื้อทำลาย ต่อมาจึงมีการสร้างโบสถทับตำแหน่งที่เคยมีเจดีย์ครับ



บันทึกการเข้า
cinephile
อสุรผัด
*
ตอบ: 0


ความคิดเห็นที่ 167  เมื่อ 22 ก.พ. 18, 10:43

ไม่น่าจะเป็นเมืองงอยหรือเมืองซ่อนนะครับ เพราะเรามีภาพของทั้งสอง
ค่ายมากพอที่จะบอกว่าไม่ใช่ ถ้าให้ผมเดาน่าจะเป็นค่ายเมืองใดที่อยู่
ใต้บังคับบัญชาของหลวงดัษกรปลาศกับเจ้าราชภาคิไนย ถ้าเดาผิดขอ
อภัยด้วยครับ ว่าแต่ว่าคุณ NAVARAT ขุดภาพมาจากไหนครับ บอก
ตรงๆ ว่าไม่เคยเห็นครับ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 168  เมื่อ 22 ก.พ. 18, 11:02

หาโดยใช้ key note เป็นภาษาอังกฤษ แต่กลับเจอใน Teak door ครับ ลอยๆอยู่รูปเดียว อาจจะมั่วก็ได้
บันทึกการเข้า
cinephile
อสุรผัด
*
ตอบ: 0


ความคิดเห็นที่ 169  เมื่อ 22 ก.พ. 18, 11:15

จากห้วยน้ำมีจะไปเมืองกาสุม(พวกขมุเรียกว่าตางซัม) แต่ฝนตกหนักไม่หยุด
เลยตัองเปลี่ยนแผน ลงจากเขาไปนอนที่เมืองเหี้ยม ตั้งใจว่าจะนั่งเรือไปตาม
แม่น้ำแซงเพื่อไปที่สบซาง ที่พระนายไวยฯ บันทึกเอาไว้ว่า "ถึงทำเนียบที่พักแรม
บ้านสบทราง(สบซาง) เวลาเช้า ๒ โมง (๘ กท.) ทำเนียบนี้ทำใหญ่โตพอกับกองทัพ
 มีบ้านเรือนราษฎร ตั้วอยู่ ๒๗ หลังเรือน บ้านสบซางนี้เป็นที่พักเสบียง"

ฤๅรูปที่คุณ NAVARET post จะเป็นทำเนียบที่พักแรมสบซาง?
จากเมืองเหี้ยมก็ตรงไปเมืองซ่อนเลยครับ (ไม่ต้องไปทางวิบากขึ้นเขาครับ)


บันทึกการเข้า
cinephile
อสุรผัด
*
ตอบ: 0


ความคิดเห็นที่ 170  เมื่อ 22 ก.พ. 18, 11:42

ลองมาเล่นท่ายากกันดีกว่าครับ ผมพบเรื่องนี้ที่พงศาวดารของโกสุมพิสัย ก็เดาไม่ถูกว่าไอ้ตังแกโบมันเป้นใคร ชาติอะไรกันแน่

อ้ายตังแกโบซึ่งตั้งบ้านอยู่ ณ บ่อทองคำ ตำบลภูโงก ลำน้ำเซซวน แขวงเมืองแสนปาง กระทำการขัดแยงอำนาจราชการบ้านเมืองขึ้นต่างๆ
คือแย่งชิงร่อนทองคำในบ่อหลวง แลขัดแขงไม่ยอมเสียภาษีแก่เจ้าภาษีซึ่งรัฐบาลตั้ง แลจับเจ้าพนักงานภาษีจำจองแล้วตั้งตัวเองเปนเจ้าภาษี
เก็บเอาทองแก่ผู้ขุดร่อนได้เดือนละ ๒ หุนครึ่ง ถ้าผู้ไม่ได้ส่งก็เก็บเอาเหล็กคนละ ๔ ดวง คิดราคาเหล็กดวงตามที่ใช้สอยกัยอยู่ในตำบลนั้น
แลเวลานั้น ๘, ๙, ๑๐, ดวงต่อบาท แลตั้งศาลเตี้ยบังคับความจับกุมราษฎรข่าลาวชาวบ้านมาชำระปรับไหมลงเอาเงิน แลจับขังจำจองโดย
อำนาจพลการ แลคุมพรรคพวกไปเที่ยวปล้นตีจับเอาไพร่ข่าไปแลกเปลี่ยนซื้อขาย แลตั้งเกลี้ยกล่อมซ่องสุมผู้คนกระทำโจรกรรมต่างๆ กำเริบขึ้น
โดยลำดับ จนเมื่อที่สุด ได้จับเจ้าพนักงานแลทหาร ซึ่งออกไปรักษาด่านปากน้ำสระไทย แขวงเมืองแสนปาง แลจับกรมการของเจ้านครจำปาศักดิ
ซึ่งเจ้านครจำปาศักดิใช้ให้ถือหนังสือออกมาตามตัวอ้ายตัวแกโบจำไว้ จนความนั้นได้ทราบถึงพระประชาคดีกิจ (แช่ม) ข้าหลวงผู้จัดราชการหัวเมืองฝ่ายใต้
ครั้นวันที่ ๒๐ มิถุนายน พระประชาจึ่งพร้อมด้วยหลวงสุนทรอุไทยพิทักษ์นายร้อยคร้าม นายร้อยตรีถมยา แลพระยาเมืองแพนจำปาศักดิ ราชวงษ์เมืองสีทันดร
ราชวงษ์เมืองเชียงแตง คุมทหาร ๓๘ คน จู่ไปจับอ้ายตังแกโบถึงที่อยู่อ้ายตังแกโบ เวลานั้นอ้ายตังแกโบรู้ตัวออกหลบอยู่นอกบ้าน พระประชาพูดแต่โดยดี
อ้ายตังแกโบไม่รับผิดพระประชาจึ่งให้นายร้อยตรีถมยาจับอ้ายตังแกโบ แตพอจับข้อมืออ้ายตังแกโบ ทันใดนั้นพรรคพวกอ้ายตังแกโบประมาณ ๘๐ คนเศษ
ซึ่งซุ่มอยู่ก็ยิงพวกพระประชา จะแย่งชิงอ้ายตังแกโบ ฝ่ายพวกทหารกองจับต้องสู้รบยิงถูกพวกอ้ายตังแกโบตายคนหนึ่ง แลจับเปนได้ ๒๐ คนพร้อมทั้งเครื่อง
สาตราวุธเปนอันมาก แล้วพระประชาได้บอกส่งอ้ายตังแกโบแลพรรคพวกที่จับได้มาถวายพระจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงพิชิตปรีชากรข้าหลวงใหญ่ ณ เมืองอุบล
พิจารณาได้ความจริง โปรดให้ตัดสิน (ประหารชีวิต) ตามโทษานุโทษ

ภุโงก แม่น้ำเซซวน เมืองแสนปาง อยู่ระหว่างลาวกับเขมรครับ ไอ้ตังแกโบก็น่าจะเป็นเขมร ใครรู้ภาษาเขมรช่วยหน่อยครับว่าชื่อตังแกโบมันภาษาอะไรกันแน่
ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ
ปล. อยากรู้ก่อนที่ผมจะไปท่องเขมร ไปเมืองเชียงแตงสยามโบแล้วภูโงกนี่แหละครับ

บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 171  เมื่อ 22 ก.พ. 18, 13:28

คิดถึงคุณ CrazyHOrse  ไม่ทราบว่ามีเวลาแวะเข้ามาอ่านบ้างหรือเปล่า

ผมประมาณคล้ายชื่อคนจีนน่ะครับ พวกนี้ร้ฐบาลสยามชอบตั้งให้เป็นเจ้าภาษีเพราะมีวิญญาณอั้งยี่อยู่ แต่บางคนอาจมีมากไปหน่อยเช่นเจ้าตังแกโบนี้
บันทึกการเข้า
Koratian
พาลี
****
ตอบ: 329


ความคิดเห็นที่ 172  เมื่อ 22 ก.พ. 18, 18:22


สนับสนุน เปรียบเทียบภาพเมืองงอยครับ


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 173  เมื่อ 22 ก.พ. 18, 18:54

ช่วยหน่อยครับว่าชื่อตังแกโบมันภาษาอะไรกันแน่

ดูเหมือนคุณสุจิตต์ วงษ์เทศจะทราบเบาะแสของ "อ้ายตังแกโบ"  โดยกล่าวถึงตอนหนึ่งในบทความเรื่อง "กุลาร้องไห้ เมื่อค้าขายเดินทางข้ามทุ่งกุลา"

"ปัญหาสำคัญของการค้า คือโจรผู้ร้ายชุกชุม ชาวกุลา หรือชาวจีนมักประสบปัญหาการถูกโจรปล้นสะดมเอาเงินทอง วัว ควาย ไปบ่อย ๆ

แต่บางครั้งก็พบว่าชาวกุลาตั้งตัวเป็นโจรปล้นสะดมเอาเงินทอง วัว ควาย หรือรับซื้อของโจร เช่น กรณีอ้ายตังแกโบ เมืองแสนปาง นครจำปาศักดิ์"
บันทึกการเข้า
cinephile
อสุรผัด
*
ตอบ: 0


ความคิดเห็นที่ 174  เมื่อ 22 ก.พ. 18, 20:32

ตุณสุจิตต์ วงษ์เทศ คิดว่าตังแก โบเป็นพวกกุลาเหรอครับ แต่ปัญหาก็คือ
เมืองแสนปางอยู่ห่างจากทุ่งกุลาโขอยู่ ถ้าว่ามันเป็นพวกข่ายังดูหน้าเชื่อมากกว่า
ผมมีรูปอยู่รูปหนึ่งเขียนว่าไปจะบโจร แต่ไม่แน่ใจว่าโจรอะไรและเมื่อไหร่ครับ
พอมีคนรู้บ้างไหมครับ น่าจะเป็นสมัยใหม่ ปืนที่หัวหน้าถือน่าจะเป็นปืนเมา้ซอร์ต่อ
ด้าม ส่วนหัวหน้าดูละม้ายคล้ายจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 175  เมื่อ 23 ก.พ. 18, 07:09

คุณสุจิตต์ วงษ์เทศ คิดว่าตังแกโบเป็นพวกกุลาเหรอครับ แต่ปัญหาก็คือ
เมืองแสนปางอยู่ห่างจากทุ่งกุลาโขอยู่

จิตร ภูมิศักดิ์เล่าถึงพวกกุลาไว้ในหนังสือ "ข้อเท็จจริงว่าด้วยชนชาติขอม" ว่า

กุลา เป็นคำที่ ชาวพะม่าใช้พูดเป็นภาษาปากตลาดเรียกชาวอินเดีย และมีความหมายเชิงดูถูกเหยียดหยามว่าเป็นคนชั้นต่ำ

ไตลื้อ ออกเสียงคำนี้เป็น กะลา และยังคงใช้หมายถึงชาวอินเดีย

ไทยพายัพ (คนเมือง) ใช้ว่า กูลวา เป็นคำพื้นเมืองเก่าที่ใช้เรียกชาวอินเดียเช่นกัน และยังมีอีกคำหนึ่งในภาษาโบราณว่า กูลวาขาว ใช้เรียกฝรั่ง

ไทยภาคกลางใช้ว่า คุลา มาแต่โบราณ มีการละเล่นในงานพิธีที่เรียกว่า คุลาตีไม้ มีกลอนกลบทชนิดหนึ่งเรียกว่า คุลาซ่อนลูก พจนานุกรมบอกว่า คุลา หมายถึง ชนชาติต้องสู้ และ ไทยใหญ่ ซึ่งเป็นชนชาติส่วนน้อยอยู่ในพะม่า

จะเห็นว่าความหมายของคำเดินทางพ้นจากอินเดียมาแล้ว

ในภาษาลาว กุหล่า เป็นคำเรียกชนพวกหนึ่งที่มาจากพะม่าเหนือ, สะพายสัมภาระเร่ขายไปตามละแวกบ้าน, แต่ที่เข้าใจรวม ๆ  ว่าคือพะม่า ก็มี.

ในภาษาเขมร คำนี้เป็น กุฬา (ออกเสียง โกะลา). พจนานุกรม เขมร-ฝรั่งเศสฉบับหนึ่งให้คำแปลคำ กุฬา เป็นภาษาฝรั่งไว้ว่า ชาวพะม่าา, แต่มีภาษาเขมรอธิบายเพิ่มเติมไว้ว่า เป็นชนชาติหนึ่งในเอเซีย ปัจจุบันอยู่ในประเทศพะม่า.

ที่จังหวัดพระตะบอง มีอำเภอที่ลือชื่อเรื่องพลอยอยู่แห่งหนึ่ง ชื่ออำเภอไพลิน. ชาวเขมรเรียกชนพวกหนึ่งที่ตั้งรกรากขุดพลอยอยู่ที่นั่นว่ากุฬา. ข้าพเจ้าเคยไปที่นั่นครั้งหนึ่งเมื่อราวยี่สิบปีมาแล้ว, ยังจำได้ว่ารูปร่างทรวดทรง หน้าตา ผิวพรรณของชาวกุฬาก็คือพะม่าเราดี ๆ นี่เอง, ศิลปในการสร้างวัด สลักพระพุทธรูปหินอ่อนสีขาวและตัวอักษรก็เป็นแบบพะม่าทั้งสิ้น. แม้ชื่ออำเภอที่เรียกว่า ไพลินก็สงสัยว่าจะเป็นชื่อที่ชนพวกนี้นำติดตัวมาจากพะม่า, คือนำมาจากชื่อเมืองเพ่ลิน ในพะม่าเหนือ, อันเป็นเขตที่มีทับทิมและพลอย, อยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองบ่อแสงเขียวซึ่งเป็นเขตของไตคำตี่ (บ่อแสงเขียว คือบ่อนิลสีคราม, แสงในภาษาไตแปลว่าเพชรหรือพลอย).
"

อ่านจากที่คุณจิตรเล่ามา จะเห็นได้ว่าพวกกุลาคงไม่ได้มีอยู่เฉพาะแถวทุ่งกุลา หากมีอยู่ทั่วไปในอุษาคเนย์  
บันทึกการเข้า
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1899



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 176  เมื่อ 23 ก.พ. 18, 21:21

ตังแกโบ ชื่อสามพยางค์อย่างจีนนิยม แต่วรรณยุกต์ไม่มีเลย แซ่ตัง ถ้าใกล้เคียงก็คงเป็นสำเนียงแต้จิ๋วว่าแซ่ตั้ง (หรือฮกเกี้ยนว่าตัน) ชื่อที่พบเห็นในเรื่องกบฎฮ่อ อย่างชื่อปวงนันซี งออาจง ฯลฯ (ซึ่งล้วนเป็นสำเนียงกลุ่มฮกเกี้ยนแต้จิ๋วตามสำเนียงของจีนที่รับราชการอยู่ในสมัยนั้น) ส่วนชื่อแกโบนั้นเดาไม่ถูกว่ามาจากคำไหน ดังนั้นจะเป็นจีนหรือไม่ยังน่าสงสัยอยู่ครับ

แต่ถ้าพิจารณาจากพงศาวดารโกสุมพิสัย http://www.bl.msu.ac.th/bailan/sarakham/histrory/Kosum.asp เหมืองทองตรงเซซานนั้นคนพบเป็นคนท้องถิ่นชาวข่า (ขมุ) ปัจจุบันพื้นที่นี้อยู่ในเขมรแถบสตึงเตรง เป็นพื้นที่ที่อยู่ไกลจากศูนย์กลางอำนาจของมณฑลลาวกาวมาก นับจากชายฝั่งทะเลซึ่งมีพวกจีนอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานมากตั้งแต่ช่วงต้นราชวงศ์ชิง ก็อยู่ลึกเข้ามามาก ยิ่งอ่านพงศาวดารนี้ทั้งเรื่องแล้ว ดูเหมือนว่าคนจีนไม่น่าจะเข้ามาถึง ถึงมีก็ไม่น่ามากขนาดจะซ่องสุมกันตั้งตัวเป็นใหญ่ได้อย่างนี้

โดยส่วนตัวผมเอนเอียงไปข้างที่ว่าอ้ายตังแกโบจะเป็นขมุนะครับ  

บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1899



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 177  เมื่อ 23 ก.พ. 18, 22:10

มีข้อมูลเกี่ยวกับฮ่อเล็กๆน้อยๆที่ผมเคยค้นเก็บไว้เผื่อจะค้นต่อ (แต่ยังหาฤกษ์เหมาะๆไม่ได้) ขอแปะไว้ตรงนี้ครับ เพราะเรื่องฮ่อพากย์ไทยของเรากับของชาวบ้านอ้างชื่อตัวนายกันไปคนละโลก ถ้าผูกไม่ถูกก็ตัน ไม่รู้จะไปค้นต่อได้ยังไง

ลิวตายัน คือ หลิวหย่งฝู
https://en.wikipedia.org/wiki/Liu_Yongfu
ชื่อลิวตายันเป็นสำเนียงจีนกลาง ลิวมาจากแซ่หลิว
ตายัน ผมเข้าใจว่าน่าจะมาจากต้าเอียน (dayan) 大烟 ที่แปลว่าฝิ่น ซึ่งเป็นรายได้สำคัญอย่างหนึ่งของพวกฮ่อธงดำ
คนถอดเสียงเป็นลิวดายันน่าจะถอดมาตามอย่างที่ฝรั่งเขียนว่า Liu Dayan

ง่ออาจง คือ 吳亞終
https://zh.m.wikipedia.org/wiki/%E5%90%B3%E4%BA%9E%E7%B5%82
จีนกลางออกเสียงว่า อู๋อาจง แต้จิ๋วว่าโหง่วอาจง เห็นว่าคนถอดเสียงจะเป็นแต้จิ๋วครับ

ปวงนันซีหรือปวงนันสี คือ 黃崇英 จีนกลางว่าหวงจงอิง ฝรั่งเขียน Huang Ch'ung-ying ถ้าเขียนอย่าจีนสมัยนี้จะเป็น Huang Chongying ครับ
ชื่อนี้หลุดไปไกลมาก เพราะชื่อปวงนันซีที่ไทยเรียก เป็นนามแฝงหรือจะเรียกว่าชื่อปลอมก็ว่าได้ คือ 盤倫四 จีนกลางอ่าน ผานหลุนซื่อ, แต้จิ๋วว่า เผว่งหลุ่งสี หรือฮกเกียนจะว่า ปั่วง์หลุ่นสี่ จะมาจากแต้จิ๋วหรือฮกเกี้ยนอย่างไรก็ไม่ทราบครับ
บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 178  เมื่อ 23 ก.พ. 18, 22:50

คุณม้าเข้ามาครั้งเดียว ตอบหลายกระทู้คุ้มเลย แล้วพอมีตัวอย่างชื่อของชาวขมุแท้ๆบ้างไหมครับ ผมพยายามเสิร์ชหาแล้ว ไม่เจอเลย
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 179  เมื่อ 24 ก.พ. 18, 07:38

นำเสนอทุกภาษาเราชาวน่าน
คราวนี้ ขอเป็นภาษาขมุ ก่อนนะครับ

อุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้กับชีวิตประจำวัน พูดว่า เทรืองติ๊

คำไทย                       คำขมุ
-มีด-----------------------เอื้อร
-กระติ๊บข้าว ---------------แอ๊บหม่า
-ถังน้ำ---------------------อัมคุ
-น้ำต้น --------------------อันแงน
-ไม้กวาด ------------------พระน่อกาง
-ไม้ขีดไฟ -----------------กั๊บซีด
-ครก ---------------------ซรก
-ช้อน ---------------------ระหนีบ
-หม้อแกง -----------------ทะล่อ
-รองเท้า------------------แค๊ป
-ไม้ถูพื้น -----------------มู่อ้อดก่าง
-ถาดอาหาร --------------เพื่อน
-แก้วน้ำ -----------------แก้ว
-ไม้เสียบพริก------------ระหนูดหพริ

คำ เรียกพ่อแม่พี่น้อง
พ่อ-----------------------โหย่ง
แม่-----------------------หม่า
พี่ชาย-------------------ใต้บร่อ
พี่หญิง-------------------ใต้ห.กึ้น
น้องชาย-----------------แฮ้มมาร่อ
น้องหญิง----------------แฮ้มห.กึ้น
พ่อของพ่อของแม่--------โหย่งอุ้ย,หม่าอุ้ย
สาวสวย-----------------ก้อนนึมเปรีย
บ่าวหล่อ----------------มร่อเปรีย
เด็ก---------------------ก้อนแหนะ
เด็กเพิ่งคลอด-------------ก้อนประ

การถามไถ่

คำไทย--------------------คำขมุ
ไปไหน-------------------หย่อเม่อะ
สบายดีหรือเปล่า-----------สบายแด้
กินข้าวกับอะไร------------เปอะหม่ากั้บเมอะ
ไปในเมืองมา-------------หย่อต่าเวียง
กินข้าวกับน้ำพริก----------เปอะหม่ากั้นพริแจว

การนับเลข หนึ่งถึงร้อย

คำไทย-------------------คำขมุ
หนึ่ง---------------------โมย
สอง----------------------ปราน.ร
สาม----------------------เป้
สี่------------------------ป้วน
ห้า-----------------------เฟื้อง
หก-----------------------ตอนร
เจ็ด-----------------------หนด
แปด----------------------ระติ๊
เก้า-----------------------หไก่
สิบ------------------------สิ๊บ
สิบเอ็ด--------------------สิ๊บเอ็ด
สิบสอง--------------------สิบส้อง

จาก http://thaigoodview.com/node/53293

ชาวขมุ คือคนพื้นเมืองของน่านเผ่าพันธุ์หนึ่ง ภาษาก็คล้ายๆภาษาท้องถิ่นในเมืองไทยเหนือทั้งหลาย ผมจึงสงสัยว่า ชื่อของชาวขมุ(สมัยโน้น)มีกี่พยางค์ จะผ่าเหล่าไปออกทางจีนๆได้อย่างไร นี่ไม่ได้ปักหลักค้านนะครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 10 11 [12] 13 14 ... 19
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.062 วินาที กับ 19 คำสั่ง