เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 8 9 [10] 11 12 ... 37
  พิมพ์  
อ่าน: 70704 Dramatic license กับ ข้อเท็จจริง ในหนังอิงประวัติศาสตร์
แพรวพิม
อสุรผัด
*
ตอบ: 19


ความคิดเห็นที่ 135  เมื่อ 14 ธ.ค. 17, 18:37

มีบางจุดที่น่าสงสัยและอยากเรียนถามผู้รู้ในที่นี่ เกี่ยวกับชาติกำเนิดของพิมาน

จากการดู ศรีอโยธยา ตอนที่ 3 ได้ความว่า พิมานเป็นเด็กกำพร้า เป็นลูกพระยาจักรี ซึ่งเป็นพี่ชายของพระยาพลเทพและพระกำนัลนารี แถมพิมานยังมีแม่เป็นฝรั่งวิลันดา (ฮอลันดา) อีกต่างหาก ทำให้สงสัยว่า ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ขุนนางผู้ใหญ่สามารถมีภรรยาเป็นฝรั่งต่างชาติได้ด้วยหรือคะ เพราะเข้าใจว่าคนที่มีคู่เป็นชาวต่างชาติได้น่าจะเป็นแต่พวกพ่อค้าวาณิชเสียอีก

ในตอนที่ 2 ที่พิมานเข้าไปปลอบบุษบาบรรณที่กำลังร้องไห้หน้าเจดีย์เก็บอัฐิของแม่ พิมานชี้ให้บุษบาบรรณดูเจดีย์ใส่อัฐิของแม่ของเขา ทำให้สงสัยอีกว่า หรือว่าแม่ของพิมานนั้นจะเปลี่ยนศาสนาเป็นพุทธตามเจ้าคุณพ่อของพิมานไปแล้ว เวลาเสียชีวิตจึงนำอัฐิบรรจุใส่เจดีย์ แทนที่จะฝังร่างไว้ในโบสถ์เช่นชาวคริสต์ทั่วไป

เจดีย์ของพ่อแม่พิมาน

บันทึกการเข้า
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1899



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 136  เมื่อ 14 ธ.ค. 17, 18:55

มาอ่านแบบงงๆเพราะไม่ได้ดูครับ
บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 137  เมื่อ 14 ธ.ค. 17, 19:19

เดาว่าเป็นการปูพื้นฐานเพื่อให้รับกับหน้าตาของอนันดา ที่เล่นเป็นขุนนางอยุธยา ว่าทำไมหน้าตามีเชื้อสายฝรั่งค่ะ
ในเมื่อไม่สามารถหาขุนนางฝรั่งสมัยพระเจ้าเอกทัศมาเป็นบิดาของพระพิมานได้    ก็ต้องให้เป็นมารดาแทน  

ถ้าถามว่าเป็นไปได้ไหมที่ขุนนางระดับสูงของอยุธยาจะมีแหม่มเป็นภรรยา   ดิฉันจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่ามีกฎหมายสมัยนั้นห้ามไว้ แต่ยังไม่ได้ไปค้นรายละเอียด
พูดถึงความสมเหตุสมผล  มันก็ยากอีกน่ะแหละที่ผู้หญิงดัทช์คนไหนจะมาเป็นภรรยาขุนนางไทย  อย่าว่าแต่จะมีสาวดัทช์เดินทางจากยุโรปมาอยู่ในอยุธยาเลย     สมัยนั้นฝรั่งที่เดินเรือมาทางตะวันออกก็มากันแต่เฉพาะผู้ชายทั้งนั้น เพราะไม่รู้จะเอาชีวิตกลับไปบ้านเกิดเมืองนอนได้หรือไม่
อีกอย่างก็คือ เราคงจำได้ว่าพระเพทราชาท่านเกลียดฝรั่ง  ไม่ใช่แต่ฝรั่ง ญี่ปุ่นท่านก็เกลียด    หลังสมัยสมเด็จพระนารายณ์ก็มีแต่โปรตุเกสที่อยู่ในอยุธยาได้โดยไม่เดือดร้อนนัก   ส่วนฮอลันดานั้นหมางใจกันตั้งแต่สิ้นสมัยพระนารายณ์ เพราะไม่พอใจระบบการค้าผูกขาดของพระคลังหลวง ความสัมพันธ์กับอยุธยาก็เสื่อมลง

เหตุผลที่ขุนนางไทยไม่มีเมียแหม่ม เห็นได้ชัดๆก็คือ  เป็นภัยทางด้านความมั่นคง     ถ้าได้ภรรยาต่างชาติ ตื้นลึกหนาบางในราชการ เธออาจไปบอกพรรคพวกหมดก็เป็นได้    เสียหายกันหลายชั้น     จึงไม่น่าที่พระยาจักรีจะมีภรรยาชาวฮอลันดาได้อย่างเปิดเผยและยังมีหน้ามีตาในราชการจนถึงแก่อนิจกรรม
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 138  เมื่อ 14 ธ.ค. 17, 19:22

มาอ่านแบบงงๆเพราะไม่ได้ดูครับ
ย้อนหลังไปหน้าก่อนๆ มีคลิปให้ดูค่ะ  คุณม้ามีเวลาก็กรุณาดูด้วย  อยากให้คุณม้ามาร่วมวงค่ะ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 139  เมื่อ 14 ธ.ค. 17, 20:12

คิดถึงคุณศรีสรรเพชญ์ น่าจะเข้ามาร่วมวงอีกคน  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 140  เมื่อ 14 ธ.ค. 17, 20:58

คุณเพ็ญชมพูน่ะแหละ  ทำไมไม่มาร่วมวงคะ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 141  เมื่อ 14 ธ.ค. 17, 21:24

เห็นง่ายๆ  พระประวัติของพระเจ้าตากสินนั้น พงศาวดารทุกฉบับระบุตรงกันว่าท่านมีกำเนิดเป็นสามัญชน และมีเชื้อจีน   ส่วนประวัติการทำงานก็ยังมีหลักฐานแย้งกันอยู่     คนเขียนจะสมมุติยังไงก็ได้แต่ต้องอยู่ในกรอบที่รู้กันดีอยู่แล้ว
อยู่ๆจะมาฉีกกรอบให้ท่านเป็นพระโอรสอีกองค์ของพระเจ้าบรมโกศขึ้นมาเสียเฉยๆ  แบบนี้ไม่ได้ค่ะ

นอกจากพงศาวดารก็ยังมีประวัติศาสตร์กระซิบ ถ้านักเขียนจะฉีกกรอบเอามาใช้สร้างนิยายหรือบทละครจะได้ไหมเอ่ย  ยิงฟันยิ้ม

กำเนิดพระเจ้าตากสิน เป็นลูกใครกันแน่ ?

https://www.gotoknow.org/posts/543655
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 142  เมื่อ 14 ธ.ค. 17, 21:35

ไม่ไหวมั้งคะ ลังเล

ลองแยกข้อเท็จจริงออกจากหลักฐานเก่าๆที่เชื่อกันมาอย่างอภินิหารบรรพบุรุษหรือปฐมวงศ์
๑   กำเนิดของพระเจ้าตากสินเป็นสามัญชน
๒   รับราชการเป็นเจ้าเมือง อยู่ไกลกรุงศรีอยุธยา
๓   เมื่อเกิดศึกครั้งสุดท้ายของอยุธยา  ท่่านมาประจำอยู่ในเมือง 
๔   ก่อนกรุงแตก  ท่านได้พาทหารจำนวนหนึ่งตีฝ่าออกจากเมือง  มุ่งหน้าไปจันทบุรี
๕   เมื่อกรุงแตกแล้ว  ท่านไม่ได้เข้าไปสวามิภักดิ์กับผู้ที่ตั้งตัวเป็นใหญ่คนอื่นๆ รวมทั้งเจ้านายราชวงศ์บ้านพลูหลวง  แต่ว่ารวบรวมกำลังขึ้นมาเอง ด้วยการตีแต่ละเมือง
๖   ท่านเป็นผู้บัญชาการรบเอง  วางแผนยุทธศาสตร์เอง  ประสานไมตรีกับอาณาจักรจีนเอง  และควบคุมแม่ทัพนายกองทั้งหมดเอง

ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นอะไรบ้าง?
๑   กำเนิดท่านไม่ใช่ชาวบ้านทำไร่ไถนา หรือเป็นคนยากจนไร้การศึกษาเป็นแน่
๒   การรับราชการเป็นเจ้าเมืองสมัยนั้น  ยากที่จะเชื่อว่าจู่ๆก็ซื้อตำแหน่งได้เป็น หรือกำจัดคนเก่าแล้วเป็นเอาดื้อๆ   แต่จะต้องเป็นอย่างถูกต้องตามขั้นตอน คือตั้งจากส่วนกลาง หรืออย่างน้อยก็ได้รับความเห็นชอบจากส่วนกลาง
๓   สืบเนื่องจากข้อ ๒   เมื่อเป็นเจ้าเมืองได้อย่างถูกต้องตามขั้นตอน จึงถูกเรียกมาประจำส่วนกลางเมื่อเกิดศึก  แสดงว่าทางกรุงศรีอยุธยารับรู้ตำแหน่งท่านมาแต่แรกแล้ว
๔   มีฝีมือในการรบ  ไม่งั้นคงไม่ตีฝ่าพม่าออกจากเมืองไปได้ โดยทหารติดตามก็รอดไปทั้งหมดหรือเกือบหมด     
     ถ้าไม่แน่จริงคงรอดพม่าไปไม่ได้   คงตายเสียหมดตั้งแต่ออกไปเผชิญกัน
๕   ความคิดที่ตั้งตนเป็นใหญ่   การวางแผนยุทธศาสตร์ปราบก๊กอื่นๆ น่าจะมาจากหัวคิดของคนที่ผ่านความเป็นใหญ่ หรือรู้เห็นอะไรที่ใหญ่ๆมาตลอด   ตลอดจนเชื่อมั่นในกำลังรบของตนเอง   
     คนที่เป็นแค่พ่อค้าเกวียน ไม่น่าจะมีแผนยุทธศาสตร์ได้ขนาดนี้    เพราะการรบกับโจรกระจอกตามรายทางที่คุมกองเกวียนไปค้าขาย กับรบกับบรรดาก๊กต่างๆและบรรดาแม่ทัพนายกองพม่า มันคนละสเต็ป ห่างกันมาก
     เพราะฉะนั้นจึงเชื่อว่า กำเนิดพระเจ้าตากเป็นอย่างไรก็ตาม  ชีวิตในวัยเด็กและวัยหนุ่มของท่านต้องเคยชินกับอะไรที่ใหญ่โต และท่านได้รับการปลูกฝังให้คิดอะไรได้ใหญ่  มากกว่าสามัญชนทั่วไป      แม้แต่ก๊กอื่นๆ ที่ล้วนแล้วแต่ระดับบิ๊กทั้งนั้น ยังสู้ท่านไม่ได้สักก๊กเดียว
บันทึกการเข้า
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1899



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 143  เมื่อ 15 ธ.ค. 17, 00:19

ไม่ไหวมั้งคะ ลังเล

ลองแยกข้อเท็จจริงออกจากหลักฐานเก่าๆที่เชื่อกันมาอย่างอภินิหารบรรพบุรุษหรือปฐมวงศ์
๑   กำเนิดของพระเจ้าตากสินเป็นสามัญชน
๒   รับราชการเป็นเจ้าเมือง อยู่ไกลกรุงศรีอยุธยา
๓   เมื่อเกิดศึกครั้งสุดท้ายของอยุธยา  ท่่านมาประจำอยู่ในเมือง 
๔   ก่อนกรุงแตก  ท่านได้พาทหารจำนวนหนึ่งตีฝ่าออกจากเมือง  มุ่งหน้าไปจันทบุรี
๕   เมื่อกรุงแตกแล้ว  ท่านไม่ได้เข้าไปสวามิภักดิ์กับผู้ที่ตั้งตัวเป็นใหญ่คนอื่นๆ รวมทั้งเจ้านายราชวงศ์บ้านพลูหลวง  แต่ว่ารวบรวมกำลังขึ้นมาเอง ด้วยการตีแต่ละเมือง
๖   ท่านเป็นผู้บัญชาการรบเอง  วางแผนยุทธศาสตร์เอง  ประสานไมตรีกับอาณาจักรจีนเอง  และควบคุมแม่ทัพนายกองทั้งหมดเอง

ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นอะไรบ้าง?
๑   กำเนิดท่านไม่ใช่ชาวบ้านทำไร่ไถนา หรือเป็นคนยากจนไร้การศึกษาเป็นแน่
๒   การรับราชการเป็นเจ้าเมืองสมัยนั้น  ยากที่จะเชื่อว่าจู่ๆก็ซื้อตำแหน่งได้เป็น หรือกำจัดคนเก่าแล้วเป็นเอาดื้อๆ   แต่จะต้องเป็นอย่างถูกต้องตามขั้นตอน คือตั้งจากส่วนกลาง หรืออย่างน้อยก็ได้รับความเห็นชอบจากส่วนกลาง
๓   สืบเนื่องจากข้อ ๒   เมื่อเป็นเจ้าเมืองได้อย่างถูกต้องตามขั้นตอน จึงถูกเรียกมาประจำส่วนกลางเมื่อเกิดศึก  แสดงว่าทางกรุงศรีอยุธยารับรู้ตำแหน่งท่านมาแต่แรกแล้ว
๔   มีฝีมือในการรบ  ไม่งั้นคงไม่ตีฝ่าพม่าออกจากเมืองไปได้ โดยทหารติดตามก็รอดไปทั้งหมดหรือเกือบหมด     
     ถ้าไม่แน่จริงคงรอดพม่าไปไม่ได้   คงตายเสียหมดตั้งแต่ออกไปเผชิญกัน
๕   ความคิดที่ตั้งตนเป็นใหญ่   การวางแผนยุทธศาสตร์ปราบก๊กอื่นๆ น่าจะมาจากหัวคิดของคนที่ผ่านความเป็นใหญ่ หรือรู้เห็นอะไรที่ใหญ่ๆมาตลอด   ตลอดจนเชื่อมั่นในกำลังรบของตนเอง   
     คนที่เป็นแค่พ่อค้าเกวียน ไม่น่าจะมีแผนยุทธศาสตร์ได้ขนาดนี้    เพราะการรบกับโจรกระจอกตามรายทางที่คุมกองเกวียนไปค้าขาย กับรบกับบรรดาก๊กต่างๆและบรรดาแม่ทัพนายกองพม่า มันคนละสเต็ป ห่างกันมาก
     เพราะฉะนั้นจึงเชื่อว่า กำเนิดพระเจ้าตากเป็นอย่างไรก็ตาม  ชีวิตในวัยเด็กและวัยหนุ่มของท่านต้องเคยชินกับอะไรที่ใหญ่โต และท่านได้รับการปลูกฝังให้คิดอะไรได้ใหญ่  มากกว่าสามัญชนทั่วไป      แม้แต่ก๊กอื่นๆ ที่ล้วนแล้วแต่ระดับบิ๊กทั้งนั้น ยังสู้ท่านไม่ได้สักก๊กเดียว


น่าสนใจครับ เบื้องหลังอะไรที่สร้างผู้นำอย่างพระเจ้าตากขึ้นมาได้ แต่ขอทบทวนเรื่องพื้นฐานการเป็นเจ้าเมืองตากสักหน่อยครับ

เมืองตากในยุคนั้นเป็นเมืองเล็ก คิดง่ายๆคือ นอกจากพระเจ้าตากแล้ว มีชื่อเจ้าเมืองตากคนใดในสมัยอยุธยาที่มีชื่อปรากฏในประวัติศาสตร์อีกหรือไม่? ผมไม่แน่ใจนัก แต่ถ้าไม่มี ก็ไม่แปลกใจเลยครับ ยิ่งพิจารณาว่าในช่วงสงคราม พระเจ้าเอกทัศทรงเลื่อนตำแหน่งให้เป็นพระยากำแพงเพชร (ซึ่งไม่น่าจะเคยได้มีโอกาสไปกินเมืองจริง เพราะหลังจากนั้นใครๆก็ยังเรียกท่านว่าขุนหลวงตาก) ยิ่งตอกย้ำสถานะของเมืองกำแพงเพชร ก็คงเหมือนอย่างเล่าปี่ไปตั้งตัวที่เสฉวน แต่เมื่อยกตัวเองเป็นเจ้า กลับเรียกว่าฮันต๋งอ๋อง ไม่เรียกว่าเซ็งโต๋อ๋อง (ฮันต๋งคือฉงชิ่ง(จุงกิง) ส่วนเซ็งโต๋คือเฉิงตู) ก็เพราะเสฉวนในยุคนั้นมันบ้านนอกใกล้ปืนเที่ยง การจะเป็นเซ็งโต๋อ๋องเห็นจะไม่น่าเกรงขามนะครับ

อย่างไรก็ตาม การเป็นเจ้าเมืองตากได้นั้น ต้องไม่ใช่คนยากไร้ เป็นไพร่ชาวบ้านอยู่ๆก็มาเป็นได้แน่ แต่ถึงกระนั้น ถ้าเป็นลูกหลานขุนนางในกรุง ผมเกรงว่าจะไม่มีใครอยากส่งลูกหลานตัวเองไปเป็นเจ้าเมืองตากเป็นแน่ครับ

หากเทียบยุคเดียวกันที่จีนนอกอย่างหมักกื๋วบิดาของหมักเทียนตื๊อพระยาราชาเศรษฐียังตั้งตัวขึ้นเป็นเจ้าที่เมืองพุทไธมาศได้ โดยส่วนตัวผมเห็นว่าพระยาตากก็น่าจะเป็นพ่อค้าที่ลงหลักปักฐานมีกำลังมีทรัพย์ระดับหนึ่งจนได้มีตำแหน่งเป็นเจ้าเมืองชายแดนเล็กๆอย่างเมืองตากได้ครับ

แนวทางอย่างนี้เทียบกับปัจจุบันก็เรียกได้ว่าเป็นนักปฏิบัติแนว Street Fighter ถึงลูกถึงคน ช่วงเวลาที่รับศึกพม่าเป็นปี นับจากที่รับศึกพม่าที่เมืองตากมาจนถึงช่วงที่รับศึกที่กรุงศรีอยุธยาน่าจะสร้างเสริมประสบการณ์ในการรบอย่างโชกโชน แต่ถึงกระนั้น ดูจากความในพงศาวดาร ช่วงแรกลาดตระเวณอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยาใต้บางกระจะลงมา จนเมื่อพระยาเพชรบุรีตายก็ถอยขึ้นไปลาดตระเวณแถบคูขื่อหน้าทางตะวันออกของเกาะเมือง บทบาทเช่นนี้ ผมว่าพระยาตากหรือพระยากำแพงเพชรถึงไม่ใช่เบี้ย แต่ไม่ใช่ตัวนายคนสำคัญที่จะไม่ออกมาเสี่ยงชีวิตข้างนอกครับ

เรียกได้ว่าเป็นผู้มีสติปัญญาความสามารถในวิกฤตการณ์ แต่ไม่น่าจะเป็นคนสำคัญหรือคนในตระกูลใหญ่โตเก่าแก่ในอยุธยานะครับ
บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
กะออม
พาลี
****
ตอบ: 222


ความคิดเห็นที่ 144  เมื่อ 15 ธ.ค. 17, 06:11

เข้าห้องเรียนช้า แต่นักเรียนคึกคักมาก ยังไม่เคยดูเรื่องนี้เลยค่ะ
ขอแอบอยู่หลังห้องก่อนนะคะ ปูเสื่อนอนดูย้อนหลังก่อน

 
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 145  เมื่อ 15 ธ.ค. 17, 10:31

มีอีกตอนหนึ่ง ที่พอจะสะท้อนอะไรระหว่างบรรทัดได้บ้างค่ะ

เมื่อนายสุดจินดา(กรมพระราชวังบวรมหาสุรสีหนาท) หนีออกจากกรุงแตกได้ก็มุ่งหน้าไปหาพี่ชาย  หลวงยกกระบัตรพาครอบครัวอพยพหลบภัยข้าศึกไปประทับอยู่ที่อําเภออัมพวา เมืองสมุทรสงครามซึ่งขณะนั้นขึ้นกับเมืองราชบุรี    นายสุดจินดาชวนพี่ชายพาครอบครัวไปอยู่ที่ชลบุรีด้วย แต่หลวงยกกระบัตรยังไม่พร้อม เพราะตอนนั้นภรรยาท้องแก่จวนจะคลอดบุตร  แต่ได้หาเรือใหญ่ เสบียงอาหาร และบอกน้องชายให้ไปฝากตัวทําราชการกับพระยาตากสิน    พร้อมกันนั้นเพื่อเป็น 'เครดิต' ก็ให้นายสุดจินดาไปรับท่านเอี้ยง พระชนนีของพระยาตากสิน ซึ่งอพยพไปอยู่ที่บ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี พร้อมทั้งฝากดาบคร่ํา และแหวน 2 วง ไปถวายเป็นของกํานัลกับพระเจ้าตากด้วย

ทั้งหมดนี้ สามารถอ่านคอนเนคชั่นระหว่างพระเจ้าตากสินกับพี่น้องคู่นี้ได้อย่างไรบ้าง
- หลวงยกกระบัตร(สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ) จะต้องมีความเชื่อถือในฝีมือของพระยาตากมาแต่เดิม    มากกว่าเชื่อขุนนางและเจ้านายอื่นๆที่ไปตั้งตัวเป็นใหญ่อยู่หลายก๊ก    ความเชื่อถือนี้มีมากขนาดส่งน้องชายไปรับราชการด้วย และท่านเองก็จะตามไปทีหลัง
- หลวงยกกระบัตรจะต้องคุ้นเคยกับเทือกเถาเหล่ากอของพระยาตากมาก่อน  พอจะรู้ข่าวได้แน่นอนว่าแม่ของท่านอยู่ที่บ้านแหลม    อาจจะได้ติดต่อส่งข่าวคราวกันมาก่อนกรุงแตกก็เป็นได้   เพราะราชบุรีกับเพชรบุรีก็ห่างกันไม่มาก   
ความสัมพันธ์ระหว่างหลวงยกกระบัตรและท่านเอี้ยงน่าจะสนิทชิดเชื้อกัน  จะเห็นได้ว่าท่านบอกน้องชายให้ไปรับท่านเอี้ยง โดยไม่ต้องเผื่อเลยว่าท่านเอี้ยงจะไว้ใจมาด้วยหรือไม่มาด้วย    หรือว่าจะอพยพไปไหนเสียก่อนหน้านี้อีกแล้ว
- บรรณาการของมีค่า(ที่หายากในช่วงบ้านเมืองแตกขนาดนั้น) อย่างดาบคร่ำ(ทอง) และแหวน ๒ วง  แสดงถึงการตั้งใจไปสวามิภักดิ์   ไม่ใช่อย่างเพื่อนกับเพื่อน
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 146  เมื่อ 15 ธ.ค. 17, 11:00

ทีนี้มาดู background ของหลวงยกกระบัตรและนายสุดจินดาบ้าง
ถ้าตัดความเชื่อเรื่องท่านสืบเชื้อสายมาจากเจ้าแม่วัดดุสิตและโกษาปานออกไป ว่าเป็นแค่ตำนาน    อย่างน้อยข้อเท็จจริงข้อหนึ่งคือทั้งสองเป็นลูกขุนนางในเมืองหลวง  บิดาท่านเป็นขุนนางชั้นคุณพระ   ลูกชายทั้งสองเป็นมหาดเล็ก    แสดงว่ามีเชื้อสายเป็นที่ยอมรับ  เพราะค่านิยมสมัยอยุธยาตอนปลายที่ต่อเนื่องมาถึงรัตนโกสินทร์คือ "มหาดเล็กสามต่อพ่อลูกหลาน"  หมายความว่าคนจะเป็นมหาดเล็กได้ต้องมีเชื้อสายว่าพ่อเคยเป็น ปู่เคยเป็น  คือเป็นขุนนางกันมาก่อน    ตำแหน่งมหาดเล็กคือการฝึกและทำงานอันดับต้นๆของลูกผู้ดีในเมืองหลวงที่จะต่อยอดไปเป็นขุนนางตำแหน่งต่างๆ
ตระกูลของทั้งสองท่านขนาดสร้างวัดสุวรรณดาราราม  เพื่อมี "ลานวัดให้ลูกหลานวิ่งเล่น" ตามค่านิยมเหมือนคนรวยสมัยนี้ต้องสร้างรีสอร์ตไว้พักร้อน   ก็แสดงว่าตระกูลท่านไม่เบาอยู่เหมือนกัน     

แต่ท่านทั้งสองก็ให้เกียรติยอมรับนับถือขุนนางอีกคน ผู้ซึ่งพงศาวดารบางฉบับกดเอาไว้แค่เป็นนายกองเกวียน พ่อเป็นจีนชาวบ้านอพยพจากเมืองจีนเท่านั้น    แถมยังขึ้นมาสู่ตำแหน่งพระยาโดยไม่มีฐานรองรับเสียอีก
ท่านทั้งสองเต็มใจจะไปสวามิภักดิ์ ทำงานเป็นลูกน้องบุคคลเช่นนี้  แทนที่จะรั้งรออยู่ที่อัมพวาโดยไม่มีใครว่า  แล้วสืบข่าวจนแน่ใจว่าก๊กไหนน่าจะไปหามากที่สุด  ในจำนวนนี้ก็มีก๊กของกรมหมื่นเทพพิพิธ ซึ่งก็อยู่ในฐานะเจ้านายองค์หนึ่งของท่านมาก่อน     
ถ้าท่านไป ฐานะเดิมของท่านย่อมทำให้กรมหมื่นเทพพิพิธรับท่านเข้ารับราชการด้วยตำแหน่งที่ไม่น้อยไปกว่าพระเจ้าตากรับไว้

ดิฉันก็เลยไม่เข้าใจไงคะ
บันทึกการเข้า
Koratian
พาลี
****
ตอบ: 329


ความคิดเห็นที่ 147  เมื่อ 15 ธ.ค. 17, 17:55

เห็นง่ายๆ  พระประวัติของพระเจ้าตากสินนั้น พงศาวดารทุกฉบับระบุตรงกันว่าท่านมีกำเนิดเป็นสามัญชน และมีเชื้อจีน   ส่วนประวัติการทำงานก็ยังมีหลักฐานแย้งกันอยู่     คนเขียนจะสมมุติยังไงก็ได้แต่ต้องอยู่ในกรอบที่รู้กันดีอยู่แล้ว
อยู่ๆจะมาฉีกกรอบให้ท่านเป็นพระโอรสอีกองค์ของพระเจ้าบรมโกศขึ้นมาเสียเฉยๆ  แบบนี้ไม่ได้ค่ะ

นอกจากพงศาวดารก็ยังมีประวัติศาสตร์กระซิบ ถ้านักเขียนจะฉีกกรอบเอามาใช้สร้างนิยายหรือบทละครจะได้ไหมเอ่ย  ยิงฟันยิ้ม

กำเนิดพระเจ้าตากสิน เป็นลูกใครกันแน่ ?

https://www.gotoknow.org/posts/543655


ขออภัยครับ 
เรื่องพระเจ้าตากเป็นราชบุตรของพระเจ้าท้ายสระนี่ ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่มั่วที่สุดที่เคยได้รับฟังมา
คนเสนอฯ ควรจะต้องคำนวณคร่าวๆดูก่อนว่าคุณเอี้ยงจะมีอายุกี่ปีใน พ.ศ. 2277

ขอคารวะในจินตนาการจับแพะชนแกะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 148  เมื่อ 15 ธ.ค. 17, 18:28

น่าจะเป็น"ขนบ" นอกตำราว่า พอเปลี่ยนราชวงศ์  มีสามัญชนคนใหม่ขึ้นครองราชย์ ก็จะมีพงศาวดารกระซิบตามมาทีหลังว่าท่านเป็นโอรสลับของพระเจ้าแผ่นดินองค์ก่อน
เหมือนพระเจ้าปราสาททองเป็นโอรสลับของพระเอกาทศรถ     พระเจ้าเสือเป็นโอรสลับของสมเด็จพระนารายณ์
ทั้งนี้ถ้าจะมองในอีกแง่หนึ่งก็คือ กระซิบเพื่อหาความเหมาะสมให้แก่พระเจ้าแผ่นดินพระองค์ใหม่   ในการจะได้เป็นสมมุติเทพสืบต่อจากพระเจ้าแผ่นดินองค์เก่า    จึงขจัดความเป็นสามัญชนออกไปจากตัวท่านเสียเลย
บันทึกการเข้า
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1899



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 149  เมื่อ 15 ธ.ค. 17, 19:04

ปัญหาสำคัญน่าจะอยู่ที่ในอภินิหารบรรพบุรุษ (โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับพระเจ้าตาก) ข้อมูลน่าสงสัยเอามากๆ

ถ้ายึดตามพงศาวดาร นายสุดจินดา(กรมพระราชวังบวรมหาสุรสีหนาท) เข้าสวามิภักดิ์พระเจ้าตากก่อน หลวงยกกระบัตรมาทีหลังนานพอดูนะครับ น่าเชื่อว่านายสุดจินดาจะเป็นฝ่ายแนะนำให้หลวงยกกระบัตรเข้าถวายตัวรับราชการมากกว่า

เพราะถ้าเชื่อว่าหลวงยกกระบัตรแนะนำให้นายสุดจินดามารับราชการกับพระเจ้าตาก ไม่รู้จะอธิบายยังไงว่าหลวงยกกระบัตรรู้ว่าพระเจ้าตากอยู่ที่จันทบุรี

ผมเดาว่านายสุดจินดาหนีพม่ามาทางตะวันออกเหมือนกัน ทราบข่าวว่าพระยาตากมีกำลังแข็งแกร่ง ตีได้เมืองจันทบุรีแล้ว ส่วนตัวน่าจะเคยรู้จักกันในช่วงถูกพม่าปิดล้อมกรุงศรีอยุธยา นับถือความสามารถกันอยู่ จึงเข้าสวามิภักดิ์ครับ

กรมหมื่นเทพพิพิธไปอยู่โคราช นายสุดจินดาไม่ไปสวามิภักดิ์เป็นไปได้ว่าไม่ได้ผ่านไปใกล้ทางนั้น หรือไม่ก็ไม่ได้เชื่อถือกรมหมื่นเทพพิพิธ จะเพราะเหตุการณ์ช่วงโดนพม่าล้อม แล้วสถานะกรมหมื่นเทพพิพิธในเวลานั้นก็เป็นแค่เจว็ดให้เขาเชิดนะครับ

ตอนนี้แม้แต่เรื่องที่ว่าพระบิดาพระเจ้าตากเป็นจีนจากไหฮองผมก็ชักจะสงสัยว่าถูกต้องหรือไม่ เพราะแถบนั้นจริงๆไม่ค่อยจะเป็นแต้จิ๋วเท่าไหร่ เป็นปลายแดนแต้จิ๋วแล้วครับ

ผมมีข้อสังเกตเรื่องพระนามพระเจ้าตากที่ใช้ในการติดต่อกับราชสำนักจีน แรกๆ เรียกพระยากำแพงเพชร หรือพระยาสิน หลังๆเปลี่ยนเป็นเจิ้งเจ้า แซ่เจิ้ง แต้จิ๋วคือแซ่แต่ ที่คนไทยเรียกว่าแต้ ส่วนเจ้านั้นทับศัพท์ภาษาไทย น่าสงสัยเอามากๆว่าพระนามเดิมของพระองค์คือสิน เป็นชื่อจีนหรือชื่อไทยกันแน่
บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
หน้า: 1 ... 8 9 [10] 11 12 ... 37
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.07 วินาที กับ 20 คำสั่ง