เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 65 66 [67] 68 69 ... 86
  พิมพ์  
อ่าน: 80350 คุยกันเรื่องของเสน่ห์ปลายจวัก
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 990  เมื่อ 24 มิ.ย. 18, 19:17

ข้าวหมูแดง


บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 991  เมื่อ 24 มิ.ย. 18, 19:36

ไก่ย่างเนื้อแห้งทาขมิ้นที่ อ.เทาชมพู กล่าวถึงนั้น ก็มีเอกลักษณ์ของเขา คือมีสีเหลืองด้วยขมิ้น เป็นไก่ยางแบบแล่เนื้อเป็นชิ้นบางและใช้ไม้ประกับในการย่าง ก็มีทั้งแบบที่เป็นเนื้อล้วนๆ (เนื้อหน้าอก ที่เรียกว่า white meat) เนื้อหน้าอกติดกระดูกซี่โครง เนื้อส่วนตะโพก (ที่เรียกว่า dark meat) และน่อง    

ผมนิยมส่วนที่เป็นตะโพกเพราะว่าเนื้อจะไม่แห้งและยุ่ยเหมือนเนื้อส่วนหน้าอก  เป็นส่วนเนื้อที่มีความเหนียวพอประมาณ (chewy) และมีความชุ่มชื้นด้วยมันเล็กน้อย  แต่ก็ชอบแบบแทะเนื้อติดกระดูกส่วนซี่โครงเช่นกัน  เมื่อเวลาจะซื้อก็จะเลือกเอาไม้ที่ดูเนื้อชุ่มฉ่ำแต่ค่อนข้างแห้ง เพราะนั่งบนรถไฟนั้นมือไม้จะสกปรกมากนักไม่ได้   ก็เป็นความสุขบนรถไฟ(ที่โยกไปเย้มา)กับน้ำมีฟองตอนเย็นๆก่อนที่จะกินข้าวแกงในถ้วยใบตองแห้งของสถานีราชบุรีหรือสถานีเพชรบุรี

ไก่ย่างบางตาลที่มีขายอยู่ทั่วๆไปในปัจจุบันนี้ก็เป็นลักษณะของไก่ย่างแบบแล่เนื้อให้บางนี้ เพียงแต่จะมีการทำให้ดูเนื้อชุ่มฉ่ำ มีกลิ่นและรสเข้มข้นไปด้วยเครื่องเทศ    ซึ่งหากเป็นการย่างกันเป็นตัวๆเต็มตัว ก็จะไม่ต่างไปจากไก่ย่างชื่อดังรุ่นเก๋าที่จะเห็นไปตั้งร้านออกงานในงานรื่นเริงต่างๆ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 992  เมื่อ 25 มิ.ย. 18, 10:52

อาหารที่ขึ้นหน้าขึ้นตาของนครปฐมมีหลายอย่าง  ขอยกมาแต่อาหารที่ขึ้นชื่อมาแต่ดั้งเดิม  ควบคู่มากับข้าวหมูแดง  คือข้าวมันไก่และข้าวหมูกรอบ
ปกติร้านข้าวหมูแดงจะมีทั้งข้าวมันไก่และข้าวหมูกรอบขายด้วย      บางทีคนสั่งข้าวหมูแดงก็จะสั่งอีกครึ่งหนึ่งเป็นหมูกรอบ ราดมาบนข้าว  จานเดียวก็อิ่ม  บางร้านใส่มาในจานเปลยาวๆ มากทั้งข้าวและกับข้าว

ส่วนข้าวหน้าเป็ดมาทีหลังแต่ก็ขึ้นชื่อไม่น้อยกว่ากัน  มีทั้งเป็ดย่างและเป็ดพะโล้    เป็ดพะโล้ที่ขึ้นชื่อมากอยู่ที่ดอนหวาย ในเขตอ.นครชัยศรี   ค่ะ


บันทึกการเข้า
Naris
องคต
*****
ตอบ: 421


ความคิดเห็นที่ 993  เมื่อ 25 มิ.ย. 18, 11:07

เห็นภาพแล้วหิวขึ้นมาทันทีเลยครับ
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 994  เมื่อ 25 มิ.ย. 18, 19:05

เช่นกันครับ ของอร่อยทั้งนั้น

ขอบพระคุณอาจารย์เทาชมพูครับ แหย่ไว้ได้ผล ยิงฟันยิ้ม   อาจารย์ขยายของดีประจำถิ่นมาอีกเยอะ  ร้านขายอาหารเหล่านี้มีหนาแน่นในตลาดหน้าองค์พระปฐมเจดีย์ด้านคลองเจดีย์บูชา  ในตลาดเองก็มีของน่ากินอีกมาก ที่เด่นออกมาอีกอย่างหนึ่งก็น่าจะเป็นขนมกุยช่าย   สำหรับของฝากที่ซื้อได้ไม่เหมือนที่อื่นๆ หรือจะซื้อเพื่อเอามากินกันเองในงานสังสรรค์ของเราระหว่างญาติหรือเพื่อนฝูงก็คือ ซื้อหมูกรอบเป็นชิ้นส่วนใหญ่ๆ (ทั้งตัว ครึ่งตัว แบ่งสี่ ส่วนหน้า ส่วนหลัง...) เอามาสับเอง กินได้จุใจมากกว่า   พวกนี้จะนำออกมาขายในช่วงบ่ายๆ
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 995  เมื่อ 25 มิ.ย. 18, 19:23

ืลืมของกินไปอีกอย่างหนึ่ง ลูกชิ้นหมู   

ลูกชิ้นหมูของนครปฐมเจ้าหนึ่ง ครั้งหนึ่งมีชื่อดังไปทั้งประเทศ  ผมคิดว่ามันมีอิทธิพลมากพอในการเปลี่ยนโฉมของการทำลูกชิ้นให้เป็นแบบไม่ใช้สารเคมี (เพื่อที่จะทำให้เกิดสภาพที่เรียกว่าลูกชิ้นเด้ง)  แล้วก็มากพอที่จะดึงผู้คนให้หันไปกินลูกชิ้นหมูแทนลูกชิ้นเนื้อวัวในระยะเวลาต่อๆมา   
บันทึกการเข้า
superboy
พาลี
****
ตอบ: 222


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 996  เมื่อ 25 มิ.ย. 18, 21:41

แล้วหมูแผ่นหมูหยองพอเป็นหน้าตาได้บ้างไหมครับ

พูดถึงนครปฐมผมนึกออก 2 อย่าง ขอหมอนใบนั้นที่เธอฝันยามหนุนกับแฟนเก่า  ลังเล
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 997  เมื่อ 25 มิ.ย. 18, 21:43

ลูกชิ้นหมูนครปฐม


บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 998  เมื่อ 26 มิ.ย. 18, 18:46

แล้วหมูแผ่นหมูหยองพอเป็นหน้าตาได้บ้างไหมครับ

เรื่องของหมูแผ่น หมูหยองนี้ ผมแยกความอร่อยและความมีลักษณะจำเพาะของแต่ละแหล่งผลิตไม่ออก  ในจังหวัดที่มีการเลี้ยงหมูในลักษณะเป็นอุตสาหกรรมก็ล้วนมีการทำขายทั้งนั้น รวมทั้งกุนเชียงด้วย  หน้าตาก็เหมือนๆกัน   

ในปัจจุบันนี้ หมูแผ่นแบบดั้งเดิมที่จะมีลักษณะเป็นแผ่นค่อนข้างหนา ไม่แข็งกระด้าง ไม่กรอบ และไม่มีรูปทรงที่แน่นอน(irregular shape)นั้น ดูจะหายไปจากตลาดทั่วๆไป คงมีแต่แบบที่เป็นแผ่นบางๆ กรอบ ทรงเหลี่ยม(rectangular) เข้ามาแทนที่
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 999  เมื่อ 26 มิ.ย. 18, 19:06

หมูหยองก็มีลักษณะเปลี่ยนไปจากเดิมมาก คือจากลักษณะของหมูทุบให้แหลกจนเป็นเส้น fiber ละเอียดฟู ก็กลายเป็นแบบทุบให้ละเอียดจนฟูคล้ายกับสำลี  ซึ่งเมื่อทำให้มีความกรอบอีก ก็เลยทำให้ยิ่งสลายลงเป็นฝุ่นผงได้ง่าย

หมูแผ่น หมูหยอง แบบดั้งเดิมก็ยังคงมีบางเจ้าการทำขายอยู่   สำหรับของนครปฐมก็ในย่านตลาดหน้าองค์พระปฐมเจดีย์ พอหาได้ซื้ออยู่
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 1000  เมื่อ 26 มิ.ย. 18, 19:26

กุนเชียง  เดี๋ยวนี้มีเพิ่มเข้ามา คือกุนเชียงปลา  แต่แรกๆ (น่าจะในช่างเวลา 10+ปีมานี้เอง) ก็ไม่ค่อยมีกระดูกก้างปลาปนมาจนทำให้รู้สึกว่ามีเม็ดอะไรแข็งๆแฝงอยู่ในเนื้อกุนเชียง  แต่ในปัจจุบันนี้ดูจะมีมากขึ้น  ก็เป็นธรรมดาของสินค้าที่มักจะมีคุณภาพลดลงเมื่อขายดีมากขึ้น
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 1001  เมื่อ 26 มิ.ย. 18, 19:38

ยังนึกถึงกุนเชียงปิ้งกับเตาไฟฟ้าให้พอเกรียม แล้วเอาขนมปังประกบเป็นแซนวิช กินกับโอยั๊วะเพื่อแก้หิวยามดึก สมัยดูหนังสือเพื่อเตรียมสอบประโยคมัธยมศึกษาตอนปลาย 

 
บันทึกการเข้า
Naris
องคต
*****
ตอบ: 421


ความคิดเห็นที่ 1002  เมื่อ 27 มิ.ย. 18, 09:38

เอ๊ะ อันนี้ทำง่าย เดี๋ยวผมลองทำกินดูครับ 
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1003  เมื่อ 27 มิ.ย. 18, 10:33

ยำกุนเชียงก็ทำง่ายนะคะ  คุณนริศ
วิธีทำ
หั่นกุนเชียงแล้วนำไปทอดให้แห้ง
เตรียมทำน้ำยำ โดยใส่น้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำมะนาว และพริกแดงซอย คลุกเคล้าจนน้ำตาลละลาย
ใส่กุนเชียงที่ทอดแล้วลงไปและใส่หอมแดง แตงกวา คื่นช่าย แล้วคลุกให้เข้ากันอีกครั้งเสร็จแล้วตักใส่จานเสิร์ฟ


บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 1004  เมื่อ 27 มิ.ย. 18, 17:48

อีกแบบหนึ่ง   

ทอดกุนเชียงพอเกรียมแล้วหั่นเป็นแว่นๆ  เอาแตงกวา (ไม่ใช้แตงร้านนะครับ) หั่นเป็นแว่นๆเช่นกัน  เอาหอมแดงมาซอย  หั่นมะนาวไว้สักครึ่งลูก  จัดวางเรียงเป็นชั้นด้วยแตงกวา กุนเชียง และหอมซอย   เมื่อใกล้จะถึงเวลาทานก็เอาน้ำตาลทรายโรย เอาซีอิ๊วขาวเยาะใส่พอประมาณ เอาซีอิ๊วดำเหยาะตามลงไปเล็กน้อย บีบมะนาว แล้วคลุกให้เข้ากัน ทิ้งไว้สักพักชั่วครู่ เคล้าให้เข้ากันอีกครั้งหนึ่ง ก็พร้อมทาน    ที่ต้องทิ้งไว้ก็เพื่อให้เครื่องปรุงทุกอย่างได้ผสมผสานรสเข้าด้วยกัน

ยำกุนเชียงนี้เป็นอาหารที่ทำง่าย และเป็นจานที่อร่อยมากเสียด้วย  จะทำแบบของอาจารย์ หรือแบบที่ผมได้เล่ามาก็ได้ทั้งนั้น หลังจากได้ทำครั้งแรกแล้ว ต่อๆไปจะปรับองค์ประกอบอื่นใดในเชิงปริมาณ หรือในเชิงเครื่องปรุง (ใช้หอมใหญ่ ใช้แตงกวาญี่ปุ่น ใส่ต้นหอมสดเป็นท่อนสั้นๆ ใส่ใบคื่นช่าย)  ก็จะออกมาอร่อยทั้งนั้น
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 65 66 [67] 68 69 ... 86
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.075 วินาที กับ 20 คำสั่ง