เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 58 59 [60] 61 62 ... 86
  พิมพ์  
อ่าน: 80724 คุยกันเรื่องของเสน่ห์ปลายจวัก
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 885  เมื่อ 04 มิ.ย. 18, 18:42

น้ำปลาหวาน สะเดาลวก และปลาดุกย่าง

แว๊บ กลับไปนิดนึงครับ 

  เมนูน้ำปลาหวานนี้ ชุดที่มีขายกันอยู่ในตลาดจะมีแต่เพียงสะเดาเท่านั้น ซึ่งก็อาจจะเป็นสะเดาขมหรือสะเดามันก็ได้ สะเดามันนั้นเกือบจะไม่มีรสขมปนอยู่เลย ขนาดหลานของผมยังทานได้ บางทีแม่ค้าก็เรียกว่าสะเดาสวน  แต่คนในภาคเหนือจะเรียกว่า เสลี่ยมหวาน 

  บนเส้นทางเชื่อมต่อระหว่าง อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย กับ อ.เถิน จ.ลำปาง   แต่ก่อนนั้น(ก่อนที่จะทำเป็นทางหลวง)จะมีต้นเสลี่ยมหวานอยู่ค่อนข้างมาก 

ที่ยังหาคำตอบให้กับตนเองไม่ได้ก็คือ มีไม้ที่เรียกว่า ต้นสะเดาดง  เป็นไม้ที่มีเนื้อไม้สวยมาก มีเส้นสีชมพูเป็นริ้วๆในเนื้อไม้พื้นสีขาวอ่อนๆ   ได้รู้จักทั้งชื่อและเห็นเนื้อไม้นี้ในพื้นที่ทางตะวันตกของแม่น้ำแควน้อย  คิดว่าน่าจะเป็นสายพันธุ์ที่ต่างออกไป           
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 886  เมื่อ 04 มิ.ย. 18, 18:49

สะเดาดง มีอีกชื่อว่า ไม้ยมหอม ค่ะ
http://puechkaset.com/%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%AD%E0%B8%A1/


บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 887  เมื่อ 04 มิ.ย. 18, 20:05

เมนูนี้  
 สะเดาลวกที่หลายคนไม่กล้ากิน   เราก็สามารถใช้ต้นผักชีสดแทนได้ ซึ่งก็ให้ความอร่อยที่ไม่ต่างกันเลย  
 ปลาดุกย่างที่แต่เดิมใช้ปลาดุกอุย ซึ่งเมื่อย่างแล้วจะได้เนื้อสีเหลืองแห้งแต่นิ่ม ในปัจจุบันนี้คงหาได้ยากมาก   เราก็เลือกใช้ปลาดุกนา (ปลาดุกด้าน) หรือปลาดุกเลี้ยงตัวขนาดกลางๆที่ย่างได้ค่อนข้างแห้ง
 หากจะใช้กุ้งเผาซึ่งแต่ก่อนนั้นใช้กุ้งแม่น้ำ ซึ่งปัจจุบันนี้เราคงจะสู้ราคาไม่ไหว   เราก็ใช้กุ้งเลี้ยงตัวขนาดใหญ่หน่อย เผาด้วยไปแรงเพื่อให้ได้ความสุกแบบ medium rare  
 น้ำปลาหวาน ก็เลือกแม่ค้าเจ้าที่ใช้หอมแดงไทยเจียว (หอมเชียงใหม่) ใช้กระเทียมไทยเจียว(จะซอยเป็นแว่นบางๆหรือจะทุบแล้วสับหยาบๆก็ได้)  หอมแขกและกระเทียมจีนนั้นไม่ได้ให้ความอร่อยอะไรเพิ่มขึ้นเลย    ได้น้ำปลาหวานมาแล้ว เราก็ทำให้มันน่ากินขึ้นไปอีก (แบบแม่ครัวรุ่นเก่า) ด้วยการเอาไข่ขาวของไข่ไก่ต้มมาหั่นซอยหรือสับเป็นชิ้นเล็กๆใสปนลงไป
 สุดท้ายก็เอาพริกขี้หนูมาซอยแบบละเอียดยิบใส่ถ้วยน้ำจิ้ม ซอยหอมแดง บีบมะนาว ใส่น้ำปลาดีลงไป  เอาใว้จิ้มครีบและหัวปลาดุก หรือหัวกุ้ง
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 888  เมื่อ 04 มิ.ย. 18, 20:19

สะเดาดง มีอีกชื่อว่า ไม้ยมหอม ค่ะ
http://puechkaset.com/%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%AD%E0%B8%A1/

ขอบพระคุณครับ  ได้ยินชื่อ ยมหอม แต่ไม่เคยหาข้อมูลลึกลงไป     และอีกต้นหนึ่ง ยมหิน ครับ

ได้ความรู้จากชาวบ้านมาว่า ที่เรียกต้นไม้นี้ว่า ต้นยม...  ก็เพราะใบของมันมีลักษณะคล้ายใบของต้นมะยม   

ผมเข้าป่าสำรวดูหินมากกว่าดูต้นไม้ ก็เลยรู้จักและจำต้นไม้ได้แต่ชื่อเป็นส่วนมาก   ได้แต่ลูบคลำลำต้นและแหงนคอตั้งบ่าคูใบชองมันเท่านั้น   
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 889  เมื่อ 05 มิ.ย. 18, 18:43

น้ำปลาหวาน กุ้งเผา สะเดาลวก


บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 890  เมื่อ 05 มิ.ย. 18, 19:15

กลับไปที่ข้าวยำ

ผมคิดว่าข้าวยำเป็นอาหารจานหนึ่งที่เกือบจะไม่มีข้อกำหนดในเรื่องของเครื่องปรุงทั้งในด้านของความหลากหลาย ชนิด ปริมาณ และสัดส่วนของเครื่องปรุงแต่ละอย่าง   เครื่องปรุงที่ต้องมีเป็นองค์ประกอบมาตรฐาน ก็ดูจะมีเพียงมะพร้าวคั่ว กุ้งแห้งป่น พริกป่น และน้ำบูดู

เท่าที่เคยมีประสบการณ์กับข้าวยำแบบบ้านๆจริงๆนั้น   ก็มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ได้กินข้าวยำเจ้าดังที่ทำขายอยู่ในตลาดเช้าของ อ.แว้ง จ.นราธิวาส  ซึ่ง จนท.ของ อ.สุคิริน ได้ซื้อมาให้ลองทานเมื่อครั้งไปทำงานช่วงเวลาสั้นๆในพื้นที่ของ อ.สุคิริน (ที่เหมืองทองคำโต๊ะโม๊ะ)   ข้าวยำถูกห่อมาลักษณะภายนอกคล้ายกับห่อข้าวมันไก่  เมื่อแกะดู ภายในจะรองด้วยใบตองกล้วย  ผักก็มีถั่วงอก มีแตงกวา และผักใบซอยอีกสองสามอย่าง แต่จำไม่ได้ว่ามีใบอะไรบ้าง แล้วก็มีกุ้งแห้งป่น มีมะพร้าวคั่ว มีพริกป่น มีน้ำบูดู และมีมะนาวหั่นมาเสี้ยวหนึ่ง อร่อยครัย อร่อยมากเสียด้วย ได้ความรู้สึกที่เป็นอาหารเช้าแบบเบาๆ ต่างไปจากภาพของจานข้าวยำที่เราเห็นกันสื่อต่างๆ
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 891  เมื่อ 05 มิ.ย. 18, 20:12

น้ำปลาหวาน กุ้งเผา สะเดาลวก

นึกถึงเมนูกุ้งเผากิโลกรัมละหลายร้อยบาทที่มีขายอยู่ตามร้านอาหารริมแม่น้ำหรือแพในแม่น้ำสายสำคัญต่างๆ  น้ำจิ้มแบบอดีตที่เข้าคู่กันได้อย่างดีและมากอร่อยกับเนื้อกุ้งแบบ medium rare และกับข้าวที่คลุกมันกุ้ง ซึ่งจะเป็นหอมแดงซอยบางๆ พริกขี้หนูสวนซอยละเอียด น้ำปลาดี และมะนาว (ผมจะบีบมะนาวใส่หอมและพริกขี้หนูซอย ทิ้งระยะไว้นิดนึง แล้วจึงใส่น้ำปลาดีลงไป ก็จะได้น้ำปลาพริกที่อร่อยและหอมมาก)   น้ำจิ้มเหล่านี้ถูกแทนที่ด้วยน้ำจิ้มแบบใหม่ นำปลามะนาวก็ทำแบบหยาบๆ แต่จะเหมาะแต่เพียงกับการใช้จิ้ม  ไม่เหมาะในลักษณะของการกินแบบเอามาราดข้าวที่คลุกด้วยมันกุ้งและเศษกุ้งทั้งหลาย

ร้านอาหารและแพอาหารเหล่านั้น น่าจะลองนำเสนอเมนูกุ้งเผา น้ำปลาหวาน และใช้ผักชีแทนดอกสะเดา แถม
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 892  เมื่อ 05 มิ.ย. 18, 20:38

คุณตั้งคงหมายถึงน้ำจิ้มซีฟู้ด   ใช้สำหรับจิ้มกุ้งเผา  ให้มีรสแซ่บขึ้นเวลาเอาเข้าปาก   แต่ไม่ใช่สำหรับเอามาคลุกข้าว


บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 893  เมื่อ 06 มิ.ย. 18, 17:59

ใช่ครับ   
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 894  เมื่อ 06 มิ.ย. 18, 18:55

น้ำปลา-มะนาว ที่เราเรามักจะขอร้านอาหารนั้น ถ้าสังเกตดีๆแต่ละเจ้าจะมีความแตกต่างกัน บางเจ้าก็จะพิถีพิถันในการทำด้วยความตั้งใจจะให้มีความเหมาะสมและเข้ากันได้อย่างดีกับอาหารที่ตนทำขาย บางเจ้าก็ทำแต่เพียงเพื่อให้มีน้ำปลา-มะนาวไว้บริการให้ครบ 

เครื่องจิ้ม น้ำปลา-มะนาว นี้ เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งเล็กๆน้อยๆที่ทำให้จานอาหารธรรมดาๆมีความอร่อยเพิ่มขึ้นมาแบบแตกต่างออกไป
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 895  เมื่อ 06 มิ.ย. 18, 19:00

ลืมไปว่า  นอกจากจะใช้ต้นผักชีแทนสะเดาได้แล้ว ก็ยังสามารถใช้ต้นหอมสดแทนได้อีกด้วย  

สะเดาจะออกดอกในช่วงต้นฤดูหนาว กุ้งแม่น้ำก็จะอวบอัดไปด้วยเนื้อและมันในช่วงอากาศเย็นเช่นกัน  เมนูน้ำปลาหวาน กุ้งเผา และสะเดาลวกจึงมีความอร่อยและเป็นที่นิยมของคนรุ่นเก่าเมื่อเข้าสู่ช่วงเวลาดังกล่าว(ยุคกุ้งยังหาได้ง่ายและราคาไม่สูง)  

ในปัจจุบันนี้ เราสามารถจะมีเมนูน้ำปลาหวานกินได้ตลอดทั้งปี  เรามีกุ้งเลื้ยงแล้วก็ปลาดุกเลี้ยงที่หาซื้อเอามาย่างได้ทุกเวลา แล้วใช้ต้นผักชีและต้นหอมแทนสะเดา  จะแถมด้วยไข่เป็ดต้มแบบยางมะตูมสักใบผ่าครึ่งก็จะยิ่งดีเลย  
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 896  เมื่อ 06 มิ.ย. 18, 19:38

นอกจากปลาดุก ก็มีปลาช่อนที่เป็นปลาอร่อยสำหรับอาหารพื้นบ้านภาคกลาง   
คุณตั้งไม่ลองแนะนำเมนูปลาช่อนบ้างหรือคะ


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 897  เมื่อ 07 มิ.ย. 18, 10:31

ไข่ต้มแบบยางมะตูม  เอามายำได้อร่อยมาก

https://www.maeban.co.th/%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3/1549/%E0%B8%A2%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B9%E0%B8%A1.php


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 898  เมื่อ 07 มิ.ย. 18, 11:36

พูดถึงปลาดุก นอกจากเอามากินกับสะเดาน้ำปลาหวาน  เอามาทำยำปลาดุกฟูก็อร่อย


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 899  เมื่อ 07 มิ.ย. 18, 11:39

ในร้านอาหารเจ้าประจำซึ่งบัดนี้เลิกร้าน หลีกทางให้คอนโดไปแล้ว   ไม่มียำปลาดุกฟู  แต่มียำปลาทูน่าฟู รสชาติไม่แพ้ปลาดุกฟูทีเดียว


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 58 59 [60] 61 62 ... 86
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.074 วินาที กับ 19 คำสั่ง