naitang
|
ความคิดเห็นที่ 555 เมื่อ 30 ม.ค. 18, 19:22
|
|
เมื่อเครื่องปรุงแกงร้อนที่แช่น้ำไว้มีความนิ่มแล้ว ก็ถึงกระบวนการปรับแต่งให้น่ากิน
วุ้นเส้น เทน้ำออก เอามือช้อนวุ้นเส้นขึ้นมาแล้วใช้มีดกดตัดเส้นบนมือให้สั้นลงตามต้องการ วุ้นเส้นที่ใช้จะต้องเป็นวุ้นเส้นที่ทำจากแป้งถั่วเขียว มันจึงจะเหนียว ไม่พองน้ำ และจะยังคงเป็นเส้นใสๆอยู่แม้ว่าจะแช่อยู่ในน้ำแกงทั้งคืนก็ตาม
เห็ดหูหนู หยิบขึ้นมา ตัดโคนของมันที่เป็นก้อนแข็งออกไป แล้วหั่นเป็นชิ้นตามขนาดที่ต้องการ แต่ถ้าจะให้ดูดีจริงๆ ก็เลือกเอาเห็ดแห้งที่คะเนว่าเมื่อแช่น้ำแล้วจะขยายตัวออกมาเป็นดอกเห็ดขนาดประมาณนิ้วหัวแม่มือ
ดอกไม้จีน ก็เช่นกัน ใช้นิ้วมือเด็ดส่วนแข็งที่เป็นโคนดอกออกไป
ฟองเต้าหู้ ก็จัดการฉีกหรือตัดให้เป็นชิ้นตามขนาดที่ต้องการ ฟองเต้าหู้นั้นมีทั้งแบบที่ทำเป็นแผ่นหนาและแผ่นบาง ชนิดแผ่นบางก็จะกรอบ เมื่อบิใส่ภาชนะที่จะแช่น้ำก็มักจะแตกร่วนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยหรือเป็นผง คงจะต้องเลือกเอาเองระหว่างฟองเต้าหู้รูปทรงแบบธรรมชาติ หรือจะเป็นทรงแบบใช้มีดตัด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 556 เมื่อ 30 ม.ค. 18, 19:33
|
|
กุ้งแห้งแช่น้ำจนพองแล้วทำได้สองแบบ คือ ใช้ทั้งตัว หรือบรรจงผ่าหลังแต่ละตัวซึ่งจะใด้ทั้งความนิ่มเสมอกันทั้งตัวและรสที่มีความกลมกลืนไปก้บเครื่องปรุงอื่นๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 557 เมื่อ 31 ม.ค. 18, 18:52
|
|
เมื่อเครื่องปรุงพร้อมแล้วก็เริ่มทำแกง
ต้มน้ำกระดูกหมู เมื่อน้ำที่ใส่กระดูกหมูเริ่มร้อนจัด ก็จะเกิดฟองลอยเป็นแพขึ้นมา ค่อยๆทะยอยตักออกทิ้งไป พอน้ำเดือดก็หรี่ไฟพอให้น้ำเดือดปุดๆแล้วค่อยๆช้อนฟองออกไปจนน้ำต้มกระดูกดูใส เคี่ยวไปสักพัก ใส่รากผักชีบุบ ใสหอมใหญ่ ใส่เม็ดพริกไทยบุบพอแหลกลงไป เร่งไฟให้น้ำเดือดแล้วค่อยๆใส่หมูบะช่อลงไป จะปั้นเป็นก้อนหรือใส่เป็นแพแล้วยีให้แตกในภายหลังก็สุดแท้แต่จะชอบ แต่ไม่ควรจะเป็นชิ้นใหญ่ ใส่กุ้งแห้ง หรี่ไฟลงเล็กน้อยแล้วค่อยๆช้อนฟองออกอีกครั้งหนึ่ง ใส่เกลือทะเลลงไปเล็กน้อยเพื่อช่วยเรื่องเค็ม ใส่ฟองเต้าหู้ ใส่ดอกไม้จีน แล้วใส่เห็ดหูหนูตามลงไป แต่งรสและกลิ่นด้วยซีอิ๊วขาวและน้ำปลา คะเนว่าทุกอย่างนิ่มดีแล้วโดยเฉพาะฟองเต้าหู้ ก็ใส่วุ้นเส้นลงไป เร่งไฟให้เดือดแล้วปิดไฟทั้นที ใส่ต้นหอมแล้วยกลง ตักใส่ชามแกง โรยด้วยพริกไทยป่นและใบผักชีโรยหน้า ก็จะได้แกงร้อนที่ผมชอบ
เคยเห็นแบบที่ใส่ปลาหมึกสดตัวเล็กๆทั้งตัวหรือปลาหมึกกรอบหั่นเป็นแผ่นก็มี
โดยสรุปก็เลยไม่รู้ว่าแกงร้อนชื่อนี้ หน้าตาของมันแท้ๆเป็นอย่างไร อาจจะหมายถึงแกงวุ้นเส้นที่ร้อนด้วยพริกไทยก็ได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 558 เมื่อ 31 ม.ค. 18, 20:13
|
|
เมื่อกินไม่หมดเหลืออยู่ในหม้อแกง อุ่นไปอุ่นมาจนน้ำข้น ผมก็แปลงต่อไป ต่อยไข่ใส่ลงไปกวนให้สุก เติมซีอิ๊วขาวเพิ่มรสลงไป เหยาะจิ๊กโฉ่วลงไป ก็กลายเป็นเสมือนซุปเสฉวน_ sweet & sour soup หรือไม่ก็หูฉลามเทียม ต่อมาก็แปลงต่อ ไปใช้เนื้อไก่ต้มฉีกใส่แทนหมูบะช่อ ไม่ใส่กุ้งแห้ง กลายเป็นอาหารจานเสมือน
เลยเกิดความสงสัย อาหารจานแปลงลักษณะดังกล่าวนี้ จะอยู่ในความหมายของคำศัพท์ใด improvise ? , imitation ? , quasi ? หรือ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33584
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 559 เมื่อ 31 ม.ค. 18, 20:23
|
|
หน้าตาคงประมาณนี้มั้งคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 560 เมื่อ 02 ก.พ. 18, 18:19
|
|
ดูภาพแล้วนึกถึงแกงเต้าหู้ใส่กิมจิของเกาหลีในทันที
อาหารของเกาหลีดูจะขาดกิมจิไม่ได้เอาเสียเลย ไม่ใช้กินเป็นของแนมกับอาหารอื่นใดก็ใช้เป็นเครื่องปรุงในการทำอาหารต่างๆ
ครั้งหนึ่งไประชุมองค์กรความร่วมมือระหว่างรัฐบาลที่เกาหลี เย็นก่อนการประชุมก็มี Head of Delegate Meeting จัดเป็นแบบนั่งกินข้าวคุยกันก่อนเปิดการประชุม ในอาหารมื้อนี้จึงทำให้ได้รู้ว่ากิมจินั้นมีอยู่หลากหลายชนิด แล้วก็มีกิมจิที่จัดเป็นของคู่กับอาหารจานต่างๆเป็นการเฉพาะอีกด้วย ที่ได้กินในมื้อนั้นและจำได้แม่นก็คือกิมจิที่มีก้ามปูม้าและกิมจิน้ำที่มีผักลอยมา 1 ชิ้น ซดน้ำกินคล้ายๆกับน้ำล้างคอก่อนที่จะเข้าไปสู่อาหารอีกเมนูหนึ่ง ส่วนสำหรับอาหารมื้ออื่นๆที่จัดให้สำหรับผู้เข้าร่วมประชุม ก็จะเป็นกิมจิแบบที่เราคุ้นเคยกันที่ทำด้วยผักกาด และแบบที่ทำด้วยหัวผักกาดขาวที่ออกสีเหลืองๆ ประชุมกันอยู่ประมาณหนึ่งอาทิตย์ เล่นเอาเหม็นเบื่อกิมจิไปนานเลยทีเดียว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 561 เมื่อ 02 ก.พ. 18, 19:08
|
|
จะขอขยายความนิดนึงเกี่ยวกับ Head (of) Delegate Meeting
เป็นการจัดให้มีการพบปะระหว่างหัวหน้าคณะผู้แทนอย่างไม่เป็นทางการ มีการจัดทั้งแบบก่อนการประชุมหรือเมื่อได้เริ่มเปิดประชุมกันแล้ว หรือแม้กระทั้งก่อนที่จะปิดการประชุม ก็เป็นกลไกหนึ่งที่ใช้เพื่อช่วยทำให้การพูดคุยกันใน agenda ต่างๆดำเนินไปด้วยดี ไม่มีการหักหน้ากัน ขายขี้หน้า หรือการเผชิญหน้ากัน และช่วยทำให้ปัญหาหรือความขัดแย้งต่างๆได้มีทางเดินหรือมีทางออก คงจะไม่ลงไปลึกกว่านี้นะครับ กลัวว่าจะกลายเป็นเรื่องเล่ายาว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 562 เมื่อ 02 ก.พ. 18, 19:34
|
|
กลับมาต่อเรื่องวุ้นเส้นอีกสักหน่อย
วุ้นเส้นเอาไปทำอาหารได้อีกหลายเมนู จะอบ จะผัด หรือจะยำก็ได้ และจะใช้เครื่องปรุงแบบใดก็ได้อีกด้วย
ที่น่าจะหากินยากหรือไม่มีแล้วก็คือที่ใช้วุ้นเส้นแทนเส้นก๋วยเตี๋ยว(ในร้านขายก๋วยเตี๋ยวต่างๆ) ที่ยังพอหากินได้ก็คือใช้แทนเส้นก๋วยเตี๋ยวในผัดไทย ที่ยังคงเห็นใช้กันเป็นปรกติก็มีพวกเมนูที่เรียกว่าอบวุ้นเส้น มีผัดวุ้นเส้นใส่ไข่ มียำวุ้นเส้น มีแกงจืดวุ้นเส้น มีใส้กรอกวุ้นเส้น(อิสาน)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 563 เมื่อ 03 ก.พ. 18, 18:58
|
|
ผัดวุ้นเส้นใส่ไข่นั้น เมื่อใส่กระเทียมดอง(แบบหัวซอยทั้งเปลือกเป็นแว่นๆลงไปด้วย)ก็จะเพิ่มกลิ่นและรสที่ชวนกินไปอีกแบบหนึ่ง ในปัจจุบันนี้ยังคงเห็นบางร้านค้าทำขายอยู่
กระเทียมดองแบบทั้งหัวนี้ เมื่อเอามาซอยเป็นแว่นๆแล้วใส่กระทะลงไปผัดกับไข่ก็อร่อยนะครับ บางคนก็ใส่พริกหยวกหั่นยาวเฉลียงๆลงไปผัดด้วย เครื่องปรุงที่ใช้กระเทียมดอง พริกหยวก และไข่นี้ ปรับให้เป็นจานอาหารที่ต่างกันได้ หากใช้กระเทียมดองมากก็เป็นกระเทียมดองผัดไข่ หากใช้ฟริกหยวกมากก็เป็นผัดพริกหยวก หากใช้ไข่มากก็เป็นไข่เจียวใส่กระเทียมดอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 564 เมื่อ 03 ก.พ. 18, 19:28
|
|
ไข่เจียวแบบที่เป็นของโปรดของผมนั้น มีอยู่ 3 แบบ
ไข่เจียวใส่กระเทียมโทนดอง ต่อยไข่ใส่ถ้วย ซอยกระเทียมโทนเป็นแว่นๆ ซอยหอมแดงใส่ไปสองสามหัว ทั้งสองอย่างนี้ใส่มากน้อยตามใจชอบ ใส่น้ำกระเทียมดองลงไปนิดหน่อยพอที่จะทำให้ไข่นิ่มเมื่อเจียว ตีให้เข้ากันดี เอาลงเจียวในน้ำมันร้อนๆ ความอร่อยของจานนี้อยู่ที่ความเกรียมนิดๆของกระเทียม หอมและไข่ สภาพจะดูคล้ายกับการปิ้งหรือจี่กับน้ำมันในกระทะ จึงต้องคะเนปริมาณน้ำมันที่พอเหมาะ ซึ่งหากมากไปก็เพียงตักน้ำมันส่วนเกินออกไป
ไข่เจียวมะเขือเทศ จานนี้มีลักษณะคล้ายมะเขือยาวชุบไข่ทอด เพียงแต่เป็นมะเขือเทศซึ่งมีปริมาณน้ำมากจนทำให้ไข่เจียวที่สุกแล้วดูแฉะๆเละๆ ผมทานทั้งแบบเป็นอาหารเช้ากินกับขนมปังหรือโปะหน้าข้าวแบบอาหารจานเดียว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 565 เมื่อ 04 ก.พ. 18, 17:40
|
|
สุดท้ายเป็นไข่เจียวทรงเครื่องที่คุณพ่อชอบทำ
ซอยกุนเชียงเป็นแว่นๆแล้วเอาลงกระทะ สุกดีแล้วก็เอาออกมาพักไว้ ซอยหอมใหญ่ หอมแดง ต่อยไข่ใส่ถ้วยตีไข่พอแหลกแล้วใส่เครื่องหอมแดง หอมหัวใหญ่ และกุนเชียงที่ทอดไว้ ปรุงรสด้วยน้ำปลา แล้วตีให้เข้ากัน เสร็จแล้วเอาลงเจียวในกระทะน้ำมันร้อนๆ เมื่อผิวหน้าเริ่มจะแห้งก็พลิกกลับทั้งแผ่น เมื่อใกล้เกรียมได้กลิ่นหอมโชยออกมาแรงก็พลิกกลับอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้ทั้งสองหน้าเกรียมเท่าๆกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 566 เมื่อ 04 ก.พ. 18, 18:39
|
|
พาลไปนึกถึงแกงจืดลูกรอก รู้จักมาตั้งแต่เด็ก รู้สึกอร่อยกับมัน รู้ว่าเป็นเมนูดังที่ต้องทำกินกันเองในสมัยโน้น
ในปัจจุบันนี้ แกงจืดลูกรอกได้มีการทำขายกันแต่เกือบจะไม่พบเห็นในเขต กทม. ไปพบเห็นอยู่ตามตลาดในต่างจังหวัดโน่นเสียมากกว่า ซึ่งก็พอจะรู้ถึงสาเหตุอยู่บ้างว่า ในเขต กทม.นั้นใส้หมูค่อนข้างจะหายาก ต้องใช้วิธีการสั่งเขียงหมู ต่างกันกับใน ตจว.ที่จะหาได้ไม่ยากนัก เพราะผู้ที่จะใช้ใส้หมูในการทำอาหารนั้นมีไม่มาก เมื่อได้ใส้หมูมาแล้วก็ต้องเอามาล้างทำความสะอาด ซึ่งเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลา รวมไปถึงการกรอกไข่ใส่ในใส้ การต้มให้พอสุก การหั่นออกเป็นท่อนสั้นๆ แล้วจึงจะนำไปทำแกง
เมื่อผมยังเป็นเด็กอยู่นั้น แกงจืดลูกรอกเป็นของแปลกที่อร่อยมากๆ เกิดมีความสนใจว่าทำได้อย่างไร และก็ได้สบโอกาสอยู่สองสามครั้งไปนั่งดูเขาทำ(ที่บ้าน)เมื่อมีการทำอาหารเลี้ยงแขกที่มาเยือน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 567 เมื่อ 04 ก.พ. 18, 19:32
|
|
ได้ใส้หมูมาก็เอามาใส่กะละมัง ใส้เกลือเม็ดลงไปแล้วขยำขยี้ดั่งกับซักผ้า แล้วก็ปลิ้นใส้หมูทั้งเส้นเอาด้านในออกมาอยู่ด้านนอก ขยำกับเกลือแล้วดึงหรือขูดเอาไขมันที่ติดตามผนังลำใส้ออกทิ้งไป ล้างให้สะอาดแล้วก็ปลิ้นลำใส้กลับดังเดิม
ผูกปลายใส้ด้านหนึ่ง เอากรวยใส่ปลายใส้อีกด้านหนึ่ง แล้วกรอกไข่ที่ตีจนแหลกเหมือนจะทำไข่เจียวลงไป ก็มีความยุ่งยากนิดหน่อยที่จะต้องทำให้ใส้ที่กรอกไข่ใส่ลงไปนั้นมีความอ้วนเสมอกัน เพราะใส้สดนั้นมันยืดได้และขยายขนาดได้ จึงเป็นฝีมือของแม่ครัวที่จะทำให้ได้ลูกรอกขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ วิธีการที่ทำกันก็คือกรอกไข่ไปแล้วค่อยๆวางขดให้เป็นวงบนตะแกรงที่จะเอาไปต้มหรือนึ่งให้สุก
แล้วก็มาถึงการเอามาหั่นเป็นท่อนๆเพื่อให้ได้ขนาดของลูกรอกที่ต้องการ(เมื่อเอาไปต้มทำแกงจืดเสร็จแล้ว) หากหั่นบางก็จะได้ลูกรอกคล้าย Yoyo แต่หากหั่นหนาก็จะได้ลูกรอกไปอีกแบบหนึ่ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33584
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 568 เมื่อ 04 ก.พ. 18, 21:04
|
|
หน้าตาแกงจืดลูกรอกที่เชฟกู๊กชงมาให้ค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 569 เมื่อ 05 ก.พ. 18, 19:07
|
|
หน้าตาแกงจืดลูกรอกที่เชฟกู๊กชงมาให้ค่ะ
เห็นภาพนี้เมื่ออยู่ในวัย สว.แล้ว กลับไพล่ไปนึกถึงเอาไปเป็นของกินเล่นรองท้องยามบ่าย หรือเป็นของแกล้มยามเย็น (ในทำนองของอาหารประเภทลวกจิ้ม) หากทำน้ำจิ้มให้ดีก็น่าจะอร่อยโขอยู่ แต่ก็ยังนึกไม่ออกว่าน้ำจิ้มของมันควรจะทำเป็นลักษณะอย่างใร คงจะทำให้หลายท่านได้นึกไปถึงใส้กรอกไข่หมูบดที่ใส่ในเย็นตาโฟ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|