naitang
|
ความคิดเห็นที่ 390 เมื่อ 14 ธ.ค. 17, 18:04
|
|
ไปถึง ชาวบ้านสาละวนกับการตากผักแห้งๆ เค็ม เก็บไว้กินได้นาน เอาผักกาดเขียวปลี หรือชุนฉ่าย (คล้ายกวางตุ้ง รสขม) ลวกน้ำ เคล้าเกลือ แล้วตากกับลานบ้าน พอแห้งใส่ถุงไว้ไดนาน พอจะรับทาน ก็เอามาแช่น้ำ แล้วต้มกับกระดูกหมู หรือตุ๋นใน slow cooker อาหารจานนี้พอขึ้นเหลา ต้องปฎิวัติหน้าตาเสียใหม่ พะโล้แห้งถึงเข้ามาเกี่ยวข้อง เอาหมูสามชั้นหนาๆ ไปต้มกึ่งสุกกึ่งดิบ ทาผงพะโล้และเกลือและผึ่งให้หนังแห้ง นำไปทอดแค่ครึ่งทาง แล้วเอาไปต้มเป็นพะโล้ ไม่ต้องเปื่อย ตักผักที่เปื่อยวางล่าง โปะด้วยหมูสามชั้นหั่นบางๆ จะออกกลิ่นพะโล้ http://thewoksoflife.com/2015/01/mei-cai-kou-rou-pork-belly/ผักกาดเขียวปลีมัดแห้งๆนี้ เอาไปต้มร่วมกับขาหมูพะโล้ แล้วแยกสับจัดเป็นผักเคียงไว้ในจานขาหมูก็เข้ากันได้ดี และรู้สึกว่าจะอร่อยมากกว่าผักกาดดองที่มีขายกันทั่วไปในตลาดสดอีกด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
heha
|
ความคิดเห็นที่ 391 เมื่อ 14 ธ.ค. 17, 18:30
|
|
แต้จิ๋วออกเสียงว่า "ช่ายกั๊ว" จีนกลางออกเสียงว่า "ช่ายกัง" ช่าย แปลว่าผัก
คนขับรถบัสจีนในเขตอุทยานมาแง้มถุงพลาสติกสีขุ่นดู แล้วทำหน้าฉงนว่าซื้ออะไรไม่ซื้อ แถวนั้นทำผักแบบนี้เก็บไว้กินเองทุกบ้าน ผมเห็นความมานะของชาวบ้าน ตั้งแต่เต๊าะผัก ล้าง และไปเก็บฟืนที่แสนหายากมาลวกผัก นึกถึงบ้านเรา ผมเผาฟืนทิ้งทุกวัน คนงานถางพง เราเก็บไม้ไว้ใช้ ฟืนแยะไป เอาเข้าจริงๆ เปิดเตาแก๊สสะดวกกว่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 392 เมื่อ 14 ธ.ค. 17, 18:30
|
|
จานที่เอาผักนี้วางรองหมูสามชั้นที่หั่นเป็นชิ้นบางนั้น จะมีชื่อเรียกว่าอะไรก็มิทราบ รู้แต่ว่าอร่อยอยู่ไม่เบา เป็นอาหารที่ขึ้นเหลามานานแล้วแต่กลับหาทานไม่ได้ง่ายนัก แต่ก่อนนั้น ยังพอหาทานได้นอกย่านเยาวราช-เจริญกรุง มีอยู่ร้านหนึ่งอยู่ในย่านตลาดประแจจีน (ตลาดโคลิเซียม หรือตลาดยมราช) อร่อยใช้ได้แถมราคาก็ยังย่อมเยาอีกด้วย ส่วนในต่างจังหวัดนั้น ในเชียงใหม่และเชียงรายมีแน่ๆ แต่ในจังหวัดอื่นๆนั้นไม่ทราบครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
heha
|
ความคิดเห็นที่ 393 เมื่อ 14 ธ.ค. 17, 18:40
|
|
รูปใน คห 388
ถ้าไม่ต้มก่อนแล้วตามด้วยทอด หนังหมูจะเรียบๆ ไม่หยุ่นๆ เหมือนฟองน้ำ ไม่อร่อย
ผักนี้หากินยาก แหล่งที่มีคนจีนเยอะน่าจะมีขาย เช่น นครสวรรค์ และนครปฐม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
CrazyHOrse
|
ความคิดเห็นที่ 394 เมื่อ 14 ธ.ค. 17, 18:54
|
|
จานนี้มีชื่อว่า เคาหยก เป็นเสียงกวางตุ้ง ถ้าจีนกลางจะว่า โข่วโร่ว 扣肉 หรือบางทีจะเรียกเต็มยศว่า เหมยไช่โข่วโร่ว 梅菜扣肉
เหมยไช่ก็คือผักที่รองใต้เนื้อหมูมานี่แหละครับ เป็นผักดองแห้ง ที่คุณ heha เรียกว่าช่ายกัวนี่แหละครครับ แต่ช่ายกัวเป็นชื่อกว้างๆ แบ่งย่อยได้หลายชนิด นัยว่าเหมยไช่เป็นผักดองแบบชาวอำเภอเหมย(เหมยเซี่ยยน)ที่เป็นศูนย์กลางของชาวจีนแคะในมณฑลกวางตุ้งครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
|
|
|
CrazyHOrse
|
ความคิดเห็นที่ 395 เมื่อ 14 ธ.ค. 17, 18:58
|
|
เหมยไช่นี่แต้จิ๋วออกเสียงว่าบ่วยไฉ่ หาซื้อไม่ง่ายจริงๆ ต้องไปหาที่เยาวราชครับ ร้านอาหารจีน(ชื่อดัง)บางร้านลักไก่ใช้ผักดองชนิดอื่นแทน คนที่รู้จักเคาหยกรับทานเข้าไปบ่นอุบครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 396 เมื่อ 14 ธ.ค. 17, 19:08
|
|
นึกขึ้นได้ว่า เมื่อไม่นานมานี้ (6-7 ปีมาแล้ว) มีพ่อค้าทำหมูสามชั้นพะโล้หั่นเป็นชิ้นใหญ่ๆประมาณฝ่ามือ ใส่กะละมังวางขายในร้านแผงลอยในพื้นที่บริเวณปลายถนนสู่ท่าเรือวังหลัง (ศิริราช) ยังเคยซื้อมาและจินตนาการว่าจะนำมาหั่นเป็นชิ้นบางวางบนผักดังภาพ แต่ส่วนประกอบด้านผักไม่ครบ ก็เลยหั่นเป็นชิ้นเล็กดังภาพใน คห.ของ อ.เทาชมพู
ก็อร่อยนะครับ เพราะเขาใช้หมูสามชั้นแบบไทยเรา ชั้นมันไม่หนามากเหมือนกับที่ร้านอาหารจีนเขาใช้กัน มีความเปื่อยนุ่มทรงรูป ไม่นิ่มย้วยดังของจีน จะว่าไปแล้วมันก็คือต้มแบบขาหมู เพียงแต่ใช้หมูสามชั้นทั้งแผงและไม่เคี่ยวจนเละดังขาหมู
ร้านนี้จะออกมาขายในช่วงบ่าย แต่ในปัจจุบันนี้ผมไม่เห็นแล้ว ก็ไม่ทราบว่าเลิกทำขายหรือผมไปผิดเวลา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33584
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 397 เมื่อ 14 ธ.ค. 17, 19:30
|
|
จานนี้มีชื่อว่า เคาหยก เป็นเสียงกวางตุ้ง ถ้าจีนกลางจะว่า โข่วโร่ว 扣肉 หรือบางทีจะเรียกเต็มยศว่า เหมยไช่โข่วโร่ว 梅菜扣肉
เหมยไช่ก็คือผักที่รองใต้เนื้อหมูมานี่แหละครับ เป็นผักดองแห้ง ที่คุณ heha เรียกว่าช่ายกัวนี่แหละครครับ แต่ช่ายกัวเป็นชื่อกว้างๆ แบ่งย่อยได้หลายชนิด นัยว่าเหมยไช่เป็นผักดองแบบชาวอำเภอเหมย(เหมยเซี่ยยน)ที่เป็นศูนย์กลางของชาวจีนแคะในมณฑลกวางตุ้งครับ
เอาภาษาจีนที่คุณม้าให้มา ไปถามซินแสกู๊ก ได้ภาพออกมาเยอะเลยค่ะ ภาพนี้มีผักชีโรยหน้าด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
heha
|
ความคิดเห็นที่ 398 เมื่อ 14 ธ.ค. 17, 19:40
|
|
.อ้วนแน่งานนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
heha
|
ความคิดเห็นที่ 399 เมื่อ 15 ธ.ค. 17, 09:46
|
|
หมูชิงข้า ฮ่าๆๆ เรียกกันเอง สามชั้นสไลด์บางแนมด้วยแตงกวา จิ้มน้ำพริกเผาเซี่ยงไฮ้ ว่าไปแล้ว จีนมีน้ำพริกเผาทุกที่ แต่ละที่มักใส่เครื่องเทศที่ชอบ ของที่ไหนก็ทนได้ แต่ของเสฉวนเหลือทน ฉุนกึ๊ก ชาลิ้น
ลองสูตรนี้ครับ พริกแดงใหญ่หั่นแค่ข้อนี้ว กระเทียม หอมแดงหั่นเล็ก ตะไคร้หั่นฝอย ข่าน้อยๆ ลงไปกึ่งทอดกึ่งคั่ว น้ำมันน้อย ห้ามขาดรากผักชี เดี๋ยวกลายเป็นพริกเผาไทย โขลกรวมกัน แล้วไฟอ่อน ผัดกับน้ำมัน ต้นตำรับหวานน้อย ไม่เปรี้ยว เค็มนำ
ปล เติมกุ้งแห้งตอนโขลก หรือปลาป่นก็ได้ครับ วิเศษ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33584
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 400 เมื่อ 15 ธ.ค. 17, 10:15
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
heha
|
ความคิดเห็นที่ 402 เมื่อ 15 ธ.ค. 17, 12:11
|
|
มะแข่วนป่น หรือซวงเจีย หรือพริกหอม
นี่แหละครับ ศัตรูตัวร้ายของผม ที่ทำให้ผมทนอาหารเสฉวนไม่ได้ กินแล้วชาไปทั้งปาก ผัดผักยังอุตส่าห์ใส่เครื่องเทศฉุนๆ
อาหารจีนที่โอชารสสำหรับคนไทยคือ ทางกวางตุ้ง ฟูเจี้ยน ผมเคยทะลุซาปา เวียดนาม ขึ้นไปทางคุนหมิง ต้าหลี่ ลี่เจียง และแฃงกรีล่า แถวแชงกรีล่า ชาวทิเบตมาตั้งบ้านอยู่เยอะ กับข้าวทานแทบไม่ได้ ผัดผักเค็มปี่ อาหารทุกจานใส่ซวงเจียว
สะโหลสะเหล ตอนเช้าขอข้าวต้มเปล่า กินกับไข่ต้ม เหยาะแมกกี้ เท่านี้ครับ
ชื่อไทยมะแข่วน ชวนให้นึกถึงลาบทางเหนือ ใส่มะแขว่น ผมไม่ชาลิ้น แต่ขมขื่นๆ ทานไม่ได้ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33584
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 403 เมื่อ 15 ธ.ค. 17, 12:21
|
|
พูดถึงอาหารเหนือ ต้องถามชาวเหนืออย่างคุณตั้ง ว่ามีทางไหนจะช่วยคุณเฮฮาได้บ้างนะคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33584
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 404 เมื่อ 15 ธ.ค. 17, 13:17
|
|
หน้าตามะแขว่น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|