เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 22 23 [24] 25 26 ... 86
  พิมพ์  
อ่าน: 80640 คุยกันเรื่องของเสน่ห์ปลายจวัก
heha
ชมพูพาน
***
ตอบ: 174


ความคิดเห็นที่ 345  เมื่อ 03 ธ.ค. 17, 18:13

เพื่อนฮ่องกงชวนกินข้าว เธอจะผัดอองชอยกับกระปิ กลัวว่าเราจะเหม็นกระปิ
ที่ไหนได้


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 346  เมื่อ 03 ธ.ค. 17, 18:57


ถ้าฟิลิปปินส์มีกะปิน้ำปลาแบบไทย   อาหารการกินพื้นเมืองเขาก็คงได้อิทธิพลจากเอเชียอาคเนย์ไม่มากก็น้อยน่ะซิคะ


หมูผัดกระปิเจือเครื่องแกง


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 347  เมื่อ 03 ธ.ค. 17, 19:00

คอยดูเถิดครับ อีกไม่นาน ศึกชิงตลาดน้ำปลาในยุโรประหว่างน้ำปลาไทย-เวียดนาม คงระอุกว่านี้

ผู้บริโภคน้ำปลาในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ คือ ชาวเอเซีย ได้แก่ ไทย ลาว เขมร เวียดนาม ฟิลิปปินส์ จีน เกาหลี และ ญี่ปุ่น น้ำปลาที่จำหน่ายในสหรัฐฯ นำเข้าจากต่างประเทศทั้งสิ้น สหรัฐฯ นำเข้าน้ำปลาในปี ๒๕๕๐ เป็นมูลค่า ๒๑.๔๐  ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีแหล่งนำเข้า ได้แก่ ไทย เป็นแหล่งนำเข้าสำคัญที่สุด หรือมีสัดส่วนตลาดร้อยละ ๘๒ แหล่งนำเข้าอื่น ได้แก่ ฟิลิปปินส์ (ร้อยละ ๔.๑) ฮ่องกง (ร้อยละ ๓.๘) เวียดนาม (ร้อยละ ๓.๕) เกาหลี (ร้อยละ ๒.๓) และ ญี่ปุ่น (ร้อยละ ๑) สหรัฐฯ ไม่เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าน้ำปลาจากกลุ่มประเทศพันธมิตร (MFN: Most Favorite Nation)

น้ำปลาไทยและน้ำปลาเวียดนามในสหรัฐฯ

เวียดนามกล่าวหา น้ำปลาไทยบางแบรนด์ ละเมิดลิขสิทธิ์โดยใช้ชื่อน้ำปลาเวียดนาม "Phu Quoc" พิมพ์ ลงบนฉลากสินค้าเพื่อหวังผลประโยชน์ในการขาย ซึ่งเป็นการ หลอกลวงผู้บริโภค

Phu Quoc เป็นเกาะตั้งอยู่ตอนใต้สุดของประเทศเวียดนามซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำปลาที่มีคุณภาพดีที่สุด น้ำปลาที่ผลิตจากเกาะ Phu Quoc เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ปิดป้าย เครื่องหมายการค้ "Phu Quoc" ได้

กระทรวงประมงเวียดนามได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า "Phu Quoc" ในต่างประเทศรวมทั้งใน สหรัฐฯ ปัจจุบัน เวียดนามกำลังเจรจากับกลุ่มประเทศประชาคม ยุโรป (European Community : EC) ให้ยอมรับในเครื่องหมาย Phu Quoc และจะมุ่งเจรจากับกลุ่ม ประเทศอื่นๆ เช่น สหรัฐอเมริกา แคนนาดา ญี่ปุ่น และ ออสเตรียเลีย เป็นกลุ่มเป้าหมายต่อไป

เวียดนามส่งออกน้ำปลาไปยังสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นเป็นลำดับในระยะเวลา ๕ ปี ที่ผ่านมาโดยมีมูลค่าโดยเฉลี่ยประมาณปีละ ๑ ล้านเหรียญสหรัฐฯ  และในช่วงครึ่งหลังของปี ๒๕๕๐ เวียดนามได้ส่งออกน้ำปลาภายใต้เครื่องหมายการค้า Phu Quoc มายังสหรัฐฯ เพื่อต้องการให้ผู้บริโภคได้ใช้น้ำปลาเวียดนามของแท้

เวียดนามวางกลยุทธ์การขยายตลาดน้ำปลาในสหรัฐฯ โดยเน้นว่าน้ำปลาเวียดนามเป็น สินค้าได้มาตรฐาน เป็นของแท้มีหลักฐานแหล่งที่มาของสินค้า (Certificate of Origin : C/O) ซึ่งระบุว่าผลิตและบรรจุขวดจากเกาะ Phu Quoc และผลิตถูกต้องตามระเบียบกระบวนการของกระทรวงประมงเวียดนามที่กำหนดไว้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค

http://www.ryt9.com/s/expd/396654
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 348  เมื่อ 03 ธ.ค. 17, 19:03

ไปค้นอาหารฟิลิปปินส์มาได้อีก 2 จาน
จานแรกหน้าตาเหมือนไก่อบซีอิ๊ว   เขาเรียกว่า Chicken Bistek


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 349  เมื่อ 03 ธ.ค. 17, 19:05

หมูสะเต๊ะฟิลิปปินส์?


บันทึกการเข้า
heha
ชมพูพาน
***
ตอบ: 174


ความคิดเห็นที่ 350  เมื่อ 03 ธ.ค. 17, 21:54


ประเทศนี่มีกระปิ และเครื่องรวมมิตรแช่ในน้ำตาล ที่คล้ายขนมไทยมากที่สุดเช่นกัน





ตบท้ายด้วยฮาโล ฮาโล่ อร่อยจนไม่อยากกลืน
ก้อนม่วงๆ คือ มันม่วงกวนกระทิ รสคล้าย สัมปันนี (ถั่วเขียวซีกกวนเอาเปลือกออก)


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ



บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 351  เมื่อ 04 ธ.ค. 17, 18:37

น่าทานจังเลยครับ   

ทำให้นึกถึงของหวานที่เคยทานมาอีกอย่างหนึ่งในงานเลี้ยงนานมาแล้ว   ไม่ทราบชื่อของมัน มีลิ้นจี่กระป๋องลอยอยู่ในน้ำเชื่อมใสๆ ไม่หวานนำ ตักเข้าปากไปคำแรกก็รู้เลยว่ามันมิใช่ลิ้นจี่กระป๋องธรรมดา มีน้ำมะพร้าวผสมอยู่ด้วยแน่ๆ อร่อยจริงๆครับ  ผมไม่รู้ว่าเขาทำอย่างไร อุตส่าห์พยายามลองทำดูก็ไม่เป็นผล 
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 352  เมื่อ 04 ธ.ค. 17, 18:58

อยากจะหาร้านอาหารฟิลิปปินส์ในกรุงเทพเสียแแล้วละค่ะ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 353  เมื่อ 04 ธ.ค. 17, 19:08

 ยิงฟันยิ้ม

บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 354  เมื่อ 04 ธ.ค. 17, 19:35

จากที่ผมพอจะได้สัมผัสและมีประสบการณ์มาบ้าง  ผมเห็นว่าฟิลิปินส์มีของหวานที่จัดว่าอร่อยอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งน่าจะเกิดมาจากการผสมผสานของรสมือ/รสลิ้นของพ่อครัว/แม่ครัวในยุคต่างๆที่ได้รับและถ่ายทอดกันมาตามหลักนิยมของชาติที่เคยเข้ามาปกครอง  

และอีกประการหนึ่ง ผมก็มีความเห็นว่า ในภาพรวมๆแล้ว อาหารของฟิลิปปินส์โดยทั่วๆไปมีลักษณะออกไปในทางเน้นเครื่องและรสตามธรรมชาติของมัน (เนื้อเป็นเนื้อ ผักเป็นผัก...) ตามแบบฝรั่ง ในลักษณะของ enhancement approach      ต่างกับของไทยเราที่จะเน้นไปในเรื่องของรสที่ได้จากการผสมผสานของเครื่องปรุงทั้งหมดในองค์รวม ในลักษณะของ holistic approach
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 355  เมื่อ 04 ธ.ค. 17, 20:40

ขอบคุณค่ะคุณเพ็ญชมพู
ดูจากคลิป  วิธีทำอาหารน่าจะคล้ายๆไทย  แต่ไม่รู้รสชาติจะเน้นทางไหนนะคะ
เห็นจะต้องไปสำรวจเพชรบุรี 19 เสียแล้ว
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 356  เมื่อ 05 ธ.ค. 17, 17:57

ผมเคยทานอยู่ไม่กี่ชนิด แต่เคยเข้าไปเดินสำรวจในศูนย์อาหารจานด่วนรอบมื้อเช้า ก็มีลักษณะคล้ายๆกับอาหารประเภทข้าวราดแกงของเรา แต่หน้าตาของอาหารดูไม่ค่อยจะชวนกินเท่าของเรานัก   ได้ลองทานโจ๊กซึ่งดูจะน่ากิน มีปาท่องโก๋ตัดเป็นท่อนๆใส่โรยหน้ามาให้เรียบร้อย ทั้งกลิ่นและรสไม่ได้เป็นดังที่คาดว่าจะใกล้กับของในไทยเลย    เห็นต้มปลาแต่ไม่กล้าซื้อมาลองทาน ดูไม่ออกว่าจะเป็นต้มยำน้ำใสหรือต้มอะไร   น้ำพริกก็เห็นมีวางขายแต่นึกไม่ออก/จำไม่ได้เลยว่าหน้าตาของชุดน้ำพริกเป็นเช่นใด   

เมื่อตกเย็น ก็ได้มีโอกาสนั่งร่วมวงกับเพื่อน นึกว่าจะได้ลองกับแกล้มหลากหลาย แต่ด้วยเวลาจำกัดมาก ก็เลยมีแต่น้ำ ไม่มีเนื้อเอาเลย  ก็เลยไม่ได้ลิ้มรสอาหารในกลุ่มกับแกล้มที่นิยมกันในหมู่คนท้องถิ่นแม้แต่จานเดียว   
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 357  เมื่อ 05 ธ.ค. 17, 19:12

พูดถึงกะปิ  ทำให้นึกถึงกุ้งจ่อมแบบฉบับของพื้นที่ปลายแหลมทอง เคยทานที่เมืองมะละกาของมาเลเซีย  เข้าใจว่าในฟิลิปปินส์ก็น่าจะมีเช่นกัน   เป็นกุ้งฝอยหมักกับเกลือ เขาเอามาทำได้ตั้งแต่ซอยหอมแดง บีบมะนาว แล้วทานกับข้าวและผักสด ไปจนกระทั่งใส่ผสมลงไปในไข่เจียว  ซึ่งเท่าที่พอจะรู้ ก็มีการเอาไปทำอาหารอื่นๆอีกมาก

   
บันทึกการเข้า
heha
ชมพูพาน
***
ตอบ: 174


ความคิดเห็นที่ 358  เมื่อ 05 ธ.ค. 17, 19:30


อาหารของฟิลิปปินส์โดยทั่วๆไปมีลักษณะออกไปในทางเน้นเครื่องและรสตามธรรมชาติของมัน (เนื้อเป็นเนื้อ ผักเป็นผัก...) ตามแบบฝรั่ง
ในลักษณะของ enhancement approach     ต่างกับของไทยเราที่จะเน้นไปในเรื่องของรสที่ได้จากการผสมผสาน
ของเครื่องปรุงทั้งหมดในองค์รวม ในลักษณะของ holistic approach

อาหารพวกชาวเกาะก็แบบนี้แหละครับ เนื้อเป็นเนื้อ ผักเป็นผัก
แล้วเขาก็เอาผักพื้นบ้านมาผัด ต้ม แกง เมื่อสุกยังคงหน้าตาของผักนั้นๆ
อาหารพื้นเมืองของฟิลิปินส์ ไม่ต่างจากพวกซามัว ปาเลา ไมโครนีเซีย ฟิจิ ตองกา
ที่บริโภคเผือก มัน สาเกเผากินแทนข้าว กระทิ และมะพร้าว อาหารการกิน
ก็เลยต่อยอดไปจากของพื้นบ้าน

ในศูนย์อาหารที่ขายอาหารแบบตัก ข้าว+กับข้าวสองถึงสามอย่าง
อาหารฟิลิปินส์ดูแล้วไม่เตะตา แต่รสชาติใช้ได้ เป็นกับข้าวบ้านๆ เสียเป็นส่วนใหญ่
ที่เชิดหน้าหน่อยก็คือ ลุมเปีย ทั้งแบบทอดและแบบสด  สอบผ่าน


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 359  เมื่อ 05 ธ.ค. 17, 20:13

คุณเฮฮายก ลุมเปีย เข้ามาให้อยากชิม แล้วไม่ยักบอกว่ามันคืออะไร
ต้องไปตามหา   ปอเปี๊ยะทอดนี่เอง  รสชาติเหมือนที่เรากินกันในไทยไหมคะ


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 22 23 [24] 25 26 ... 86
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.065 วินาที กับ 19 คำสั่ง