เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 60 เมื่อ 02 ก.ค. 17, 08:24
|
|
เร็วๆนี้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอคลิปพลทหารรายหนึ่ง กล่าวรายงานแสดงความรู้สึก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในพิธีต้อนรับทหารใหม่ ของหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก (นปอ.) เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ที่ผ่านมา หนุ่มพลทหารรายนี้กล่าวรายงานเป็นภาษาอังกฤษโดยไม่มีสคริปต์ในมือ พูดอังกฤษชัดเจนมาก ชาวเน็ตแห่ชมกว่า 4 แสนครั้ง เปิดวาร์ปเป็นหนุ่มลูกครึ่งไทย-สิงคโปร์ ดีกรีหนุ่มปริญญาโท ขอสมัครเป็นทหารกองประจำการ 6 เดือน http://manager.co.th/HotShare/ViewNews.aspx?NewsID=9600000067001แต่คลิปของหนุ่มรายนี้ไม่เกี่ยวกับภาษาไทยในกระทู้นี้ ส่วนที่เกี่ยวคือความเห็นของผู้อ่านรายหนึ่ง พิมพ์ส่งมาด้วยภาษาไทย พิสูจน์ให้เห็นวิธีสะกดที่คีบอร์ดมือถือเป็นตัวกำหนดทิศทาง ไม่เกี่ยวกับความถูกต้อง ความเป็นมา ฯลฯ ของภาษาอีกต่อไป
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 61 เมื่อ 02 ก.ค. 17, 09:53
|
|
เด็กไทยสี่จุดศูนย์ ต่างเทิดทูนนิยมกัน ภาษาฝรั่งนั้น ใครพูดได้ให้ชื่นชม
ครั้นพอภาษาไทย ต่างหัวส่ายไม่นิยม จริงแท้แม้อกตรม วิบัติหนา "พาสาไท"แบบฝึกหัดวิชา "พาสาไท" ในอนาคต 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Jalito
|
ความคิดเห็นที่ 62 เมื่อ 02 ก.ค. 17, 12:56
|
|
เร็วๆนี้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอคลิปพลทหารรายหนึ่ง กล่าวรายงานแสดงความรู้สึก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในพิธีต้อนรับทหารใหม่ ของหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก (นปอ.) เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ที่ผ่านมา หนุ่มพลทหารรายนี้กล่าวรายงานเป็นภาษาอังกฤษโดยไม่มีสคริปต์ในมือ พูดอังกฤษชัดเจนมาก ชาวเน็ตแห่ชมกว่า 4 แสนครั้ง เปิดวาร์ปเป็นหนุ่มลูกครึ่งไทย-สิงคโปร์ ดีกรีหนุ่มปริญญาโท ขอสมัครเป็นทหารกองประจำการ 6 เดือน http://manager.co.th/HotShare/ViewNews.aspx?NewsID=9600000067001แต่คลิปของหนุ่มรายนี้ไม่เกี่ยวกับภาษาไทยในกระทู้นี้ ส่วนที่เกี่ยวคือความเห็นของผู้อ่านรายหนึ่ง พิมพ์ส่งมาด้วยภาษาไทย พิสูจน์ให้เห็นวิธีสะกดที่คีบอร์ดมือถือเป็นตัวกำหนดทิศทาง ไม่เกี่ยวกับความถูกต้อง ความเป็นมา ฯลฯ ของภาษาอีกต่อไป เรือนไทยมี "เปิดวาร์ป" เจนบีบี จะตามไม่ทันแล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 63 เมื่อ 02 ก.ค. 17, 13:40
|
|
ฟินมั้ยคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 64 เมื่อ 02 ก.ค. 17, 18:31
|
|
ฟิน ?? ตกเวทีการใช้ภาษาไทยยุคใหม่ไปเรียบร้อยแล้วครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Jalito
|
ความคิดเห็นที่ 65 เมื่อ 02 ก.ค. 17, 18:47
|
|
เรียน+ใช้ "ภาษาโบราณ"มานานจนเข้าสายเลือด จะให้ฟอก(เลือด)ตอนนี้คงไม่ทันการแล้วครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 66 เมื่อ 02 ก.ค. 17, 19:24
|
|
เห็นคำว่า วาร์ป ก็เลยนึกถึงการใช้ ร ในภาษาไทย
ทำให้เกิดความสนใจขึ้นมาว่า ในภาษาถิ่นเดิมที่ชาวบ้านเขาสนทนากันนั้น ไม่มีเสียงของ ร มีแต่เสียงของ ล ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งบ่งชี้ว่าคำที่มีเสียง ร นั้นมิใช่คำในภาษาไทยมาแต่เดิม ทั้งนี้ หากมีคำที่ต้องมีการออกเสียงแบบตัว ร ในภาษาไทยแต่เดิมแล้วละก็ ผู้คนก็น่าจะต้องสามารถออกเสียง ร ได้ชัดเจน ตัว ร นั้นข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากทวีปอินเดียแน่นอน เรารับมาทั้งจากทางตรงและทางอ้อม (เขมร) ก็จึงเป็นเรื่องปกติที่ในภาษาไทยของเราจะต้องออกเสียงและเขียนคำที่มีตัว ร เหล่านั้นตามที่มาของคำนั้นๆ ทั้งนี้ ในทางวิชาการท่านก็พยายามจะทำการแก้ไขการสะกดคำให้มีความสอดคล้องและถูกต้องตามหลักของภาษาเดิมที่เราเอาคำและความหมายนั้นๆมาใช้ในภาษาของเรา
แต่..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 67 เมื่อ 02 ก.ค. 17, 20:24
|
|
แต่.. ดูเหมือนว่าเรามีศัพท์ในภาษาไทยที่มิได้มีรากเง่ามาจากภาษาอื่น แต่ดอดใส่ตัว ร เข้าไป เช่น กระปี๋ กร๊วก กระจิบ กระจอก และก็มีคำของภาษาอื่นที่เราเอามาใช้แล้วได้ออกเสียงและเขียนเป็นไทยเรียบร้อยแล้ว เช่น กิ๊บ (clip ?)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 68 เมื่อ 03 ก.ค. 17, 18:17
|
|
ด้วยวิชาชีพและอาชีพของผม ทำให้ผมต้องเดินทางไปในหลายพื้นที่ จึงได้มีโอกาสสัมผัสโดยตรงกับสังคม วัฒนธรรม สำเนียงเสียงภาษา ความเชื่อและพิธีกรรมต่างๆในระดับปัจเจกชุมขน แน่นอนว่ามันก็ย่อมจะต้องมีความต่างกันไปบ้างเป็นธรรมดา ซึ่งต่างก็มีเหตุผลหรือคำอธิบายที่เข้าใจได้หรือพอจะเข้าใจได้ แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ยังคงติดใจอยู่ก็คือเรื่องของสำเนียงในภาษาไทย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 69 เมื่อ 03 ก.ค. 17, 19:44
|
|
เรามีสำเนียงเฉพาะของภาษาภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีเอกลักษณ์และมีศัพท์เฉพาะตัวของเขาที่คล้ายๆกัน พอจะแยกขาดออกไปได้
สำหรับในภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้นั้น เราก็มีสำเนียงที่ต่างกันเช่นกันแต่จะมีการใช้ศัพท์ที่เกือบจะเหมือนๆกันทั้งหมด ความต่างก็มีแต่เพียงการออกเสียงไม่ครบพยางค์หรือตัดคำให้สั้นลง ที่น่าสนใจก็ตรงที่ สำเนียงที่เราเรียกว่าเหน่อนั้น มันปรากฎอยู่ในพื้นที่รอบๆกรุงเทพฯและเริ่มสัมผัสได้ในรัศมีระยะน้อยกว่า 100 กม.จากกรุงเทพฯนี้เอง แล้วจะเริ่มกลายเป็นสำเนียงและภาษาที่เราเรียกว่าภาษาทองแดง จากนั้นจึงเปลี่ยนไปเป็นสำเนียงภาษาที่เป็นเอกลักษณ์ประจำภาค
ดังนั้น หากเรามองว่าสำเนียงกรุงเทพฯเป็นสำเนียงมาตรฐาน และสำเนียงในพื้นที่อื่นๆเป็นสำเนียงที่เพี้ยนออกไป การกำหนดการสะกดคำเพื่อให้ออกเสียงตามสำเนียงกรุงเทพฯก็น่าจะถูกต้อง แต่ถ้ามองในอีกภาพหนึ่งว่า บรรดาสำเนียงในพื้นที่รอบๆกรุงเทพฯที่เราว่าออกเสียงเหน่อนั้น เป็นสำเนียงดั้งเดิมของภาษาไทย มาตรฐานการสะกดคำให้ออกเสียงนั้นๆก็คงจะต้องเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง (บ้านเรือนและชุมชนดั้งเดิมในรัศมีระยะน้อยกว่า 100 กม.จากกรุงเทพฯนั้น น่าจะเกือบทั้งหมดได้อพยพหนีภัยมาตั้งแต่สมัยเสียกรุงโน่น และดูเหมือนว่าในมาตรฐานของคนกรุงเทพฯยุคปัจจุบัน ผู้คนเหล่านั้นก็จะพูดสำเนียงเหน่อไปหมด)
สำหรับผมนั้น สำเนียงภาษาไทยดั้งเดิม น่าจะเป็นสำเนียงที่เราบอกว่าเป็นเสียงเหน่อนั้นแหละ ซึ่งอาจจะเป็นเอกลักษณ์ที่ฝังอยู่ในยีนส์ของเราก็ได้ เด็กๆนักเรียนจึงมักจะมีสำเนียงเสียงเหน่อหลงเหลือให้พอจับได้ในการสนทนาเสมอ แม้ว่าจะได้ถูกกำหนดให้อ่านตามคำสะกดที่ให้ออกเสียงเป็นสำเนียงกรุงเทพฯก็ตาม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 70 เมื่อ 04 ก.ค. 17, 09:25
|
|
เรามีสำเนียงเฉพาะของภาษาภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีเอกลักษณ์และมีศัพท์เฉพาะตัวของเขาที่คล้ายๆกัน พอจะแยกขาดออกไปได้
สำหรับในภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้นั้น เราก็มีสำเนียงที่ต่างกันเช่นกันแต่จะมีการใช้ศัพท์ที่เกือบจะเหมือนๆกันทั้งหมด ความต่างก็มีแต่เพียงการออกเสียงไม่ครบพยางค์หรือตัดคำให้สั้นลง เฮฮาภาษาถิ่น ยามยลยินยั่วยิ้มพราย สำเนียงเสียงมากหลาย แฝงชีวิตจิตวิญญาณ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 71 เมื่อ 05 ก.ค. 17, 20:42
|
|
ในเรื่องของสำเนียงนี้ก็มีเรื่องน่าสนใจ
ที่จริงแล้วในระยะประมาณ 100+ กม.จากกรุงเทพฯนั้น เป็นพื้นที่ๆมีผู้คนที่เราเรียกว่าลาวได้ย้ายถิ่นฐานมาอยู่มากมาย มีทั้งที่มาอยู่เนื่องจากถูกกวาดต้อนมาและที่ย้ายตามมา (สระบุรี ลพบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี เพชรบุรี) ซึ่งภาษาและคำที่ผู้คนเหล่านี้ใช้เป็นส่วนมากจะมีความ(เกือบจะ)เหมือนกันในด้านของคำศัพท์และสำนวน ที่จะต่างกันออกไปก็คือความต่างของการออกเสียงของแต่ละคำและสำเนียงของภาษาในองค์รวม ซึ่งในหมู่ของพวกเขาเองก็มีสำเนียงที่พวกเขาจัดว่าเป็นสำเนียงมาตรฐานและที่เป็นสำเนียงเหน่อ ภาษาไทยในอิทธิพลของสำเนียงลาวดังกล่าวนี้ก็ยังมีเอกลักษณ์ที่พอจะแยกออกไปได้จากภาษาไทยที่เราจัดว่ามีสำเนียงเหน่อไปจากสำเนียงกรุงเทพฯ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 72 เมื่อ 05 ก.ค. 17, 21:07
|
|
เรื่องน่าสนใจต่อเนื่องก็คือ
ภาษาไทยสำเนียงที่เหน่อมากๆนั้น เป็นสำเนียงที่เกือบจะเหมือนกันกับที่ผู้คนในภาคต่างๆเขาพูดกัน จนทำให้เกิดความเข้าใจผิดก้นได้ว่าเป็นคนภาคเดียวกัน เท่าที่รู้และได้สัมผัสมา สำเนียงของผู้คนดั้งเดิมในพื้นที่ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี นั้นเกือบจะไม่ต่างไปจากสำเนียงของภาษาใต้เลยทีเดียว สำเนียงหนักๆของภาคเหนือ (แพร่) เมื่อเขาสนทนากันก็ทำให้คนใต้ส่งภาษาใต้มาร่วมสนมนาด้วย ของอิสานก็มีแต่จำไม่ได้แล้วว่าที่ใหน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
CrazyHOrse
|
ความคิดเห็นที่ 73 เมื่อ 01 ส.ค. 17, 14:42
|
|
ผมเพิ่งจะทราบว่ารัชกาลที่ 6 ท่านทรงเคยทดลองปรับรูปแบบการเขียนไทยไว้ รายละเอียดอยู่ในนี้ครับ การปรับรูปแบบการเขียนอักษรไทยโดยรัชกาลที่ 6มีตัวอย่างที่หัวหนังสือดุสิตสมิตครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 74 เมื่อ 01 ส.ค. 17, 18:41
|
|
ชื่อสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย และตราสัญญลักษณ์ ใช้ภาษาไทยที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเคยทรงพระราชดำริขึ้น มีพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์อยู่ในบรรทัดเดียวกันเหมือนภาษาพ่อขุนรามคำแหง แต่หลังจากทดลองใช้แล้วไม่ได้รับความนิยมจากมหาชน จึงมิได้ทรงบังคับ (เครดิตภาพ วรชาติ มีชูบท)
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|