เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
อ่าน: 13945 อยากรู้ว่า "จุฬาตรีคูณ" เป็นชื่อะไร หรือหมายถึงอะไรครับ : )
NooM No_oM@space.com
บุคคลทั่วไป
 เมื่อ 18 ส.ค. 01, 11:37

จากหัวข้อน่ะครับ "จุฬาตรีคูณ"  คืออะไร หรือเป็นชื่อสมมุติ ชื่อตัวละคร หรือชื่อของอะไรครับ เหมือนเคยอ่านเจอ ในบทประพันธ์ มาน่ะ : )
บันทึกการเข้า
ศศิศ
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 26 ก.ค. 01, 22:12

ชื่อ "จุฬาตรีคูณ" เป็นชื่อของจุดศูนย์รวมของแม่น้ำ ยมุนา กันอะไรน้า.... ไม่แน่ใจนะว่าจะรวมกับกับ คงคา หรือเปล่า
แล้วเขายังว่า ยังรวมกับแม่น้ำอีกสายนึงคือ แม่น้ำ สรัสวดี ที่มุดแผ่นดินมาโผล่ ณ ศูนย์รวมแม่น้ำนี้ กลายเป็นวังน้ำวน ที่เรียก ว่า จุฬาตรีคูณ
พนมเทียน เอาที่นี่มาเป็นฉากในนิยายเรื่อง จุฬาตรีคูณ
เป็นสถานที่ เจ้าหญิง ดาราราย ถวายตัวเองแต่จุฬาตรีคูณแห่งนี้เช่นเดียวกับ มารดาแห่งเธอ...
และเรื่องนี้ได้มาทำเป็นละครเพลงอันลือลั่น กับเพลง จุฬาตรีคูณ และอีกหลาย ๆ เพลง

สรุปแล้วได้ความว่า
จุฬาตรีคูณ คือ สถานที่นึ่ง ในอินเดีย
                    คือ ชื่อของนิยายเรื่องหนึ่งของ พนมเทียน
                   คือ เพลง ประกอบนิยายเรื่องนี้
บันทึกการเข้า
รวิปรึยา
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 26 ก.ค. 01, 22:13

เคาะเอาจากความทรงจำนะคะ
จุฬาตรีคูณ เป็นนวนิยาย ของคุณพนมเทียนค่ะ เคยนำมาสร้างเป็นละครเวที และภาพยนต์ หลายครั้งแล้ว ชื่อจุฬาตรีคูณ หมายถึงบริเวณที่มาบรรจบกันของแม่น้ำคงกับยมุนา (ถ้าจำไม่ผิด) ตามที่เพลงเขาร้องกันน่ะคะ
ข้อแต่คงคา...จุฬาตรีคูณ
ดวงใจของข้าอาดูรหนักเอย...
บันทึกการเข้า
B
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 27 ก.ค. 01, 14:16

Khun Sasis is correct. Those three rivers are Kongka, Yamuna, and Surassawadee ka.
บันทึกการเข้า
แมว
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 27 ก.ค. 01, 14:59

ดารารายเลิศโสภา ข้าไม่นำพาเพราะกลัวว่าจะถกสังเวย
โปรดสาปสัญขอให้โฉมอันน่าเชย สิ้นสวยเลยไร้ค่า
เอิ๊ก ๆๆ ...
บันทึกการเข้า
นกข.
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 27 ก.ค. 01, 18:13

ให้ข้าน่าชังสิ้นหวังคู่เชย
ขอให้ไร้คู่ภิเปรยนำพา
ขอให้สมใจในปรารถนานะจุฬาตรีคูณ เจ้าเอย...
บันทึกการเข้า
วรวิชญ
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 27 ก.ค. 01, 22:13

ในเรื่องกามนิต ก็มีกล่าวถึงจุฬาตรีคูณรวมถึงท้องทุ่งกุรุเกษตร เคยถามคนอินเดียที่อาศรมภารตะ เขาก็เฉยๆ ไม่เห็นจะตื่นเต้นอะไร เขาเรียกกุรุเกษตรว่า คุรุกเชสตรา (Gurukshetra)
บันทึกการเข้า
ธรา
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 30 ก.ค. 01, 03:45

ในสกุลไทยฉบับปัจจุบันในอินเตอร์เน็ตมีเรื่องของสถานที่แห่งนี้ มีรูปด้วย

แต่คงไม่ชวนให้เศร้า หรือไปตามเรื่องของเพลงหรือนิยายเลย



http://www.sakulthai.com/' target='_blank'>http://www.sakulthai.com/
บันทึกการเข้า
ขิขุ
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 04 ส.ค. 01, 23:47

ถ้าถามว่า สวนลุมพินี  คืออะไร  อยู่ที่ไหน
คำตอบ   คือสวนสาธารณะ   อยู่ที่  กทม.
ถามว่า    สระอโนดาต   คืออะไร   อยู่ที่ไหน
คำตอบ    คือสระน้ำ   อยู่ที่  ภูกะดึง
ผมว่าเป็นคำตอบ ที่แห้งแล้งนะครับ  มันก็ถูกอยู่ แต่ก็ไม่ครอบคลุม

กระทู้นี้สืบเนื่องจาก อาจารย์ท่านหนึ่งตั้งกระทู้ในกระดานสนทนาของสมาคมดาราศาสตร์ไทย ความว่า “ จุฬาตรีคูณ “ เป็นชื่อดาว  หรือเกี่ยวข้องกับดาวอย่างไร  
ผมเองได้แสดงความเห็นไปแล้วว่าเป็นชื่อเรียก  ณ  ที่แม่น้ำ 3 สาย บรรจบกัน  แต่แม่น้ำที่ว่านี้ไม่ใช่แม่น้ำธรรมดาที่เราเห็นกันบนพื้นโลกนะครับ   แต่เป็นสายธารของดวงดาวที่ปรากฏอยู่บนฟากฟ้า  ที่เราเรียกกันว่าทางช้างเผือก   คนอินเดียโบราณจินตนาการไปว่า  ทางช้างเผือกที่มองเห็นเป็นแถบฝ้าขาวๆ นั้น เป็นต้นธารของแม่น้ำคงคา ซึ่งเกิดจากการรวมตัวกันของแม่น้ำ  2  สาย  และไหลเรื่อยมาจนถึงอินเดีย  
ความนี้ผมอ่านพบมานานมากแล้ว  แต่ยังพอจำได้อยู่   ผมจึงคิดว่า  สถานที่ๆเรียกว่า “ จุฬาตรีคูณ ”  บนพื้นโลกนี้ในประเทศอินเดีย  เป็นการจำลองมาจากจินตนาการของคนรุ่นก่อนๆตามที่กล่าวมาแล้ว
 สุดท้ายนี้ ขอให้ ช่วย วิเคราะห์ศัพท์  คำว่า     จุฬา    ให้ด้วย ผมเข้าใจว่า น่าจะหมายถึง ดวงดาว ดวงแก้ว  สิ่งที่มีแสงแวววาว   สิ่งที่ล้ำค่า  ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกหรือผิดอย่างไร   ถ้าผมเข้าใจถูก ก็จะเป็นเครื่องยืนยันสนับสนุนความคิดนี้อีกส่วนหนึ่ง
บันทึกการเข้า
N.K.Kh.
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 05 ส.ค. 01, 15:37

It's true that the Milky Way is, according to the Indian belief, the Heavenly Ganges, but I never know that the Indians believe there are tribulatories of the Milky Way in the Sky. In other words, there is only the Milky "Way" and not 3 Milky "Ways" joining together anywhere up in the sky. (Is there? Astronomers should know.) So the Chulatrigun is here on earth, according to Indian imagination (already) krab. If you feel this is too dry you have to talk to the Indians themselves...



The Himalayas Mountain also plays an important role in Hindu myths and immagination, yet it is here on earth.



I am waiting for the comments of any experts in Hindu Mythology to confirm or correct my understanding.



I think "Chula" means head, top, the top part of the head, and - perhaps - supreme or highest?. "ChulaTriGun" might mean "supreme threefold"?



In Buddhist mythology, Chulamani (= "topped with jewels"?) is the name of the pagoda or cetiya in heaven where the holy relic of the Buddha is kept.
บันทึกการเข้า
ขิขุ
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 05 ส.ค. 01, 22:36

ขอกระตุกขากางเกง คุณ นกข. นิดหนึ่ง
ทำไมจึงแปล "  ณ  ที่แม่น้ำ 3 สายมาบรรจบกัน "    เป็น   "   ณ  ที่ดาราจักรทางช้างเผือก  3  ระบบมาบรรจบกัน "
ดาราจักรที่เราเรียกว่า " ทางช้างเผือก "  มีเพียงระบบเดียว  เป็นความรู้สามัญทั่วๆไปอยู่แล้ว  คุณ นกข.  แปลความที่ผมสื่อไปผิดครับ

ท่านที่ไม่เคยเห็น ทางช้างเผือก คงไม่สามารถจินตนาการออกได้ว่า รูปลักษณ์เป็นอย่างไร
และผมก็ไม่สามารถบรรยายภาพให้ท่านได้รู้ได้ด้วย   เฮ้อ...หวังว่าจะมีท่านที่มีอาวุโสรุ่น
70-80 ปี มาตอบให้ผมหายข้องใจนะครับ

ส่วนตัว---ผมหลงทางมานะครับ  ได้ยินเสียงเพลง "จุฬาตรีคูณ " ที่ ร้อง รับ ร้องส่งกัน  รู้สึกประทับใจที่นี่มาก บรรยากาศโรแมนติคมากเลย  
 ....ความงามวิไล  ข้ามิได้ปรารถนา  ข้าชังหนักหนาเจ้าเอย
....พระชนนีข้าวิไล  จึงถูกสังเวยเสียในสายชล  ด้วยรักเอย
....จุฬาตรีคูณ   ชีพนี้สิ้นสูญ ในสายจุฬาตรีคูณ  นี่เอย...
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 05 ส.ค. 01, 23:05

คุณขิขุคงจะหมายถึงดาวมหาจุฬามณีหรือเปล่าคะ ไม่ใช่จุฬาตรีคูณ    สุนทรภู่เคยเอ่ยไว้ แต่ดิฉันจำไม่ได้ว่าทางดาราศาสตร์หมายถึงดาวอะไร
จุฬาตรีคูณไม่ใช่ชื่อแม่น้ำสายใดสายหนึ่ง   แต่เป็นส่วนที่รวมของแม่น้ำสอง(หรือสาม?) สายมาบรรจบกัน

ส่วนแม่น้ำคงคา มีเพียง ๑ สาย แบ่งเป็น  ๓ ส่วน ส่วนที่หนึ่งไหลวนอยู่ระหว่างเส้นเกศาของพระศิวะ  ส่วนที่สองไหลลงจากพระเศียรตกลงมาถึงอากาศ เรียกว่าทางช้างเผือก หรือแม่คงคาในสวรรค์   ส่วนที่สามตกลงถึงพื้นดินกลายเป็นแม่น้ำคงคาให้อาบชำระล้างบาป
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 05 ส.ค. 01, 23:11

ขอแถมให้อีกนิดหนึ่งว่า  
มีความเชื่อโบราณว่า บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์  มีพระธาตุเจดีย์ บรรจุพระเกศธาตุของพระพุทธเจ้า    
ดาวมหาจุฬามณี ที่สุนทรภู่บรรยายว่าส่องแสงวับวาวนั้น เกิดจากรัศมีพระเกศธาตุค่ะ
บันทึกการเข้า
นกข.
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 06 ส.ค. 01, 02:33

เอาละ... พูดภาษาไทยได้เสียที จะได้ถนัดๆ
ขอกระตุกขาคุณขิขุคืนบ้างละ

ปัญหาคือ จุฬาตรีคูณ คืออะไร มีผู้ตอบว่า คือจุดที่แม่น้ำ 3 สายไหลมาบรรจบกัน อยู่ในอินเดีย ชาวอินเดียเชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์ (ที่จริง เห็นจริงๆ แค่ 2 สาย อีกสายว่ากันว่าอยู่ใต้ดิน)

คำตอบนี้ คุณขิขุยังไม่พอใจ บอกว่ามันแห้งไป น่าจะมีคำตอบอีก คงคาสวรรค์คือทางดาวที่ไทยเรียก ทางช้างเผือก ฝรั่งเรียก Milky Way อยู่บนฟ้า แขกเชื่อว่าเป็นแม่พระคงคาภาคที่อยู่บนสววรค์ ดังนั้นคุณสรุปเอาเองว่าจุฬาตรีคูรก็น่าจะต้องอยู่บนฟ้าด้วย อันที่มีท่านอื่นตอบไว้แล้วนั้น เป็นของปลอม อันจริงตามจินตนาการของแขก น่าจะอยู่บนฟ้า

ผมแย้งว่า สถานที่ที่ชื่อจุฬาตรีคูณ อันจริงที่อินเดียน่ะแหละจริงแล้ว ไม่ต้องมีอัจริงอันอื่นบนฟ้าแล้ว เพราะจุฬาตรีคุณคือที่รวมของแม่น้ำ 3 สาย ตรีแปลว่าสามครับ ตรีคูณแปลว่า รวมสามสาย สามเท่า ผมไม่เคยทราบว่าในจินตนาการของแขก มีจุฬาตรีคูณอีกอันอยู่บนฟ้าเป็นของต้นแบบที่มีอักอันบนโลกเบื้องล่างเป็นของจำลอง โอเค แขกเชื่อว่าทางช้างเผือกนั้นเป็นส่วนของแม่คงคาบนสวรรค์ แต่ผมไม่เคยได้ยินนิยายแขกว่าด้วยแม่คงคาบนสวรรค์ไปพบกับแม่น้ำอีกสองสายบนสวรรค์ เกิดเป็นจุฬาตรีคูณภาคสวรรค์ ลองเช็คนักภารตวิทยาดูก็ได้ครับว่ามีนิทานแขกพรรณอย่างว่าไหม ถ้าคุณขิขุยังไม่พอใจอีกผมก็จนปัญญา ในเมื่อแขกต้นตำรับเขาก็ไม่ได้จินตนาการไปไกลขนาดนั้น ที่คุณจะเกณฑ์ให้เขาจินตนาการไป แต่ถ้ามีนิทานแขกเรื่องนี้จริงก็ขออภัยด้วย แปลว่าผมยังเรียนไปไม่ถึง

ขอเสริมอย่างหนึ่งครับ นิยายจินตนาการหรือเทพปกรณัมชาติใดภาษาใดก็ตาม มันไม่ค่อยจะลอยตัวอยู่โดดๆ หรอกครับ มักจะอิงกับสิ่งที่เห็นอยู่จริงๆ นั่นแหละ เช่นที่แขกเขาเห็นกระแสดาวบนฟ้า เกิดจินตนาการไปว่าเป็นแม่น้ำคงคาบนสวรรค์ ไทยเห็นเป็นช้างเผือกเดินกันเป็นทาง ฝรั่งเห็นเป็นทางนม จีนเห็นเป็นแม่น้ำหรือสายธารสีเงิน... ล้วนอิงกับสิ่งที่เขาเห็นบนฟ้ากลางคืนจริงๆ ทั้งสิ้น

ถ้าคุณขิขุจะเกณฑ์ให้มีจุฬาตรีคูณอยู่บนฟ้า (ซึ่งผมยังไม่เชื่อว่ามีนิทานแขกเรื่องนี้จริง) โดยอ้างถึงคงคาสวรรค์ ผมก็โต้ว่า การเรียงตัวของสายดาวเท่าที่เห็นด้วยตาคนบนโลก เห็นเป็นทางช้างเผือกหรือคงคาสวรรค์อะไรก็ตามแต่ ไม่เห็นว่ามีเรียงให้เห็นเป็นรูปแม่น้ำ 3 สายมาบรรจบกันให้ตั้งชื่อได้ว่าจุฬาตรีคูณเลยนี่นา? หรือมี? แผนที่ดาวผมก็ไม่ได้เล่นนานแล้ว แต่เชื่อว่าไม่มี ถ้ามีนักดาราศาสตร์คงจะบอกได้ แปลว่าปรากฏการณ์บนฟ้าจริงๆ ที่จะมาเป็นฐานของนิทานแขกที่จะให้มีจุฬาตรีคูณบนฟ้าได้ ก็ไม่มีเสียอีก ดังนั้นผมยังเชื่อว่าจินตนาการเรื่องจุฬาตรีคูณบนฟ้า เป็นความปรารถนาของคุณขิขุคนเดียว แขกตัวจริงต้นตำรับเขาไม่ได้รู้เรื่องด้วย คุณจะหาว่าคำตอบแห้งแล้งหรือพวกเราตอบไม่ครบถ้วนก็ตามแต่ใจคุณเถิด

ที่คุณยกเรื่องกาแลกซี่ทางช้างเผือกที่เป็นของจริงในอวกาศจริงๆ นั้น ผมไม่ทราบว่าเกี่ยวกับเรื่องนี้ตรงไหน ในเมื่อเรากำลังคุยกันเรื่องจินตนิยายฮินดู และที่จริงตอนแรกเป็นจินตนิยายฮินดูที่มีฉากบนโลกด้วยซ้ำ คุณขิขุเองน่ะแหละ พยายามจะลากเอาขึ้นไปเกี่ยวกับคงคาสวรรค์ ซึ่งไทยเราเรียกว่า ทางช้างเผือก และฝรั่งเรียกว่า ทางน้ำนม ขนาดลากขึ้นไปแล้วอย่างนั้น ผมก็ยังนึกว่าเรากำลังคุยกันเรื่องสายธารดาวที่มองเห็นจากโลก (ซึ่งแขกจินตนาการเห็นเป็นแม่น้ำ - และเห็นเป็นแม่น้ำ 1 สาย ไม่ได้เห็นเป็นแม่น้ำ 2 หรือ 3 สาย) เราไม่ได้คุยกันเรื่องดาราจักรหรือกาแลกซี่ที่เผอิญชื่อมิลกี้เวย์เหมือนกัน และมีระบบเดียว ผมก็ทราบว่ามีระบบเดียว คุณขิขุแปลความที่ผมตั้งใจจะสื่อผิดไปครับ แถมแปลว่าผมบอกว่าจุฬาตรีคูณเป็นที่ที่ดาราจักรสามระบบมาบรรจบกันนี่ - เอาเข้าไป - ผมไม่เคยพูดครับ

ยอมรับเสียเถอะครับ แล้วก็ลงมาจากบนฟ้าเสียที จุฬาตรีคูณอยู่บนโลกนี่แหละครับ ฝากเรียนไปทางอาจารย์นักดาราศาสตร์ท่านนั้นด้วย อย่าลากผมขึ้นไปบนฟ้าอีกเลย

ถ้าคุณจะยังเข้าใจอย่างนั้น ปักใจลงไป ติดอยู่ในใจจริงๆ ดึงดันยืนยันให้อยู่บนฟ้าให้ได้ ผมก็เห็นว่าคุณคงสับสนจุฬาตรีคูณกับพระธาตุจุฬามณีเสียแล้วครับ จุฬามณีนะตามความเชื่อทางพุทธอยู่บนฟ้าจริงๆ แต่คนละเรื่องกับจุฬาตรีคูณ คุณเทาชมพูกรุณาแจ้งข้อมูลเพิ่มเรื่องพระธาตุจุฬามณีไว้แล้ว

เคลียร์?
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 07 ส.ค. 01, 01:22

เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๑  เด็กนักเรียนสวนกุหลาบ อายุ ๑๗  คนหนึ่ง แต่งนิยายเรื่องจุฬาตรีคูณ  บรรยายไว้เพริศแพร้วว่า

" อดีตกาลอันไกลโพ้น  กระแสแพรวเพริดเลื่อมเงาเงินประกายทองคู่หนึ่ง ไหลเรื่อยคู่ขนานกันมาจากดินแดนอันแสนไกล  และวกใกล้เข้ามาบรรจบกันเป็นวังวนวิไล เงินและทองแซมไสวมิปะปน   แหล่งนั้นบรรเจิดวิจิตรชวนฉงนเป็นยิ่งนัก   คราใดเมื่อรัตติกาลไร้เดือน ก็ดูราวกับจะยิ่งเตือนให้งดงามเป็นทวีคูณ   ด้วยว่าจะเห็นเป็นหัตถ์อสูรสอดศิลาเศวตมาทาบไว้กับฟ้าอินทนิล  รวมกันเป็นสามกระแสสินธุ์ประเสริฐ   ทิวาคล้อยผ่านรัตติกาลเคลื่อนมาแทนที่   ธารน้ำทั้งสามเมื่อรับกับรัศมีดาวก็ดูประหนึ่งจะสะท้อน ระริกระเริงริ้วเล่นลมดึกอยู่ครึกครื้น   บางครั้งสีเศร้าสลด  สะึอึกรันทดระทม  ดังว่ามีวิญญาณวิปโยคสิงสถิตอยู่   ท่านผู้เจริญ แหล่งประหลาดนี้ มีนามว่า "จุฬาตรีคูณ"

เด็กหนุ่มคนนั้นถือต้นฉบับไปพบนักแต่งเพลงผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคสองคน คือครูเอื้อ สุนทรสนาน และครูแก้ว อัจฉริยะกุล
ทั้งสองท่านได้แต่งเพลงประกอบให้ ๕ เพลง  สอดคล้องกับเรื่องอย่างน่าอัศจรรย์ในการเรียบเรียงทั้งเนื้อร้องและทำนอง
แล้วนำไปเป็นละครวิทยุทางกรมประชาสัมพันธ์
ชื่อเสียงของ "พนมเทียน" เป็นที่รู้จักกันนับแต่นั้น  
แม้ว่าโลกหนังสือจะรู้จักชื่อเสียงท่านจาก "เพชรพระอุมา" มากกว่าก็ตามที  แต่แววของศิลปินแห่งชาติ มีให้เห็นตั้งแต่อายุ ๑๗

 ๒๔๙๒  ปีต่อมา  จุฬาตรีคูณ กลายเป็นละครเวที และต่อมาก็เป็นภาพยนตร์ และละครโทรทัศน์อีกหลายครั้ง
เพลงในเรื่องนี้ ได้ชื่อว่าเป็นเพลงชุดอมตะชุดหนึ่งของไทย เช่นเดียวกับชุด "ผู้ชนะสิบทิศ"

แล้วจะมาโพสต์ต่อถึงเนื้อเรื่องและเนื้อเพลงค่ะ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.046 วินาที กับ 19 คำสั่ง