เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 9 10 [11] 12 13 ... 18
  พิมพ์  
อ่าน: 39619 พระพุทธเจ้าอยู่หัวในความทรงจำของผม
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 150  เมื่อ 08 พ.ย. 16, 09:22

หลังจากนั้นพายุจึงเริ่มซา เหลือเพียงฝนตกหนักอย่างเดียว พอเรือพระที่นั่งผ่านศิริราชก็เริ่มบางลง  ไปขาดเม็ดตอนที่เรือพระที่นั่งเข้าเทียบท่าที่วัดอรุณ เสด็จพระราชดำเนินขึ้นตามหมายกำหนดการ ทุกอย่างดำเนินต่อเหมือนเหตุการณ์ปกติ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ถึงตอนนี้ ผมก็นั่งคุกเข่าลงกราบอยู่หน้าทีวี ด้วยความรัก ความห่วงใยพระองค์ท่านประดุจบุตรพึงมีต่อบิดามารดา ดีใจที่เหตุการณ์วันนั้นผ่านวิกฤตไปได้

บันทึกการเข้า
นางมารน้อย
พาลี
****
ตอบ: 306


ทำงานแล้วค่ะ


ความคิดเห็นที่ 151  เมื่อ 08 พ.ย. 16, 13:24

งานในคราวนั้นในหลวงรัชกาลที่9ประทับในเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณรัชกาลที่9รึเปล่าคะ ฮืม

แต่เห็นภาพที่ทีวีตัดมาในภายหลัง เป็นภาพเรือพระที่นั่งท่ามกลางสายฝนงามสง่าไปอีกแบบจริงๆค่ะ
บันทึกการเข้า

สวัสดีทุกๆท่านค่ะ
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 152  เมื่อ 08 พ.ย. 16, 14:50

ใช่ครับ พระองค์เสด็จโดยเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ

ในคลิ๊บเขาเลือกตอนที่อากาศค่อยยังชั่วแล้วมาลง ก่อนหน้าที่จะถึงสพานพระปิ่นเกล้าเป็นช่วงที่วิกฤตมากครับ
บันทึกการเข้า
กะออม
พาลี
****
ตอบ: 222


ความคิดเห็นที่ 153  เมื่อ 08 พ.ย. 16, 14:57

จำได้ว่าเมื่อฝนตกนั้น แม้จะสาดเข้าสู่เรือพระที่นั่ง แต่ไม่โปรดให้ปิดพระวิสูตร
โปรดเกล้าฯ ให้เปิดพระวิสูตรเผยให้เห็นว่าประทับอย่างปลอดภัย
พระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าฯ ทรงห่วงใยความรู้สึกประชาชนจะกังวลร้อนใจหากประทับในพระวิสูตรที่ปิด

 
บันทึกการเข้า
ธสาคร
พาลี
****
ตอบ: 248


ความคิดเห็นที่ 154  เมื่อ 08 พ.ย. 16, 15:59

ความเห็นที่ 146
บัดนี้จะของเล่าถึงบุญญาภินิหารอันได้แจ้งประจักษ์ ซึ่งเกิดในปีที่บ้านเมืองมีงานฉลองกาญจนาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลทรงมีหมายกำหนดการเสด็จพระราชดำเนินในพระราชพิธีถวายผ้าพระกฐิน ด้วยกระบวนพยุหยาตราโดยชลมารค ณ วัดอรุณราชวราราม เมื่อวันที่ ๗ พ.ย. ๒๕๓๗ โดยจะทรงประทับเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ ซึ่งกองทัพเรือสร้างถวายเป็นครั้งแรกในรัชกาลนี้

+ พ.ศ.๒๕๓๗ แก้เป็น ๒๕๓๙

+ ผมอ่านที่นี่  ตื่นเต้นกว่าเมื่อตอนดูถ่ายทอดสดเมื่อ20ปีก่อนเสียอีก

+ ตอนครองราชย์25ปี..เรียกว่ารัชดาภิเษก(silver)  ตอนครองราชย์50ปี..เรียกว่ากาญจนาภิเษก(gold)  ทำไมตอนครองราชย์60ปี..ไม่เรียกว่า "พัชราภิเษก" (diamond)
(อันนี้ถามไม่ได้จริงจังนะครับ  เพราะการไม่ขนานนาม..ก็คือไม่ขนานนาม  ผมไม่ได้ข้องใจอันใด)



บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 155  เมื่อ 08 พ.ย. 16, 16:25

+ ตอนครองราชย์25ปี..เรียกว่ารัชดาภิเษก(silver)  ตอนครองราชย์50ปี..เรียกว่ากาญจนาภิเษก(gold)  ทำไมตอนครองราชย์60ปี..ไม่เรียกว่า "พัชราภิเษก" (diamond)
(อันนี้ถามไม่ได้จริงจังนะครับ  เพราะการไม่ขนานนาม..ก็คือไม่ขนานนาม  ผมไม่ได้ข้องใจอันใด)

เรื่องแนวคิดที่จะกำหนดให้ปีที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี เป็น Diamond Jubilee นั้น ได้ยินมาว่าไม่ต้องด้วยพระราชนิยมครับ เพราะทรงถือว่า Diamond Jubilee ที่แท้จริงคือ ๗๕ ปี

นอกจากนี้ ยังเป็นที่ถือกันว่าพระมหากษัตริย์ในบางประเทศที่ได้ทรงด่วนฉลอง Diamond Jubilee ในปีที่ทรงครองราชย์ครบ ๖๐ ปี นั้น ไม่มีพระองค์ใดทรงพระเจริญรัชพรรษาได้ถึง ๗๕ ปีอันเป็นพัชราภิเษกที่แท้จริงเลยสักพระองค์เดียว

จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ออกนามพระราชพิธีนี้เพียงว่า "พระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี" ไม่ได้ใช้ถ้อยคำอันเกี่ยวข้องกับเพชร ต่างกับกรณีรัชดาภิเษก และกาญจนาภิเษก

ฉะนั้น นับแต่พุทธศักราช ๒๕๔๙ ไปอีก ๑๕ ปี อันเป็นปีที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๗๕ ปี พวกเราจึงจะได้ร่วมฉลอง Diamond Jubilee ของรัชกาลปัจจุบันอย่างแท้จริง
บันทึกการเข้า
ธสาคร
พาลี
****
ตอบ: 248


ความคิดเห็นที่ 156  เมื่อ 08 พ.ย. 16, 16:33

ขออนุญาตจับไคลแม็กซ์ของคลิปวีดีโอ
นาที 1.20  เรืออนันตนาคราช "กินลม" จนน่ากลัว  โดนเรือนารายณ์ทรงสุบรรณแซงขึ้นหน้าไปไกล
นาที 7.40  เรือสุพรรณหงส์+นารายณ์ทรงสุบรรณ  หยุดรอให้เรืออนันตนาคราชจ้ำพายกลับขึ้นไปนำหัวขบวนตามเดิม
นาที 2.39  ขอสดุดีความสามารถของนายท้ายเรือสุพรรณหงส์  ที่สามารถรักษาสมบัติแห่งแผ่นดินไว้  ไม่ให้ล่มไปกับกระแสน้ำ
ดูเผินๆเหมือนเรือจะถูกพายุพัดจนซวนเซเสียการควบคุม  ทอดลำขวางกระแสน้ำ
แต่จริงๆแล้ว  นายท้ายพยายามคัดท้าย  ให้โขลน(หัว)เรือหันสู้ทิศทางลม (ทิศทางลมสังเกตได้จากธงทิวริ้วประดับบนสะพานปิ่นเกล้า)
ขืนปล่อยให้ลมโจมตีเข้าด้านข้างลำเรือ  เรือพระที่นั่งต้องพลิกล่มอย่างแน่นอน  ณ ตอนนั้นต้องสู้กระแสลมไว้ก่อน..กระแสน้ำไว้ทีหลังครับ


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
ธสาคร
พาลี
****
ตอบ: 248


ความคิดเห็นที่ 157  เมื่อ 08 พ.ย. 16, 17:15

+ ตอนครองราชย์25ปี..เรียกว่ารัชดาภิเษก(silver)  ตอนครองราชย์50ปี..เรียกว่ากาญจนาภิเษก(gold)  ทำไมตอนครองราชย์60ปี..ไม่เรียกว่า "พัชราภิเษก" (diamond)
(อันนี้ถามไม่ได้จริงจังนะครับ  เพราะการไม่ขนานนาม..ก็คือไม่ขนานนาม  ผมไม่ได้ข้องใจอันใด)

เรื่องแนวคิดที่จะกำหนดให้ปีที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี เป็น Diamond Jubilee นั้น ได้ยินมาว่าไม่ต้องด้วยพระราชนิยมครับ เพราะทรงถือว่า Diamond Jubilee ที่แท้จริงคือ ๗๕ ปี

นอกจากนี้ ยังเป็นที่ถือกันว่าพระมหากษัตริย์ในบางประเทศที่ได้ทรงด่วนฉลอง Diamond Jubilee ในปีที่ทรงครองราชย์ครบ ๖๐ ปี นั้น ไม่มีพระองค์ใดทรงพระเจริญรัชพรรษาได้ถึง ๗๕ ปีอันเป็นพัชราภิเษกที่แท้จริงเลยสักพระองค์เดียว

จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ออกนามพระราชพิธีนี้เพียงว่า "พระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี" ไม่ได้ใช้ถ้อยคำอันเกี่ยวข้องกับเพชร ต่างกับกรณีรัชดาภิเษก และกาญจนาภิเษก

ฉะนั้น นับแต่พุทธศักราช ๒๕๔๙ ไปอีก ๑๕ ปี อันเป็นปีที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๗๕ ปี พวกเราจึงจะได้ร่วมฉลอง Diamond Jubilee ของรัชกาลปัจจุบันอย่างแท้จริง

+ โฮกกก...กระทู้เก่าตั้งแต่ปี 2005 พู้น  ผมขอตั้งฉายาให้เว็บเรือนไทยว่า "หอสมุดแห่งราษฎร์"
+ ชอบคำว่า "รัชพรรษา"  ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย  ไพเราะกว่าและกระชับกว่า "ปีที่ทรงครองราชย์" เช่น รัชพรรษาที่ 70 ในรัชกาลที่ 9  โอ้ว..เพราะมาก
+ ขอบคุณ คุณเพ็ญชมพู ที่ช่วยแก้ความเข้าใจผิดครับ
+ เป็นพระราชวินิจฉัยที่สุขุม ระคนถ่อมพระองค์ด้วยครับ  ฮือ ฮือ  ร้องไห้ อยากให้ประเทศไทยได้ฉลองพัชราภิเษก  ร้องไห้
+ แก้คำผิดความเห็นข้างบน (คคห156) โขลนเรือ แก้เป็น โขนเรือ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 158  เมื่อ 08 พ.ย. 16, 17:54

จาก FB ของผม

ปัญญา ป๋อออออ ขออนุญาตครับ
วันนั้นผมเฝ้ารับเสด็จอยู่ที่ท่าเรือใต้สะพานพระปิ่นเกล้า
วันนั้นฝนตกลมแรง
แต่พอเรือนารายณ์ทรงสุบรรณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประทับอยู่กำลังจะแล่นลอดสะพาน ปรากฏว่าฝนและลมที่กำลังตกอยู่ก็หยุดตก รอจนเรือพระที่นั่งเคลื่อนลอดผ่านสะพานไปเรียบร้อย ฝนและลมจึงตกลงมาใหม่และแรงกว่าเก่า เมื่อเรือสุพรรณหงส์รอดใต้สะพาน เรือสุพรรณหงส์จึงถูกพัดไปติดที่ตอสะพาน
สำหรับผม เป็นบุญตาที่ได้เห็นพระบารมีที่แม้แต่ธรรมชาติและเทวดายังคอยปกปักรัษาครับ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 159  เมื่อ 10 พ.ย. 16, 07:00

เรื่องบุญญาภินิหารของพระพุทธเจ้าอยู่หัวนั้น ใน fb ของคุณพุทธ อภิวรรณ เขียนว่าดังนี้
...ในหลวงต้องเป็นผู้มีธรรมสูงมาก  ท่านถึงทราบเรื่องเหล่านี้...”

ผมพึ่งได้ฟังจากปากของ ๒ บุคคลที่เคยถวายงานในหลวง  พูดตรงกันในวันนี้เอง!!!

ก่อนหน้า เคยได้ยิน อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์  เล่าให้ฟังตอนไปสัมภาษณ์และมีผู้ชมถามว่า ทำไม อ.เฉลิมชัย ร้องไห้เหลือเกิน จนบางคำพูดจับประโยคไม่ได้ เหตุผลนั่นคือ อ.เฉลิมชัย รักในหลวงมากครับ
เรื่องที่อาจารย์คิดอยู่นาน จะบอกต่อคนไทยดีไหม เพราะเป็นเรื่องไม่เคยพูดที่ไหน !แต่คิดว่า ถ้าเก็บไว้ คนไทยก็จะไม่รู้

“...มีวันหนึ่ง พี่ร้อนรุ่มมาก อยู่บ้านบนเขา คนเดียว ไม่มีโทรศัพท์ เครื่องมือสื่อสารใด ๆ ทั้งสิ้นจู่ ๆ ร้อนใจบอกไม่ถูก ร้อนรนมาก ทั้งที่ไม่เคยเป็นเลย ต้องรีบตัดสินใจลงจากเขา กลับบ้านทันที ที่อยู่ในเมือง พอลงมา มีคนมารอเต็มบ้านบอกว่า คุณขวัญแก้ว วัชโรทัย ให้โทรหา พอโทรไปต้องอึ้ง
คุณขวัญแก้ว บอกว่าในหลวงรับสั่งอยากให้หา !!!
และในหลวงตรัสว่า  “เดี๋ยวเฉลิมชัย เขาจะโทรมาเอง...”

อ.เฉลิมชัย เล่าถึงตอนนี้ ท่านร้องไห้ไม่หยุดและบอกว่า

“...พุทธ ทำไมในหลวงท่านรู้ ว่าเดี๋ยวพี่ต้องโทรไป
แล้วทำไม พี่เองก็ไม่รู้ตัวว่า ทำไมถึงอยากลงจากเขา พี่เชื่อ ในหลวงต้องมีธรรมขั้นสูงมาก..”

หลังจากนั้น อ.เฉลิมชัยจึงได้รับงานออกแบบเหรียญช้าง (ดังรูป) ในหลวงท่าน พระราชทานให้ เจ้าหน้าที่ ที่ศิริราช
มีแค่ ๘๐๐ คน เท่านั้นที่โชคดี...


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 160  เมื่อ 10 พ.ย. 16, 07:07

อีกท่าน ที่ผมพึ่งคุยวันนี้

พล.อ.ท.ไพโรจน์ พุกจินดา อดีตนักบินพระที่นั่ง  ถวายงานในหลวง ๑๕ ปี
พล.อ.ท.ไพโรจน์ บอกว่า
วันนั้น รอดตายเพราะในหลวง!!!

“...ในหลวงเสร็จทางเหนือ จู่ๆท่านให้มหาดเล็กมาบอกนักบินว่า ให้บินกลับพระตำหนักไปก่อนไม่ต้องรอพระองค์
นักบินก็สงสัย ทำไมในหลวงไม่ยอมกลับ ฮ. ในหลวงเลือกกลับทางรถ ซึ่งลำบากมาก รับสั่งให้บินกลับพระตำหนักก่อนกำหนดเวลาด้วยซ้ำ

เชื่อไหม...พอบินมา เราเจอพายุจ่อมาแล้ว แต่ก็กลับถึงพระตำหนักได้ทันก่อน ถ้าในหลวง...ไม่ให้นักบิน ขึ้นบินกลับไปก่อนแล้วเราเจอพายุ มรสุม นักบินทั้งหมดอาจไม่มีใครรอดชีวิต แปลกใจมาก ทำไม ในหลวงท่านทรงทราบ...”

เหรียญที่ผู้อ่านได้เห็นภาพ เป็นเหรียญทองคำแท้ รูปในหลวงและพระราชินี เป็นเหรียญที่พระราชินี พระราชทานส่วนพระองค์ ให้ พล.อ.ท.ไพโรจน์


วันนี้พอฟังทั้งสองท่าน เล่าตรงกันเลยครับ
เข้าใจถ่องแท้
“ในหลวงผู้ทรงธรรม” ...หมายความเช่นนี้นั่นเอง"


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 161  เมื่อ 10 พ.ย. 16, 10:20

อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์  เล่าให้ฟังตอนไปสัมภาษณ์และมีผู้ชมถามว่า ทำไม อ.เฉลิมชัย ร้องไห้เหลือเกิน จนบางคำพูดจับประโยคไม่ได้ เหตุผลนั่นคือ อ.เฉลิมชัย รักในหลวงมากครับ
เรื่องที่อาจารย์คิดอยู่นาน จะบอกต่อคนไทยดีไหม เพราะเป็นเรื่องไม่เคยพูดที่ไหน !แต่คิดว่า ถ้าเก็บไว้ คนไทยก็จะไม่รู้

“...มีวันหนึ่ง พี่ร้อนรุ่มมาก อยู่บ้านบนเขา คนเดียว ไม่มีโทรศัพท์ เครื่องมือสื่อสารใด ๆ ทั้งสิ้นจู่ ๆ ร้อนใจบอกไม่ถูก ร้อนรนมาก ทั้งที่ไม่เคยเป็นเลย ต้องรีบตัดสินใจลงจากเขา กลับบ้านทันที ที่อยู่ในเมือง พอลงมา มีคนมารอเต็มบ้านบอกว่า คุณขวัญแก้ว วัชโรทัย ให้โทรหา พอโทรไปต้องอึ้ง
คุณขวัญแก้ว บอกว่าในหลวงรับสั่งอยากให้หา !!!
และในหลวงตรัสว่า  “เดี๋ยวเฉลิมชัย เขาจะโทรมาเอง...”

อ.เฉลิมชัย เล่าถึงตอนนี้ ท่านร้องไห้ไม่หยุดและบอกว่า

“...พุทธ ทำไมในหลวงท่านรู้ ว่าเดี๋ยวพี่ต้องโทรไป
แล้วทำไม พี่เองก็ไม่รู้ตัวว่า ทำไมถึงอยากลงจากเขา พี่เชื่อ ในหลวงต้องมีธรรมขั้นสูงมาก..”




นาทีที่ ๓๖.๑๕ - ๓๙.๔๐

บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 162  เมื่อ 10 พ.ย. 16, 10:24

พล.อ.ท.ไพโรจน์ บอกว่า
วันนั้น รอดตายเพราะในหลวง!!!

“...ในหลวงเสร็จทางเหนือ จู่ๆท่านให้มหาดเล็กมาบอกนักบินว่า ให้บินกลับพระตำหนักไปก่อนไม่ต้องรอพระองค์
นักบินก็สงสัย ทำไมในหลวงไม่ยอมกลับ ฮ. ในหลวงเลือกกลับทางรถ ซึ่งลำบากมาก รับสั่งให้บินกลับพระตำหนักก่อนกำหนดเวลาด้วยซ้ำ

เชื่อไหม...พอบินมา เราเจอพายุจ่อมาแล้ว แต่ก็กลับถึงพระตำหนักได้ทันก่อน ถ้าในหลวง...ไม่ให้นักบิน ขึ้นบินกลับไปก่อนแล้วเราเจอพายุ มรสุม นักบินทั้งหมดอาจไม่มีใครรอดชีวิต แปลกใจมาก ทำไม ในหลวงท่านทรงทราบ...”

 

นาทีที่ ๓๐.๔๕ - ๓๔.๑๐
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 163  เมื่อ 11 พ.ย. 16, 07:44

พล.อ.นพ.ชูฉัตร กำภู ณ อยุธยา นักเรียนเก่าวชิราวุธก่อนผมสามปี สมัยอยูโรงเรียนทันเห็นทันรู้จักกัน พี่ท่านเรียนเก่ง จบเป็นแล้วหมอแล้วได้ตามเสด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๑๗ ถวายการรับใช้มากกว่า ๔๐ ปี

“...ในหลวงเวลาไปไหนจะต้องมีหมอตามเสด็จ เพราะเอาไปตรวจประชาชนตามป่าเขา
มีครั้งหนึ่ง ท่านเสร็จภาระกิจแล้ว แต่ผมยังตรวจคนไข้ไม่เสร็จ ท่านเดินมาบอกว่า หมอตรวจไปอย่ารีบ ฉันจะรอ จนกว่า จะตรวจประชาชนเสร็จ
ในหลวงท่านทรงรอเป็นชั่วโมงไม่ยอมกลับ เพราะต้องการให้หมอ ตรวจประชาชนให้ดีที่สุด
ในหลวงท่านเป็นอย่างนี้ตลอดเลย...”

ครั้งหนึ่งมีคนไข้มารอรับเสด็จเพื่อหาโอกาสพบแพทย์  “....เขาตาบอด เป็นโรคเรื้อนด้วย ใครๆ ก็กลัว ตอนผมตรวจเขา เขาบอกว่า อยากสัมผัสมือพระราชินี เกิดมาไม่เคยเห็น ขอจับมือก็ยังดี ในหลวงได้ยิน พระราชินีก็ได้ยิน ในหลวงตรัสบอกราชินีว่า...ให้เขาจับ
เชื่อไหม พระราชินี
ท่านยื่นพระหัตถ์ ไปให้คนโรคเรื้อนจับ พร้อมถามอาการอย่างเป็นห่วงมาก ๆ ..
 “ คุณเชื่อไหม พระเมตตาท่านมากขนาดนี้  พระองค์ไม่รังเกียจประชาชนของพระองค์เลย...”

 “....พระเจ้าอยู่หัวเกิดมาเพื่อทำทาน ทรงศีล ใจท่านบริสุทธิ์มาก ในหลวงไม่เคยว่าใคร
ไม่โกรธใคร ไม่เคยพูดผรุสวาท
ชีวิตท่านมีแต่ให้ แล้วก็ให้ เราสูญเสียครั้งนี้ ไม่ใช่แค่เสียพระมหากษัตริย์ที่ดีเลิศไปเท่านั้น
แต่เราเสีย พระโพธิสัตว์...
….และท่านทำให้ผมรู้ว่า
พระโพธิสัตว์มีอยู่จริง ในโลกใบนี้...”


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 164  เมื่อ 11 พ.ย. 16, 09:16



นาทีที่ ๑๔.๒๐ - ๑๖.๑๕ และ นาทีที่ ๑๙.๔๐ - ๒๑.๑๐
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 9 10 [11] 12 13 ... 18
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.066 วินาที กับ 20 คำสั่ง