เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 18
  พิมพ์  
อ่าน: 39626 พระพุทธเจ้าอยู่หัวในความทรงจำของผม
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 60  เมื่อ 29 ต.ค. 16, 08:16

เมื่อเสด็จลงไปประทับที่สนามใหญ่ด้านข้างหอประชุมแล้ว นักเรียนวชิราวุธทั้งโรงเรียนจะสวนสนามถวายตัว หลังจากนั้นก็เป็นการแข่งขันกรีฑารอบชิงชนะเลิศระหว่างคณะต่างๆทั้งเด็กเล็กและเด็กโต ซึ่งโรงเรียนเลือกการแข่งขันประเภทที่สั้นๆและน่าสนใจมาถวายทอดพระเนตรเพี่ยงไม่กี่รายการ เช่น วิ่ง ๖๐ เมตรของเด็กเล็ก วิ่ง ๑๐๐ ๒๐๐ และ ๔๐๐ เมตร วิ่งผลัด ๔x๑๐๐ และวิ่งทน ๘๐๐ หรือ ๑๕๐๐ เมตร จำไม่ได้ ทั้งหมดนี้ใช้เวลาไม่นาน จบแล้วจะมีการแสดงหน้าพระที่นั่ง

ผมกับคุณนายตั้งจะเป็นดาราประกอบ สมัยของเราอยู่นั้นที่แน่ๆคือ เรื่องคลีโอพัตราปีนึง กับ เฮเลน ออฟ ทรอย อีกปีนึง ได้รับบทเป็นทหารเลว ฟันดาบกันโช้งเช้งๆ

ปีที่เล่นเป็นทหารกรีกเมืองทรอย ใส่เสื้อเกราะ(กระดาษแข็ง) รบกับฝ่ายสปาต้านั้น ทหารเลวสองคน คือผมกับเพื่อนรุ่นเดียวกันอีกคนหนึ่ง(อนาคตของเขาตอนนั้นหรืออดีตตอนนี้ติดยศพลเอก ตำแหน่งกรมวังผู้ใหญ่) ได้เล่นบทเด่นที่ผู้กำกับไม่ได้สั่งไว้ คือระหว่างที่เราถูกกำหนดให้ต้องนอนตายอยู่นิ่งๆในฉากนั้น ดั๊น ไปล้มลงบนรังมดคันไฟกลางสนามหญ้าพอดี ตายได้พักเดียวมดเข้าไปเต็มเสื้อเกราะ ดังนั้น ในขณะที่พระเอกนางเอกเขาแสดงบทโศกาอาดูรเข้าสู่ไคลแม็กซ์ของเรื่อง ผู้ชมทั้งสนามจะเห็นศพทหารเลวสองคนคืนชีพ ลุกขึ้นโซเซแล้วไปล้มลงนอนทุรนทุราย ไม่ยอมตายสักทีจนกระทั่งจบการแสดง

 


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 61  เมื่อ 29 ต.ค. 16, 08:31

ผมหยุดไปหลายวันเพราะจิตไม่นิ่งพอที่จะเขียนต่อ เห็นอารมณ์ของตนมันวิ่งไปทางซ้ายทีขวาที บ้างก็ขึ้นๆลงตามเรื่องตามราวที่กระทู้พาไป

ส่วนผู้อ่านๆแล้วจะรู้สึกตามไปด้วยหรือไม่ขึ้นอยู่กับเหตุกับปัจจัยหลายอย่าง อย่างหนึ่งคือความสามารถในการเขียนของผม หรือไม่ก็ความต่อเนื่องของมัน ผู้ที่เข้ามาต่อกระทู้จึงสนทนากันห่างประเด็นหลักออกไปทุกที

ก็ไม่ผิดหรอกครับ ธรรมชาติของการเล่นกระทู้ก็อย่างนี้ ผู้ที่เข้ามาใหม่พึงเข้าใจด้วย

ครูไหวโดนอาจารย์ใหญ่กว่า ตีมือเอาเบาะๆเสียแล้ว
ตั้งใจจะแยกกระทู้ไปเป็นกระทู้อายุ    แต่เมื่อวานก็ไปนอกเรือนไทยเสียทั้งวัน   กลับมาจะแยกกระทู้ก็พอดีท่านเจ้าของกระทู้กลับมาต่อกระทู้เสียก่อน ทำให้การแยกความเห็นทำได้ยากเพราะจะติดค.ห.ท่านออกไปด้วย

เลยขออนุญาตท่านอื่นๆลบความเห็นบางความเห็นออกไปนะคะ   มันไม่มีสาระอะไร
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 62  เมื่อ 29 ต.ค. 16, 09:25

ขอบคุณครับ


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 63  เมื่อ 29 ต.ค. 16, 09:43

เป็นความสัตย์ที่ผมไม่ได้นึกรังเกียจผู้ที่เข้ามาสนทนาในกระทู้ของผมเลย ตรงกันข้าม ผมดีใจที่มีคนสนใจกระทู้ของผมขนาดยอมออกแรงเขียนเข้ามาร่วม ดังนั้น ขอท่านทั้งหลายอย่าได้คิดเป็นอื่นนะครับ โปรดเข้ามาถาม หรือแสดงความคิดเห็นเพื่อเสริมให้กระทู้เข้มข้น โดยเฉพาะหากมีเรื่องจะเล่าเพื่อเสริมพระบารมีพระพุทธเจ้าอยู่หัว ดังเช่นเรื่องที่ผมจะเล่าในลำดับต่อไป
บันทึกการเข้า
ประกอบ
สุครีพ
******
ตอบ: 1342


ความคิดเห็นที่ 64  เมื่อ 29 ต.ค. 16, 17:53

เพื่ิอให้เข้ากับบรรยากาศของกระทู้ ก็ขอเสริมประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยได้เห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบ้าง

เมื่อเปรียบเทียบกับคนไทยอื่นๆ โดยเฉพาะคนรอบๆ ข้างเท่าที่ได้ถามๆ มา ผมนับว่าโชคดีที่ได้มีโอกาสเห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รวมทั้งสมเด็จพระนางเจ้าฯ 2-3 ครั้งตอนเสด็จพระราชดำเนินผ่าน สมัยนั้นยังเป็นนักเรียนมัธยมวัยละอ่อน โรงเรียนอยู่แถวๆ ย่านถนนราชดำเนินนอกนั้น เวลามีพระราชพิธีหรือการเสด็จพระราชดำเนินผมมักจะหาโอกาสไปรอดู  วันหนึ่งบังเอิญผ่านไปแถวถนนราชดำเนินนอกโดยไม่ตั้งใจ เห็นตำรวจตั้งขบวนกันก็เลยรอ ทำให้มีได้เห็นตอนพระองค์เสด็จผ่านอย่างค่อนข้างใกล้ จำได้ว่าครั้งนั้นพระองค์ทอดพระเนตรมาทางผมพอดีและโบกพระหัตถ์ให้ด้วย แม้เป็นเวลาเพียงเสี้ยววินาที แต่ยังปลื้มอกปลื้มใจมาจนถึงบัดนี้

สมัยเรียน มหาวิทยาลัยที่ผมจบปริญญาตรีมาจะรับปริญญากับสมเด็จพระเทพฯ  พอไปเรียนปริญญาโท ปรากฏว่ามัวแต่เถลไถลจบช้าไปปีนึงเลยไม่มีโอกาสได้รับพระราชทานปริญญาจากพระหัตถ์ เพราะปีก่อนปีที่ผมจบเป็นปีสุดท้ายที่พระเจ้าอยู่หัวเสด็จมาพระราชทานปริญญาบัตรด้วยพระองค์เองมรามหาวิทยาลัยนั้น

ในครอบครัวผมมีพี่สาวที่มีโอกาสดีกว่ามาก เพราะจบธรรมศาสตร์ทันสมัยที่ยังทรงเสด็จพระราชทานปริญญาบัตรด้วยพระองค์เอง  ต่อมาพี่สาวเกิดขยันมุมานะ สอบเข้าเป็นผู้ช่วยผู้พิพากษาได้ เลยได้มีโอกาสเข้าเฝ้าถวายสัตย์หน้าพระที่นั่งด้วย

ตอนนี้นัดหมายกับพี่สาวแล้ว รอให้คนซากว่านี้อีกซักนิด จะเข้าไปถวายบังคมพระบรมศพกันทั้งครอบครัว
บันทึกการเข้า

วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 65  เมื่อ 29 ต.ค. 16, 18:50

คุณ NAVARAT.C ได้เล่าเรื่องขำๆที่เกิดขึ้นในระหว่างการแสดงต่อหน้าพระพักตร์เรื่อง Helen of Troy   ผมคิดว่าพระองค์ท่านก็คงจะทรงสำราญพระราชหฤทัยอยู่ไม่น้อยกับการกระทำของทหารเลว 2 คนนี้เป็นแน่แท้ ทั้งนี้แม้นว่าจะมิได้เห็นพระองค์ท่านแย้มพระสรวลหรือไม่ก็ตาม  

จากประสพการณ์ของผมเองที่พอจะมีจากการได้ถวายงานอยู่บ้าง ทำให้ทราบว่าพระองค์ท่านทรงมีข้อสังเกตในระดับรายละเอียดในทุกเรื่อง ซึ่ง พระองค์ท่านมักจะชี้หรือหยิบออกมาสอบถาม ชี้นำ ให้คำแนะนำ ....ฯลฯ ด้วยพระสุรเสียงที่สัมผัสได้ว่ามีแต่ความเมตตา ความเอ็นดู มีพระอารมณ์ดีตลอดทุกครั้ง ผมไม่เคยได้สัมผัสกับพระอารมณ์อื่นใดๆเลยทั้งสิ้น

ผมก็เลยเชื่อว่าพระองค์ท่านคงจะทรงขำอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวกับการกระทำในการแสดงของทหารเลว 2 คนในครั้งนั้น
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 66  เมื่อ 30 ต.ค. 16, 06:14

ขอบคุณสำหรับการเข้ามาของทั้งสองท่านครับ

นอกจากงานเสด็จพระราชดำเนินมายังโรงเรียนทั้งสองโอกาส นักเรียนวชิราวุธยังได้เดินแถวไปรอรับเสด็จยังวัดเบญจมบพิตร ซึ่งวงโยธะวาทิตที่ผมสังกัดอยู่จะบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีในวันที่เสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินประจำปีด้วย

ที่เป็นพิเศษ ก็ในปีพุทธศักราช ๒๕๐๓ ผมมีโอกาสได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในคราวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินเยือนสหรัฐอเมริกา อังกฤษและประเทศภาคพื้นยุโรป  โดยโรงเรียนจัดให้พวกเราเดินแถวไปรอส่งเสด็จที่ประตูพระราชวังสวนจิตรลดา ทางด้านสวนสัตว์ดุสิต ซึ่งเมื่อเสด็จออกมาแล้วรถพระที่นั่งจะชลอความเร็วลง และทั้งสองพระองค์ทรงโบกพระหัตถ์ให้นักเรียน

แม้เห็นพระองค์ท่านเพี่ยงไม่กี่วินาทีก็ชุ่มชื่นหัวใจไปนาน
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 67  เมื่อ 30 ต.ค. 16, 06:31

ตอกย้ำความรู้สึกว่า “ลูกในหลวง” มิได้มีแต่เพียงเหล่านักเรียนวชิราวุธ พวกเรามีจำนวนรวมกันเพียงเม็ดทรายกระหยิบมือเดียวเมื่อเทียบกับมหาชนคนไทยจำนวนเท่าเม็ดทรายในมหาสมุทรผู้ถือพระองค์เป็นพ่อ และพระองค์ทรงนับป็น “ลูก” เช่นกัน

ผมแรกรู้สึกความจริงนั้นนับตั้งแต่ชมภาพยนต์ส่วนพระองค์ การเสด็จเยือนราษฎรในภาคต่างๆ ซึ่งสำนักพระราชวังนำออกฉายที่โรงหนังศาลาเฉลิมกรุง  ในแต่ละครั้งยืนโรงนานหลายๆเดือนเพราะคนชอบไปดู  คนกรุงแม้เคยได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในโอกาสที่เสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินตามวัดต่างๆบ่อยๆก็จริงอยู่  แต่ก็เห็นแต่พระพักตร์ที่เคร่งขรึม ไม่ได้ทรงยิ้มอย่างมีความสุขเช่นกับที่ทรงพระราชดำเนินไปเรื่อยๆตามแถวของราษฎรชาวต่างจังหวัดซึ่งมารอเฝ้ารับเสด็จ เลยอดอิจฉาวาสนาคนต่างจังหวัดที่ได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าอย่างใกล้ชิดไม่ได้  ก็ขนาดสามารถจับไม้จับมือเอาพระหัตถ์ของพระองค์ไปทูนไว้บนศรีษะ ยิ่งกว่านั้น บางคนยังยกพระบาทขึ้นไปวางบนหัวของตน แบบไม่กลัวว่าจะทรงหกล้มเสียด้วย


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 68  เมื่อ 30 ต.ค. 16, 07:17

เสด็จนิวัติพระนครคราวนั้นเป็นวันที่ ๑๙ มกราคม พ.ศ.๒๕๐๔  คนกรุงออกมารอรับเสด็จตามถนนหนทางต่างๆที่รถพระที่นั่งจะผ่านแบบมืดฟ้ามัวดิน นักเรียนวชิราวุธถูกจัดให้ไปรวมกับคณะรัฐบาลและคณะบุคคลอื่นๆที่สนามหน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม ซึ่งพระพุทธเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าจะเสด็จออกสีหบัญชร ในเวลา ๑๗.๐๐ น.

โรงเรียนพานักเรียนไปตั้งแต่บ่ายต้นๆ แดดร้อนเปรี๊ยงไม่รู้จะหาที่ยืนหลบแดดกันตรงไหน  ผมจำได้ว่าเสื้อราชปะแตนเครื่องแบบของพวกเราแต่ละคนล้วนชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ อาศัยความหนุ่มจึงอดทนอยู่ได้ไม่มีใครเป็นลมเป็นแล้ง  ครั้นเวลาใกล้เสด็จพระราชดำเนิน แดดร่มลมตกแล้วก็ค่อยยังชั่วหน่อย
เมื่อมีเสียงประกาศให้ทุกคนเข้ายืนประจำตำแหน่ง  และรถพระที่นั่งเคลื่อนมาถึงนั้น บรรยากาศยามเย็นมีลมหนาวโชยมาเหมือนที่ใครเปิดระบบปรับอากาศให้  คืนความสดชื่นแก่ทุกคนทั้งกายและใจ  และเป็นพิเศษสุดเมื่อเสด็จออกสีหบัญชรและมีพระราชดำรัสกับประชาชน   ทรงพระราชทานพรแล้ววงโยธะวาทิตทหารรักษาพระองค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี นายกรัฐมนตรีถวายพระพรและเปล่งเสียงไชโยนำ คนทั้งนั้นก็ไชโยตาม เสียงดังกึกก้องต่อเนื่องไม่ยอมเลิก ทรงประทับยืนโบกพระหัตถ์อยู่นานจึงได้เสด็จเข้า

เป็นความรู้สึกสุดยอดอีกครั้งหนึ่งในยามนั้น

ขากลับโรงเรียน ระยะทางก็แค่นั้นเอง แต่ความที่คนมาเฝ้ารับเสด็จมีมากมาย กว่าเราจะกลับถึงแล้วได้อาบน้ำกินข้าว ตะวันก็ตกดินไปนานแล้ว  ก็ไม่เห็นมีใครบ่นเหน็ดบ่นเหนื่อย มีแต่คุยกันถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมา


บันทึกการเข้า
Rattananuch
อสุรผัด
*
ตอบ: 37


ความคิดเห็นที่ 69  เมื่อ 30 ต.ค. 16, 15:41

ในชีวิตได้เคยมีบุญเห็นองค์จริงของในหลวง2 ครั้งค่ะ
ครั้งแรก อายุสักสิบสอง เป็นงานพระราชทานเพลิงศพคุณตาซึ่งในหลวงเสด็จมาพระองค์เดียว
จำได้ว่าถูกคุณป้าจับตัวไปตัดชุดไทย เพื่อใส่ตอนเข้าแถวรับเสด็จเวลาที่หน้ารถพระที่นั่งมาจอดเทียบ
ความรู้สึกแรกที่ได้เห็นพระพักตร์แบบใกล้ชิดมาก คือห่างเมตรเดียวเป็นความคิดแบบเด็กๆ (กราบพระบาทขอพระราชทานอภัย) "ในหลวงหล่อจัง"
พระพักตร์ท่านอิ่มเอิบเปี่ยมด้วยเมตตา ทรงยิ้มนิดๆแบบที่เห็นในทีวี

ครั้งที่สอง เป็นปีที่น้ำท่วมใหญ่กรุงเทพ จำไม่ได้แล้วว่าปี 2527 หรือ 2528
วันนั้นไปธุระโดยใช้เส้นทางทางด่วนตรงบางนา ปรากฎว่ารถติดมากแบบขยับไปทีละนิดๆ
ก็สงสัยกันมากว่าติดอะไร เพราะตอนนั้นทางด่วนเพิ่งเริ่มใช้ รถจะวิ่งกันคล่องมาก
ตัวดิฉันอยู่ในรถเมล์ ก็ยืดคอออกไปดูนอกหน้าต่าง ก็เห็นคนกลุ่มใหญ่ยืนล้อมวง กินเนื้อที่ทางด่วนเข้ามาหนึ่งเลน
มีผู้ที่ยืนเด่นอยู่ตรงกลางริมทางด่วนใกล้คลองระบายน้ำเล็กๆสองสามคน และหนึ่งในนั้นคือในหลวง
มันเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อจริงๆ ที่เรามองออกมาจากรถเมล์ แล้วเห็นในหลวงประทับยืนอยู่ริมถนน
ตอนนั้นทุกคนในรถเมล์ตาค้างกันหมด พอได้สติก็พนมมือไหว้กันโดยพร้อมเพรียง
พอรถแล่นผ่านไป คนในรถก็ถามไถ่กันใหญ่ว่าในหลวงท่านเสด็จมาดูอะไรที่ริมทางด่วน
แต่พอตอนค่ำ ข่าวทีวีก็ออกว่าในหลวงท่านเสด็จมาตรวจดูทางระบายน้ำเพื่อแก้ไขน้ำท่วมกรุงเทพค่ะ
 
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 70  เมื่อ 30 ต.ค. 16, 16:45

 เป็นความทรงจำอันไม่เลอะเลือนเลยนะครับ
บันทึกการเข้า
Rattananuch
อสุรผัด
*
ตอบ: 37


ความคิดเห็นที่ 71  เมื่อ 30 ต.ค. 16, 16:51

เป็นความทรงจำอันสูงค่าที่สุดในชีวิต และจะอยู่ไปจนถึงวันสุดท้ายของชีวิตค่ะท่านอาจารย์
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 72  เมื่อ 30 ต.ค. 16, 19:32

เมื่อเช้า ผมพยายามหาภาพจากเน๊ตมาประกอบข้อความของผทที่ว่า

ผมแรกรู้สึกความจริงนั้นนับตั้งแต่ชมภาพยนต์ส่วนพระองค์ การเสด็จเยือนราษฎรในภาคต่างๆ ซึ่งสำนักพระราชวังนำออกฉายที่โรงหนังศาลาเฉลิมกรุง  ในแต่ละครั้งยืนโรงนานหลายๆเดือนเพราะคนชอบไปดู  คนกรุงแม้เคยได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในโอกาสที่เสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินตามวัดต่างๆบ่อยๆก็จริงอยู่  แต่ก็เห็นแต่พระพักตร์ที่เคร่งขรึม ไม่ได้ทรงยิ้มอย่างมีความสุขเช่นกับที่ทรงพระราชดำเนินไปเรื่อยๆตามแถวของราษฎรชาวต่างจังหวัดซึ่งมารอเฝ้ารับเสด็จ เลยอดอิจฉาวาสนาคนต่างจังหวัดที่ได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าอย่างใกล้ชิดไม่ได้  ก็ขนาดสามารถจับไม้จับมือเอาพระหัตถ์ของพระองค์ไปทูนไว้บนศรีษะ ยิ่งกว่านั้น บางคนยังยกพระบาทขึ้นไปวางบนหัวของตน แบบไม่กลัวว่าจะทรงหกล้มเสียด้วย

หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอครับ ในที่สุดต้องเข้า ๅYou Tube หาภาพยนต์ของสำนักพระราชวัง ตามหัวเรื่อง การเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎร มาเจอที่ภาคใต้จนได้ครับ จะยกมาทั้งเรื่องก็ยาวเกิน กลัวจะหาไม่พบกัน เลยใช้ copy เป็นภาพนิ่งออกมาแบบไม่ชัดเท่าไหร่ แต่ก็พอได้อาศัย

รูปแรกก็เพียงแต่จับพระหัตถ์ท่านด้วยความเคารพรัก แบบสุดที่จะนิ่งเฉย


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 73  เมื่อ 30 ต.ค. 16, 19:34

คนนี้เอาพระหัตถ์มาทูนไว้บนศีรษะ


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 74  เมื่อ 30 ต.ค. 16, 19:35

กลุ่มนี้เอาศีรษะไปซบกับพระบาท


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 18
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.085 วินาที กับ 20 คำสั่ง