เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 [2] 3 4 ... 18
  พิมพ์  
อ่าน: 39634 พระพุทธเจ้าอยู่หัวในความทรงจำของผม
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 15  เมื่อ 23 ต.ค. 16, 09:59

ภาพข้างบนนี้ถ่ายเมื่อไม่กี่ปีก่อนที่ผมจะเข้า พี่ๆในรูปบางคนก็ยังเรียนอยู่  ผมชอบไปยืนพินิจดูด้วยหัวใจพองโต ในใจก็คิดไปเรื่อยว่าเมื่อไหร่ผมจะมีบุญวาสนาอย่างพวกโตๆเขาบ้าง

การอยู่โรงเรียนประจำในเมื่อแรกเข้านั้น มีความทุกข์เสียแทบจะหาความสุขไม่ได้เลย แต่ผมอดทนที่จะอยู่ที่นั่นเพราะหวังว่าวันหนึ่งผมจะมีโอกาสได้เห็นพระเจ้าอยู่หัวใกล้ๆ เพราะครั้งแรกในชีวิตที่ได้เห็นท่านที่หัวหินคราวนั้น ท่านอยู่ไกลสุดสายตาเหลือเกิน
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 16  เมื่อ 23 ต.ค. 16, 10:04

ในภาพอาจจะไม่ชัดว่าเด็กกำลังทำอะไรซึ่งพระองค์เสด็จมาทอดพระเนตรด้วยพระทัยใส่ แต่ภาพนี้คือผลลัพท์จากพระเมตตาของพระองค์ท่านครับ


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 17  เมื่อ 23 ต.ค. 16, 11:17

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อเสด็จกลับเมืองไทยหลังที่ทรงสำเร็จการศึกษาแล้วนั้น แต่แรกทรงมีเวลาว่างมากเพราะรัฐบาลต้องการให้ทรงอยู่เฉยๆ แต่ธรรมชาติอย่างพระองค์มีหรือที่จะเป็นเช่นนั้น วันหนึ่งขณะประทับอยู่ที่พระตำหนักสวนจิตรลดา ทรงแว่วเสียงดนตรีที่นักเรียนวชิราวุธซ้อมเดินแถว คือสมัยโน้นบ้านเมืองมันเงียบน่ะครับ รถรายังโล่งบนถนนไม่ส่งเสียงกระหึ่มเมืองเหมือนทุกวันนี้ เสียงปี่เสียงแตรที่นักเรียนเป่าลอยถึงพระกรรณแล้วทรงทนไม่ได้

ท่านผู้บังคับการถึงกับรีบวิ่งออกมาจากบ้าน เพื่อคอยรับเสด็จเมื่อราชองครักษ์นำพระราชกระแสมาแจ้งว่าพระเจ้าอยู่หัวกำลังจะเสด็จพระราชดำเนินมาที่โรงเรียน อย่าเพิ่งให้เด็กเลิกแถวไปก่อน แล้วไม่นานนัก ทุกคนก็เห็นรถสีเทาคันเล็กๆที่ทรงขับมาด้วยพระองค์เองตามลำพังวิ่งเข้ามาในโรงเรียน
ทรงให้เด็กบรรเลงพร้อมกันอีกครั้ง แล้วพระราชดำเนินไปทั่วทั้งวงเพื่อทอดพระเนตร แล้วทรงมีกระแสรับสั่งกับท่านผู้บังคับการอยู่นานก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับ คราวนั้น ทรงใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สั่งเครื่องดนตรีใหม่ทั้งวงมาพระราชทานให้แก่โรงเรียน และทรงส่งครูดนตรีจำนวนหนึ่งมาฝึกสอนให้นักเรียนด้วย

ในภาพที่ทรงดนตรีกับวงหัสดนตรี หรือวงแจ๊สของนักเรียนวชิราวุธที่สวนอัมพรนั้น คือจุดประกายที่จะเกิดวันทรงดนตรีที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยอื่นๆในกาลต่อมา
และนักดนตรีวง อ.ส. ที่ไปร่วมในวันทรงดนตรีตามมหาวิทยาลัยนั้น บางคนคือนักเรียนเก่าวชิราวุธในภาพข้างบนที่เป็นนักดนตรีสมัครเล่นระดับมืออาชีพด้วยครับ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 18  เมื่อ 23 ต.ค. 16, 11:35

หลังจากเปลี่ยนแปลงการปกครองแล้ว งบประมาณส่วนพระมหากษัตริย์ถูกผันไปใช้ส่วนอื่นจนไม่เพียงพอจะทำนุบำรุงสถาบันให้สมพระราชฐานะได้ พระราชวังและพระอารามหลวงถูกทิ้งให้ชำรุดทรุดโทรม วชิราวุธวิทยาลัยมีมรดกที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ไว้ เป็นที่ดินบริเวณถนนราชดำริ ทรงให้พระคลังข้างที่บริหารจัดการหาผลประโยชน์มาทำนุบำรุงโรงเรียน แต่เงินที่โรงเรียนได้รับแต่ละปีไม่พอ ค่าเล่าเรียนที่เก็บจากผู้ปกครองก็ได้เต็มที่เพียง ๑ ใน ๓ ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด(แม้ปัจจุบันก็มีสัดส่วนประมาณนี้เช่นกัน) เวลานั้น อาคารของโรงเรียนบางส่วนจึงยังเป็นเรือนไม้หลังคาจาก ตึกสำคัญที่โดนระเบิดสมัยสงครามยังไม่มีเงินจะซ่อม ดังนั้น การที่โรงเรียนมีเครื่องดนตรีระดับงานวัดให้นักเรียนเล่นได้ก็ดีถมแล้ว  

เรือนจากที่เห็นยาวเหยียดนั้น คือคณะดุสิตที่เป็นที่อยู่ที่กินของผมถึง ๔ ปีเต็มๆ ก่อนที่อาคารหลังใหม่จะสร้างแล้วเสร็จแทนอาคารคณะดุสิตเดิมที่โดนระเบิดพัง เหลือเสี้ยวเดียวให้เห็นทางขอบซ้ายบนของพื้นที่โรงเรียน


บันทึกการเข้า
ธสาคร
พาลี
****
ตอบ: 248


ความคิดเห็นที่ 19  เมื่อ 24 ต.ค. 16, 00:24

ขอเรียนถามว่าทำไมโรงเรียนวชิราวุธถึงมีธรรมเนียมให้นักเรียนช่วยกันดุนท้ายรถพระที่นั่ง (ขณะกำลังเสด็จกลับ) ถึงแม้ว่ารถยนต์พระที่นั่งจะแล่นได้เองเป็นปกติดีก็ตาม
...
ผมได้แต่เดาเอาเองว่า  ครั้งหนึ่งอาจเคยมีเหตุรถยนต์พระที่นั่งเสีย ไดสตาร์ตไม่ทำงาน  คณะนักเรียนจึงได้ถวายงานดุนท้ายรถพระที่นั่ง  เลยกลายเป็นธรรมเนียมส่งเสด็จนับแต่นั้นมา  ไม่ทราบว่าผมมั่วไปเองหรือเปล่าครับ?
บันทึกการเข้า
V_Mee
สุครีพ
******
ตอบ: 1436


ความคิดเห็นที่ 20  เมื่อ 24 ต.ค. 16, 06:52

ภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับยืนทอดพระเนตรนักเรียนเล่นดนตรีนั้น ทพ.วัชรินทร์  มรรคดวงแก้ว ผู้ถ่ายภาพเล่าว่า เป็นภาพถ่ายในงานวันประสูติสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้วงหัสดนตรี (แจ๊ซ) นักเรียนวชิราวุธวิทยาลัยไปบรรเลงถวายที่พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
บันทึกการเข้า
V_Mee
สุครีพ
******
ตอบ: 1436


ความคิดเห็นที่ 21  เมื่อ 24 ต.ค. 16, 07:02

ธรรมเนียมนักเรียนวชิราวุธวิทยาลัยเข็นรถยนต์พระที่นั่งนั้น  จมื่นอมรดรุณาลักษณ์ (อจ่ม  สุนทรเวช) นักเรียนเก่าสมัยมหาดเล็กหลวงเล่าให้ฟังว่า วันหนึ่งรัชกาลที่ ๖ เสด็จฯ งานโรงเรียน  ตอนจะเสด็จฯ กลับนักเรียนกรูกันเข้าเข็นรถยนต์พระที่นั่งส่งเสด็จจนพ้นประตูโรงเรียน  รุ่งขึ้นจึงมีพระราชกระแสลงมาที่ผู้บังคับการโรงเรียนให้รักษาเป็นประเพณีมาจนถึงทุกวันนี้

เรื่องเข็นรถยนต์พระที่นั่งนี้สันนิษฐานว่า มาจากธรรมเนียมตะวันตกที่แสดงความจงรักภักดีด้วยการปลดม้าที่เทียมรถ  แล้วผู้ที่มาชุมนุมกันอยู่ที่นั้นช่วยกันฉุดลากรถแทนม้าเทียมรถไปยังสถานที่หนึ่งที่อยู่ใกล้เคียง  แต่เวลาเสด็จฯ ที่โรงเรียนมหาดเล็กหลวงหรือวชืราวุธวิทยาลัยในปัจจุบันนั้น  ทรงรถยนต์พระที่นั่งซึ่งไม่มีม้าเทียม  นักเรียนจึงแสดงความขงรักภักดีด้วยการเข็นรถพระที่นั่ง


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
Onsiri C.
อสุรผัด
*
ตอบ: 8


ความคิดเห็นที่ 22  เมื่อ 24 ต.ค. 16, 07:34

กราบขอบพระคุณท่านนวรัตนอย่างสูง ที่กรุณาแชร์ความทรงจำอันมีค่า ให้ได้เห็นพระจริยวัตรอันงดงามในอีกมุมหนึ่งที่ไม่ได้เห็นในข่าวทั่วไป ทำให้รู้สึกใกล้ชิดกับพระองค์อีกนิด เป็นบุญเหลือเกินค่ะ _/\_
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 23  เมื่อ 24 ต.ค. 16, 08:42

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและชวนสนทนา

ผมเข้าโรงเรียนนี้ก่อนอาจารย์วรชาติหลายปีดีดักอยู่ แต่ตำนานเก่าๆของโรงเรียนนั้น ที่รู้ก็เพราะอ่านข้อเขียนบทความที่น้องเข้าค้นคว้าไว้ ในส่วนของผมเองมีแต่ประสบการณ์ที่ได้มาจริงๆ
อย่างเช่นเรื่องเข็นรถพระที่นั่งนี้ ปีแรกที่ผมเป็นนักเรียน ปลายปีพระพุทธเจ้าอยู่หัวจะเสด็จมาพระราชทานประกาศนียบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา และทอดพระเนตรกิจกรรมต่างๆที่โรงเรียนจัดถวาย จบลงด้วยการแข่งขันกรีฑารอบชิงชนะเลิศระหว่างคณะหน้าพระที่นั่ง กว่าจะเสด็จกลับก็ใกล้ตะวันชิงพลบเต็มที่

อาจจะตอนสมัยผมเข้าไปนั้นนักเรียนไม่มาก และพวกโตๆไปติดกิจกรรมหน้าพระที่นั่งกันหมด โรงเรียนจึงกำหนดให้คณะเด็กเด็กมายืนรายสองข้างถนนเพื่อส่งเสด็จ

ผมยืนอยู่กลางๆค่อนข้างจะปลายแถวก่อนจะถึงประตูที่เสด็จออก พอได้ยินเพลงสรรเสริญพระบารมีก็ยืนตรงกระทำวันทยาหัตถ์ตามที่ครูฝึกไว้ แต่ก็หันหน้าไปมองเห็นรถพระที่นั่งคันโตสีเหลืองอ่อนค่อยๆเคลื่อนที่มาช้าๆ มีนักเรียนเข็นถวายมากลุ่มใหญ่ พอเพลงสรรเสริญพระบารมีจบลง เห็นพวกที่ยืนตาเบ๊ะอยู่เริ่มแตกแถวไปช่วยเข็นบ้าง แต่ส่วนใหญ่ยังคงยึกยักๆอยู่ไม่รู้เพราะอะไร เมื่อรถพระที่นั่งใกล้เข้ามาผมใช้เวลาเสี้ยววินาทีตัดสินใจวิ่งไปหน้ากลุ่มเขา มือทั้งสองแปะลงที่ด้านข้างของประตูรถด้านหลัง ได้ก่อนที่พวกแตกแถวคนอื่นๆจะเข้ามากันอีก
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 24  เมื่อ 24 ต.ค. 16, 08:43

นี่ไม่ใช่รูปผมนะครับ แต่ผมก็ตัวประมาณนี้แหละ เอามาให้ชมพอเห็นบรรยากาศร่วมสมัย

ส่วนรถพระที่นั่งไม่ใช่ค้นนี้ ผมจำได้ว่าเป็นคันที่มีหลังคาคลุมทั้งหมด


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 25  เมื่อ 24 ต.ค. 16, 09:12

พระพุทธเจ้าอยู่หัวโน้มพระวรกายมาทางกระจกรถด้านที่ผมเข็นอยู่ ผมเห็นพระพักตร์และรอยแย้มพระสรวลน้อยๆ ทรงโบกพระหัตถ์และชี้นิ้วไปทางด้านหลังที่พี่ๆเขาเข็นกันอยู่ ผมเห็นพระเนตรแล้ว พระองค์ท่านทรงส่งสัญญาณมาที่ผมแน่นอน ผมตกใจตัวร้อนฉ่า รีบปล่อยมือผละออกไปอย่างว่าง่าย ตอนนั้นแนวแถวหลังจากรถพระที่นั่งเคลื่อนผ่านไปแล้วสลายหมด หลายคนวิ่งตามดันหลังเพื่อนคนหน้าไปเป็นขบวนใหญ่  ผมไม่ได้เข้าไปต่อกับเขาเพราะมือเท้าอ่อน นี่ผมได้กระทำความผิดอย่างฉกรรจ์ลงไปแล้ว

ในปีต่อมา ท่านผู้บังคับการกล่าวบนหอประชุมก่อนจะเริ่มซ้อมรับงานกรีฑา เกริ่นว่าปีที่แล้ว พระเจ้าอยู่หัวทรงปรารภว่าเด็กๆเข้าไปเข็นรถพระที่นั่งมาก ทรงเป็นห่วงว่าจะเกิดพลาดพลั้ง หกล้มลงไปแล้วล้อรถพระที่นั่งจะทับเอาเป็นอันตราย
ผมได้ยินก็ขนหัวลุก ทราบทันทีว่าพระองค์ท่านหมายถึงผม

โรงเรียนได้เปลี่ยนวิธีการต่างๆรัดกุมขึ้นมาอีกมาก ในปีนั้นและปีต่อๆไป การเข็นรถพระที่นั่งส่งเสด็จดูเป็นระเบียบเรียบร้อยดี ผมจึงแอบภูมิใจว่านี่น่ะผมมีส่วนร่วมอยู่ด้วยนิดๆ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 26  เมื่อ 24 ต.ค. 16, 09:21

เรื่องนี้ติดตราตรึงใจผมมาตลอดและคงจะจำได้ชั่วชีวิต ได้ยินท่านผู้บังคับการพูดวันนั้นแล้วรู้สึกว่าตนพ้นบาป พระองค์ท่านมิได้ทรงตั้งใจจะดุผม แต่ทรงเป็นห่วงว่าผมจะเป็นอันตรายด้วยพระเมตตาอันหาที่สุดมิได้
บันทึกการเข้า
V_Mee
สุครีพ
******
ตอบ: 1436


ความคิดเห็นที่ 27  เมื่อ 24 ต.ค. 16, 10:19

นักเรียนชั้นเล๋กยืนรายทางส่งเสด็จ  แล้วแตกแถวเข้าเร่วมเข็นรถยนต์พระที่นั่งมีมาถึงรุ่นผมครับ  เหมือนกับถ่ายทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นครับ  เวลาเข้าไปใกล้ประตูรถยนต์พระที่นั่งจะสังเกตเห็นได้ว่าในหลวงทรงแสดงความห่วงใยอย่างที่ท่าน Navarat Cใ กล่าวไว้ข้างต้น  แต่สมเด็จพระนางเจ้าฯ จะทรงแย้มพระสรวลและโบกพระหัตถ์ให้เด็กๆ ด้วยทรงพระเมตตาเสมอ

รถยนต์พระที่นั่งองค์ที่เสด็จโรงเรียนตั้งแต่ปีแรกจนปีสุดท้ายที่เสด็จโรงเรียนตอนผมเรียน ม.ศ. ๕ เป็นรถยนต์พระที่นั่งเดมเลอร์องค์เดิมมาตลอดครับ  เรื่องนี้ผมเคยถามสารถีรถยนต์พระที่นั่งตั้งแต่ยังเป็นนักเรียนครับ  ที่เห็นแปลกเป็น ๒ องค์นั้นเพราะภาพเสด็จโรงเรียนในช่วงก่อนหน้านั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปิดประทุนท้ายรถพระที่นั่งครับ
บันทึกการเข้า
DrJfk
อสุรผัด
*
ตอบ: 34


ความคิดเห็นที่ 28  เมื่อ 24 ต.ค. 16, 16:53

ไม่ทราบธรรมเนียมเข็นรถพระที่นั่ง นี่ เลิกไปนานหรือยังครับ

เสียดายนะครับเป็น ประเพณี ที่น่ารัก มากๆเลยทีเดียว

ขอบคุณที่คุณนวรัตน์ เก็บมาเล่าให้ฟัง ครับ
บันทึกการเข้า
ธสาคร
พาลี
****
ตอบ: 248


ความคิดเห็นที่ 29  เมื่อ 24 ต.ค. 16, 17:10

คุณ navarat เล่าว่า "ย้ายไปเรียนชั้นมัธยมหนึ่งที่วชิราวุธ"  อันนี้หมายถึงประถม5ในปัจจุบันหรือเปล่าครับ?
และได้เล่าว่าอยู่ "คณะดุสิต"  อันนี้ทำให้ผมฉุกคิดถึงโรงเรียนพ่อมดฮอกวอร์ต  ที่ประกอบด้วยบ้านสลิธีริน-กริฟฟินดอร์-เรเวนคลอ-ฮัฟเฟิลพัฟ  ผมจึงสงสัยว่าภายในโรงเรียนวชิราวุธประกอบด้วยคณะต่างๆแบบฮอกวอร์ตหรือเปล่าครับ? 
มีการแข่งขันกันทั้งด้านการเรียน-กิจกรรม-วินัย-กีฬา  เพื่อชิงรางวัลบ้านดีเด่นประจำปีหรือเปล่าครับ? 
และวชิราวุธประกอบด้วยคณะอะไรบ้างครับ?
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3 4 ... 18
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.069 วินาที กับ 20 คำสั่ง