เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 18
  พิมพ์  
อ่าน: 39575 พระพุทธเจ้าอยู่หัวในความทรงจำของผม
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 45  เมื่อ 26 ต.ค. 16, 07:43

เอาง่ายๆนะครับ สำหรับผมจำง่ายหน่อย เพราะผมขึ้นม. ๑ อายุ ๑๐ ขวบ ปี ๒๕๐๐ ชาวพุทธในเมืองไทยฉลอง ๒๕ พุทธศตวรรษในปีนั้น เข้าวชิราวุธเทอมแรกครูจับให้ผมเต็นระบำแขกกับเพื่อนๆรวม ๘ คน แสดงบนเวทีงานรื่นเริงบนหอประชุมใหญ่ในคืนสุดท้ายก่อนปิดภาคต้น ให้นักเรียนกลับบ้านยาว

ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ในกิจกรรมประเภทอย่างนี้ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ และมันก็แป็บเดียวแหละครั้บแค่ ๓ นาทีเศษๆ เพลงก็จบผมก็กระโดดหย็องแหย็งเข้าโรงตามกลุ่มเพื่อนไปแล้ว  พวกเต้นระบำแขกคงเส้นไม่ดี ไม่มีรูปให้ผมค้นมาอวดได้ แต่อีกชุดหนึ่งที่คณะเด็กเล็ก ๓ ของผมนำเสนอคือระบำฮาวาย หลานปู่ท่านผู้บังคับการแสดงอยู่ด้วย จึงมีรูปนี้ลงหนังสือ สามารถก๊อบมาให้ดูกับพอได้อารมณ์


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 46  เมื่อ 26 ต.ค. 16, 07:49

การแสดงคืนนั้นส่งผลให้ผมโชคดีอย่างไม่คาดคิด เพราะวันหนึ่งคุณครูบอกว่ามีพระราชกระแสรับสั่งมายังท่านผู้บังคับการ ให้จัดการแสดงของเด็กๆเข้าไปเล่นถวายในวัง ในงานพระราชทานเลี้ยงเป็นการภายในส่วนพระองค์ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระบรมราชินีนาถ

ช่วงสมัยนั้น พระราชโอรสและพระราชธิดายังทรงพระเยาว์อยู่  การแสดงของเด็กๆจึงถูกจัดให้เล่นถวายในรอบหัวค่ำ ก่อนที่สมเด็จเจ้าฟ้าจะต้องเสด็จเข้าบรรทมตามกำหนด หลังจากนั้นจึงจะถึงรายการของผู้ใหญ่ เริ่มต้นพระราชทานเลี้ยงข้าราชบริพารและการแสดงของศิลปินตัวจริง

ท่านผู้บังคับการบัญชาให้การแสดงที่คณะเด็กเล็กเล่นในวันปิดภาค รีบซ้อมหนักเพื่อจะเข้าไปแสดงถวายในวัง ซึ่งคราวนี้ทุกคน รวมทั้งผมตั้งอกตั้งใจซ้อมมาก เพราะครูขู่ว่า ถ้าไม่เนี๊ยบจริงๆจะคัดออก
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 47  เมื่อ 26 ต.ค. 16, 07:55

การแสดงคืนนั้นส่งผลให้ผมโชคดีอย่างไม่คาดคิด เพราะวันหนึ่งคุณครูบอกว่ามีพระราชกระแสรับสั่งมายังท่านผู้บังคับการ ให้จัดการแสดงของเด็กๆเข้าไปเล่นถวายในวัง ในงานพระราชทานเลี้ยงเป็นการภายในส่วนพระองค์ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระบรมราชินีนาถ

ช่วงสมัยนั้น พระราชโอรสและพระราชธิดายังทรงพระเยาว์อยู่  การแสดงของเด็กๆจึงถูกจัดให้เล่นถวายในรอบหัวค่ำ ก่อนที่สมเด็จเจ้าฟ้าจะต้องเสด็จเข้าบรรทมตามกำหนด หลังจากนั้นจึงจะถึงรายการของผู้ใหญ่ เริ่มต้นพระราชทานเลี้ยงข้าราชบริพารและการแสดงของศิลปินตัวจริง

ท่านผู้บังคับการบัญชาให้การแสดงที่เด็กเล็กทั้งสามคณะเล่นในวันปิดภาค รีบซ้อมหนักเพื่อจะเข้าไปแสดงถวายในวัง ซึ่งคราวนี้ทุกคน รวมทั้งผมตั้งอกตั้งใจซ้อมมาก เพราะครูขู่ว่า ถ้าไม่เนี๊ยบจริงๆจะคัดออก
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 48  เมื่อ 26 ต.ค. 16, 07:57

เมื่อวันสำคัญมาถึง โรงเรียนพาพวกเราสักยี่สิบคนเห็นจะได้ไปถึงสถานที่ที่จะแสดงตั้งแต่หัววัน เพื่อไปซ้อมกับสถานที่จริงให้คุ้นสถานที่ จะได้ไม่ตื่นเวที
ผมเข้าใจว่าสถานที่นั้นคงเป็นโรงเรียนจิตรลดาในระยะที่เริ่มต้นเป็นอนุบาลและประถม พอซ้อมเสร็จก็มาทานอาหารในโรงอาหารด้านหลัง อาการมื้อแรกในวังวันนั้นจำได้ประทับจิตประทับใจ เป็นผัดมักโรนีกับไก่ที่อร่อยที่สุดในสามโลก เกิดมาเพิ่งเคยได้สัมผัสลิ้น เด็กต่างก้มหน้าก้มตาบรรจุลงท้องไม่มีใครพูดใครจา น้ำหวานก็เติมกันแบบไม่อั้น พุงกางกันทุกคน

ยังเหลือเวลาอีกร่วมชั่วโมงแหละครับกว่าจะถึงเวลาแสดง พวกเราก็เดินกันพล่านในบริเวณนั้น เขาห้ามไม่ให้ออกไปภายนอกเด็ดขาด เราจึงสำรวจได้แต่ภายในอาคารนั้นเอง ผมเดินตามกลุ่มเล็กๆมาจ๊ะเอ๋กับห้องน้ำที่เปิดประตูแง้มอยู่  พอดันประตูให้กว้างออก โอ้โห ห้องน้ำสีชมพูหอมฟุ้ง กำลังปวดพอดี อย่ากระนั้นเลย พวกเรามาร่วมกันฉลองการค้นพบครั้งนี้กันสักหน่อยดีกว่า

ระหว่างที่ผมกับเพื่อนๆสองสามคนกำลังยืนรุมโถชักโครกนั้นอยู่อย่างมีความสุข พลันเสียงห้าวๆก็ดังขึ้นที่หน้าประตู จำได้แต่เพียงว่า “…ส่วนพระองค์ ….ห้ามเด็ดขาด …”  แล้วทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์คนนั้นก็สพายปืนเดินเข้ามา เด็กๆแตกฮือ ผมยังปฏิบัติการไปได้ครึ่งเดียว ได้พยายามกระทำการเบรกกลางอากาศอย่างสุดความสามารถแล้ว มันยังได้ผลไม่สมบูรณ์ ทำเอากางกางผมเปียกแฉะไปจนถึงขา ขณะรีบวิ่งออกมาด้วยความตกใจ
 
ทหารไม่ได้จะมาทำร้ายอะไรพวกเราหรอก แกเป็นห่วงส้วมตัวนั้นมากกว่า ผมหนีไปสุดบริเวณจึงเจอห้องน้ำที่เขาจัดไว้สำหรับคนทั่วไป ไปล้างแข้งล้างขาเอาน้ำมาโปะๆให้กางเกงในส่วนที่เปียกเมื่อกี้ชุ่มๆแล้ว ก็ออกมาเดินใจตุ๋มๆต้อมๆข้างนอก หมดความสุข สักครู่เห็นพนักงานผู้หญิงมากันหลายคน ช่วยกันล้างขัดสีฉวีวรรณห้องน้ำสีสมชูนั้นเป็นการใหญ่ ก่อนจะปิดประตูก็ฉีดน้ำหอมเข้าไปอีก แล้วคราวนี้ ได้จัดให้ทหารมหาดเล็กคนหนึ่งยืนเฝ้าประตูไว้เลย
ความกลัวที่ว่า จะมีคนตามหาตัวเด็กที่กางเกงเปียกไปทำโทษก็ค่อยๆคลายลง
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 49  เมื่อ 26 ต.ค. 16, 08:12

การแสดงของผมผ่านไปโดยเรียบร้อย ไม่มีใครจับพิรุษได้ว่ากางเกงของผมมีสิ่งผิดปกติ ผมตั้งใจเต้นกระหยองกระแหย็งตามจังหวะเพลงเต็มที่ แต่มองออกไปแทบไม่เห็นคนดูเพราะไฟส่องหน้า

เมื่อการแสดงของนักเรียนวชิราวุธทุกชุดจบลงแล้ว ครูเรียกพวกเราทุกคนไปนั่งคุกเข่าบนเวที แล้วม่านก็เปิดออกพร้อมเสียงปรบมือ  ผมใจเต้นแรงเมื่อเห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถทรงจูงพระราชธิดาพระองค์ใหญ่ และพระราชโอรส เสด็จพระราชดำเนินมาที่หน้าเวที พระเจ้าอยู่หัวท่านทรงยิ้มน้อยๆอย่างเดียว ในขณะที่ราศีของสมเด็จพระนางเจ้าเปล่งประกายสว่างไสวไปทั่ว ทรงยิ้มอย่างที่มนุษย์และเทวดาเห็นแล้วต้องกลั้นลมหายใจด้วยความตกตะลึงในพระสิริโฉม  ทรงก้าวช้าๆผ่านพวกเราจากขวามาซ้าย พระราชเสาวนีย์ที่ทรงกล่าวว่า “ขอบใจนะจ๊ะ ๆ แสดงดีมาก ฯลฯ” หยุดโลกไว้กับที่ในขณะนั้น
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินมาหน้าเวทีที่ผมนั่งตะลึงตาค้างอยู่ ทรงอยู่ใกล้มาก ใกล้จนได้กลิ่นพระสุคนธ์ที่หอมชื่นใจ ทรงมองผ่านผมแล้วเอ่ยพระราชสาวนีย์ถามเพือนที่อยู่ถัดไปว่า “หนูชื่ออะไรจ๊ะ”
 
ผมกลั้นลมหายใจ นี่เฉียดไปนิดเดียว ถ้าทรงถามผมๆคงเป็นลม เพื่อนรุ่นพี่ก่อนผมหนึ่งปีคนนั้นยืดกายขึ้นมากราบบังคมทูลเสียงดังฟังชัดว่า “ชื่ออชิรวิทย์ครับ” พระองค์ท่านทรงยิ้มให้อย่างหวาน ทรงกวาดสายพระเนตรมาที่พวกเราอีกครั้งหนึ่งก่อนจะตรัสขอบใจครั้งสุดท้าย แล้วก็ทรงจูงฟ้าหญิงอุบลรัตน์ โดยมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจูงเจ้าฟ้าชายพระราชดำเนินเคียงข้างกลับไปยังโต๊ะเสวย ส่วนท่านผู้บังคับการซึ่งเดินตามเสด็จมาที่เวทีมิได้ไปต่อ แต่มาหยุดยืนที่หน้าอชิรวิทย์สักครู่หนึ่งเพื่อดูหน้าผู้โชคดีที่ได้มีโอกาสเพ็ดทูลตอบพระราชเสวนีย์
แล้วท่านก็กล่าวค่อยๆแต่ดุดันชวนสพรึงว่า “ทำไมไม่พูดพ่ะย่ะค่ะ”
.
.
ปิดฉาก
บันทึกการเข้า
V_Mee
สุครีพ
******
ตอบ: 1436


ความคิดเห็นที่ 50  เมื่อ 26 ต.ค. 16, 18:33

"แล้วท่านก็กล่าวค่อยๆแต่ดุดันชวนสพรึงว่า “ทำไมไม่พูดพ่ะย่ะค่ะ”"  อ่านแค่นี้ยังสยองเลยครับ
บันทึกการเข้า
CVT
องคต
*****
ตอบ: 452


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 51  เมื่อ 28 ต.ค. 16, 09:47

"แล้วท่านก็กล่าวค่อยๆแต่ดุดันชวนสพรึงว่า “ทำไมไม่พูดพ่ะย่ะค่ะ”"  อ่านแค่นี้ยังสยองเลยครับ

เพิ่งไปอ่านเจอในเฟซพี่ตั้ว บรรยง พงษ์พานิช หรือไอ้เตาของเด็ก OV บรรยายความถึงท่านเจ้าคุณผู้บัญชาการไว้

.....ท่านเจ้าคุณ"พระยาภะรตราชา" ผู้ที่มักให้โอวาทสั้นๆก่อนแข่งทุกครั้งว่า "กีฬามีแพ้มีชนะ ...แต่วันนี้ ...แพ้ไม่ได้".....

.....ตอน แข่งขันวิ่ง 1,500เมตร กรีฑาทีมนักเรียน ปี 2514 รอบคัดเลือก ผมเข้าที่หนึ่ง ทิ้งห่างที่สองเกือบห้าสิบเมตร
ตอนเข้าเส้นชัยเลยลำพอง วิ่งโบกมือซะร่วมสิบเมตร ตอนเข้าแถวขึ้นรถจะกลับโรงเรียน
ท่านผู้บังคับการ(เจ้าคุณภะรตฯ เจ้าเดิม) ชมทุกคนว่า "วันนี้ทุกคนทำได้ดีมาก"
แล้วปรี่เข้ามาตบหน้าผมหลายฉาด"ยกเว้นเจ้านี่..อวดดี ผยอง ทำท่าทุเรศ น่าเกลียดน่าอาย ขายหน้า เสียชื่อโรงเรียนผู้ดี" .....
บันทึกการเข้า
ธสาคร
พาลี
****
ตอบ: 248


ความคิดเห็นที่ 52  เมื่อ 28 ต.ค. 16, 14:54

.....ท่านเจ้าคุณ"พระยาภะรตราชา" ผู้ที่มักให้โอวาทสั้นๆก่อนแข่งทุกครั้งว่า "กีฬามีแพ้มีชนะ ...แต่วันนี้ ...แพ้ไม่ได้".....

.....ตอน แข่งขันวิ่ง 1,500เมตร กรีฑาทีมนักเรียน ปี 2514 รอบคัดเลือก ผมเข้าที่หนึ่ง ทิ้งห่างที่สองเกือบห้าสิบเมตร
ตอนเข้าเส้นชัยเลยลำพอง วิ่งโบกมือซะร่วมสิบเมตร ตอนเข้าแถวขึ้นรถจะกลับโรงเรียน
ท่านผู้บังคับการ(เจ้าคุณภะรตฯ เจ้าเดิม) ชมทุกคนว่า "วันนี้ทุกคนทำได้ดีมาก"
แล้วปรี่เข้ามาตบหน้าผมหลายฉาด"ยกเว้นเจ้านี่..อวดดี ผยอง ทำท่าทุเรศ น่าเกลียดน่าอาย ขายหน้า เสียชื่อโรงเรียนผู้ดี" .....
เข้มงวด กวดขัน ชวนสะพรึงจริงๆครับ


บันทึกการเข้า
ธสาคร
พาลี
****
ตอบ: 248


ความคิดเห็นที่ 53  เมื่อ 28 ต.ค. 16, 15:01

ผู้บังคับการวชิราวุธ มีราชทินนามพ้องกับ "เรือนภะรตราชา" ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
พระยาภะรตราชา(ม.ล. ทศทิศ อิศรเสนา)เคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในช่วง พ.ศ.๒๔๗๒-๒๔๗๕
บันทึกการเข้า
V_Mee
สุครีพ
******
ตอบ: 1436


ความคิดเห็นที่ 54  เมื่อ 28 ต.ค. 16, 17:30

ท่านผู้บังคับการพระยาภะรตราชา ถึงจะดุแสนสาหัสเพียงไร  แต่ก้านที่น่ารักของท่านก็มีนะครับ
ตอนจะไปสอบ ม.ศ. ๕ ซึ่งจะต้องไปสอบที่สนามกลางของกระทรวงศึกษาธิการ คือ ที่โรงเรียนวัดราชาธิวาส  (เว้นแต่ปีที่มีพระบรมวงศ์ทรงเข้าสอบจึงจะไปสอบที่โรงเรียนจิตรลดา)
วันแรกที่จะไปสอบท่านจะมาที่หน้าหอประชุมนำนักเรียนถวายบังคมพระบรมรูป  และก่อนรถออกท่านจะเปล่งเสียง "ชโย" ให้นักเรียนทุกปี

ตอนที่เรียนจบมาแล้วเข้าไปกราบท่าน ท่านก็จะสอบถามถึงเพื่อนร่วมรุ่นว่าไปเรียนกันที่ไหน  ผลการเรียนเป็นอย่างไร  แล้วตอนหนึ่งท่านปรารภขึ้นมาว่า การที่จะปกครองพวกเรานั้นกัน (ท่านเรียกตัวท่านเอง) ต้องตีหน้ายักษ์ใส่พวกเรา  มิฉะนั้นจะไม่วามารถปกครองพวกเธอได้
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 55  เมื่อ 28 ต.ค. 16, 18:58

เห็นรูปแมวแล้วทำให้นึกถึงเพลง "เมื่อแมวหมา" (จำชื่อเพลงจริงๆไม่ได้ครับ) ที่นักเรียนของคณะที่จะแข่งขันกีฬากันจะต้องตั้งขบวนเดินร้องสวนกันผ่านหน้าที่นั่งของประธานในการแข่งขัน ทุกครั้ง

เพลงนี้แต่งโดย ท่านผู้หญิงดุษฎื มาลากุล ณ อยุธยา  จะร้องในทำนองใดก็จำไม่ได้  มีใจความว่า

  เมื่อแมวหมาเล่นกีฬามันท้ากัด จงใจฟัดเหวี่ยงปล้ำขม้ำหมาย แต่พวกเรายุวชนคนผู้ชาย กีฬารายรักเล่นให้เป็นคน
  เมื่อแมวหมาเล่นกีฬามันท้ากัด เพราะเป็นสัตว์ไร้คิดจิตจึงเขว แต่คนดีมีใจไม่รวนเร ย่อมฮาเฮเล่นกีฬาประสามิตร

หากไปถามพวก OV ทั้งหลาย ส่วนมากจะจำเนื้อได้เฉพาะสองถึงสามวรรคแรกเท่านั้น ด้วยว่าพอเดินผ่านประธานไปแล้วก็จะต่างคนต่างดำน้ำหายไปเลย ไม่เคยร้องจบสักครั้ง

จำไม่ได้ว่าจะต้องตั้งแถวเดินร้องเพลงนี้ผ่านหน้าพระพักตร์ก่อนที่จะทรงชมการแข่งขันกรีฑาหรือไม่ คลับคล้ายคลับคลาว่ามีทั้งมีและไม่มี

นำเรื่องนี้มากล่าวเผื่อว่าท่าน NAVARAT.C  จะได้เล่าต่อความเรื่องต่อหน้าพระพักตร์ในเรื่องอื่นๆ ครับ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 56  เมื่อ 29 ต.ค. 16, 06:44

ผมหยุดไปหลายวันเพราะจิตไม่นิ่งพอที่จะเขียนต่อ เห็นอารมณ์ของตนมันวิ่งไปทางซ้ายทีขวาที บ้างก็ขึ้นๆลงตามเรื่องตามราวที่กระทู้พาไป

ผมตั้งใจจะเขียนเรื่องราวที่ผมได้มีโอกาสได้สัมผัสละอองธุลีพระบาทพระพุทธเจ้าอยู่หัวในสมัยที่พระองค์ยังทรงเสด็จอยู่ ตามความเป็นจริงที่ได้เห็นกับตา ได้ยินกับหู บันทึกไว้ให้ลูกให้หลานอ่าน แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ ตามสถานการณ์มาเปิดเป็นกระทู้ ซึ่งต้องเขียนออกมาตามจิตที่กระทบอารมณ์ในขณะนั้นๆ ส่วนผู้อ่านๆแล้วจะรู้สึกตามไปด้วยหรือไม่ขึ้นอยู่กับเหตุกับปัจจัยหลายอย่าง อย่างหนึ่งคือความสามารถในการเขียนของผม หรือไม่ก็ความต่อเนื่องของมัน ผู้ที่เข้ามาต่อกระทู้จึงสนทนากันห่างประเด็นหลักออกไปทุกที

ก็ไม่ผิดหรอกครับ ธรรมชาติของการเล่นกระทู้ก็อย่างนี้ ผู้ที่เข้ามาใหม่พึงเข้าใจด้วย

แล้วผมไม่ได้มีความตั้งใจที่จะเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับโรงเรียนเก่าของผมมากไปกว่าที่ท้องเรื่องที่ทำให้ผมมีโอกาสได้เข้าไปมีประสบการณ์ที่จะนำมาเขียน เรื่องราวในวชิราวุธวิทยาลัยสมัยผมกับคุณนายตั้งเรียนอยู่และท่านผู้บังคับการที่ชื่อพระยาภะรตราชานั้น สามารถเปิดเป็นกระทู้ได้ทั้งที่นี่และที่เว็บของโอวี(นักเรียนเก่าวชิราวุธ) เพียงแต่ว่าโอกาสยังไม่เหมาะสม

เช้านี้ อารมณ์ดูจะไม่แกว่ง พอดีคุณนายตั้งโยนกระทู้ที่ผมจะนำท่านเข้าทางหลักได้ จะขอฉวยโอกาสต่อเรื่อง
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 57  เมื่อ 29 ต.ค. 16, 07:07

เพลงเมื่อแมวหมาเล่นกิฬา มีชื่อจริงๆว่า "จรรยานักกีฬา" ประพันธ์เนื้อร้องโดย  ท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา  มาลากุล โดยใช้ทำนองโบราณเรียกว่า ฝรั่งโยสะลัม

เมื่อแมวหมา เล่นกีฬา (ซึ้า เล่นกีฬา) มันท้ากัด
จงใจฟัด เหวี่ยงปล้ำ ขม้ำหมาย
แต่พวกเรา ยุวชน  (ซึ้า ยุวชน) คนผู้ชาย
กีฬาราย รักเล่น (เอ่อ เออ เออ เอ้อ เออ เออ  เออ เอ่อ เอ้อ เออ ) ให้เป็นคุณ

ไม่ทะเลาะ เบาะแว้ง   (ซึ้า เบาะแว้ง) แย่งชนะ
ไม่เกะกะ กวนยั่ว ให้หัวหมุน
เพราะเรามี มารยาท (ซึ้า มารยาท) ชาติสกุล
ไม่หันหุน หยาบคาย(เอ่อ เออ เออ เอ้อ เออ เออ  เออ เอ่อ เอ้อ เออ ) ร้ายเกเร

เมื่อแมวหมา เล่นกีฬา(ซึ้า เล่นกีฬา) มันท้ากัด
เพราะเป็นสัตว์ ไร้คิด จิตจึงเขว
แต่คนดี มีใจ(ซึ้า มีใจ) ไม่รวนเร
ย่อมฮาเฮ เล่นกีฬา(เอ่อ เออ เออ เอ้อ เออ เออ  เออ เอ่อ เอ้อ เออ ) ประสามิตร

ที่คุณนายตั้งจำไม่ได้ว่าจะต้องตั้งแถวเดินร้องเพลงนี้ผ่านหน้าพระพักตร์ก่อนที่จะทรงชมการแข่งขันกรีฑาหรือไม่ มีครับ แต่มีเฉพาะนักกรีฑาที่จะแข่งขันหน้าพระที่นั่งสิบยี่สิบคน ซึ่งคุณกับผมไม่เคยมีโอกาส เลยคลับคล้ายคลับคลาว่าทั้งมีและไม่มี
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 58  เมื่อ 29 ต.ค. 16, 07:18

เพลงนี้พวกโอวีหนุ่มๆนำเอามาเรียบเรียงเสียงประสานใหม่ แล้วเล่นในสไตล์ที่วัยรุ่นชื่นชอบ เอามาใส่ไว้ด้วยพอเป็นแนว

บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 59  เมื่อ 29 ต.ค. 16, 07:49

ผมกับคุณนายตั้งน่าจะมีความทรงจำเดียวกันในเรื่องที่ได้มีโอกาสเห็นพระพุทธเจ้าอยู่หัวปีละสองครั้งเป็นอย่างน้อย คือในวันคล้ายวันเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งจะมีหมายกำหนดการเสด็จพระราชดำเนินมาในพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวาย ณ วชิราวุธวิทยาลัย ซึ่งเสมือนวัดประจำรัชกาลของพระองค์ท่าน

วันนี้ไม่มีรายการเข็นรถพระที่นั่งถวายในขากลับนะครับ เพราะบรรยากาศของงานศักดิ์สิทธิ์มาก

ส่วนวันที่เราเรียกโดยสั้นว่า งานกรีฑานั้น เสด็จพระราชดำเนินมาอยู่นานกว่ามาก หลังจากพระราชทานรางวัลเรียนดีและประกาศนียบัตรแก่นักเรียนผู้จบการศึกษาแล้ว เสด็จลงจากหอประชุมไปยังตึกวชิรมงกุฏ อันเป็นตึกเรียน เพื่อทอดพระเนตรผลงานของนักเรียนในด้านศิลปหัตถกรรม และการทดลองวิทยาศาสตร์

พระพุทธเจ้าอยู่หัวทรงเรียนวิทยาศาสตร์มาก่อนที่จะเปลี่ยนไปเรียนสาขารัฐศาสตร์หลังเสด็จขึ้นครองราชย์ ดังนั้นพระองค์จึงทรงสนพระทัยการทดลองของเด็ก ทรงซักถามและบางครั้งก็ทรงสอนเด็กด้วย มีครั้งหนึ่งได้ยินพวกโตๆเล่าว่ามีเด็กทำหลอดเคมีระเบิดระหว่างทดลอง ทรงอยู่ใกล้ขนาดฉลองพระองค์เปื้อนเป็นจุดๆ ก็มิได้แสดงอาการตกพระทัยหรือไม่พอพระทัย แต่ทรงสอนต่ออยู่นาน จำไม่ได้ว่าเด็กที่โชคดีคนนั้นเป็นใคร ข่าวไม่ได้กล่าวถึงว่าหลังจากนั้นแล้วเขาโชคร้ายเมื่อต้องเผชิญกับท่านผู้บังคับการหรือไม่ แต่ผมเชื่อว่าเรื่องเช่นนี้ ท่านคงทำตาถมึงทึงเฉยๆ ไม่ถึงกับเรียกไปเหวี่ยงมือเหวี่ยงไม้

ระดับอย่างผมไม่มีโอกาสแสดงผลงานด้านเรียนถวายทอดพระเนตร ส่วนคุณนายตั้งมีโอกาสนั้นหรือเปล่าผมจำไม่ได้ แต่ผมมีงานเขียนสีน้ำได้รับการคัดเลือกให้ติดแสดงกับเขาด้วยทุกปี แต่เป็นแบบตัวประกอบนะครับ ยุคผมนั้นศิลปินใหญ่ที่มีผลงานทูลเกล้าฯถวายทุกปีชื่อ จักรพันธุ์ โปษยกฤต ขอรับ พระคุณท่าน
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 18
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.051 วินาที กับ 19 คำสั่ง