เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 6 7 [8] 9 10 ... 18
  พิมพ์  
อ่าน: 39753 พระพุทธเจ้าอยู่หัวในความทรงจำของผม
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 105  เมื่อ 02 พ.ย. 16, 10:18

เอารูปการแสดงในครั้งก่อนหน้ามาให้ชมพอให้เกิดมโนภาพนะครับ น้ำตกที่ผมมีบทบาทก็คล้ายๆอย่างนั้น แต่ย่อมลงไปกว่าตามขนาดของเวที

(อาจไม่ชัดนะครับ เพราะยังเป็นขาวดำอยู่ตรงมุมบนขวาของภาพ)


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 106  เมื่อ 02 พ.ย. 16, 10:50

ผมจำไม่ได้ชัดเจนว่าไม่รู้เป็นมาอย่างไร อยู่ๆนิสิตคณะสถาปัตย์จึงได้เข้าไปเป็นผู้ออกแบบและจัดสร้างฉากบนเวทีโดยรู้ล่วงหน้าแค่ไม่กี่วัน  วันจริงของการแสดงหน้าพระที่นั่งในตอนค่ำนั้น ผมไปช่วยงานจับกังเขาแต่ช่วงบ่าย ฉากป่าหิมพานต์ก็ใกล้เสร็จเต็มทีแล้ว  นอกจากน้ำตก ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่จะมีการเคลื่อนไหวให้ดูเหมือนมีน้ำตกๆลงมาจริงๆ  ความจริงเทคนิกที่ใช้ก็ง่ายๆ  พี่เบี้ยวแกเอาผ้าขาวหน้ากว้างมาเย็บปลายทั้งสองข้างชนกัน ทบแล้วก็สูงประมาณ ๑ เมตร นำไปคล้องไว้กับเพลาที่ทำด้วยไม้กลมๆ ทั้งตัวบนตัวล่าง  ที่ปลายเพลาตัวบนมีด้ามยื่นออกมา ตรงปลายเป็นมือหมุนสำหรับให้ทาษมุดเข้าไปหมุน  พอเพลาหมุนมันก็จะก็ดึงผ้าให้หมุนตามไปด้วย  ด้านนอกของผ้า พี่เบี้ยวแกเอากระดาษแก้วชิ้นเล็กๆไปแปะไว้เต็มไปหมด พอผ้าหมุนลง กระดาษแก้วก็จะเคลื่อนไหวต้องแสงไประยิบระยับ ทำให้ดูเหมือนเป็นน้ำตกขึ้นมาได้ ความยากอยู่ที่ต้องให้ความเร็วของการหมุนพอดีๆ ไม่ช้าไปเร็วไป น้ำตกจะได้ตกอย่างต่อเนื่องเหมือนธรรมชาติ

ผมยืนดูน้ำตกกลนี้อย่างงงๆ กล่าวถามเขาว่า แล้วนี่พี่จะต้องใช้คนเข้าไปหมุนตลอดเวลาเหรอ  แกก็บอกว่า เออ ผลัดกันสองคนก็พอ ที่มันจำกัด  เอางี๊  คุณกับปอแก้วรับหน้าที่นี้ไปก็แล้วกัน

ปอแก้วเป็นนามสกุลของเพื่อนที่เซ่อๆ ซ่าๆมาอยู่แถวนั้น  แต่ถูกนำมาใช้เป็นชื่อเล่นเรียกหนุ่มอิสานสายตาสั้นคนดังกล่าว  เมื่อเรายังงงไม่จบ จะอ้าปากโต้เถียงพี่เบี้ยวก็ไม่ทัน แกทำเป็นยุ่ง เดินต่อไปสั่งงานด้านโน้นด้านนี้  เราสองคนจึงต้องยอมรับบทที่แกโยนให้แบบเลยตามเลย  ทดลองมุดเข้าไปช่องที่เขาทำไว้แบบพอดิบพอดีตัว ลองจับมือหมุนๆดู  พอทำเนา เอาวะ เอาก็เอา
บันทึกการเข้า
unming
อสุรผัด
*
ตอบ: 19


ความคิดเห็นที่ 107  เมื่อ 02 พ.ย. 16, 11:00

ก่อนอื่นต้องขอบคุณอาจารย์ NAVARAT และอาจารย์ทุก ๆ ท่าน ที่มาเล่าเรื่องราวดี ๆ ติดตามอ่านตลอดคะ  โดยส่วนตัวเคยได้รับเสด็จ 1 ครั้ง ในชีวิต ตอนนั้นอายุประมาณ 10-11 ปี ในหลวง เสด็จมาตัดลูกนิมิตที่วัดแถวบ้าน ยังจำได้ไม่ลืมว่า ตอนนั้นขายของอยู่ที่ตลาดกับแม่ แม่บอกร้านไม่ต้องเฝ้าแล้วให้เปิดไว้อย่างงั้นใครจะเอาอะไรก็ให้เค้าหยิบไปก่อน แล้วรีบจูงลูก 3 คน มาเฝ้ารับเสด็จพระองค์ท่าน เป็นความรู้สึกที่ไม่มีอะไรจะเปรียบได้ 
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 108  เมื่อ 02 พ.ย. 16, 11:32

หลังจากนั้นคงไม่กลับมาเจอว่ามีอะไรหายนะครับ หวังว่า
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 109  เมื่อ 02 พ.ย. 16, 11:50

พระพุทธเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าเสด็จมาพร้อมกับพระราชอาคันตุกะตรงเวลาตามกำหนดการ  พวกเราอยู่หลังโรงก็แอบดูตามช่องตามหลืบเท่าที่จะไม่โดนเบรค ครั้นถึงเวลาจะแสดง ตัวละครทั้งหมดเข้าประจำที่ แต่ละคนสวมชุดสวยๆทั้งนั้น มีแต่ผมกับปอแก้วที่ชุดแสดงต้องถอดเสื้อออกแขวนไว้ เพราะชุดของผู้รับบทน้ำตกไม่ควรจะสวมเสื้อ ด้วยว่าแม้จะมีระบบปรับอากาศ แต่ในรูที่เราจะเข้าไปแสดงนั้นความเย็นเข้าไปไม่ค่อยจะถึง  บัดเดี๋ยวต้องบังเกิดอาการเหงื่อไหลไคลย้อยแน่นอน
 
การแสดงบัลเลต์ดังกล่าวน่าจะประมาณครึ่งชั่วโมงเท่าที่จำได้ ผมกับปอแก้วตกลงกันว่าจะหมุนน้ำตกสลับกันคนละ ๕ นาที ใครก่อนใครหลังผมก็จำไม่ได้แล้ว จำได้แต่ว่าช่วงพัก ผมจะมองลอดรูออกไปชื่นชมพระบารมีได้อย่างถนัดชัดแจ้ง  นั่นเป็นสิ่งที่ผมยอมแลกการที่จะได้นั่งตรงที่นั้นกับบทที่โบราณเขาใช้ทาสทำ
 
ครั้นการแสดงบนเวทีกำลังเข้าสู่ช่วงกลางๆ ไอ้เพลาของพี่เบี้ยวมันก็เริ่มหนักมือขึ้นทุกทีทุกที ความเร็วในการหมุนชักจะช้าลงช้าลง ผู้ชมจะสังเกตุได้หรือไม่ว่าปริมาณน้ำตกเริ่มไม่สม่ำเสมอแล้ว ไม่รู้ใครกำลังแอบไปสร้างฝายหรือเปล่า  ผมกับปอแก้วจึงตกลงปรับเวลากันใหม่ เอาเป็นหมุนสองนาที พักสองนาที
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 110  เมื่อ 02 พ.ย. 16, 13:29

ขณะที่รอบสองนาทีของผมเวียนมาบรรจบอีกครั้ง คราวนี้ผมเริ่มสังเกตุว่าเพลามันชักมีเสียงครืดคราดๆ  มือหมุนชักตึงมือยิ่งกว่าเคย ปอแก้วทำตาเหลือกอยู่ในแว่นหนาของเขาเมื่อได้ยินเสียงอันไม่พึงประสงค์นั้น มันเป็นสัญญาณอันตรายของกลไกที่ช่วยให้เพลาหมุนคล่องตัว ผมตกใจยิ่งกว่าเขามากเพราะไม่สามารถรักษาความสม่ำเสมอของน้ำตกได้แล้ว พอมันกระตุกเป็นครั้งที่สอง ปอแก้วก็โดดเข้ามาช่วย เราสองคนสี่มือยังเอาไม่อยู่ พอหมุนเพลาได้มันก็จะดังโครกๆ แทนครืดคราด น้ำตกกลายสภาพเป็นน้ำแข็งสลับไปสลับมา

ถึงเวลานี้ผมเริ่มได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆมาทางทิศของผู้ชม  มองลอดถ้ำมองออกไปเห็นทุกพระองค์แย้มพระสรวลแบบขบขัน ผมกับปอแก้วไม่ได้โดยเสด็จพระหฤหรรษ์ดังกล่าวด้วย ต่างทุ่มแรงกายถวายชีวิตจะให้น้ำตกมันตกต่อไปให้ได้ แต่มันก็หนักมากกว่าเพลาจะขยับได้ทีละกระจิ๊ด  สุดท้ายมันประท้วงออกมาดังๆว่า “คล่ก” ส่วนผมกับปอแก้วอุทานว่าจิ๊บหายแล้ว

น้ำตกนิ่งสนิทเพราะเราช่วยกันหมุนจนด้ามเพลามันหักติดมือลงมา ผมกลั้นใจส่งสายตาลอดถ้ำมองออกไปอีกครั้ง เห็นผู้ดูเพียงแต่ยิ้มๆแล้วให้ความสนใจไปที่การแสดงบนเวที ต้องขอแสดงความนับถือบรรดาผู้แสดงทั้งหมดที่แม้จะสมัครเล่น แต่ทุกคนก็สวมวิญญาณของมืออาชีพ  มิได้สนใจกับเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้น  บัดนั้นบทบาทของผมกับปอแก้วจบลงแล้ว ต่างก็มุดตามกันออกมาแล้วปีนลงมาเจอพี่เบี้ยวที่ยืนรออยู่  พี่เขาตบบ่าแล้วบอกว่าไม่เป็นไร

เออ ใช่สิ(โว้ย) ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์นี้น่ะ ไม่เป็นไร แต่หากเราอยู่ในสมัยศรีอยุธยา ผมรับประกันซ่อมฟรีได้เลยว่า พี่กับผมสองคนโดนหวายแน่  ส่วนพี่นั้น อาจได้ไปตะพุ่นหญ้าช้างเป็นของแถมอีกต่างหาก
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 111  เมื่อ 02 พ.ย. 16, 13:36

หลังการแสดง ผู้แสดงทุกคนรวมทั้งผู้เกี่ยวข้องนั่งคุกเข่าด้านหน้าบนเวที ทุกพระองค์เสด็จมาตรัสชมและขอบใจ ปอแก้วผมอยู่หลังฉากเพราะเรามิอาจออกไปเสนอหน้าได้ แต่ก็ไม่ได้ยินว่าทรงตำหนิถึงเรื่องอะไรเลย แม้หลังจากนั้นแล้วหลายวัน พี่เบี้ยวก็ยังยืนยันว่าไม่เห็นมีใครมาว่ากล่าวติเตียน  นิสิตสถาปัตย์ยังคงเข้าไปถวายงานในวังตามปกติแล้วแต่โอกาสที่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าลงมา

นี่คือคุณธรรมอันวิเศษของพระพุทธเจ้าอยู่หัว ผมได้ยินมาว่าตลอดการทำงานของพระองค์ท่านตลอดรัชสมัย มิทรงเคยตำหนิผู้ใดเลย ไม่ว่าใครจะชุ่ยกับพระองค์สักเพียงไหน  ผมได้ยินท่าน ดร. สุเมธเล่าให้ฟังกับหู  ในกรณีย์ที่เหลืออดซึ่งทำให้พระองค์ต้องเสด็จพระราชดำเนินไปตรวจความก้าวหน้าของโครงการนึงเป็นครั้งที่สองนั้น เมื่อเสด็จไปถึงแล้วก็รับสั่งกับผู้รับผิดชอบที่มายืนรอรับเสด็จว่า ไหน พาไปดูแปลงผักชีซิ เล่นเอาผู้ตามเสด็จอมยิ้มไปตามๆกัน เพราะโครงการที่ว่าไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับการปลูกผักชีเลยสักนิดเดียว
บันทึกการเข้า
Onsiri C.
อสุรผัด
*
ตอบ: 8


ความคิดเห็นที่ 112  เมื่อ 02 พ.ย. 16, 15:07

ขอบพระคุณค่ะอาจารย์ ที่ทำให้ยิ้มได้ทั้งน้ำตา บรรยายน้ำตกมือหมุนได้เห็นภาพมากค่ะ _/\_
บันทึกการเข้า
Naris
องคต
*****
ตอบ: 421


ความคิดเห็นที่ 113  เมื่อ 02 พ.ย. 16, 16:07

เป็นประสบการณ์เล่นน้ำตกที่น่าตื่นเต้นมากๆ เลยครับ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 114  เมื่อ 03 พ.ย. 16, 07:32

ก็ไม่ได้ไร้วาสนาถึงกับต้องรับบททาษตลอดนะครับ ปีที่อาภัสรา หงสกุล เป็นนางงามจักรวาลหมาดๆ ได้รับเชิญมาเล่นเป็นตัวละครกิตติมศักดิ์การแสดงหน้าพระที่นั่งเรื่องอะบูหะซัน ในงานอาษา ซึ่งเป็นงานราตรีสโมสรของสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดขึ้นที่สวนอัมพรทุกปี นิสิตถาปัดถูกเกณฑ์แรงงานเพียบ คราวนั้นผมได้รับบทเป็นผู้ถือเทียน เดินตามขบวนแห่อาภัสราแบบว่าใกล้ชิดแลกกลิ่นกันฟุ้งเลยทีเดียว

บทนี้ไม่ต้องมีการซ้อมมากมาย อยู่ๆผู้กำกับก็เดินมาชี้เอาๆในกลุ่มสร้างฉาก นี่คนนี้ๆ ๆ ตามมา ซ้อมกันครั้งเดียวว่าต้องทำอะไร พี่เขาก็ให้ไปแต่งหน้าแต่งตัว คืนนั้นแสดงเลย

ในห้องแต่งหน้านั้น ก็ไม่จำไม่ได้ว่าบริษัทเครื่องสำอางค์ยี่ห้อไหนเป็นสปอนเซอร์ ช่างสาวๆที่เขาส่งมานั้น แต่ละนางสวยจิ้มลิ้มทุกคน  พวกที่แต่งหน้าเสร็จแล้วก็ออกไปเล่าลือกัน พวกที่ทำฉากอยู่ก็อยากไปยลโฉมบ้าง เลยไปเข้าคิวรอแต่งหน้ากับเขาด้วย คืนนั้นปรากฏว่า พวกยกฉากเปลี่ยนฉาก และพวกขึ้นไปนั่งแคทวอร์คเหนือเวที คอยหมุนไฟฉายตามตัวแสดงก็ล้วนแต่แต่งหน้าทาอายแชโด้ว์ ปากแดงแจ๊ดด้วยกันทุกคน หลอนดีแท้
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 115  เมื่อ 03 พ.ย. 16, 07:35

อาภัสรายิ่งไม่ต้องซ้อมเลย เธอมาถึงก็อยู่ในชุดสวยงามแล้ว ครั้นถึงคิวก็ออกมายืนตามตำแหน่ง มีหญิงสาวแต่งกายคล้ายกันประกบหน้าหลัง คนเดินข้างบอกน้องเดินตามพี่มานะคะ พี่ทำอะไร น้องก็ทำอย่างนั้น ภาพที่เห็นผมตัดมาจากหนังสือพิมพ์เก็บไว้ อาภัสราอยู่ซ้ายสุด ผมอยู่ขวาสุดในรูป

เราออกโรงในฉากสุดท้ายของเรื่อง เป็นขบวนแห่ที่เดินออกมาทางด้านล่างของเวทีทางด้านขวา ผ่านหน้าพระที่นั่งช้าๆ เห็นสมเด็จพระนางเจ้าทรงยิ้มหวาน ชูพระหัตถ์ปรบให้อาภัสราแบบระรัว เพราะเป็น surprise ถวายในคืนนั้น มิได้ให้ทรงทราบมาก่อน ในหลวงท่านทรงปรบพระหัตถ์ให้ราชินีในละครเช่นกัน แต่มิได้ทรงแสดงออกมากมายเช่นพระราชินีพระองค์จริง
พอขบวนแห่เข้ามุมเวทีด้านซ้ายก็เป็นอันจบการแสดง


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 116  เมื่อ 03 พ.ย. 16, 08:31

โรงเรียนจิตรลดาระหว่างที่สมเด็จเจ้าฟ้าทุกพระองค์ยังทรงเป็นนักเรียนอยู่นั้น จะจัดงานปีใหม่ทุกปี และบางปีนิสิตถาปัดก็ได้เข้าไปมีส่วนเสริมความสนุกให้แก่งานด้วย

ครั้งที่สนุกและแสนประทับใจที่พวกเราชาวถาปัดเล่าขานไม่จบ ก็เป็นครั้งที่พี่เป็ด รุ่นพี่คนหนึ่งผู้ทำงานในวังมาตามไปเล่นเป็นผี ในการละเล่นเขาวงกต  ซึ่งได้จัดสร้างไว้แล้วบนเกาะกลางน้ำบริเวณหนึ่งของพระราชวังจิตรลดารโหฐาน โดยนำผ้ามาขึงเป็นผนังสูงท่วมหัว เป็นทางเดินวกวนในพื้นที่ประมาณ ๑๐ เมตรคูณ ๑๐ เมตร ถ้าใครเลือกทางผิดก็จะวนอยู่ในนั้น แล้วจะต้องเจอพวกเราที่ใส่หน้ากากเป็นผี บ้างก็เอาสีทาหน้า แต่งกายด้วยผ้าคลุมเอาซ้อสมะเขือเทศราดให้ดูเป็นเลือดพอหลอนๆ หลบอยู่ตามซอกมุมต่างๆ คอยร้องโหยหวนหลอกผู้ที่จะพลัดหลงเข้ามา 

บนเกาะนั้นมืดมิดมีเพียงแสงสลัวๆของแบล็กไลท์แสงม่วงๆ  บรรยากาศก็พอหวังผลได้อยู่  ผู้ที่มาในงาน ส่วนใหญ่เป็นพระสหายร่วมชั้นของสมเด็จเจ้าฟ้าทุกพระองค์ หากผู้ใดนึกสนุก จะเข้ามาเล่นฆ่าเวลาก่อนเสด็จพระราชดำเนิน ก็ต้องนั่งเรือให้พนักงานพายไปส่งที่เกาะ ทางเข้าเขาวงกตมีทางเดียว เข้าไปแล้วเสียงวี๊ดว้ายกระตู้วู้ก็ดังขึ้นไม่หยุดหย่อน หากพ้นมาได้แล้วจึงจะเจอสพานเล็กๆให้เดินหัวเราะคิกคักขึ้นฝั่ง

ผมไม่ได้ไปงานนี้หรอกครับ ไม่รู้ว่าวันนั้นไปไหนจึงได้พลาด  เพื่อนๆเล่าว่าพี่เป็ดมาที่คณะในช่วงวันหยุดปีใหม่ นิสิตมาคณะไม่กี่คน พอพี่เป็ดมาชวนก็เฮโลขึ้นรถบัสไปกับพี่เป็ดกันแทบทุกคน ที่นำมาเขียนนี้ก็รวบรวมจากความจำของเพื่อนๆเมื่อไม่นานมานี้เอง เพราะนำเรื่องไปเขียนลงหนังสือที่ระลึก ๕๐ ปี น้องใหม่จุฬาปี ๐๙
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 117  เมื่อ 03 พ.ย. 16, 08:34

เพื่อนๆเล่าว่า พวกผีๆเมื่อรับมอบหมายหน้าที่ๆจะต้องกระทำแล้ว ก็ผลัดกันมาหาอาหารที่จัดไว้ตามซุ้มนั้นใส่ท้อง  ก่อนทะยอยกลับไปประจำที่ บางคนยังครวญครางถึงน้ำพริกปลาทู ที่นำปลาขนาดพอดีๆที่ทอดแล้วกรอบไปทั้งตัว บอกว่าอร่อยติดความทรงจำจนทุกวันนี้ แม้จะมีอาหารอื่นๆที่จัดไว้มากมายก็จำเมนูอื่นไม่ได้สักอย่างเดียว

เมื่อเจ้านายเสด็จมาแล้วงานก็คึกคักขึ้นเป็นอันมาก  ทูลกระหม่อมน้อยนั้น โปรดที่จะพายเรือเล่นกับพระสหาย ครั้นเสด็จเข้ามาในเขาวงกต ประเทืองเล่าว่าทรงนำลูกชิ้นปิ้งไปยื่นๆล้อผีว่าเอามั้ยๆ
ความจริงเหตุการณ์ในเขาวงกตนั้น ไม่มีใครจะบรรยายได้ครบ เนื่องจากเป็นเรื่องที่แต่ละคนประสบด้วยตนเอง  พิชัยกล่าวถึงทูลกระหม่อมเล็กว่า “ท่านไม่กลัวผี ทรงใช้หนังยาง เอาหลอดกาแฟมาทำแทนลูกกระดาษยิงผี จนผีต้องนั่งถวายบังคมยอมแพ้”  จิรศักดิ์เสริมต่อว่า “พอท่านหาทางออกไม่เจอ เลยทรงแหวกผนังผ้าออกไปเลย”

หลังเวลาอาหารไปแล้ว พระพุทธเจ้าอยู่หัวก็เสด็จมาทรงดนตรีกับสมาชิกวง อ.ส. และถึงรอบของแขกผู้ใหญ่ นานๆครั้งจะแวะเวียนนั่งเรือไปเล่นเขาวงกตบ้าง

 “ผมก็ไม่รู้หรอกว่าใครเป็นใคร” วีระชัยเล่า “ผมใช้ไฟฉายส่องใต้หน้ากากผี คอยทำเสียงแฮ่ๆใส่คนที่หลงเข้ามา พอเห็นว่าเป็นสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ผีปลอมก็แข็งทื่อจนแทบจะกลายเป็นผีจริง พระองค์ท่านจึงทรงยื่นพระหัตถ์มาขอไฟฉายของผมไป แล้วทรงส่องหาทางเสด็จต่อออกไปเลย”

 “ทูลกระหม่อมฟ้าชายนำพระสหายมาตอนใกล้จะดึกแล้ว” สมพงษ์เล่าบ้าง  “ทรงถือธูปมาปราบผีด้วย  พอผีออกมาแฮ่ก็ทรงเอาธูปไล่จี้ พวกผีก็แตกฮือออกไปนอกเขาวงกต แต่ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่ติดค้างอยู่นะ”

“บางคนก็วิ่งหนีทัน ผมคิดว่าตัวเองไม่ทันแน่ก็เลือกปีนต้นไม้ขึ้นไปหลบพระองค์ท่านด้วยกันกับใครอีกคนหนึ่งก็ไม่รู้ เพราะใส่หน้ากากทั้งคู่ ท่านก็เสด็จผ่านไปไม่ทอดพระเนตรขึ้นมาข้างบน เราสองคนเลยรอด” ปราโมทย์บอก
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 118  เมื่อ 03 พ.ย. 16, 08:35

“พระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นกลุ่มท้ายสุด เที่ยงคืนแล้วทรงนำนักดนตรีลงเรือ บรรเลงมาตลอดทาง แล้วทรงคลาริเน็ตนำแถวนักดนตรีเข้าไปในเขาวงกต” สมพงษ์เล่าตอนไคลแม็กซ์ของคืนวันนั้น  “คนบนฝั่งไม่เห็นอะไรนอกจากได้ยินแต่เสียงเพลง ชั่วครู่ จึงได้เห็นผีสองสามตัวเต็นย๊อกแย๊กตามจังหวะดนตรีออกมา โดยพระเจ้าอยู่หัวทรงคลาริเน็ตต้อนซ้ายต้อนขวา คนก็ฮากันครื้นเครง ทรงรุกไล่ด้วยเสียงดนตรีให้ผีเต้นถอยหลังข้ามสพานกลับเข้าไปหน้าเวทีโดยสวัสดิภาพ ท่ามกลางเสียงหัวเราะและปรบมือของทุกๆคนในงาน”

“ความหมายก็คือ พระองค์ท่านทรงไล่สิ่งชั่วร้ายให้หมดไปด้วยเสียงดนตรีเพื่อต้อนรับปีใหม่ที่ดีนั่นเอง” ประเทืองสรุป
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 119  เมื่อ 03 พ.ย. 16, 08:37

https://youtu.be/s4wcQpX7o9I?t=14
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 6 7 [8] 9 10 ... 18
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.047 วินาที กับ 19 คำสั่ง