SILA
|
ความคิดเห็นที่ 120 เมื่อ 08 ก.พ. 17, 09:36
|
|
๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ นายกรัฐมนตรีได้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ ในประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องกำหนดวันสำคัญของชาติไทย โดยกำหนดให้วันที่ ๕ ธันวาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถ บพิตร, วันชาติ และ วันพ่อแห่งชาติ
(khaosod.co.th)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 121 เมื่อ 08 ก.พ. 17, 09:38
|
|
ศิลปะแสงเงาติดตั้ง บนผนังอาคารนั่น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 122 เมื่อ 08 ก.พ. 17, 09:40
|
|
น้อมระลึกถึงราชัน เวลาวันสวรรคต
๑๕.๕๒ เมื่อแสงต้องเงาปรากฏ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 123 เมื่อ 08 ก.พ. 17, 09:41
|
|
พระสาทิสลักษณ์งามงด จดจำได้ไม่มีเลือน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 124 เมื่อ 08 ก.พ. 17, 09:43
|
|
Shadow art ประติมากรรมแสงเงา ผลงานของอาจารย์ประจำของคณะสถาปัตย์ มช. ที่นำโดย ดร.บุรินทร์ ธราวิจิตรกุล, อาจารย์กานต์ คำแก้ว และ อาจารย์วรงค์ วงศ์ลังกา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 125 เมื่อ 08 ก.พ. 17, 09:45
|
|
เฟซบุค Burin Tharavichitkun อาจารย์คณะสถาปัตย์ มช. บันทึกว่า....
ตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. เรายังไม่เคยหยุดจ้อง... . 15.52 น. ของวันที่ 13 ต.ค. เป็นช่วงเวลาแห่งความจริงที่ทำให้เราแทบสิ้นใจ ตั้งแต่เวลานั้นเป็นต้นมา ยังไม่มีซักวันที่เราจะหยุดคิดถึงช่วงบ่ายของวันนั้น . ขณะเดียวกัน นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา... ก็ยังไม่มีซักวันเดียวที่เราจะหยุดจ้องมองผนังผืนนั้นของตึกสถาปัตย์ ม.ช. ผนังก่ออิฐโชว์แนวที่ถูกแสงสีทองทอดตัวอย่างเงียบสงบในช่วงบ่ายของทุกวัน เรานั่งจ้องมองผนังผืนนี้ด้วยกันทุกวัน ด้วยหัวใจเดียวกัน
หัวใจที่บอกเราว่าเวลา 15.52 ของวันที่ 13 ต.ค. ท่านไม่ได้จากเราไปไหน เทวดาเพียงแค่กลับสวรรค์ กลับไปอยู่บ้านจริงๆ ของท่าน ท่านอยู่เปื้อนดินเพื่อเรานานไป นานจนเราเผลอคิดไปว่าพื้นดินคือบ้านของท่าน ท่านแค่ทิ้งกายที่เปราะบาง กลับไปเป็นแสงนำทางชีวิตให้เราจากผืนฟ้า . เรายังไม่หยุด ที่จะทำให้ช่วงบ่าย 3-4 โมงของทุกวัน เกิดเป็นความหมายใหม่ เราจะทำให้ชั่วขณะที่เราจะเสียขวัญ เสียกำลังใจที่สุดในชีวิต ให้กลายเป็นช่วงเวลาสำคัญของเรา . เป็นชั่วขณะที่ท่านจะกลับมาใกล้เรา มาปรากฎตัวอย่างช้าๆ ณ ผนังผืนนั้นของเรา มาปลอบประโลมและเรียกขวัญให้กลับมาสู่เรา มาบอกให้เราลุกขึ้น และก้าวไปข้างหน้า ก้าวไป อย่างที่ท่านเคยทำให้ดู ยามที่ท่านต้องอยู่กลางแดดและยิ้มสู้เพื่อพวกเรา . เราจะไม่หยุดจ้องที่ผนังผืนนี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะจ้องมองด้วยสายตาของนักสร้างสรรค์ เราจะจ้องจนกว่าภาพนั้นจะปรากฎตัว เราจะทำให้ได้ ให้สมกับที่เป็นเรา ขอพลังจงอยู่กับทุกคนครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 126 เมื่อ 08 ก.พ. 17, 09:46
|
|
และ Shadow Art ประติมากรรมแสงเงา อีกหนึ่งชิ้นจากเฟซ ชมเฌย
แสงเงาจากหมายเลขเก้า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33584
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 127 เมื่อ 08 ก.พ. 17, 10:42
|
|
.
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 128 เมื่อ 13 มี.ค. 17, 10:46
|
|
เมื่อวันที่ ๕ มี.ค. ๒๕๖๐ สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และ สมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ แห่งญี่ปุ่น ได้เสด็จฯ ถึงประเทศไทย และเสด็จฯ ไปยังพระที่ดุสิตมหาปราสาท ทรงสดับพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม และ ทรงวางพวงมาลาถวายราชสักการะ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จากนั้น เสด็จฯ ออกไปยังอาคารสำนักราชเลขาธิการ ทรงลงพระปรมาภิไธยและพระนามาภิไธยในสมุด แสดงความเสียพระราชหฤทัย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 129 เมื่อ 13 มี.ค. 17, 10:47
|
|
การเสด็จพระราชดำเนินประเทศไทยเป็นการส่วนพระองค์ ของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินี มิชิโกะแห่งญี่ปุ่นครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์แน่นแฟ้นระหว่าง ๒ พระราชวงศ์ที่มีความผูกพันกันมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะคำลงนามแสดงความอาลัยของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ ซึ่งถูกเปิดเผยโดย วสันต์ วณิชชากร ช่างภาพสำนัก ข่าวเอพี ว่า ....The time has come for us to say “sayonara” サヨナラ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 130 เมื่อ 13 มี.ค. 17, 10:48
|
|
ข้อความนี้พ้องกับเนื้อร้องเพลง The Japanese Farewell Song เพลงเก่าปี 1955 ผลงาน การประพันธ์คำร้องอังกฤษโดย Freddie Morgan ทำนองโดย Hasegawa Yoshida (คนละเพลงกับ Sayonara จากหนังฮอลลีวู้ดชื่อ Sayonara เช่นกัน)
เพลงนี้จากเสียงนักร้องในตำนาน Sam Cooke
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 131 เมื่อ 13 มี.ค. 17, 11:17
|
|
ถ้าจะให้อ่านได้ง่ายขึ้น ต้องกลับบนลงล่าง เป็นลายเซ็นพระนาม ทางซ้ายคือ 美智子 - มิชิโกะ ทางขวาคือ 明仁 - อะกิฮิโตะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 132 เมื่อ 07 เม.ย. 17, 10:22
|
|
The Illumination ความสว่างที่ส่องแสงนำทาง อีกหนึ่งนิทรรศการศิลปะที่จัดขึ้นเพื่อน้อมแสดงความอาลัย และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ที่แตกต่างด้วยวิธีรังสรรค์สร้างอย่างน่าสนใจ ผลงานภาพโดยแรงบันดาลใจจากพระราชกรณียกิจและพระราชจริยวัตร ของพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในแง่มุมต่างๆ ที่ยิ่งเห็น ยิ่งศึกษา ยิ่งเกิดปัญญา เสมือนได้เข้าไปค้นพบความสว่าง และแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิต โดยภาพพระบรม สาทิสลักษณ์ทุกภาพใช้วัสดุธรรมชาติที่เกี่ยวเนื่องตามแนวพระราชดำริ http://www.matichon.co.th/news/506315 จากพระราชจริยวัตรพระราชกรณียกิจ สู่พระบรมสาทิสลักษณ์สร้างสรรค์ ศึกษาแนวพระราชดำริ,งานที่ทรงนับร้อยพัน เกิดเป็นปัญญาสว่างแสงแรงดลใจ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 133 เมื่อ 07 เม.ย. 17, 10:29
|
|
บางภาพที่จัดแสดง
ร่มเงาแห่งความเพียร
ผลงานที่ทำมาจากการทับสีของพันธุ์ไม้ที่ทรงปลูกในสถานที่ต่างๆ โดย เธียรจุฑาณ์ รุกขวิบูลย์, กนกพร ศิริเสรี, ศิริวรรณ อนันต์ณัฐศิริ, ธนพงษ์ องอาจโยธิน, ปรีดี อัศวพานิชพันธ์ , เอกวิทย์ เชพานุเคราะห์, เมศิกานต์ ศรศรีวิวัฒน์, นิธิธัช หิรัณยปรีชากุล, วิลาวัณย์ สงวนวงษ์, ประธาน อุดมทรัพย์วงศ์
แนวคิดของภาพ จากต้นไม้ของ“พ่อ” มีอยู่ที่ไหนบ้าง? ตอนเริ่มทำงานชิ้นนี้ นี่คือคำถามแรกที่เรา อยากรู้คำตอบ แค่เปิดมือถือเข้ากูเกิ้ล ก็รู้คำตอบในเสี้ยววินาที เร็วจนไม่ทันรู้สึกว่าต้องรออะไร แต่ในคำถาม เดียวกันมันบอกอะไรบางอย่างที่ทำให้เราฉุกคิดมากกว่า ต้นไม้ใหญ่ของ “พ่อ” ที่ผ่านเวลาจนแตกกิ่งก้าน ให้ร่มเงากับทุกสิ่ง ตามสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ในร่มเงานั้น เราเห็นความเพียรของพระองค์ที่ทรงใช้เวลาหลายสิบปีกับการปลูกต้นไม้ ไม่ว่าจะเสด็จไปที่ใด ร่มเงาที่ถึงจะใช้เวลา แต่มันก็เห็นผล ย้อนกลับมาดูตัวเอง หลายสิ่งง่ายและเร็วจนน่ากลัว เร็วจนบางครั้งก็รอ ไม่เป็น เร่งรีบจนลืมไปว่า ทุกสิ่งล้วนมีเวลาของตัวเองสำหรับความสำเร็จ ไม่ใช่เพียงต้นไม้ แต่ยังหมายถึงชีวิต อย่าได้กลัวล้มเหลว ถ้ามีความเพียรพยายาม อย่าได้กลัวว่าจะช้า กว่าใคร ถ้าอดทนรออย่างแน่วแน่ในจุดหมาย ผลสำเร็จย่อมเกิดขึ้นไม่วันใดก็วันหนึ่ง งานภาพ “ร่มเงาแห่งความเพียร” ชิ้นนี้ จึงอยากสะท้อนแนวคิดของสิ่งที่พระองค์ทรงทำ ด้วยการบรรจง วางชิ้นส่วนเล็กๆ จากดอกไม้ ใบไม้ ผลงานที่ทำมาจากต้นไม้พันธุ์เดียวกับที่พระองค์ทรงปลูก ร้อยเรียงทีละชิ้นๆ ใช้เวลาในการทับให้สีจากธรรมชาติเกิดเป็นภาพของพระองค์ ผู้ทรงมีความเพียรจนถึงความสำเร็จอย่างที่ตั้งเป้าไว้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 134 เมื่อ 07 เม.ย. 17, 10:33
|
|
สัมผัส
ภาพวาดจากสีของผลส้ม ทำขึ้นโดย สิริน วรรณวลี, ณธีพัฒน์ จาตุรนต์รัศมี, ปิติ พงศ์เรขนานนท์, สกลวัฒน์ ภู่ประเสริฐ
แนวคิดของภาพ เกิดจากในค่ำคืนหนึ่ง หลังความโศกเศร้าอย่างที่สุด ผมเปิดทีวีทิ้งไว้อย่างว่างเปล่า เพียงเพื่อให้เวลาผ่านไป ในทีวีฉายเรื่องพระราชกรณียกิจต่างๆ ของพระองค์ท่าน แต่เรื่องที่ทำให้ผมสะดุด และต้องหันมาครุ่นคิด คือ พระเมตตาของพระองค์ท่านที่มีต่อผู้ป่วยโรคเรื้อน ในวันที่ผู้ป่วยโรคเรื้อนอยู่ในหลืบที่ต่ำสุดของสังคม ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกและเป็นที่รังเกียจจากคนอื่น แม้แต่ถูกขับไล่…ถูกส่งไปอยู่ในนิคมโรคเรื้อน สถาน ที่แม้แต่ชาวบ้านที่มีพื้นที่ติดกัน ยังไม่ยอมให้ถนนตัดผ่านด้วยความรังเกียจ
พระองค์เสด็จไปยังนิคมโรคเรื้อน ท่ามกลางคำทัดทานของข้าราชบริพาร ส้มจากนิคมโรคเรื้อนแพร่ง ขาหยั่ง ส้มที่ไม่เคยมีใครกล้ากิน ส้มที่ทุกคนเคยรังเกียจ เมื่อรู้ที่มา ถูกคั้นและระบายออกมา จำลองเหตุการณ์ที่ แสงสว่างสาดส่องลงมายังจุดที่ต่ำสุดในวันนั้นอย่างเท่าเทียม สิ่งที่พระองค์ท่านทรงทำ เปลี่ยนมุมมองในการมองผู้คนของผม เพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง พนักงานในห้าง แม่ค้าในตลาด แม่ค้าข้าวแกง เด็กเสิร์ฟ แท็กซี่ คนขับมอเตอร์ไซค์ คนขายพวงมาลัย ทุกคนล้วนเท่ากัน เราไม่ได้ ดีกว่า หรือเหนือกว่าใครเลย พระองค์ท่านทรงแสดงออกให้เราเห็นถึงความเกื้อกูลกัน ความเมตตาต่อทุกคนอย่าง เท่าเทียมโดยแท้จริง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|