เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 30 เมื่อ 21 พ.ย. 16, 19:15
|
|
ความสัมพันธ์แนบแน่นของเจ้าชายชาร์ลส์กับคามิลล่า เป็นสิ่งที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่แต่ในสายตาของประชาชนเท่านั้น แต่รวมถึงสายพระเนตรอันสุขุมลุ่มลึกของพระราชินีนาถเอลิซาเบธด้วย พระราชินีทรงตระหนักดีว่า เจ้าชายพระโอรสบัดนี้มีวัยล่วงเข้ากลางคนแล้ว ไม่ใช่เด็กๆที่แม่จะสั่งให้ทำโน่นทำนี่ได้ เจ้าชายทรงแสดงให้ประจักษ์ว่าในชีวิตนี้จะว่างเปล่าปราศจากผู้หญิงชื่อคามิลล่าหาได้ไม่ แม้ว่านางไม่อยู่ในฐานะเมียตามกฎหมาย นางก็มีอำนาจชักจูงจิตใจเจ้าชายได้ในทุกเรื่องทุกโอกาส ถึงนางไม่มีตำแหน่งจะออกงานพระราชพิธีได้ นางก็เคียงข้างเจ้าชายออกงานเลี้ยงหรูหราไฮโซอะไรต่อมิอะไรได้อย่างเปิดเผย วันหนึ่งในอนาคต เจ้าชายชาร์ลส์จะต้องเสด็จขึ้นครองบัลลังก์ ในเมื่อไม่มีพระชายา พระราชาองค์ใหม่แห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษแทนที่จะทรงนั่งบัลลังก์อยู่องค์เดียว กลับมีผู้หญิงไร้ตำแหน่งนั่งประกบอยู่ทุกหนทุกแห่ง ก็จะเป็นภาพที่ไม่งาม ไม่สง่า และไม่เป็นผลดีต่อประเทศตรงไหนเลย สู้ให้ตำแหน่งนางอย่างเปิดเผยไปเสียรู้แล้วรู้รอดดีกว่า อย่างน้อยก็ถูกต้องตามโบราณราชประเพณี และคามิลล่าเองก็ต้องตกอยู่ในกรอบประเพณีของราชสำนัก จะทำอะไรตามใจชอบอย่างคนภายนอกไม่ได้ ข้อนี้น่าจะเป็นผลดีสำหรับเจ้าชายอีกด้วย
นี่ก็คือเหตุผลที่ควีนเอลิซาเบธทรงอนุญาตให้ทั้งสองสมรสกันได้ ตามที่คามิลล่าปรารถนาจนตัวสั่นมาตลอดชีวิต
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 31 เมื่อ 21 พ.ย. 16, 19:32
|
|
คามิลล่าสามารถก้าวข้ามอุปสรรคใหญ่ได้เปลาะแรก คือเปลี่ยนสถานะจากเมียนอกกฎหมายมาเป็นเมียตามกฎหมายได้สำเร็จ แต่ก็พบว่าอุปสรรคเปลาะที่สองนั้นก้าวข้ามยากกว่าเปลาะแรก อันได้แก่ตำแหน่งใหม่ของนาง
ไดอาน่าเคยดำรงตำแหน่ง ปรินเซสออฟเวลส์ หรือเจ้าหญิงพระชายาขององค์รัชทายาท บัดนี้ชาร์ลส์ก็ยังเป็นปรินซ์ออฟเวลส์หรือตำแหน่งเจ้าชายรัชทายาทอยู่ ถ้าทรงเสกสมรสใหม่ หญิงผู้นั้นก็ควรจะเป็นเจ้าหญิงพระชายาในตำแหน่งเดียวกันกับที่ไดอาน่าเคยได้รับ แต่... ตำแหน่งนี้สงวนไว้สำหรับหญิงสาวผู้ไม่เคยผ่านการสมรสมาก่อนเท่านั้น เพราะพระราชินีอังกฤษ จะต้องเป็นหญิงโสดมาก่อน ไม่ใช่หญิงม่าย อุปสรรคข้อนี้นางซิมป์สันเคยเจอมาแล้ว และก้าวข้ามไม่พ้น นางก็เลยฉุดปรินซ์ออฟเวลส์องค์ก่อนพ้นบัลลังก์ไป กลายเป็นบาดแผลในราชสำนักต่อมาอีกหลายสิบปี ราชสำนักอังกฤษไม่ต้องการประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ทางแก้จึงรับคามิลล่าเข้ามาแทนที่จะผลักเจ้าชายชาร์ลส์ออกไป แต่หัวเด็ดตีนขาด ก็ไม่อาจละเมิดกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยหญิงม่ายห้ามเป็นพระราชินี ผลก็คือ แม้ว่าเป็นพระชายาของปรินซ์ออฟเวลส์ คามิลล่าก็มิอาจจะเป็นเจ้าหญิงคามิลล่าแห่งเวลส์ได้อยู่ดี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 32 เมื่อ 21 พ.ย. 16, 19:34
|
|
ตำแหน่งของเจ้าชายชาร์ลส์เมื่อประสูติ นอกจากเป็นปรินซ์ออฟเวลส์แล้ว ยังทรงกรมเป็นอะไรอีกหลายๆตำแหน่งโดยอัตโนมัติ ในฐานะพระโอรสองค์ใหญ่ของกษัตริย์อังกฤษ ขอลอกมาให้อ่านโดยไม่ทับศัพท์ เผื่อจะอยากไปหารายละเอียดอ่านต่อเองนะคะ Duke of Cornwall, Duke of Rothesay, Earl of Carrick, Earl of Chester, Baron of Renfrew, Lord of the Isles ดังนั้น เหลียวซ้ายแลขวามองหาตำแหน่งรองลงมา ราชสำนักก็ตกลงปลงใจว่า เอาละ เจ้าชายทรงดำรงตำแหน่งดยุคแห่งคอร์นวอลเป็นอันดับสองรองลงมาจากปรินซ์ออฟเวลส์ งั้นพระชายาซึ่งเป็นเจ้าหญิงไม่ได้ก็เป็นดัชเชสแห่งคอร์นวอลละกัน
คามิลล่าจึงเดินเข้าสู่ประตูวิวาห์ ลอดซุ้มประตูก้าวออกมาเป็นคามิลล่า ดัชเชสแห่งคอร์นวอล เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ที่เป็นดัชเชสที่เป็นพระชายาของเจ้าชายรัชทายาท
ภาพนี้คือคามิลล่ากับเจ้าชายในวันวิวาห์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 33 เมื่อ 22 พ.ย. 16, 08:15
|
|
ถ้าถามต่อไปว่า เมื่อเจ้าชายชาร์ลส์ขึ้นครองราชย์แล้ว คามิลล่าจะได้เป็นพระราชินีไหม คำตอบก็คือไม่ได้ค่ะ แต่จะได้เป็น "เจ้าหญิงพระชายา" หรือ Princess Consort ทำนองเดียวกับเจ้าชายอัลเบิร์ตพระสวามีของพระราชินีนาถวิคตอเรียทรงได้รับมาแล้ว คือไม่ได้เป็นพระราชาของอังกฤษ เป็น Prince Consort หรือ "เจ้าชายพระสวามี"
แปดปีหลังจากไดอาน่าสิ้นชีพ นางพญาแห่งอังกฤษก็ทรงยินยอมเปิดทางให้ลูกสะใภ้คนใหม่แต่หน้าเก่า ได้เป็นสะใภ้ตามกฎหมาย จากนั้น คามิลล่าก็เข้าสู่วงสมาชิกพระราชวงศ์ ได้ทำงานสาธารณกุศล ได้ไปเปิดงานโน่นงานนี่ ได้ติดตามเจ้าชายชาร์ลส์ไปเยือนประเทศต่างๆเป็นทางการ ทำตัวเป็นเจ้านายสตรีที่สงบเสงี่ยม ตั้งหน้าตั้งตาทำประโยชน์ต่อสาธารณะ ไม่รู้ไม่ชี้ต่อความมึนตึงของประชาชน ส่วนนางพญาเอง ก็ทรงดำเนินกุศโลบายที่ฉลาดต่อไปอีก คือทำตัวเป็นแม่ผัวที่ปรองดองกันดีกับลูกสะใภ้ เพราะเป็นทางเดียวที่จะทรงได้ชัยชนะในศึกสองนางพญา เพราะมันไม่ดีอะไรดีขึ้นมาถ้าหากว่าจะทรงทำเย็นชาหมางเมินต่อผู้หญิงคนนี้ หยิกเล็บมันก็เจ็บเนื้อ ยังไงๆเขาก็เป็นคนที่ลูกชายรักอย่างเหนียวแน่น และที่สำคัญคือความบาดหมางนี้ก็จะกลายเป็นข่าวโอชะในสื่อโดยเฉพาะพวกแทบลอยด์ทั้งหลายที่จะขุดเรื่องเท็จมั่งจริงมั่งมาเม้าท์กันสนุกปาก คามิลล่าน่ะนางไม่มีอะไรจะเสียมากกว่านี้ แต่ฝ่ายเสียหายมากที่สุดคือฝ่ายนางพญาองค์แรก ต่อมาคือภาพลักษณ์ของสถาบันที่ซวนเซมาหลายหนนับแต่ชาร์ลส์ก่อปัญหากับไดอาน่า ก็จะยิ่งดิ่งลงเหว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 34 เมื่อ 22 พ.ย. 16, 08:16
|
|
แม่ผัวรักลูกสะใภ้คนนี้เป็นอันดี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 35 เมื่อ 02 ธ.ค. 16, 10:07
|
|
คามิลล่ารู้ตัวว่าควรจะวางตัวอย่างไร ในสายตาของมหาชนและราชสำนัก อย่างแรกคือนางไม่ทำตัวเด่นเกินหน้าพระราชวงศ์อื่นๆ โดยเฉพาะแม่ผัวผู้สูงศักดิ์ สอง นางเอาใจใส่แข็งขันในกิจสาธารณกุศลอันเป็นหน้าที่ของพระราชวงศ์ เพื่อจะได้เป็นที่พอพระทัยของนางพญา สาม นางพยายามเข้ากับสมเด็จพระราชินีโดยเฉพาะเรื่องม้า ซึ่งเป็นเรื่องโปรดของควีน คามิลล่าขี่ม้าเก่งมาแต่ยังสาว จึงมีเรื่องจะพูดจาจุ๊กจิ๊กเอออวยกันไปได้ตลอด สี่ นางจะแสดงให้เห็นเสมอว่าจงรักภักดี แน่วแน่ในรักที่มีต่อเจ้าชาย รักกันดูดดื่ม ไปไหนไปด้วยกัน อยู่กันได้ราบรื่น เพื่อให้เห็นว่านางทำให้เจ้าชายมีความสุข ไม่มีข่าวทะเลาะเบาะแว้งกันอย่างสมัยอยู่กับเจ้าหญิงไดอาน่า ควีนซึ่งเห็นแก่ลูกชายยังไงก็ต้องใจอ่อนกับลูกสะใภ้ ผลแห่งความพยายามต่อเนื่องกันมาหลายปี คามิลล่าก็ประสบผลสำเร็จ ได้รับพระราชทานเครื่องอิสริยาภรณ์ the Royal Family Order และ GCVO — Grand Cross of the Victorian Order เป็นเกียรติแก่ตัวนางเอง แสดงถึงการยอมรับโดยสมบูรณ์ว่านางเป็นหนึ่งในพระราชวงศ์ที่ทำคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติ
แต่...เราก็อย่าลืมว่า สมเด็จพระราชินียังมีพระพลานามัยแข็งแรง ทรงตั้งพระทัยว่าจะอยู่ถึง 101 ปี เช่นเดียวกับพระมารดา โดยยังประทับอยู่บนบัลลังก์จนถึงวันนั้น ขณะที่เจ้าชายทรงสูงวัยใกล้เจ็ดสิบแล้ว คามิลล่าเองก็เช่นกัน นางแก่กว่าเจ้าชาย 1 ปี ดังนั้น คามิลล่าก็ต้องรอต่อไปอีกนาน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Anna
|
ความคิดเห็นที่ 36 เมื่อ 03 ธ.ค. 16, 08:23
|
|
มาเข้าเรียนท้ายชั่วโมง ทว่าตั้งหน้าตั้งตาอ่านเล็คเชอร์ก่อนหน้าจนไล่ทันแล้วค่ะ อาจารย์คงไม่ว่าอะไรนะคะ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 37 เมื่อ 08 ธ.ค. 16, 09:20
|
|
สวัสดีค่ะคุณแอนนา หายหน้าไปพักใหญ่เลยนะคะ
เล่าต่อ คามิลล่ามีความสุขอยู่ในฐานะพระชายาของรัชทายาทแห่งอังกฤษโดยปราศจากคู่แข่งมานานหลายปี เพราะเจ้าชายเจ้าหญิงน้องๆของเจ้าชายชาร์ลส์ล้วนมีปัญหาในชีวิตสมรสกันไปคนละแบบ จึงไม่มีใครโดดเด่นเป็นจุดชื่นชมมากมายจากประชาชน เจ้าหญิงแอนน์พระขนิษฐาก็ทรงหย่าร้างจากพระสวามีคนแรก แต่งกับคนที่สองก็แยกกันอยู่ ทำท่าจะไปกันไม่รอด เจ้าชายแอนดรูว์พระอนุชาองค์รองลงไปจากเจ้าชายชาร์ลส์ ก็หย่าจากพระชายาซึ่งมีความประพฤติเหลวแหลก เมื่อหย่าแล้วก็ดำเนินชีวิตอย่างชายโสดเจ้าสำราญ ไม่เสกสมรสใหม่ ส่วนเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดองค์สุดท้องเสกสมรสกับสาวสามัญชนชื่อโซฟี รายนี้ตอนแรกสื่อก็ประโคมข่าวลุ้นว่าจะมาแทนเจ้าหญิงไดอาน่าได้ เพราะหน้าตาคล้ายๆกัน แต่เอาเข้าจริงโซฟีก็มัวแต่ยุ่งกับครอบครัว เพราะมีลูกสาวซึ่งไม่สมประกอบต้องผ่าตัดดวงตา สรุปว่าไม่มีใครมาเป็นคู่แข่งคามิลล่า นางก็ยังเฉิดฉายออกงานสาธารณกุศลต่อมาอีกหลายปี จนดาวดวงใหม่พุ่งทะลุฟ้าขึ้นมาบดบังรัศมี ดาวดวงนั้นชื่อเคท มิดเดิลตัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 38 เมื่อ 17 ธ.ค. 16, 19:47
|
|
ก่อนหน้าพ.ศ. 2001 แคทเธอรีน มิดเดิลตัน ผู้มีชื่อเล่นว่า เคท เป็นเพียงเด็กสาวชาวอังกฤษธรรมดาๆคนหนึ่ง มาจากครอบครัวคนชั้นกลาง พ่อแม่เคยทำงานเป็นพนักงานสายการบินมาก่อนจะเริ่มทำธุรกิจตั้งบริษัทจำหน่ายของขวัญสำหรับงานปาร์ตี้เด็ก ธุรกิจไปได้ด้วยดีจนครอบครัวมีฐานะดีขึ้นมาก สามารถส่งลูกสาวเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยได้ เคท มิดเดิลตันเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูในสก๊อตแลนด์ แทนที่จะเรียนในลอนดอน หรือเมืองมหาวิทยาลัยอื่นๆในอังกฤษ ในปีที่เธอเข้าเป็นน้องใหม่ มหาวิทยาลัยก็ได้ต้อนรับน้องใหม่คนดังระเบิดเถิดเทิงคนหนึ่ง หรือควรเรียกว่าองค์หนึ่ง เพราะเป็นพระโอรสขององค์รัชทายาทแห่งสหราชอาณาจักร ทรงพระนามว่าเจ้าชายวิลเลียม เคทลงทะเบียนเรียนสาขาเดียวกับเจ้าชาย คือสาขาประวัติศาสตร์ศิลปะ และพำนักอยู่ในหอเดียวกันด้วย
ว่ากันว่า เคทสะดุดพระเนตรของเจ้าชายหนุ่ม ในงานเดินแฟชั่นโดยนศ.ของมหาวิทยาลัย เธอได้รับเลือกเป็นหนึ่งในนางแบบ สวมชุดซีทรูสีเขียวเดินเยื้องย่างมาบนแคทวอล์ค ส่วนเจ้าชายอยู่ในกลุ่มผู้ชม ก็เลยเกิดสนพระทัยขอเดทกับสาวรายนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 39 เมื่อ 19 ธ.ค. 16, 18:50
|
|
เจ้าชายวิลเลียมเป็นหนุ่มเนื้อหอมที่สุดในอังกฤษ โดยตำแหน่ง เมื่อมีข่าวว่าจะทรงเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรู ก็มีข่าวสะท้อนกลับมาว่าปีนั้นมีสาวๆอังกฤษแห่กันไปสมัครเรียนกันมากมาย ข่าวลือสะพัดออกมาทีหลังว่า แม่ของเคท มิดเดิลตันเองก็เป็นหนึ่งในแม่ที่ลุ้นลูกสาวไปเรียนที่นั่น ยิ่งลงทะเบียนเรียนสาขาเดียวกับเจ้าชาย ยิ่งเป็นโอกาสมากขึ้นอีก ข่าวนี้เป็นจริงหรือว่าขาเม้าท์ใส่ไข่เข้าไปก็ตาม ความเป็นจริงคือเคท มิดเดิลตัน เป็นที่สนพระทัยของเจ้าชายวิลเลียมจนขอเดทด้วย สิ่งที่น่าอัศจรรย์คือ เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่เจ้าชายขอนัดด้วยหนสองหนก็เลิกไป อย่างที่เป็นธรรมดาของหนุ่มสาวในมหาวิทยาลัย แต่ทรงคบกับเธอยาวนานมาจนถึงเข้าสู่ประตูวิวาห์ด้วยกัน เป็นความรักที่ไม่ค่อยจะเกิดบ่อยนักในหนุ่มสาว โดยเฉพาะหนุ่มหรือสาวที่เนื้อหอมมากๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 40 เมื่อ 23 ธ.ค. 16, 16:00
|
|
ในปีที่เจ้าชายวิลเลียมทรงเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย มีข่าวว่าสาวๆจำนวนมากหลั่งไหลไปสมัครเรียนที่นี่เป็นประวัติการณ์ หนึ่งในนั้นคือเคท มิดเดิลตัน แม่ของหล่อนถูกขาเม้าธ์เป่าข่าวว่าจัดการส่งลูกสาวไปเพื่อการณ์นี้กะเขาด้วย ด้วยเหตุนี้เคทจึงลงเรียนสาขาเดียวกับเจ้าชาย ทั้งๆก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรกับวิชาประวัติศาสตร์ศิลป์ จบมาด้วยเกรด 2.1 เท่านั้นเอง (ข้อนี้ไม่จริง เคทเรียนจบได้เกียรตินิยม ส่วนเจ้าชายวิลเลียมเปลี่ยนสาขาไปเรียนภูมิศาสตร์) ข่าวลือคือข่าวลือ ข้อเท็จจริงคือเคทเป็นหญิงสาวที่กระทบความสนพระทัยของเจ้าชาย จนถึงขั้นออกเดทกัน นับว่าหายากอยู่มากที่เดทในมหาวิทยาลัยจะยั่งยืนยาวนาน ส่วนใหญ่ก็ครั้งสองครั้งแล้วเลิก หรืออย่างดีก็ปีเดียว แต่ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองไม่ยักเลิก เคทก็เป็นคู่เดทที่ยาวนานของเจ้าชายวิลเลียมจนกระทั่งเรียนจบ ทำให้สื่อทั้งหลายหันไปเพ่งเล็งเป็นตาเดียวกัน
หลังจากเลิกคบกันไปสั้นๆพักหนึ่ง เพราะราชสำนักกดดันหนัก หนุ่มสาวคู่นี้ก็ย้อนกลับมาคบกันอีกครั้ง ตามความประสงค์ของเจ้าชายที่จะไม่เลิกกับเพื่อนสาว จากนั้นก็ยั่งยืนมาจนถึงอภิเษกสมรส เคทก้าวจากสาวสามัญขึ้นเป็นเจ้าหญิง และมีสิทธิ์เป็นราชินีอังกฤษในอนาคต
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 ธ.ค. 16, 20:01 โดย เทาชมพู »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ประกอบ
|
ความคิดเห็นที่ 41 เมื่อ 25 ธ.ค. 16, 07:59
|
|
มาขยายความเรื่องเกรดของเคทให้นะครับ
ในระบบอังกฤษ การคิดเกรดจะไม่เหมือนกับระบบไทยหรืออเมริกา มีการแบ่งผลการเรียนออกเป็น class ซึ่งมีแบบนี้ครับ
First-class honours (1st) ประมาณมากกว่า 3.6 Second-class honours, upper division (2:1)ประมาณ 3.3 - 3.6 Second-class honours, lower division (2:2)ประมาณ 3.0 - 3.3 Third-class honours (3rd)ประมาณ 2.3 - 3.0 Ordinary degree (pass)ประมาณ 2.0 - 2.3
ดังนั้น 2.1 ของเคท น่าจะเป็น 2:1 มากกว่าครับ เทียบได้กับได้เกียรตินิยมอันดับสองชั้นสูง ผลการเรียนจริงคิดเป็นเกรดแบบอเมริกาคือประมาณ 3.3 - 3.6 ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 42 เมื่อ 25 ธ.ค. 16, 21:25
|
|
ขอบคุณค่ะ คุณประกอบ
ในเมื่อสปอตไลท์ทุกดวงส่องจ้าไปที่เคท สิ่งที่ตามมาคือคำถามร้อยแปดพันเก้า รวมความว่าทุกคนอยากรู้อยากเห็นว่าสาวมหาลัยคนนี้มีดียังไงถึงชนะใจชายหนุ่มเนื้อหอมที่สุดในสหราชอาณาจักรได้ คำตอบที่สื่อพยายามขุดคุ้ยมา ก็ยังหาข้อเสียของเคทไม่พบชนิดจังๆ พาดหัวข่าวแทบลอยด์ได้อื้อซ่า อย่างสาวเซเลบอื่นๆ เพื่อนร่วมชั้นเรียนบอกว่าเคทเป็นคนขยัน เรียนเอาจริงเอาจัง ความประพฤติส่วนตัวก็ไม่เคยเสียหายจนอื้อฉาว จะว่าไล่จับเจ้าชายก็ไม่จริง ตอนเข้าปี 1 เคทไม่ได้สนใจเจ้าชายด้วยซ้ำ เธอมีคู่เดทเป็นรุ่นพี่ปี 4 คบหาสมาคมกันอยู่พักหนึ่งจนเขาเรียนจบ พ้นรั้วมหาลัยไปก็ห่างเหินกันไปเอง นั่นแหละเคทจึงว่าง เจ้าชายเป็นฝ่ายจีบเธอ แต่เธอก็ไม่เล่นด้วยง่ายๆ จนกระทั่งเริ่มมาออกนัด ทำความรู้จักกันในปี 2 เคทเป็นคนไม่ชอบเป็นข่าว เธอปกปิดมิตรภาพกับเจ้าชายไว้ได้นานพอสมควร จนกระทั่งปิดไม่ได้อีกต่อไป แต่ก็ไม่เคยเปิดปากคุยโว หรือให้สัมภาษณ์สื่อ เธอไม่ชอบด้วยซ้ำที่ปาปารัสซี่ตามเธอไปทุกหนทุกแห่ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 43 เมื่อ 31 ธ.ค. 16, 17:16
|
|
ความสัมพันธ์ของเคทกับวิลเลียมที่อยู่ๆก็สะดุดแทบคว่ำลงไปหนหนึ่ง มีผู้เฉลยว่าแท้จริงมาจากฝีมือของแม่เลี้ยง( ที่จะหยอดคำว่าใจร้ายลงไปก็ไม่ผิดกติกา) ของเจ้าชายเอง คามิลลาผู้นั่งอยู่บนเก้าอี้พระชายาเจ้าชายชาร์ลส์เต็มภาคภูมิแล้วในตอนนั้น คนเฉลยนี้ไม่ใช่ตาสีตาสารอบนอก แต่เป็นนักเขียนหนังสือเรื่องของพระราชวงศ์ ที่มีผลงานมาแล้วหลายเล่ม ชื่อนาย คริสโตเฟอร์ แอนเดอเสน ตามธรรมดาของคนเขียนหนังสือเรื่องเจ้าเรื่องนาย ก็ย่อมจะทำตัวหูตากว้าง เงี่ยหูฟังเรื่องซุบซิบจากวงในไม่ให้พลาดเป็นธรรมดา แต่นายคนนี้จะใส่ไข่บ้างหรือไม่ ไม่อาจทราบได้ ทราบแต่ว่าแกยืนยันว่า วิลเลียมกับเคทแตกกันเกือบเลิกก็เพราะฝีมือคามิลล่า สาเหตุที่แกบอกก็คือ คามิลล่าเป็นคนเห่อยศ เห่อเจ้าเห่อนายยังไม่พอ นางยังเห่อตัวเองว่ามีเชื้อสายจากทวดซึ่งเป็นพระสนม ตัวนางเองตั้งแต่สาวจนแก่ก็อยู่ในแวดวงเจ้านายมาตลอด คบหาแต่ผู้ลากมากดีทั้งนั้น นางจึงทนไม่ได้ที่เจ้าชายวิลเลียมรัชทายาทอันดับต่อจากเจ้าชายพระสวามีของนาง จะไปคว้าผู้หญิงชาวบ้านขึ้นมาเป็นเจ้าหญิงในอนาคต นางถือว่าเคทเป็นผู้หญิงที่หาสกุลรุณชาติมิได้ พ่อแม่เป็นคนบ้านๆที่เผอิญมีโชคทางค้าขายเลยรวยขึ้นมาเท่านั้นเอง ถ้าพูดถึงชนชั้นก็ห่างกันหลายระดับ ว้ายกรี๊ด นางวนิดา..เอ๊ย..นางสาวเคท เนี่ยน่ะเหรอจะมาเกินหน้าชั้น ทนไม่ได้!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 44 เมื่อ 31 ธ.ค. 16, 17:46
|
|
คามิลล่านี่เองที่เป่าหูชาร์ลส์ว่า วิลเลียมชักจะคบเพื่อนสาวร่วมมหาวิทยาลัยนานเกินควรเสียแล้ว ก็ควรจะเลิกร้างกับผู้หญิงคนนี้ไปหาคนใหม่ที่เป็นกิ่งทองใบหยกกันมากกว่านี้ วิธีการก็ไม่ยาก พ่อซึ่งอยู่ในกำมือเมียใหม่อยู่แล้วก็เรียกลูกชายมาบอกว่า " คบกันมานานหลายปีแล้ว ถ้าลูกยังไม่คิดจะแต่งงานกับแม่คนนี้เป็นจริงเป็นจัง ก็อย่าผูกติดเขาเอาไว้ให้เสียเวลากันเปล่าๆ มันไม่แฟร์กะเขาด้วย ปล่อยเขาไปเถอะ เผื่อเขาจะเจอผู้ชายดีๆเข้าสักคน" เมื่อพ่อพูดแบบนี้ วิลเลียมซึ่งยังไม่ได้คิดจะแต่งงานกับใครในตอนนั้น ก็จำต้องปล่อยมือจากเคท เพื่อให้โอกาสทั้งเธอและทั้งองค์เองด้วย เคทก็เหมือนนกปีกหัก จู่ๆคนรักที่คบกันมาหลายปีขอถอยห่างออกไปเสียเฉยๆ เธอทำอะไรไม่ถูกนอกจากบินกลับไปซบอกแม่ คารอล มิดเดิลตัน แม่ของเคทก็เป็นผู้หญิงฉลาดพอจะรู้ว่าควรแนะนำลูกสาวยังไงดี นางก็บอกว่า "เก็บความทุกข์ไว้ลูก อย่าให้ใครเห็น อย่าทำท่าว่าแคร์วิลเลียมจนอยู่โดยปราศจากเขาไม่ได้ ลูกทำตัวให้เข้มแข็ง เข้าสังคมคบเพื่อนฝูง แสดงท่าทีร่าเริงเข้าไว้ มีผู้ชายมาจีบก็อย่าตัดไมตรี ปล่อยให้เขาจีบ ถ้าวิลเลียมเขารักลูกจริง เขาจะกลับมาเอง" เคทก็ทำตามคำสั่งสอนของแม่ เธอไปเที่ยวกับเพื่อน เธอเข้าดิสโกเธค เต้นรำกับชายหนุ่มคนนั้นคนนี้ ทำตัวสนุกสนานเป็นปกติ วิลเลียมซึ่งเฝ้ามองอยู่ก็ทนไม่ได้ที่เคททำท่าจะหลุดมือไป เพียงไม่กี่เดือน เจ้าชายก็หวนกลับมาหาเธอ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|