รูปนี้เกี่ยวข้องอะไรกับไฟฟ้า
นางมณีเมขลา ล่อแก้ว
ให้ยักษ์รามสูร ขว้าง ขวานฟ้า หรือเปล่า
นิยายปรัมปรา ว่าด้วยเรื่องการเกิดฟ้าร้อง ฟ้าแลบ ฟ้าผ่า
หรือเปล่า
ถูกต้องครับ ซึ่งในปี พ.ศ. 2410 เจ้าพระยาทิพากรวงษ์มหาโกษาธิบดี (ขำ บุญนาค) ได้เขียนและลงบทความเรื่องการเกิดปรากฎการณ์ตามธรรมชาติต่างๆ เช่น ฟ้าร้อง ฟ้าแลบ ฟ้าผ่า โดยใช้หลักเหตุผลทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่มาอธิบายเปรียบเทียบ ซึ่งเป็นการปะทะกับความรู้ความเชื่อแต่เดิมของคนไทยในเรื่องนางมณีเมขลาและยักษ์รามสูร มีใจความตอนหนึ่งว่า “ถามว่า ในท้องฟ้าบางทีก็มีเสียงดัง...ตำราไทยเขาว่านางมะณีเมขลาฬ่อแก้ว ยักษ์รามสูรเอาขวานขว้างไปจึ่งมีเสียงดัง และมีขวานฟ้าผ่าตกลงมามีรัศมีปลาบคือแสงแก้วนางมะณีเมขลา...ที่ว่าดังนั้นก็เห็นไม่มีพยานด้วยกันทั้งนั้น...ที่เรียกว่าฟ้าผ่าคือฟ้าต่ำลงมา...ทางแร่เดินที่ใดมาก ที่นั้นมักถูกไฟฟ้าเพราะแร่นั้นเกิดด้วยฤทธิ์ไฟมีธาตุไฟอยู่ในแร่มาก ไฟนั้นจึ่งขึ้นรับไฟฟ้า...ก็ที่ฟ้าร้องฟ้าแลบมีเสียงดังแล้วไม่ผ่าลงมา เห็นว่ายังไกลแผ่นดินอยู่ ฤทธิ์ไฟที่แผ่นดินจะขึ้นไปรับไม่ถึง ที่ฟ้าแลบมากสองแห่งสามแห่ง ก็เพราะไฟฟ้ามากบ้างน้อยบ้างไม่เสมอกัน...ที่เรียกว่าฟ้าผ่าคือไฟนั้นต่ำลงมา ธาตุไฟที่มีอยู่ในแผ่นดินทุกสิ่งก็ขึ้นรับไฟฟ้าลงมา.........ถ้าจะแก้คนถูกไฟฟ้าสลบไปเหมือนหนึ่งตายแล้วก็ดี บางทีก็รักษารอดได้บ้าง จะรักษานั้นให้คนผู้ต้องสายฟ้านั้นให้นอนอยู่ที่กลางแจ้ง เมื่อนอนนั้นยกศรีษะและไหล่ทั้งสองขึ้นวางบนหมอนให้สูงหน่อยหนึ่ง แล้วให้เอาน้ำที่เย็นใสรดให้สูงบ้างพ่นบ้าง ตั้งแต่ศรีษะลงไปให้ทั่วทั้งกายแล้วถ้าคนไข้สะดุ้งขึ้นมา ก็พึงเข้าใจเถิดว่าฟื้นแล้ว....”
ขอถามต่ออีกหน่อย ว่ารูปนางมณีเมขลาเกี่ยวข้องอย่างไรกับบริษัทรถรางไทยทุนจำกัด (รถรางไฟฟ้าของคนไทยล้วนๆ) ที่มีโรงไฟฟ้าอยู่ที่วัดเทวราชกุญชรแถวเทเวศน์ ไม่ใช่บริษัทบางกอกแตรมเวจำกัดของพวกฝรั่งชาวต่างชาติที่มีโรงไฟฟ้าอยู่ที่เชิงสะพานเหล็กนะครับ
ไม่เห็นมีคนพูดถึงประเด็น
ไฟฟ้าเข้ามาในไทยก่อนปี พ.ศ. 2427 หลายปี กันบ้างเลย
