เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 75 เมื่อ 01 ก.ค. 16, 20:52
|
|
ยังค่ะ ถึงตอนไปคาบไม้บรรทัดต่อจากแม่บัว โทษฐานหลับในห้อง
เอารูปเจ้าชายหลุยส์ในวัยรุ่น หล่อสะอาดมาดองค์ชาย มาฉายเป็นตัวอย่างไว้ก่อนค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 76 เมื่อ 04 ก.ค. 16, 17:26
|
|
ทั้งที่เป็นเยอรมันโดยเชื้อชาติ แต่เจ้าชายหลุยส์ถือกำเนิดในอังกฤษ เติบโตอย่างเด็กชายอังกฤษ และถูกส่งเข้าร.ร.อังกฤษ ไม่ต่างจากเจ้าของภาษา สงครามโลกครั้งที่ 1 ระหว่างเยอรมนีและชาติอื่นๆโดยเฉพาะอังกฤษ ทำให้พระบิดาของเจ้าชายตัดสินพระทัยที่จะเลือกเป็นอังกฤษโดยสมบูรณ์ ด้วยเหตุนี้ทั้งท่านและโอรสธิดาก็เลยสละฐานันดรเดิมในราชวงศ์เฮสส์ เปลี่ยนมาใช้นามสกุลฟังเป็นอังกฤษมากกว่าเยอรมัน แบตเตนเบิร์กจึงกลายมาเป็นเมาท์แบตเตน แทน
พระเจ้าแผ่นดินอังกฤษก็ทรงชดเชยความเป็นเจ้าที่จบไป ด้วยการตั้งให้เป็นขุนนางอังกฤษ เจ้าชายพระบิดาได้รับแต่งตั้งเป็นมาเควสแห่งมิลฟอร์ด ฮาเวน( Marquess of Milford Haven) ส่วนเจ้าชายน้อยก็กลายเป็นลอร์ดหลุยส์ เมาท์แบตเตน
ลอร์ดหลุยส์เรียนจบแล้ว เข้ารับราชการในราชนาวีอังกฤษ เติบโตมากับญาติๆในราชวงศ์วินด์เซอร์ หนึ่งในญาติสนิทวัยใกล้เคียงกันคือเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ปรินซ์ออฟเวลส์ผู้เป็นรัชทายาท (ต่อมาสมรสกับนางซิมป์สัน และสละราชบัลลังก์) ก็มีข่าวซุบซิบว่า เด็กหนุ่มทั้งสองนั้นสนิทกันยิ่งกว่าเพื่อน ตั้งแต่ย่างเข้าวัยรุ่น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 77 เมื่อ 04 ก.ค. 16, 17:30
|
|
ความจริง พฤติกรรมทำนองนี้ ติดตัวเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดมาก่อนพบแม่ม่ายซิมป์สัน ทรงมีข่าวว่าเคยไปติดพระทัยเจ้าชายหนุ่มรูปหล่อแห่งราชวงศ์โรมานอฟของรัสเซีย ชื่อเจ้าชายเฟลิกซ์ ยูซูปอฟ อันว่าเจ้าชายองค์นี้ก็มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ไม่เบาเหมือนกัน คือเป็นคนที่วางแผนกำจัดและสังหารนักบวชนรกรัสปูตินได้สำเร็จ แต่นั่นเป็นอีกเรื่องไม่เกี่ยวกับกระทู้นี้ ขอข้ามไปนะคะ แค่เอารูปเจ้าชายเฟลิกซ์มาให้ดู ว่าสวยเอ๊ยหล่อขนาดไหน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
แพรวพิม
อสุรผัด
ตอบ: 19
|
ความคิดเห็นที่ 78 เมื่อ 04 ก.ค. 16, 19:20
|
|
ดูเผินๆ คิดว่าเป็นผู้หญิงเลยค่ะอาจารย์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 79 เมื่อ 05 ก.ค. 16, 16:14
|
|
ลอร์ดหลุยส์ ใช้ความเป็นอดีตเจ้าชายและยศศักดิ์ขุนนางพรางเรื่องส่วนตัวไว้มิดชิด ยุคนั้น ความเป็นเกย์ไม่เป็นที่ยอมรับในสังคม ถือว่าเป็นทั้งบาปและอาการป่วยทางจิต เขาจึงเปิดเผยกับใครไม่ได้ แต่ก็ไม่่ได้หมายความว่าจะเก็บเนื้อเก็บตัว ไม่เกี่ยวข้องกับหนุ่มๆด้วยกัน ตรงกันข้าม ความรักความใคร่ส่วนตัวก็เป็นเรื่องหนึ่ง หน้าตาในสังคมก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แยกกันคนละทาง หนึ่งในบรรดา "เพื่อนสนิท "ของลอร์ดหลุยส์คือนักศึกษาหนุ่มชาวไอริชซึ่งมาเจอกันที่เคมบริดจ์ ชื่อยาวเหยียดว่าเจมส์ เจอระไมห์ วิคเตอร์ ฟิตซ์วิลเลียม เมอร์ฟี หรือเรียกสั้นๆว่าปีเตอร์ เมอร์ฟี่ นายคนนี้นอกจากเป็นเกย์แล้วยังเป็นผู้นำนักศึกษาหัวเอียงซ้าย แต่แปลกที่ทั้งคู่ก็คบหากันได้สนิทสนมยาวนาน ไม่เคยทิ้งขว้างร้างรากันแม้ว่าจะไม่ได้มีกันและกันคนเดียวก็ตาม ลอร์ดหลุยส์จ่ายเงินเลี้ยง "ไอ้หนู" คนนี้ปีละ 600 ปอนด์อย่างสม่ำเสมอ จนนายเมอร์ฟี่ถึงแก่กรรมไปในปี 1966 อีกคนหนึ่งที่เข้ามาเป็นเพื่อนสนิทในแวดวงของลอร์ดหลุยส์ ก็คือคู่เชยของดยุคแห่งเค้นท์ โนเอล เคาเวิร์ด
ชีวิตส่วนตัวของลอร์ดหลุยส์ถือว่าสุดเหวี่ยงสุดๆในยุคนั้น หลังจากตายไปแล้ว มีข่าวว่าเขาเคยเข้าไปเอี่ยวในคดีเหตุอื้อฉาวช่ื่อ the Kincora Boys’ Home ด้วย คินคอร่าเป็นชื่อสถานสงเคราะห์เด็กชายอยู่ในไอร์แลนด์ ตั้งขึ้นเป็นสถานพำนักของเด็กที่หนีจากบ้านเพราะถูกทำร้ายหรือต้องมีเหตุสุดวิสัยจนอยู่กับครอบครัวไม่ได้ แต่ตอนหลัง ข่าวรั่วออกมาว่า ที่นี่กลายเป็นซ่องโสเภณีเด็กชายวัยรุ่น ที่บรรดาวีไอพีหัวงูทั้งหลายไปใช้บริการกัน เมื่อความแตกออกมาก็เลยกลายเป็นเรื่องใหญ่ ว่าเด็กตกเป็นเหยื่อ ลอร์ดหลุยส์จะไปเอี่ยวจริงหรือเปล่าไม่มีประชาชนคนนอกรู้ แต่ที่แน่ๆคือตำแหน่งการงานของเขาก้าวไกลด้วยดี จนได้เป็นถึงจอมพลเรือ ที่สำคัญก็คือลอร์ดหลุยส์แต่งงานกับสาวทายาทมหาเศรษฐี ซึ่งเป็นรักร่วมเพศ คบได้ทั้งสองเพศเช่นเดียวกัน
บ้านข้างล่างนี้คือสถานสงเคราะห์คินคอร่า ค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Jalito
|
ความคิดเห็นที่ 80 เมื่อ 06 ก.ค. 16, 00:58
|
|
....ที่สำคัญก็คือลอร์ดหลุยส์แต่งงานกับสาวทายาทมหาเศรษฐี ซึ่งเป็นรักร่วมเพศ คบได้ทั้งสองเพศเช่นเดียวกัน...
โลกนี้ช่างสับสนเหลือเกิน อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
ล้ำลึกเกินนิยาย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 81 เมื่อ 06 ก.ค. 16, 20:17
|
|
นี่คือสาวงาม เอ็ดวิน่า ซินเธีย แอนเน็ตต์ แอชลีย์(Edwina Cynthia Annette Ashley) สาวไฮโซ ในยุค 1930s ของลอนดอน เธอเป็นสาวสวยเปรี้ยว มีชีวิตส่วนตัวโลดโผนให้ซุบซิบกันได้มากมาย แต่สังคมก้มหัวให้เพราะเธอคาบช้อนทองฝังเพชรออกมาจากท้อง มีทั้งพ่อและตาเป็นมหาเศรษฐี เพราะอยู่ในแวดวงไฮโซด้วยกัน ลอร์ดหลุยส์ เมาท์แบตเตนจึงได้พบสาวงามบนกองเงินกองทองคนนี้ เธอได้มรดกจากตาถึง 2 ล้านปอนด์ และทรัพย์สินอื่นๆอีกด้วย ส่วนเขามีรายได้ปีละ 610 ปอนด์ในฐานะนายทหารเรือ ในเมื่อคนหนึ่งมีศักดิ์ อีกคนก็มีทรัพย์ จึงลงเอยกันง่ายดาย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 82 เมื่อ 07 ก.ค. 16, 10:32
|
|
งานวิวาห์สุดหรู เป็นหน้าเป็นตาของลอร์ดหลุยส์และเอ็ดวิน่า มีเจ้านายพระญาติพระวงศ์ไปร่วมงานกันเพียบ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 83 เมื่อ 08 ก.ค. 16, 09:14
|
|
เมื่อแต่งงานกันแล้ว สามีภรรยาก็อยู่ด้วยกันในคฤหาสน์หรูในลอนดอน ตามแบบชาวไฮโซทุกประการ เวลาผ่านไป ก็มีลูกสาวด้วยกัน 2 คน ดูจากภายนอก ชีวิตราบรื่นดี ไม่ปรากฏว่ามีอาการแตกร้าวบ้านแตกสาแหรกขาดอย่างที่น่าจะเป็น ทั้งนี้เพราะว่าต่างคนต่างอยู่ ต่างดำเนินชีวิตตามแบบของตัวเอง ในบันทึกของลูกสาวที่เขียนเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว บอกว่าเด็กสองคนอยู่กับพี่เลี้ยง แทบไม่มีเวลาได้ใกล้ชิดพ่อแม่เอาเสียเลย ลอร์ดหลุยส์ไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆในราชการ มีชีวิตนอกบ้านมากกว่าจะอยู่บ้าน แต่เขาก็ให้ความรักและความเอาใจใส่ลูกสาวทั้งสองมากกว่าแม่ซึ่งไม่เหลียวแลลูกสาวเอาเสียจริงๆ เอ็ดวิน่าไม่เลิกชีวิตอื้อฉาวอย่างที่เธอเคยเป็นมาก่อนแต่งงาน แต่อ่านแล้วไม่พบว่าหลังแต่งงาน เธอเกี่ยวข้องกับผู้หญิงคนไหน ตรงกันข้าม เธอกลับคบผู้ชายไม่เลือกหน้า แม้แต่ลูกเล็กๆก็รู้ข้อนี้ว่า แม่มีเพื่อนชายมากหน้าหลายตาจริงๆ
ภาพเอ็ดวิน่ากับลูกสาวคนโต พาเมล่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 84 เมื่อ 11 ก.ค. 16, 10:10
|
|
เอ็ดวิน่ามีเหตุผลให้การกระทำของตัวเอง คือ เธอเป็นคนขี้เหงา สามีเป็นนายทหารเรือ ต้องออกจากบ้านไปอยู่กลางทะเลทีละนานๆ เธอก็ฆ่าความว้าเหว่ด้วยการคบเพื่อนผู้ชาย เฟลิตกับพวกเขา ให้เขาลุ่มหลงไล่ตามเธอเล่นแก้เหงา คำว่า"เหงา" มักเป็นเหตุผลคลาสสิคของคนเจ้าชู้ ไม่ว่าหญิงหรือชาย คนขี้เหงามักจะเป็นคนที่นึกถึงแต่ตัวเองมากกว่าจะเอาใจใส่กับโลกภายนอก ส่วนคนเจ้าชู้ก็เป็นคนที่เห็นแก่ความสุขของตัวเองมากกว่านึกถึงใจคนรัก คู่สมรส หรือลูก เมื่อสองอย่างมาบวกลงตัวกันพอดี จึงพบบ่อยๆว่าคนเจ้าชู้มักจะขี้เหงา และคนขี้เหงาก็มักจะเจ้าชู้ เอ็ดวิน่าก็ไม่ได้อยู่นอกคำจำกัดความนี้ ยิ่งแต่งงานไม่ใช่เพราะรัก แต่เพราะความเหมาะสมและหน้าตาในสังคม กิ่งทองไม่แท้ และใบหยกเทียมคู่นี้ก็เลยมีชีวิตส่วนตัวที่แยกกันไปคนละทาง ลอร์ดหลุยส์ คบชายอื่นและหญิงอื่นหลังสมรส ส่วนเอ็ดวิน่าก็คบชายอื่นมาตลอด หนึ่งในจำนวนนั้นเธอพาเข้าบ้านมาคลุกคลีตีโมงกับลูกๆ ช่วยเธอเลี้ยงลูกราวกับเป็นพ่อคนที่สอง ส่วนพ่อตัวจริงไปใช้ชีวิตส่วนตัวกับคนอื่น อย่างไรก็ตาม สังคมไฮโซสมัยนั้นเพ่งเล็งที่เปลือกนอกมากกว่าเรื่องภายใน ตราบใดที่ผัวเมียยังควงกันหน้าชื่นตาบานออกสังคมก็ถือว่าโอเค ต่อให้ภายในบ้านยุ่งเหยิงอย่างไรก็เป็นเรื่องของเขาไปแก้กันเอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 85 เมื่อ 15 ก.ค. 16, 17:01
|
|
ทั้งสองอยู่กันมาได้จนล่วงเข้าวัยกลางคน เพราะว่าต่างคนต่างอยู่ ต่างมีชีวิตส่วนตัวของตัวเอง อย่างที่ลอร์ดหลุยส์เคยสรุปประเด็นเอาไว้ชัดเจนไม่ต้องซักถามกันอีก ว่า "“Edwina and I spent all our married lives getting into other people's beds." " เอ็ดวิน่ากับข้าพเจ้าใช้ชีวิตสมรสด้วยกันบนเตียงคนอื่น โดยตลอด"
อย่างไรก็ตาม ชีวิตราชการของลอร์ดหลุยส์ก็ก้าวลิ่วๆเจริญเติบโตด้วยดี ถึงขั้นได้เป็น viceroy คำนี้แปลว่าอุปราช เป็นตำแหน่งประมุขฝ่ายบริหารของอังกฤษ มีมาตั้งแต่อินเดียยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษ เมื่ออินเดียได้เอกราชในค.ศ. 1947 หลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง ลอร์ดหลุยส์ก็กลายเป็นอุปราชคนสุดท้ายในประวัติศาสตร์อินเดีย เอ็ดวิน่าเองก็ได้เป็นไวซรีนหรือท่านผู้หญิงของอุปราช ต้องอพยพย้ายถิ่นจากลอนดอนไปอยู่ที่อินเดียตลอดระยะเวลาดำรงตำแหน่ง ในอินเดียนี่เอง ทั้งสองก็ได้พบบุคคลน่าสนใจที่สุดในประเทศนั้น เขาคือบัณฑิตเยาวะหะราล เนห์รู นายกรัฐมนตรีของอินเดีย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 86 เมื่อ 15 ก.ค. 16, 18:52
|
|
นายกเนห์รู ไม่ใช่ชาวอินเดียธรรมดาที่ไต่ระดับขึ้นไปจนได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่เป็นระดับหัวกะทิมาตั้งแต่เกิด เขาเกิดในตระกูลมั่งคั่ง มีครูชาวอังกฤษมาสอนหนังสือให้ที่บ้านตั้งแต่เด็ก ตามแบบผู้ดีทุกประการ พอโตก็ถูกส่งตัวไปเรียนหนังสือตั้งแต่ระดับมัธยมที่อังกฤษ เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ เรียนจบได้เกียรตินิยม แล้วไปอบรมต่อที่สำนักกฎหมาย ก่อนจะกลับมาเป็นนักการเมืองที่บ้านเกิดเมืองนอน ต่อสู้ทางการเมืองมาอย่างโชกโชนจนกระทั่งก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำ ถ้าหากว่าไม่มองสัญชาติว่าเขาเป็นชาวอินเดีย เนห์รูก็มีคุณสมบัติของปัญญาชนชั้นเลิศจากลอนดอน เป็นสุภาพบุรุษ พร้อมด้วยกิริยามารยาทน่านับถือทุกประการ ตอนที่อุปราชคนใหม่และภรรยาไปรับตำแหน่งที่อินเดีย เนห์รูเป็นพ่อม่ายหนุ่มใหญ๋ ภรรยาเขาเสียชีวิตด้วยวัณโรคเมื่อ 8 ปีก่อน ทิ้งลูกสาวคนเดียวไว้ให้ดูต่างหน้า เขาเป็นคนไฟแรง เฉลียวฉลาดรอบรู้ทั้งวิชาการและประสบการณ์ชีวิต นับเป็นเสน่ห์ของผู้ชาย ไม่ซ้ำแบบกับหนุ่มไฮโซที่เคยล้อมอยู่รอบตัวเอ็ดวิน่า เสน่ห์ของกระดังงาลนไฟก็เริ่มปฏิกิริยาเคมีกับเสน่ห์ของท่านผู้นำทันที
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 87 เมื่อ 15 ก.ค. 16, 18:58
|
|
ส่งรูปมาเซิฟๆค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 88 เมื่อ 22 ก.ค. 16, 16:51
|
|
ความสัมพันธ์ระหว่างเอ็ดวิน่าและท่านนายกฯเนห์รู จริงๆแล้วเป็นยังไง ก็ไม่เคยมีพยานที่ไหนสอดรู้สอดเห็นเข้าไปได้ถึงที่สุด ขาเม้าท์ทั้งหลายก็ได้แต่เล่าลือกันไปตามกระแส อย่างหนึ่งที่เห็นๆกันก็คือเอ็ดวิน่าปลื้มท่านผู้นำคนนี้จนออกนอกหน้า ประทับใจความเฉลียวฉลาดรอบรู้และคุณสมบัติเลิศเลอเพอร์เฝ็คของพ่อม่ายหนุ่มใหญ่ ซึ่งเธอก็แสดงออกอย่างไม่กระมิดกระเมี้ยนปิดบังอะไร จึงปรากฏให้เห็นอยู่หลายครั้งว่า ภรรยาท่านไวซรอยสนิทกับนายกอินเดีย มากกว่าตัวท่านไวซรอยพึงสนิทกับท่านผู้นำเองเสียอีก ไม่ว่าไปไหนที่จะต้องเจอกัน เธอกับท่านนายกก็จะเดินคู่กันไป พูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกันไม่มีที่จบสิ้น ส่วนตัวท่านไวซรอยลอร์ดหลุยส์ก็เดินล้าหลังไปข้างหลัง คุยกับคู่สนทนาซึ่งอาจเป็นใครก็ได้ที่ร่วมทางไปด้วย โดยมากก็คือลูกสาวคนโตนั่นแหละที่กลายเป็นคู่สนทนาของพ่อ
ตอนนั้น ลูกสาวคนโตของลอร์ดหลุยส์และเอ็ดวิน่า คือพาเมล่า เมาท์แบตเตนอายุ 18 ปีแล้ว เป็นสาวพอจะดูออกถึงความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับท่านนายกฯอินเดีย ว่าไม่ธรรมดา แต่หลายสิบปีต่อมาเมื่อเข้าวัยชรา ผู้ใกล้ชิดทั้งหลายล่วงลับไปแล้ว เธอเขียนหนังสือชีวประวัติของตัวเอง เล่าถึงเรื่องนี้ว่า แม่ของเธอกับท่านนายกอินเดีย สนิทสนมกันอย่างพลาโตนิคเฟรนด์ชิป คือมิตรภาพระหว่างชายหญิงที่เป็นอย่างเพื่อนจริงๆ ไม่มีเซกส์เข้ามาเกี่ยวข้อง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 89 เมื่อ 22 ก.ค. 16, 16:54
|
|
เนห์รูกับพาเมล่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|