paganini
|
ความคิดเห็นที่ 135 เมื่อ 06 ส.ค. 16, 08:55
|
|
สนุกมากครับคุณครู. พึ่งจะมาลงทะเบียนเรียนสาย. ขอไปนั่งหลังห้องนะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 136 เมื่อ 06 ส.ค. 16, 09:05
|
|
ข้อหาของจอร์ช สมิธ ที่แจ้งตำรวจอย่างเป็นทางการ มี 2 ข้อหา คือเขาถูกข่มขืนโดยไมเคิล ฟอว์เซ็ตต์ กับเขาเห็นเจ้าชายชาร์ลส์กับไมเคิลอยู่บนเตียงด้วยกัน ทางกรมตำรวจก็สอบสวนตามระเบียบ แต่ผลการสอบสวนออกมาว่า เรื่องทั้งหมดไม่มีมูลความจริง เชื่อว่าเป็นอาการประสาทของจอร์ชเอง เกิดจากพิษสุราเรื้อรัง และความตึงเครียดจากเคยเป็นทหารไปสงครามฟอล์คแลนด์เมื่อหลายปีก่อนจะสมัครเข้ามาเป็นมหาดเล็ก
ตำรวจไปได้พยานอีกคนหนึ่งเป็นอดีตมหาดเล็ก ชื่อไซมอน โซลารี่ นายคนนี้หักล้างข้อกล่าวหาของจอร์ช โดยให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ว่า ตามหน้าที่ของจอร์ช เขาไม่อยู่ในฐานะจะเห็นอะไรอย่างที่เขาอ้างว่าเห็นได้ เพราะหน้าที่ของจอร์ช ไม่ต้องไปเสิฟถึงห้องบรรทมของเจ้าชาย หน้าที่รับใช้ในห้องบรรทมเป็นหน้าที่ของมหาดเล็กอาวุโสอย่างไมเคิล ฟอว์เซ็ตต์ และเจ้าชายเองก็ไม่เคยเสวยพระกระยาหารเช้าในห้องบรรทม ส่วนราชเลขานุการของเจ้าชายชื่อเซอร์ไมเคิล พีท ก็ยืนยันไปในทำนองเดียวกันว่า เป็นเรื่องเหลวไหลทั้งเพ คนที่รู้จักเจ้าชายจะรู้ว่าท่านไม่มีวันเป็นตุ๊ดเป็นเกย์ได้เป็นอันขาด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 137 เมื่อ 06 ส.ค. 16, 09:06
|
|
นั่งข้างหน้าก็ได้ค่ะ คุณปากกานินี เก้าอี้แถวหน้าว่าง เพราะเจ้าของเก้าอี้ไปยืนคาบไม้บรรทัดอยู่มุมห้อง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 138 เมื่อ 06 ส.ค. 16, 10:22
|
|
คำให้การของจอร์ชมีแต่ว่าเขามองเห็นเจ้าชายกับมหาดเล็ก นอนเคียงกัน อยู่ใต้ผ้าห่มเดียวกัน แต่เขาไม่ได้ให้การว่าคนทั้งสองกำลังมีเซกส์กันอยู่ ทั้งหมดนี้ จอร์ชไม่มีพยานบุคคลที่ร่วมรู้เห็นเหตุการณ์ มีแต่น้องชายชื่อไบรอัน สมิธ ซึ่งถ่ายทอดคำบอกเล่าของพี่ชาย ว่า " พี่จอร์ชบอกผมว่า คนทั้งสองไม่ได้มีกิจกรรมทางกายกันในตอนนั้น แต่คุณก็คงไม่ต้องเป็นถึงขั้นศัลยแพทย์สมองหรอก ถึงจะคิดออกว่าเรื่องมันเป็นยังไง" ในเมื่อไม่มีพยานหลักฐานและพยานบุคคล ข้อกล่าวหาของจอร์ชก็ตกไป หนังสือพิมพ์ซันเดย์เทเลกราฟลงข่าวว่าจอร์ชขอถอนข้อกล่าวหา แต่พอตีพิมพ์ จอร์ชก็ให้การปฏิเสธทันทีว่าเขาไม่ได้ถอน ทั้งๆมีคนพยายามจะติดสินบนให้ถอน ที่ไม่ถอน เพราะสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง จอร์ชถวายงานรับใช้เจ้าชายอยู่ถึง 11 ปี เขาพ้นจากหน้าที่ในวังในปี 1997 ย้ายไปอยู่ที่เมืองนิวพอร์ต ในแคว้นเวลส์อย่างเงียบๆ ข่าวเรื่องนี้ก็เงียบหายเป็นคลื่นกระทบฝั่งไป จอร์ชเสียชีวิตด้วยโรคอะไรไม่ทราบ แหล่งข่าวใช้คำว่า unknown illness เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ปี 2005 อายุ 44 ปี คำนี้เจอบ่อยเวลาอ่านประวัติคน ความหมายแตกต่างกันไปตามบริบท แปลตามตัวคือโรคอะไรไม่เป็นที่รู้กัน บางทีก็ไม่ทราบจริงๆเช่นอยู่ๆก็ตายไปเฉยๆ ถ้าไม่ชันสูตรศพก็ไม่รู้ บางทีก็ใช้ในกรณีว่า ลูกหลานผู้ป่วยไม่เปิดเผยกับสื่อว่าคนตายตายเพราะโรคอะไร สื่อก็เลยแถลงไม่ได้ บางทีก็หมายถึงโรคร้ายแรงที่โดยมารยาทแล้วจะเกิดความเสียหายแก่ชื่อเสียง หรือการเคลมประกัน ก็เลยไม่บอก ในเมื่อจอร์ชตายไปแล้ว เรื่องของเขาก็กลายเป็นความลับที่ถูกกลบหายไปกับหลุมฝังศพของเขาเองค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 139 เมื่อ 06 ส.ค. 16, 11:17
|
|
แม้ว่าจบเรื่องทางจอร์ชไปแล้ว ขาเม้าท์ทั้งหลายก็ยังไม่ยอมให้ปากว่าง เพราะยังมีอีกคนหนึ่งที่มีอะไรให้พูดถึงอีกมาก คนนั้นคือไมเคิล ฟอว์เซ็ตต์ ขอหยุดแค่นี้ก่อนค่ะ เรียกเรตติ้ง กับเรียกแม่บัวกลับมานั่งแถวสอง ท่าทางหนูบัวจะเมื่อยเต็มทีแล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 140 เมื่อ 08 ส.ค. 16, 13:03
|
|
ถ้าพูดสำนวนไทยๆ จอร์ช สมิธก็เป็นชายเคราะห์ร้ายผู้ "แพ้ภัยตัวเอง" คือชีวิตวิบัติอยู่ฝ่ายเดียว ในขณะที่คู่กรณี ไมเคิล ฟอว์เซ็ตต์ ยังอยู่ดีมีสุขอยู่ในราชสำนักเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เจ้าชายก็ยังโปรดปรานทนายหน้าหอคนนี้มาก จนไมเคิลเป็นที่ยำเกรงของบรรดามหาดเล็กนางข้าหลวงทั่วไป เป็นที่รู้กันว่าไมเคิลรู้พระทัยเจ้าชายดีกว่าใครๆทั้งสิ้น เป็นที่ไว้วางพระทัยสูงสุด แม้แต่คามิลล่าชายาลับของเจ้าชายซึ่งกลายมาเป็นชายาเปิดเผยก็ยังไม่รู้ใจมากเท่า ตื้นลึกหนาบางทุกอย่างของเจ้านาย เขาก็รู้หมด แต่ในเรื่องนี้ไมเคิลปิดปากสนิท ไม่เคยให้สัมภาษณ์ หรือแม้แต่บอกกล่าวเล่าสิบให้เพื่อนฝูงฟัง จนกระทั่งถึงปี 2003 ราชเลขานุการของเจ้าชายชาร์ลส์คือเซอร์ไมเคิล พีทก็รวบรวมหลักฐานที่สืบเสาะมายาวนาน ทำเรื่องร้องเรียนกล่าวหา ว่า ไมเคิลได้ทำผิดร้ายแรงในหน้าที่ คือลักลอบนำของถวายในโอกาสต่างๆที่มีผู้คนถวายเจ้าชายชาร์ลส์ ออกไปขายโดยพลการ เป็นเงินสดบ้าง หรือเป็นของแลกเปลี่ยนกับเฟอร์นิเจอร์ที่พระตำหนักส่วนพระองค์บ้าง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 141 เมื่อ 08 ส.ค. 16, 13:18
|
|
เราก็คงจะนึกออกนะคะ เวลาเสด็จงาน เจ้านายมักได้รับของถวายที่ระลึก จากประมุขประเทศอื่นบ้าง จากบริษัทห้างร้าน หรือจากประชาชนบ้าง มีทั้งของมีค่าแพงลิบเรื่อยลงไปจนถึงช่อดอกไม้ธรรมดาๆ ของเหล่านี้ ถ้าถวายเป็นส่วนพระองค์ก็เป็นสมบัติส่วนพระองค์ สมเด็จพระราชินี เมื่อทรงได้รับของพวกนี้ มากมายเกินกว่าจะทรงใช้เอง ก็ทรงมอบให้พิพิธภัณฑ์ไปเป็นสมบัติสาธารณะ ส่วนเจ้าชายนั้นคงจะเก็บของบางอย่างไว้ จึงปรากฏว่ามหาดเล็กประจำพระองค์ลักลอบเอาไปขายซะ เช่นนาฬิกาโรเล็กซ์ราคาตั้ง 3500 ปอนด์ก็อยู่ในบัญชีหางว่าวยาวเป็นหาง บรรดามหาดเล็กนางข้าหลวงส่วนใหญ่ ต่างพากันขยาดหวาดเกรงไม่กล้าเป็นพยานเมื่อถูกเรียกมาให้การในคดีนี้ เพราะทุกคนกลัวว่าภัยจะมาถึงตัว ถ้าหากว่านายคนนี้หลุดรอดข้อหาไปได้ อย่างไรก็ตาม หลักฐานของเซอร์ไมเคิล พีท คงแน่นปึ้ก ข้าวของมีค่าเป็นจำนวนมากหายไปจริงๆ โดยมหาดเล็กคนโปรดก็อธิบายไม่ได้ว่าหายไปได้ยังไง เขาก็เลยตัดสินใจยื่นใบลาออก พ้นจากหน้าที่ไปในปี 2003
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 142 เมื่อ 08 ส.ค. 16, 13:19
|
|
4 วันต่อมา นายไมเคิลผู้หนังเหนียว คงกระพันชาตรียิ่งกว่าพกยันตร์หลวงพ่อโกย ก็คืนกลับสู่ราชสำนักเจ้าชายชาร์ลส์อย่างหน้าตาเฉย เจ้าชายไม่ได้รับเขากลับเข้าทำงานในหน้าที่เดิม เพราะทำไม่ได้อยู่แล้ว แต่ทรงมอบงานใหม่ให้เขาทำ คือเป็นออแกนไนเซอร์จัดงานส่วนพระองค์เกี่ยวกับงานกุศลต่างๆ ซึ่งยังทำมาจนทุกวันนี้ ส่วนเด็บบี้ภรรยาเขาก็ได้รับตำแหน่งผู้ดูแลภาพสีน้ำที่เจ้าชายทรงวาด นำออกขายหรือประมูลขายให้ผู้สนใจ ทำเงินได้ถึงปีละ 4 ล้านปอนด์ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่จัดหาซื้อของขวัญวันเกิดและของขวัญคริสต์มาสให้บรรดาพระสหายและเด็กๆที่เจ้าชายทรงเป็นพ่อทูนหัว หน้าที่นี้เมื่อก่อนเป็นของไมเคิล เมื่อตกมาถึงเมีย มันก็คงไม่ต่างอะไรจากสภาในประเทศสารขันฑ์ ที่ผัวติดคดีเป็นส.ส.ไม่ได้ เมียก็เป็นแทน ทำนองนั้นละค่ะ เป็นอันว่า ขณะที่จอร์ช สมิธ ตายไปอย่างไร้คนเหลียวแล ไมเคิล ก็ประสบความรุ่งเรืองร่ำรวยดีจนทุกวันนี้ ความผิดพลาดที่ต้องออกจากงานก็น่าจะเข้าข่าย "บกพร่องโดยสุจริต" นั่นแล
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 143 เมื่อ 08 ส.ค. 16, 13:21
|
|
จบกระทู้ นักเรียนคนไหนอยากยกมือถาม หรือออกความเห็น หรือแม้จะถามว่า "ข้อสอบออกอะไรครับ/คะ" ก็ถามได้เลยค่ะ หมดเลคเชอร์แล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
giggsmay
|
ความคิดเห็นที่ 144 เมื่อ 08 ส.ค. 16, 18:26
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
giggsmay
|
ความคิดเห็นที่ 145 เมื่อ 08 ส.ค. 16, 18:34
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 146 เมื่อ 08 ส.ค. 16, 19:12
|
|
ไม่รู้เหมือนกันค่ะ เพราะเรื่องนี้ ก็ไม่มีใครยอมรับนี่คะ ข่าวแทบลอยด์ก็เป็นข่าวที่ชาวบ้านไม่ค่อยจะให้น้ำหนักอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเพื่อให้ความยุติธรรมกับเจ้าชาย ก็ต้องบอกว่า...ก็แล้วแต่จะเชื่อไม่เชื่อ เพราะของพรรค์นี้มันไม่มีการเปิดเผยกันโต้งๆอยู่แล้ว
อ่านกระทู้แล้วไปคิดเอาเองละกัน แม่บัว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
paganini
|
ความคิดเห็นที่ 147 เมื่อ 08 ส.ค. 16, 21:22
|
|
บางครั้งผู้ชายสนิทๆกัน คุยกันออกรส หรือร่ำสุราด้วยกันจนเมาไปไหนไม่ไหว นอนเตียงเดียวกันก็ไม่ใช่เรื่องของการรักร่วมเพศเสมอไปนะครับ เพียงแต่ว่ามักจะเกิดขึ้นในเด็กๆวัยรุ่นมากกว่า ผู้ชายที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว พอเจอในกรณีนี้ก็อาจจะเป็นเรื่องแปลกไป ทั้งๆที่ในอดีตเช่น จิวยี่ กับเจียวก้าน (อ้างไปไกลโน่นเลย) เป็นเพื่อนเก่าแต่อยู่กันคนละฝ่าย มาเจอกัน ก้ชวนกันนอนเตียงเดียวกันเฉย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 148 เมื่อ 08 ส.ค. 16, 21:52
|
|
คุณ paganini จุดประเด็นขึ้นมาแล้ว มีใครอยากแจมไหมคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 149 เมื่อ 09 ส.ค. 16, 10:07
|
|
ถ้าจอร์ช สมิธ ใส่ร้ายป้ายสีเรื่องนี้ ก็เป็นอันหมดปัญหาไป ไม่มีอะไรในกอไผ่ละค่ะ แต่ถ้าแกพูดจริง ก็ชวนให้ตั้งคำถามต่อ ว่ามันมีที่มายังไงสมเหตุสมผลขนาดไหน นายกับบ่าวคู่นี้ถึงไปนอนเรียงเคียงกันบนเตียง อย่างจิวยี่กับเจียวก้าน ที่คุณปากกานินียกมา มันมีที่มาชัดเจน เจียวก้านมาหาจิวยี่ขณะฝ่ายหลังอยู่ในกระโจม เพราะเป็นระหว่างทำศึก ไม่ได้อยู่คฤหาสน์ของตัว เนื้อที่มันแคบ ถ้าจะพักค้างคืนด้วยก็ต้องนอนเตียงเดียวกัน อากาศก็หนาว นอนด้วยกันอุ่นดีกว่าให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนอนบนพื้น แต่นายไมเคิลแกมีเหตุผลอะไรขึ้นไปนอนบนนั้นล่ะคะ ถ้ามันเป็นเรื่องจริง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|