อยากทราบเรื่องเขมร...สมัยยุคสงครามเวียดนามและเขมรแดงครับ

[srisiam]

บังเอิญพบกระทู้เก่าของคุณจ้อนี้ จึงขออนุญาตฟื้นความหลังที่พอจำได้บ้าง ในฐานะคนร่วมสมัยใกล้เหตุการณ์..ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่ดำเนินนโยบายอิงอเมริกา (บางคนเรียกว่าตามก้นอเมริกา) ดังนั้น เรา(ประชาชน)จึงถูกปิดล้อมด้วยข้อมูลข่าวสาร ให้เห็นคล้อยตามด้านอเมริกาเป็นส่วนใหญ่  การมองปัญหาในเขมรอาจบิดเบี้ยวไปบ้าง ส่วนหนึ่งจึงเป็นผลพวงจากนโยบายสงครามเย็นของอเมริกา  จำได้ว่าในช่วงอเมริกากำลังใกล้เสียไซ่ง่อน- เขมรแดงกำลังใกล้ปลดแอกกัมพูชาสำเร็จ  มีข่าวออกมาจากทางเขมรแดงว่าเวียตนาม ขอร้องเขมรแดงให้ชะลอการยึดกรุงพนมเป็ญไว้ก่อน  เวียตนามขอบุกยึดไซ่ง่อนก่อนเพราะเวียตนามเป็นพี่ใหญ่  เขมรไม่ยอม จึงอาจเป็นที่มาของแค้นฝังลึก...หลังเขมรแดงยึดพนมเป็ญได้  อเมริกายังไม่ละความพยายามในฐานะตำรวจโลก  ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด ไปบอมบ์กรุงพนมเป็ญ นับไม่ถ้วนเที่ยวบิน ความพยายามก่อกวนของฝ่ายลอนนอล ยังคงมีอยู่ในเมืองหลวง จึงเป็นที่มาของยุทธศาสตร์เทส้มออกจากตะกร้า  กล่าวคือต้องเร่งระบายคน ในเมืองหลวง ที่เป็นชนชั้นกลางและระดับนายทุน ออกจากพนมเป็ญ สู่ชนบท เพื่อเร่งการผลิตข้าว หลังจากบ้านเมืองบอบช้ำมานาน  เร่งสร้างระบบชลประทาน..เหมือง-ฝาย-เขื่อนขนาดเล็ก...จนสามารถผลิตข้าวได้เพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ  แน่นอนที่สุด ในภาวะบ้านเมืองวุ่นวายสับสน..การวินาศกรรมจากสมุนลอนนอล ยังมีอยู่ ..จึงเป็นผลให้เขมรแดงถูกกล่าวหาว่าเข่นฆ่าชาวเขมรจำนวนมาก  (หลังการปฎิวัติใหม่ๆ คงไม่มีผู้กุมอำนาจรัฐใหม่ปล่อยให้พวกปฎิปักษ์ปฎิวัติ มีโอกาสป่วนประเทศแน่)  แต่ผู้เขียนไม่เชื่อว่าฝ่ายนำของเขมรแดงจะมีจิตใจอำมหิตโหดเหี้ยม ผิดมนุษย์ โดยเฉพาะ เขียว สมพร หรือเขียว สัมพันธ์ ด็อกเตอร์ทางเศรษฐศาสตร์จากฝรั่งเศส ขบวนการเขมรแดงก่อกำเนิดจากกลุ่มหัวก้าวหน้า ชาตินิยมจัดของเขมร ที่น่ายึดเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง มากกว่าเป็นดังการใส่ร้ายป้ายสีของอเมริกาที่ให้เป็นยักษ์เป็นมาร  ช่วงนั้นไม่มีปํญหาใดๆระหว่าไทย-เขมรแดง ในช่วงนั้นหากติดตามข่าวต่อเนื่องจะเห็นใจและกังวลอนาคตของเขมรแดงล่วงหน้า เพราะเวียตนามเริ่มออกอาการเตรียมบุกพนมเป็ญ หลังให้เขมรแดงบางส่วนที่เป็นสมุนเวียตนามก่อกวนสร้างสถานการณ์ ใส่ร้ายฝ่ายพลพตสารพัด ในที่สุดประเทศเขมรก็ถูกเวียตนามรุกราน ยึดกรุงพนมเป็ญสำเร็จด้วยยุทธการบัวบาน  หลังจากนั้นเวียตนามโดยเฮง สัมริน ก็ใช้นโยบายกลืนชาติเขมรโดยการส่งทหารเวียตนามเข้ามาให้แต่งงานกับหญิงเขมร.. และยังคิดการอุกอาจโดยยื่นข้อเสนอให้พรรคคอมมิวนิสต์ไทย (ซึ่งกำลังเติบใหญ่-หลังเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 ) ว่าจะเอาทัพทหารเวียตนามพร้อมรถถัง สรรพอาวุธบุกเข้ายึด 16 จังหวัดอีสานของไทย ให้พรรคคอมมิวนิสต์ไทยสถาปนาสาธารณรัฐสังคมนิยม(คอมมิวนิสต์) แต่บุญที่พวกในป่าไม่เห็นด้วยในความปรารถนาดี ประสงค์ร้ายของเวียตนามจึงไม่ยอมรับข้อเสนอ (ความข้อนี้มิตรสหายที่เคยเข้าป่า ยืนยันตรงกัน) ขณะเดียวกันก็ประกาศเป็นนโยบายเร่งด่วนออกมาสู่สมาชิกพรรคและผู้ร่วมงาน ให้เตรียมรับมือเวียตนาม ซึ่งเร่งระดมสะสมกำลัง กว่า 200,000 เตรียมการฯ????พอจำได้ว่า..ได้ข่าวพวกในป่าของไทย ใช้ชื่อนโยบายเร่งด่วนดังกล่าวว่า “ปรับขบวนก้าวรุดไป เตรียมต้านภัยผู้รุกราน”  ประกาศชัดเจนว่าหากเวียตนามบุกไทย พรรคคอมมิวนิสต์ไทยจะจับมือกับทหารไทย ขับไล่เวียตนาม อย่างให้ถึงที่สุดอย่างแน่นอน.

[srisiam]

เรื่องน่าตื่นเต้นที่น้อยคนรู้เบื้องลึก เพราะหาอ่านได้ไม่ง่าย..เป็นตอนต่อของเหตุการณ์ข้างต้น..
จากความพยายามของเวียตนามที่จะยึด 16 จังหวัดอีสานของไทยดังกล่าว     รัฐบาลไทย โดยฝ่ายทหารได้ประมวลสถานการณ์...ขอคัดจากหนังสือเปิดบันทึกการเดินทางฯ...ของพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ” (สำนักพิมพ์วันชนะ  ISBN 974-89810-8-8) มาให้อ่าน..
“.....การปะทะกันระหว่างทหารเวียตนามและทหารเขมรแดงระดับกองพันที่พรมแดนกัมพูชา-เวียตนามนั้น ฝ่ายข่าวกรองของไทยและ”หน่วย 315” ศปก.ทบ. ในความรับผิดชอบของพอ.ชวลิต ยงใจยุทธ (ยศขณะนั้น) ได้รับข้อมูลทางทหารของเวียตนามอันน่าตื่นตระหนก กล่าวคือหลังปะทะกันแล้ว เวียตนามมีการเคลื่อนไหวทางทหารครั้งไหญ่ที่สุดนับตั้งแต่รวมเวียตนามเหนือ-ใต้เป็นประเทศเดียวกัน.........หากป็นไปเช่นนั้นจริงๆ หมายถึงเวียตนามบุกยึดกัมพูชาได้แล้ว   ไทยย่อมตกอยู่ในอันตรายทันที เพราะมีความเป็นไปได้ว่า เวียตนามอาจข้ามชายแดนไทย-กัมพูชาเข้ามารุกรานไทยได้ทุกเมื่อ.................เหงียนโคทัก รัฐมนตรีต่างประเทศเวียตนามถึงกับคุยว่า “กรุงเทพน่ะหรือ  แค่ 2 ซั่วโมงเวียตนามก็รุกถึงแล้ว......”
กล่าวโดยย่อ..สภาทหารได้ประชุมสรุปสถานการณ์ครั้งแล้วครั้งเล่า.... ตกลงตั้งคณะทูตลับพิเศษไปขอร้องจีนให้ช่วยกดดันเวียตนามด้วยกำลังทหาร   แต่แรก จีนไม่เชื่อ หลังจากเวียตนามบุกพนมเป็ญ ตรงตามที่คณะทูตพิเศษประเมินล่วงหน้าให้จีนฟัง..........จีนจึงเปิดยุทธการสงครามสั่งสอนเวียตนามที่ตอนใต้ของจีน  ที่พรมแดนจีน-เวียตนาม ตามที่เติ้งเสี่ยวผิง ให้สัญญากับไทยไว้  .....ด้วยกำลังทหารกองทัพปลดแอกของจีน 300,000 นายรถถัง 1,000 คัน ปืนใหญ่ขนาดหนัก 1,500 กระบอก และเครื่องบินรบ 700 ลำ ผลจากการบุกโจมตีของจีน ทำให้เวียตนามต้องถอนทหารออกจากพรมแดนไทย ....ไปยันกับกองทัพจีน ส่งผลให้ความตึงเครียดที่ชายแดนไทยลดลงทันที....27 ก.พ. 2522 กองทัพจีนบุกถึงเมืองลังซอน ห่างแค่ 130 กม.จากกรุงฮานอย..นี่คือกลยุทธ “ตีแคว้นเว่ย ช่วยแคว้นเจ้า”ของขงเบ้งจิ๋ว     มาวันนี้จากกรณีเขาพระวิหาร ทำให้หวนนึกถึงเขมรแดง.........ที่ไม่เคยทำตัวเป็นผู้รุกราน...บางทีนิยาย killing field อาจเป็นผลงานของสมุนเวียตนามที่แทรกตัวอยู่ในกองทัพเขมรแดงก็ได้ ใครจะรู้  ยังจำมาดของเขียว สัมพันธ์ได้ดี  ว่าเป็นบุคลิกของนักวิชาการชัดๆ  ไม่น่าจะเป็นจอมโหด...?

[srisiam]

ขออนุญาตเพิ่มเติมข้อมูลอีกนิดเดียว ข้อที่ว่า "ปรับขบวนก้าวรุดไป เตรียมต้านภัยผู้รุกราน" นั้น ขอยืนยันว่าธงผืนนี้ที่ พคท.ชูในช่วงเวียตนามเตรียมการบุกไทยนั้น มีอยู่จริง...เพื่อเตรียมพร้อมสู้กับเวียตนามหากบุกไทย ...แต่ในหนังสือของพล.อ.ชวลิต ความข้อนี้จะขัดกัน-บิ๊กจิ๋วกล่าวว่าพวกในป่าเอาด้วยกับเวียตนาม..ซึ่งน่าจะเป็นข้อบกพร่องของการข่าวฝ่ายทหารไทย ยุคนั้น..เสียมากกว่า....เรียนมาเพื่อทราบ หากท่านใดไปอ่านพบในหนังสือดังกล่าวจะได้ไม่สับสน.