เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7
  พิมพ์  
อ่าน: 19529 ผู้หญิงของสุนทรภู่
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 60  เมื่อ 03 พ.ค. 16, 09:34

นางฟ้าองค์นี้จะหมายถึงผู้ใด คุณเทาชมพูคงเฉลยในไม่ช้า

อยากฝากคำถามเก่าของท่านอาจารย์ใหญ่ผ่านต่อให้นักเรียนในชั้นช่วยกันตอบหน่อย ห้องเรียนจะได้ครึกครื้น มีชีวิตชีวา ยิงฟันยิ้ม

กลอนอีกตอนหนึ่งบอกถึงสถานะของเธอ ว่าเป็นดวงจันทร์ ที่สุนทรภู่เป็นแค่กระต่าย   แต่ไม่ใช่กระต่ายธรรมดา  เป็นกระต่ายกายสิทธิ์ที่ได้มีโอกาสใกล้ชิดสนิทสนมกับดอกฟ้า
คำว่า "ขอเดชะจะได้พึ่งให้ถึงจอม"  ฝากคุณเพ็ญชมพูไปค้นว่า หมายถึงอะไร


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 61  เมื่อ 03 พ.ค. 16, 09:50

คุณครูเพ็ญส่งต่อระเบิดเวลา   นักเรียนหายโม้ด...
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 62  เมื่อ 04 พ.ค. 16, 09:15

เปิดประตูเข้ามาในห้องเรียน    สายตะวันโด่ง   ยังไม่มีใครมานั่งสักคน    หายแซบหายสอยกันหมด พอรู้ว่ามีการบ้าน

ก่อนอื่นขอย้อนกลับไปถึงคู่ครองเรือนของสุนทรภู่ให้ครบคนเสียก่อนนะคะ

คนแรกคือแม่จัน เลิกร้างกันไป ต่างคนต่างมีครอบครัวใหม่โดยแม่จันให้บุตรชายคือหนูพัด  อยู่กับพ่อ      คนที่สองคือแม่นิ่มที่ถึงแก่กรรมตั้งแต่ลูกชายยังเล็ก      สุนทรภู่ครองความเป็นพ่อม่ายอยู่จนอายุ 50   ใช้ชีวิตสลับกันระหว่างครองเรือนกับครองวัด  มีผู้หญิงอื่นเข้ามาไม่ขาดสาย   ความสัมพันธ์มากบ้างน้อยบ้าง แล้วแต่กรณี    ในที่สุดก็ตกลงปลงใจกับภรรยาคนที่สาม 

ภรรยาคนนี้ชื่อแม่ม่วง  ร่วมหอลงโรงกันหลังจากสึกจากพระครั้งแรก ในต้นปีพ.ศ. 2378 ขณะที่สุนทรภู่อายุย่างเข้า 50 ปี   เป็นช่วงที่กวีเอกของเราตกยาก ไม่ได้รุ่งเรื่องเฟื่องฟู   ขนาดไม่มีบ้านเรือนจะอยู่อาศัย  แต่ก็มีเมียและมีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน   
นับว่าแม่ม่วงเป็นผู้หญิงที่อาภัพคนหนึ่ง ไม่แพ้แม่นิ่ม  เพราะถึงมีสามีเป็นขุนนางในรัชกาลที่ 2 เป็นกวีมีชื่อเสียงขนาด "เขมรลาวลือเลื่องถึงเมืองนคร" อย่างที่ท่านบรรยายตัวเองไว้     แต่แม่ม่วงก็ไม่ได้สุขสบายอย่างที่ควรจะเป็น

ชีวิตคู่ของสุนทรภู่กับแม่ม่วง น่าจะลุ่มๆดอนๆอยู่บ้าง   เพราะถ้าอยู่กันราบรื่นเป็นสุขสบายดี  สุนทรภู่คงไม่ทิ้งเมียทิ้งลูกไปบวชพระเป็นครั้งที่ 2 ในต้นปีพ.ศ.2383  ความจริงอายุเข้าไป 55 แล้ว  ก็ไม่น่าจะไปนับหนึ่งใหม่ในเพศบรรพชิต   แต่คงมีความจำเป็นอะไรสักอย่าง  หรือไม่ก็สิ้นหวังกับชีวิตชาวบ้าน จึงหันไปพึ่งผ้าเหลืองชั่วคราว 

ในที่สุด  สุนทรภู่ก็สึกจากพระอีกครั้ง   แม่ม่วงยังคอยท่าอยู่ ไม่ได้ไปไหน  จึงกลับมาครองคู่กันอีก     ในช่วงที่ย่างเข้าวัยชรา ชะตาสุนทรภู่กระเตื้องขึ้นเมื่อถวายตัวเป็นข้าสมเด็จฯเจ้าฟ้า กรมขุนอิศเรศรังสรรค์ หรือพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
สุนทรภู่ก็พาแม่ม่วงมาอยู่ที่พระราชวังเดิมด้วย
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 63  เมื่อ 04 พ.ค. 16, 09:18

ในนิราศ  มีการเอ่ยถึงผู้หญิงชื่อม่วงอยู่บ้าง     เช่นในโคลงนิราศสุพรรณ

“บางม่วงทรวงเศร้าคิด            เคยชวน
ม่วงเก็บมะม่วงสวน                สุกระย้า
ม่วงอื่นรื่นรันจวน                   จิตไม่ ใคร่แฮ
ม่วงหม่อมหอมหวนหน้า           เสน่เนื้อ เจือจรร”

ในนิราศพระประธม  รำพึงว่า

“ถึงบางง่วงจิตคิดถึงม่วง                แต่จากทรวงเสียใจอาลัยเหลือ
มะม่วงงอมหอมหวนเหมือนนวลเนื้อ    มิรู้เบื่อบางม่วงเหมือนดวงใจ”

แต่ไม่มีรายละเอียดประกอบ    ก็เลยไม่แน่ใจว่าท่านหมายถึงแม่ม่วงภรรยา หรือม่วงอื่นที่เคยไปพัวพันด้วย
บันทึกการเข้า
คนดีอยู่ไหนจ๊ะ?
อสุรผัด
*
ตอบ: 6


ความคิดเห็นที่ 64  เมื่อ 04 พ.ค. 16, 17:25

ตามอ่านอยู่นะคะ อ.เทาชมพู และอยากรู้คำเฉลยด้วยคะ รอ รอ รอ นะคะ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า
แพรวพิม
อสุรผัด
*
ตอบ: 19


ความคิดเห็นที่ 65  เมื่อ 04 พ.ค. 16, 18:31

พอจะเดาได้ว่านางฟ้าองค์นี้เป็นใคร แต่รออาจารย์เฉลยดีกว่าค่ะ เพราะไม่แน่ใจว่าหนูจะเดาผิดหรือเปล่า  ฮืม
บันทึกการเข้า
นางมารน้อย
พาลี
****
ตอบ: 306


ทำงานแล้วค่ะ


ความคิดเห็นที่ 66  เมื่อ 05 พ.ค. 16, 16:46

กราบขออภัยมาสายค่ะท่านอ.เทาชมพู

เพิ่งได้มาตามอ่านเรื่องผญ.ของท่านครูกวีเอก

เคยสงสัยประเด็นเมียน้อยเมียหลวงในละครหรือนิยายย้อนยุคหลายเรื่องว่าในเมื่อสังคมไทยเป็น Polygamy มานานเป็นร้อยๆปีแล้ว ผญ.จะหึงหวงทำไม

แต่ทั้งบทพระราชนิพนธ์ หรือวรรณคดีเก่าๆหลายต่อหลายเรื่องเหลือเกินก็ชูประเด็นเรื่องความหึงหวงของสตรีขึ้นมาให้เห็นบ่อยๆ ขุนช้างขุนแผนนี่ชัดมากๆจริงๆ วันทองกับวันทองก็แทบจะตบกันตั้งแต่วันแรกที่เจอ

ซึ่งก็น่าสงสัยว่ามันคงผญ.ที่ไม่คิดจะแบ่งผัวกับใครอยู่เยอะแน่ๆนะคะ ไม่งั้นกวีเขาคงไม่ยกมาขนาดนั้น นวนิยายหรือละครก็มิได้เกินจริงแต่อย่างไร
บันทึกการเข้า

สวัสดีทุกๆท่านค่ะ
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 67  เมื่อ 05 พ.ค. 16, 17:27


เคยสงสัยประเด็นเมียน้อยเมียหลวงในละครหรือนิยายย้อนยุคหลายเรื่องว่าในเมื่อสังคมไทยเป็น Polygamy มานานเป็นร้อยๆปีแล้ว ผญ.จะหึงหวงทำไม

สังคมไทยเป็น polygamy แบบผูกขาดโดยเพศชายฝ่ายเดียว    คือผู้ชายมีภรรยาได้หลายคนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย   แต่ผู้หญิงต้องมีสามีเดียว  ถ้ามีมากกว่า 1 เรียกว่ามีชู้  โทษถึงประหาร
ดังนั้นของอะไรที่มีได้อย่างเดียว   จึงกลายเป็นของสำคัญ  แบ่งปันให้ใครก็ลำบาก เพราะเท่ากับต้องถูกหารลงไปให้เหลือส่วนนิดเดียว แทนที่จะเต็มร้อย  ผิดกับผู้ชายที่มีภรรยาเพิ่มจำนวนได้ไม่จำกัด  เท่ากับชีวิตมีแต่คูณไปเรื่อย ไม่มีหาร

ลองนึกเล่นๆดูว่า ถ้า polygamy กันทั้งสองฝ่าย    ผู้หญิงก็มีสิทธิ์แต่งงานกับชายได้หลายคนพร้อมกันอย่างถูกต้อง  เหมือนสังคมธิเบต   ฝ่ายหึงเป็นบ้าอาจเป็นฝ่ายสามีหลวงสามีน้อยก็ได้ค่ะ
บันทึกการเข้า
Jalito
องคต
*****
ตอบ: 478


ความคิดเห็นที่ 68  เมื่อ 05 พ.ค. 16, 21:27

รบกวนภาพถ่ายสตรีสยามสมัย ร.๓ ถึง ร.๔ ทั้งชาววังและชาวบ้าน จากท่านๆอาจารย์ในเรือนด้วยเถิดครับ
จะได้อินไปกับท่านสุนทรภู่ขึ้นอีกระดับหนึ่ง
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 69  เมื่อ 06 พ.ค. 16, 07:47

ถ้าเป็นสมัยรัชกาลที่ ๕ จะหาง่ายหน่อย  ยิงฟันยิ้ม

ชาววัง



ชาวบ้าน

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 70  เมื่อ 06 พ.ค. 16, 08:07

มาดูรูปชาววังดูบ้างค่ะ

พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
(จากซ้าย) พระองค์เจ้ากัลยาณี, พระองค์เจ้ากินรี, พระองค์เจ้าดวงเดือน, พระองค์เจ้านิเวศน์, พระองค์เจ้าแสงจันทร์, กรมพระยาสุดารัตนราชประยูร, พระองค์เจ้าสุบงกช, พระองค์เจ้าจามรี และกรมหลวงวรเสรฐสุดา


บันทึกการเข้า
นางมารน้อย
พาลี
****
ตอบ: 306


ทำงานแล้วค่ะ


ความคิดเห็นที่ 71  เมื่อ 06 พ.ค. 16, 08:49

เข้าใจแล้วค่ะ

ขอแก้ไขข้อความข้างบนหน่อย วันทองกับลาวทอง  ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม ยิ้มกว้างๆ ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า

สวัสดีทุกๆท่านค่ะ
visitna
นิลพัท
*******
ตอบ: 1724


ความคิดเห็นที่ 72  เมื่อ 06 พ.ค. 16, 09:03

รูปการแต่งกายของชาววังกับชาวบ้านสมัย ร 3 คงจะหายาก
สมัย ร 4  ชาววัง น่าจะเป็นแบบนี้
ชาวบ้านชั้นกลางในยุคต้น ร 5 อนุมาณว่าคงจะแบบเดียวกับสมัย ร 4





คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ

คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
Jalito
องคต
*****
ตอบ: 478


ความคิดเห็นที่ 73  เมื่อ 06 พ.ค. 16, 09:20

ขอบคุณอาจารย์ทุกท่านครับ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 74  เมื่อ 06 พ.ค. 16, 09:30

ขอย้อนกลับมาถึงผู้หญิงคนสำคัญที่สุด ค่ะ

รำพันพิลาป  เป็นบทร้อยกรองที่แตกต่างจากนิราศเรื่องอื่นๆ คือเป็นการเล่าความฝัน ขณะบวชอยู่ที่วัดเทพธิดาราม  ในพ.ศ. 2385  
ในนั้น  บรรยายความฝันตามนี้

แล้วร่ำภาวนาในพระไตรลักษณ์                    ประหารรักหนักหน่วงตัดห่วงหาย
หอมกลิ่นธูปงูบระงับหลับสบาย                    ฝันว่าว่ายสายชะเลอยู่เอกา
สิ้นกำลังยังมีนารีรุ่น                                    รูปเหมือนหุ่นเหาะเร่ร่อนเวหา
ช่วยจูงไปไว้ที่วัดได้ทัศนา                            พระศิลาขาวล้ำดังสำลี
ทั้งพระทองสององค์ล้วนทรงเครื่อง                    แลเลื่อมเหลืองเรืองจำรัสรัศมี
พอเสียงแซ่แลหาเห็นนารี                            ล้วนสอดสีสาวน้อยนับร้อยพัน

มาไขปริศนากันดีกว่า ว่าวัดไหนที่ท่านเห็น     ที่มี "พระศิลาขาวล้ำดังสาลี"
เชิญดูรูปค่ะ


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.078 วินาที กับ 21 คำสั่ง