NAVARAT.C
|
กระทู้นี้ถือเป็นวิทยาทาน หากเห็นว่าเป็นประโยชน์ก็กรุณาเผยแพร่ต่อด้วยครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อ 16 ม.ค. 16, 08:17
|
|
ผมมีธรรมชาติเป็นคนที่มีปัญหาเล็บขบมาตั้งแต่เด็ก บางครั้งมันเจ็บปวดมาก อย่าว่าแต่จะเล่นกิฬาเลย เดินก็ยังกะย่องกะแย่ง ในชีวิตนี้ต้องพึ่งหมอผ่าตัดให้ช่วยถอดเล็บออกมาหลายครั้งแล้ว แต่พอมันงอกขึ้นมาเต็มที่ตามที่เห็น ขอบเล็บก็จะงุ้มลงกัดแทงลงไปในเนื้ออีก อาการเจ็บปวดทรมานของเล็บขบก็จะเริ่มต้นขึ้นต่อ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อ 16 ม.ค. 16, 08:18
|
|
ผมได้พยายามหาวิธีการใหม่ๆมาจัดการกับเล็บขบของผมอยู่เสมอ เครื่องถ่างเล็บที่งองุ้มไม่ให้จิกเข้าไปในเนื้อ ญี่ปุ่นเอามาลงโฆษณาในยูทูป ผมก็ซื้อหามาใช้ ราคาตั้งหกพันกว่าบาท มันก็ใช้กับเล็บของผมไม่ได้ผล เพราะเล็บหนามาก หนาเกินกว่าที่เครื่องมันจะง้างออกมาได้โดยที่ผมจะไม่เจ็บปวดทารุณ
แต่แนวคิดของผู้ที่ประดิษฐ์เครื่องนั้นใช้ได้ หากว่าเล็บส่วนบนมันบางพอจนสามารถแอ่นตัวได้เมื่อถูกงัด ผมจึงหาทางทำให้เล็บบางลงโดยหาซื้อเครื่องมือช่างไม้ช่างเหล็กมาฝนเล็บ แต่ก็พบว่ามันเป็นงานที่ยากเกินไป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อ 16 ม.ค. 16, 08:20
|
|
เล็บขบครั้งล่านี้ทรมานผมมาก ความจริงเป็นทั้งสองข้างเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อ 16 ม.ค. 16, 08:21
|
|
ในที่สุดผมก็ลงทุนซื้อเครื่องเจียรไฟฟ้าชนิดมือถือ มีขายทั่วไปตามร้านขายเครื่องมือช่างประเภทนี้ ราคาสองพันกว่าบาท หัวเจียรแบบละเอียด ซื้อมาทดลองสามสี่แบบ อันละยี่สิบสามสิบบาทเอง
และโชคดีมีเพื่อนเป็นหมอฟัน เขาสงเคราะห์เครื่องมือของเขาที่ไม่ต้องการจะใช้แล้วมาให้ผมทดลองใช้สองอัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อ 16 ม.ค. 16, 08:21
|
|
อุปกรณ์ครบก็ลองทำดู
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อ 16 ม.ค. 16, 08:22
|
|
แรกๆที่ใช้เครื่องเจียรก็กลัวพลาดไปโดนเนื้อแล้วจะเจ็บ ที่ไหนได้ ผมเพลิดเพลินกับมันสุดๆ มันขัดเล็บผมให้บางลงอย่างทันอกทันใจ แม้จะเป็นด้านซอกมุมที่ติดกับเนื้อ เพราะหัวเจียรไม่ได้ทำให้เจ็บแม้น้อยนิด มันช่วยขัดหนังที่หนาเตอะได้เสียอีก เมามันในความรู้สึกมาก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อ 16 ม.ค. 16, 08:23
|
|
พอเล็บบางลงแล้ว ผมก็ใช้ที่ตัดเล็บแบบคีมตัดลงไปตรงบริเวณที่มันแทงเนื้อเจ็บอยู่ หากเล็บหนาๆการทำเช่นนี้จะเจ็บมากจนน้ำตาเล็ด แต่พอเล็บบางแล้วก็กรึ๊บเดียว ชิ้นที่ไม่ขาดเพราะอยู่ลึกก็ใช้เครื่องมือหมอฟันที่ผมไปขอเพื่อนมา งัดมันขึ้น พอปลายเล็บหลุดจากแผลที่มันทิ่มแทงอยู่แล้ว ต่อไปก็ง่าย ถ้าเอามือดึงออกมาได้ก็ดึงเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 8 เมื่อ 16 ม.ค. 16, 08:24
|
|
หลังจากนั้นก็ใส่ยาฆ่าเชื้อซะหน่อยก็จบ เสร็จสิ้นขบวนการ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อ 16 ม.ค. 16, 08:29
|
|
ลองชมคลิ๊ปวีดีโอนะครับ แล้วคุณจะเข้าใจ ถ้าจะทำเองบ้างก็เอาเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 10 เมื่อ 16 ม.ค. 16, 09:19
|
|
ภาคภาษาไทย สั้นกระชับลงอีกหน่อย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33424
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 11 เมื่อ 16 ม.ค. 16, 10:15
|
|
ขอบคุณสำหรับวิทยาทานค่ะ เคยได้ยินคำว่า เล็บขบ แต่เพิ่งเห็นชัดๆวันนี้เองว่ามันเป็นยังไง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 12 เมื่อ 16 ม.ค. 16, 10:24
|
|
ผู้หญิงส่วนใหญ่เล็บบาง จะไม่ค่อยจะเป็นกันครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Naris
|
ความคิดเห็นที่ 13 เมื่อ 18 ม.ค. 16, 09:02
|
|
ผมเคยเป็นครับ ต่อเนื่องกันอยู่ราว 2 ปีครับ สุดท้ายแก้ปัญหาด้วยการเอาสำลียัดลงไปรองใต้เล็บเพื่อดันไว้ไม้ให้เล็บงอ พอเล็บยาวเกินนิ้ว ก็ไม่เป็นอีกครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
unicorn9u
มัจฉานุ
 
ตอบ: 65
|
ความคิดเห็นที่ 14 เมื่อ 18 ม.ค. 16, 10:27
|
|
เคยถอดเล็บเท้าทั้งสองข้างติดต่อกันหลายครั้ง เนื่องจากมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ป่วยและต้องผ่าตัดสมอง น้ำหนักลดลงจากประมาณ 72 เหลือแค่ประมาณ 58 ทีนี้เนื้อตัวก็ไม่มีเนื้อหนัง เล็บก็เลยม้วนตัว พอดีขึ้นน้ำหนักเพิ่มขึ้น ก็กดเนื้อจนเป็นแผล ปวดระบมไปหมด ต้องไปถอดเล็บเท้าออก กว่าน้ำหนักจะขึ้นมาจนคงที่ ก็ถอดเล็บเล่นไปสามรอบได้ จำเหล็กที่หมอเอาแยงเข้าไปที่โคนเล็บ แล้วบิดเพื่อให้เล็บหลุดออกได้ติดตา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|