เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 30 31 [32] 33 34 ... 37
  พิมพ์  
อ่าน: 106391 ใครอยากรู้จัก NAVARAT.C เชิญที่กระทู้นี้
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 465  เมื่อ 21 ม.ค. 16, 08:13

ไม่มีตกครับ ผมเพียงอยากจะทราบว่า(อันนี้ซีเรียสนะ)สิ่งที่ผมพยายามจะสื่อ ผู้รับจะเข้าใจดังที่ผมต้องการหรือเปล่า จะได้ปรับปรุงการเขียนของผม

หรือใครจะช่วยวิจารณ์ตรงๆก็ได้ครับ ยินดีรับฟัง
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 466  เมื่อ 21 ม.ค. 16, 08:46

ดีแล้วละค่ะ  ปรับปรุงอย่างเดียวคือช่วยเขียนเร็วๆหน่อย   เสียงเรียกร้องแยะ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 467  เมื่อ 21 ม.ค. 16, 08:58

อาจารย์ใหญ่มาเอง ขยิบตา

แถมให้การบ้านข้อเบ้อเริ่ม หนักเลยอัตโน

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 468  เมื่อ 21 ม.ค. 16, 09:15

 ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
Jalito
องคต
*****
ตอบ: 478


ความคิดเห็นที่ 469  เมื่อ 21 ม.ค. 16, 13:02

สไตล์เดิมน่ะแหละครับ ท่านอาจารย์ใหญ่กว่า นักเรียนตรึมทั้งนอกห้องในห้อง
จะหักมุมแบบแค่หักฉาก หรือหักกลับไม่มีปี่มีขลุ่ย ก็เร้าใจแฟนคลับเกินแล้ว ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
Anna
องคต
*****
ตอบ: 552


ความคิดเห็นที่ 470  เมื่อ 21 ม.ค. 16, 13:16

อาจารย์ใหญ่มาเอง ขยิบตา

แถมให้การบ้านข้อเบ้อเริ่ม หนักเลยอัตโน



ที่ไม่ส่งการบ้านเพราะเน็ทที่บ้านไม่ค่อยดีค่ะ ขนาดอยู่กลางกรุงมีรถไฟฟ้าวิ่งผ่านทั้งบนฟ้าทั้งใต้ดิน ไม่ได้อยู่แถวห้วยขาแข้งนะคะ
นี่ก็เพิ่งเสร็จจากงานจำเป็นรีบด่วนที่ต้องทำ ว่าจะทำการบ้านส่งซะที ก็เป็นอันว่าไม่ต้องแล้วนะคะ เพราะอาจารย์ต้องทำการบ้านส่งอาจารย์ใหญ่ คงไม่มีเวลาตรวจการบ้านลูกศิษย์แน่ๆ  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 471  เมื่อ 21 ม.ค. 16, 13:50

หรือใครจะช่วยวิจารณ์ตรงๆก็ได้ครับ ยินดีรับฟัง

การเดินเรื่องยอด สำนวนเยี่ยม แต่ถ้าจะให้บิ๊กหมงเด่นพอที่จะสร้างเป็นตัวเอกในละครทีวี (ชื่อลำลอง "ยอดชายนายหมง") เห็นทีจะต้องแยกกระทู้ เริ่มตั้งแต่ คคห. ๓๑๑ หน้า ๒๑ จนถึงปัจจุบันหน้า ๓๒ ก็ปาเข้าไป ๑๒ หน้าแล้ว ถ้าคุณนวรัตนเขียนต่อเรื่อง หมอหมง กับ เสี่ยหมง ก็น่าจะได้เกิน ๒๐ หน้า

ผู้สร้างละครทีวีก็จะหาได้ง่าย นายหมงใครจะแสดงก็แล้วแต่ผู้จัด แต่ผู้แสดงเป็นคุณนวรัตนขอตัวจริงแสดงน่าจะเหมาะ  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
ประกอบ
สุครีพ
******
ตอบ: 1342


ความคิดเห็นที่ 472  เมื่อ 21 ม.ค. 16, 16:03


ผู้สร้างละครทีวีก็จะหาได้ง่าย นายหมงใครจะแสดงก็แล้วแต่ผู้จัด แต่ผู้แสดงเป็นคุณนวรัตนขอตัวจริงแสดงน่าจะเหมาะ  ยิงฟันยิ้ม

เรื่องนี้ขอจองบทตัวโกงหรือตำรวจครับ บทพระเอกขอสงวนให้ท่านอื่น
บันทึกการเข้า

วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
Anna
องคต
*****
ตอบ: 552


ความคิดเห็นที่ 473  เมื่อ 26 ม.ค. 16, 12:59

ไม่มีตกครับ ผมเพียงอยากจะทราบว่า(อันนี้ซีเรียสนะ)สิ่งที่ผมพยายามจะสื่อ ผู้รับจะเข้าใจดังที่ผมต้องการหรือเปล่า จะได้ปรับปรุงการเขียนของผม

หรือใครจะช่วยวิจารณ์ตรงๆก็ได้ครับ ยินดีรับฟัง

ดูท่าว่าถ้าไม่ส่งการบ้าน คงอดฟังนิทานแน่ๆเลยอัตโน ยิงฟันยิ้ม

เข้าสู่โหมดซีเรียสเลยนะคะ

มิบังอาจวิจารณ์ครูบาอาจารย์ แค่แสดงความคิดเห็นในฐานะแฟนคลับพันธุ์แท้คนหนึ่งนะคะ ที่ชอบอ่านงานของอาจารย์เพราะชอบวิธีการเล่าเรื่องซึ่งมีชีวิตชีวา ดำเนินไปเหมือนการเต้นของชีพจร มีจังหวะขึ้นลงตามอารมณ์ของเรื่อง ชวนให้ติดตาม ส่วนเรื่องที่อยากจะขอให้ปรับปรุง ก็มีความเห็นเช่นเดียวกับท่านอาจารย์ใหญ่ค่ะ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 474  เมื่อ 26 ม.ค. 16, 13:08

โอเคร์คร้าบ โอเคร์เรยย์

ที่ผมหายไปเพราะมีเหตุของมัน
เพิ่งกลับจากต่างจังหวัดเมื่อคืน เรื่องของบิ๊กหมงขอเวลาอีกสักหน่อยขอรับ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 475  เมื่อ 28 ม.ค. 16, 16:59

เรื่องสั้นชุดบิ๊กหมงตอนอวสาน

จากบิ๊กหมง เป็นหมอหมง และเสี่ยหมง

ชีวิตของบิ๊กหมงมีความสุขลงตัวอยู่ได้จนกระทั่งลูกสาวอยู่มัธยมปลายเตรียมจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย ความไม่เที่ยงแท้แน่นอนก็แสดงสัจธรรม หมู-เมียร่วมชีวิตก็ปรากฏอาการป่วยที่ไม่ธรรมดา แต่เพราะนิสัยเงียบๆไม่พูดมากของเธอ และยังทำหน้าที่แม่บ้านงานครัวโดยไม่บกพร่องนั่นเองที่ทำให้เราไม่ทราบ แม้ดูเหมือนจะมีอาการคล้ายเป็นหวัดอยู่เสมอๆ แต่เราก็เข้าใจว่าเป็นโรคภูมิแพ้ตามที่เธอบอก สมัยที่ช่วยพ่อแม่ทำไร่มันสำปะหลังซึ่งต้องใช้ยาฆ่าหญ้าฉีดพ่นปราบหญ้าคาทุกปี หมูก็เผลอสูดดมเอาสารพิษเข้าสู่ร่างกายเสมอๆ ครั้นอายุมากขึ้นก็ปรากฏอาการ เป็นมาหลายปีเข้าจนถึงจุดที่หมูทนไม่ไหว ขอให้บิ๊กหมงเปลี่ยนโรงพยาบาล พาไปหาหมออื่นบ้างเพราะหมอคนเดิมคงรักษาไม่หายแล้ว
 
ผมแนะนำและฝากฝังให้ไปที่โรงพยาบาลจุฬา และแล้วข่าวที่ไม่สู้จะดีนักก็ตามมาหลังจากนั้น หมอพบสิ่งผิดปกติในส่วนลึกของโพรงจมูกและได้เจาะชิ้นเนื้อไปตรวจ  หมงบอกว่าหมอนัดให้ไปเพื่อฟังผลในสัปดาห์ต่อไป

หนึ่งสัปดาห์แห่งการรอคอยทำให้ครอบครัวนี้เศร้าซึม บ้านของเราก็เลยพลอยหงอยไปทุกคน

ผลการวิเคราะห์ชิ้นเนื้อไม่มีหักมุม ไม่ว่าจะหักโค้งหรือหักงอ หมอพบว่าหมูเป็นมะเร็งในขั้นที่เลยระยะจะรักษาให้หายขาดมาแล้ว
   “คงอยู่ได้สักสองปีละขรับ” หมงตอบไม่อ้อมค้อมเมื่อผมถาม  “คุณหมอถามพ้มว่ามีเงินไหมล่ะ”
   “แปลว่าอะไรละหว่า” ผมงง ไม่มีเงินก็จะไม่รักษาหรือ
   “หมอบอกว่า หมอก็จะรักษาให้ดีที่สุดตามยาที่โรงพยาบาลมี แต่คนมีเงินก็มักจะถามว่า ยาที่ดีกว่านี้มีอีกมั้ย หมอบอกก็ว่ามีอยู่ แต่แพงมาก ต้องสั่งซื้อใช้เงินล้านกว่าบาท โห่ พ้มก็บอกว่าไม่มีละสิขะรับ” หมงพูดไปส่ายหัวไป
   “แล้วไง ถ้าใช้ยาตัวแพงนั่นแล้วหมอบอกว่าจะหายยังงั้นหรือ” ผมถามต่อ
“ เปล่าขรับ หมอว่า ก็คงยืดอายุไปได้อีกซักเท่านึง” เขาตอบเซ็งๆ
“ คือจากสองปีเป็นสี่ปี แล้วหมงคิดอย่างไรล่ะ” ผมอยากรู้
“มันไม่คุ้มหรอกครับ เค้าก็จะแค่ทรมานนานยิ่งขึ้นไปอีกเท่านั้น สุดท้ายก็ตายอยู่ดี”
เห็นไหมครับ บิ๊กหมงเป็นคนมีปัญญา เขาไม่อ้อนผมให้ช่วยออกเงินให้ด้วยคำพูดตรงๆ
“เราเห็นด้วยนะหมงที่มีความคิดอย่างนี้ เรื่องเจ็บเรื่องไข้นี่คนมีเงินมากก็ยิ่งทุกข์ยาวนานมาก” ผมนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ “ความจริงแล้ว คนเราไม่กลัวความตาย แต่กลัวความเจ็บก่อนที่จะถึงความตายนะ เอาอย่างนี้ซี่ หมงไปบอกหมอ หากเมื่อใดถึงคราว เกิดเจ็บปวดมาก ขอให้หมอสั่งยาระงับความปวดให้เป็นพิเศษ เราจะช่วยตรงนี้ก็แล้วกัน”

หมงมีสีหน้าดีขึ้นเมื่อเขาขอตัวเดินกลับไปบ้านของเขา จากเช้าวันรุ่งขึ้น สองผัวเมียก็ยังดำเนินชีวิตไปตามปกติ หมูก็ต้องไปหาหมอเป็นระยะๆและมาทำงานที่บ้านผมน้อยลง ส่วนหมงก็ลดกิจกรรมอดิเรกลงเพื่อทำงานบ้านของตนเองแทนเมีย เขาทั้งขายทั้งแจกพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ไก่ชนที่เลี้ยงไว้นับสิบตัวให้บรรดาขาประจำที่มาซื้อลูกไก่ที่เขาผสมพันธุ์ไว้ขาย หมงไม่ได้เป็นนักเลงตีไก่ แต่มีความรู้เรื่องไก่ชนแบบมืออาชีพ เรื่องร้ายที่เกิดขึ้นทำให้หมงหมดกะจิตกะใจที่จะคอยดูแลเอาใจใส่ไก่ โดยเอาเวลานั้นไปดูแลเมียแทน
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 476  เมื่อ 28 ม.ค. 16, 17:04

ควบคู่กับการไปโรงพยาบาล หมงพาหมูไปรักษามะเร็งในโพรงจมูกด้วยวิธีไสยศาสตร์และแสวงหาแพทย์ทางเลือกทุกแห่งที่ใครต่อใครแนะนำว่าดี เขาใช้รถตู้คันเก่าที่ผมให้เขาใช้เหมือนรถประจำตำแหน่งพาเมียตระเวนไปหลายจังหวัด ผมก็ไม่ว่าอะไร เรื่องนี้มันเป็นเรื่องกำลังใจ ตราบใดคนยังมีความหวัง ความทุกข์ก็ถดถอยน้อยลง

ผมคุยกับเขาเรื่องการรักษาแนวนี้เหมือนกัน หมงบอกว่ามียาดีที่เขาได้มา เป็นยาที่สกัดมาจากเห็ดเมืองจีน หมูกินแล้วมีอาการดีขึ้น ผมก็อือๆออๆไปตามเรื่อง มาทึ่งจริงๆก็ในวันหนึ่งที่น้องสาวลูกของน้ามาที่บ้าน ไอ้เราก็นึกว่าน้องมาเยี่ยม ที่ไหนได้ มารับยาจากบิ๊กหมง

“อ้าว พี่ไม่รู้หรือคะ มงคลเค้าเป็นเอเยนต์ยารักษามะเร็ง เห็นว่ากินยานี้แล้วหมูอาการดีขึ้นเลยไปขอเค้าเป็นตัวแทนจำหน่ายให้ในกรุงเทพ หนูเลยสั่งจองไว้สองขวด ว่าจะไปให้ป้าสุรีย์แกลองกินดู” น้องผมสาธยายก่อนที่บิ๊กหมงจะหิ้วขวดยาขนาดขวดน้ำปลามาสองขวด บรรจุอยู่ในกล่องอย่างดีมาที่บ้านผม
“ขวดละเท่าไหร่วะหมง” ผมถาม
“เขาขายพันสองขรับ นี่ผมขายให้คุณหนูเท่าทุน พันเดียว” บิ๊กหมงตอบอย่างหยิ่งๆ
“โอโหเว้ยเฮ้ย ขวดละพันเชียวหรือ” ผมทึ่ง
“ไม่แพงนะขะหรับ ขวดนึงนี่กินได้ร่วมเดือน กินติดต่อกันสักเดือนเดียวก็เห็นผลแล้ว ไม่ดีจริงก็ไม่ต้องกินต่อ ถ้าดี กินสักหกเดือนถึงปีนึงก็หาย” บิ๊กหมงตอบอย่างมั่นใจ

นี่น้องสาวผมจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย(ขอสงวนชื่อเพราะอาย)นะครับ ยังเชื่อวาทะไดเร็กเซลล์ของบิ๊กหมง จึงไม่แปลกที่บางวันผมจึงเห็นรถเก๋งบ้าง รถปิ๊กอัพบ้างมาจอดหน้าบ้าน ถามแล้วได้ความว่าพวกนี้มาซื้อยากับบิ๊กหมง เอาละซีพระเดชพระคุณท่าน

และหมูก็อยู่มาได้เกินสองปีที่คุณหมอทำนายไว้ แต่อาชีพเสริมของบิ๊กหมงทางขายยาก็เนือยๆไป การบำบัดด้วยการฉายแสงก่อนหน้านั้นทำให้พรีเซนเตอร์ใบหน้าเกรียมไปข้างหนึ่ง ลูกค้ายามาเห็นก็ใจฝ่อเปลี่ยนใจไม่ซื้อดีกว่า หมูต้องนอนรักษาตัวในห้องพักที่ผมติดแอร์ไว้ให้ และจะฝืนยิ้มเมื่อเราไปเยี่ยม แต่พอมาถึงขั้นที่ต้องทำคีโม เพียงไม่กี่ครั้งร่างกายก็ทนไม่ได้ หมูก็จากโลกไปอย่างสงบโดยคุณหมอได้ดูแลเป็นอย่างดี ไม่มีค่ายาเพิ่ม บิ๊กหมงและลูกสาวได้อยู่เป็นกำลังใจด้วยจนนาทีสุดท้าย

ชีวิตของสองพ่อลูกก็ดำเนินต่อโดยทิ้งความทุกข์ไว้ที่วัด  บิ๊กหมงขอให้น้องสาวคนเล็กมาอยู่เป็นเพื่อนลูกจนเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว วันหนึ่งเขาก็หาโอกาสมาพูดถ้อยความอันสำคัญกับผม
 
“คุณหม่อมครับ พ้มคงต้องไปจากคุณหม่อมแล้วละขรับ” เขาสบตากับผมแพร๊บนึง แล้วเฉไฉไปมองอย่างอื่น
“อ้าว ทำไมล่ะหมง” ผมตกใจ แม้จะเตรียมตัวเตรียมใจไว้ตลอดเวลาว่าคนเรานั้นพบกันก็เพื่อจะจาก ไม่จากเป็นก็จากตาย ผมก็อดใจหายไม่ได้
“พ้มจะแต่งงานใหม่ขรับ” เขาตอบน้ำเสียงเรียบๆ หันกลับมามองหน้าผม
“อ้าว ก็ดีซี ทำไมไม่พามาอยู่ด้วยกันที่นี่ล่ะ” ผมฉงน  จริงสิ บ้านที่ผมสร้างให้เขาอยู่นั้น ถ้าปรับปรุงเสียใหม่อีกครั้งก็เป็นเรือนหอได้สบายๆ
“แฟนพ้มเค้ามีฐานะดีครับ เป็นเจ้าของร้านขายของสารพัด แต่งงานกันแล้วผมจะต้องไปช่วยกิจการเค้า”

(ยังมีต่อ)
บันทึกการเข้า
walai
มัจฉานุ
**
ตอบ: 64


ความคิดเห็นที่ 477  เมื่อ 28 ม.ค. 16, 17:25

 :Dอ่านจบแล้วต่ะ  สนุก สั้น ได้ครบเรื่องที่อยากรรู้เรื่องของบิ๊กหมงค่ะ และยังชอบประโยคคิกขุ...โอโหเว้ยเฮ้ย...และวาทะส่วนตนของคุณหม่อม...ชีวิตของสองพ่อลูกก็ดำเนินต่อ""โดยทิ้งความทุกข์ไว้ที่วัด""""ข้อความนี้บอกเล่าเรื่องราวได้ยืดยาวโดยไม่ต้องสาธยาย  ชอบมากค่ะ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 478  เมื่อ 28 ม.ค. 16, 18:07

^


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 479  เมื่อ 28 ม.ค. 16, 20:46

ภาพประกอบ (ซึ่งไม่ใช่ดร.ประกอบ) เผื่อใครจะจำหน้าหมอหมงพร้อมเมียและลูกไม่ได้   ยิงฟันยิ้ม

บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 30 31 [32] 33 34 ... 37
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.05 วินาที กับ 20 คำสั่ง