เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 21 22 [23] 24 25 ... 37
  พิมพ์  
อ่าน: 106629 ใครอยากรู้จัก NAVARAT.C เชิญที่กระทู้นี้
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 330  เมื่อ 28 ธ.ค. 15, 16:32

ไม่ทราบว่าคุณๆจะร้องเพลงทำนองกราวนอกได้หรือเปล่า เพลงกราวนอกคือทำนองของเพลงกราวกีฬาไงครับ จำได้หรือเปล่า

...ฮึม ฮึม..หึ่ม ฮึม
กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ ฮ้าไฮ้ ฮ้าไอ้
กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ แก้กรองกิเลศทำคนให้เป็นคน
ผลของการฝึกตน เล่นกิฬาสากล ตะละล้า .....

ขอบคุณคุณหมอเพ็ญครับ อุตส่าห์ไปขุดของเก่าของผมมาใช้ใหม่ถูกต้องกาละเทศะพอดี
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 331  เมื่อ 28 ธ.ค. 15, 17:51

ระเบียงบ้านของผมนั้นออกแบบให้รองรับน้ำหนักคนได้กว่าร้อย สมัยแม่อยู่จะใช้ในงานทำบุญเลี้ยงพระวันเกิดของแม่ ซึ่งจะเป็นงานชุมนุมญาติไปด้วยทุกปี เมื่อแม่ไม่อยู่แล้วงานนั้นก็งดไป คงมีแต่งานชุมนุมสังสรรเพื่อนร่วมรุ่นของผมบ้างนานๆครั้ง

สถาปัตย์จุฬารุ่น๐๙มีศิลปินแห่งชาติสองคน คนหนึ่งคือนิธิ สถาปิตานนท์แห่ง A49 และที่เพิ่งเป็นเมื่ออาทิตย์ที่แล้วคือกฤษฎา โรจนกร แห่ง HABITA  ทั้งสองคือความภูมิใจของเพื่อนร่วมรุ่น

แต่ยังมีอีกท่านหนึ่งที่เป็นยิ่งไปกว่าความภูมิใจ สถาปัตย์รุ่นนี้ยังมีพระอาจารย์สกล สันติธัมโม แห่งวัดป่าศรีสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร
เมื่อท่านเรียนจบไปได้ไม่ถึงสองปี มารดาขอร้องให้บวชให้สักพรรษาหนึ่ง แต่หลังจากบวชแล้วเพลิดเพลินในสมณเพศ หายไปจากวงโคจรของเพื่อนๆนับสิบๆปี จึงมีผู้ได้ข่าวท่าน เมื่อผมไปหาท่านครั้งแรกกับคณะเพื่อนกลุ่มนึงนั้น กุฏิของท่านเป็นกระต๊อบเล็กๆอยู่ในป่าช้า จากนั้นเราจึงจัดผ้าป่ารุ่นของเราไปถวายวัดป่าศรีสว่างแดนดินทุกปี จนท่านเป็นเจ้าอาวาสแล้ว ญาติโยมปลูกกุฏิใหม่ให้อยู่ ท่านก็ให้รองเจ้าอาวาสไปอยู่แทน แต่ท่านยังอยู่ที่เดิมอย่างสมถะนั่นแหละ

อยู่มาปีนึงผมไปเรียนนิมนต์ท่านว่า เพื่อนๆหลายคนอยากจะไปกราบท่านร่วมกับคณะผ้าป่าแต่ก็ไปไม่ได้ ขอให้ผมนิมนต์ท่านขึ้นมาโปรดสัตว์ในกรุงเทพบ้าง ท่านก็เมตตามาให้ครั้งหนึ่ง ผมก็จัดที่ให้ท่านรับประเคนและฉันจังหันบนระเบียงนั้น ก่อนจะแสดงธรรมให้สดับ เพื่อนๆมากันเยอะมาก รามทั้งผู้ที่ออกนามไปแล้วทั้งสองคน ก็ปรากฏอยู่ในภาพนี้ด้วย

พระอาจารย์สกลละสังขารไปแล้วหลายปีก่อนด้วยโรคมะเร็งลำไส้ ช่วงสุดท้ายหมอเปิดหน้าท้องของท่านแล้วไม่เย็บปิดแล้ว เพราะต้องเปิดทำความสะอาดแผลที่ลำไส้ทุกวัน
“เราก็พิจารณากรรมฐานตลอดแหละหม่อม” นั่นคือคำพูดสุดท้ายที่ท่านพูดกับผมยาวๆ

เมื่อประชุมเพลิงศพของท่านแล้ว วันรุ่งขั้นพระเณร ศิษยานุศิษย์ของท่านพบว่าอัฐิธาตุส่วนหนึ่งของพระอาจารย์สกลเป็นแก้วใส


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 332  เมื่อ 28 ธ.ค. 15, 18:11

ดังภาพ


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 333  เมื่อ 29 ธ.ค. 15, 10:12

ว่ากันต่อเรื่องของบิ๊กหมง
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 334  เมื่อ 29 ธ.ค. 15, 10:19

รปภ. ประจำกาย

บักหมงเป็นบุคคลสำคัญประจำบ้าน คือเป็นทั้งช่างไม้ช่างไฟช่างประปาช่างซ่อม ตลอดถึงเป็นกรรมกรแบกหาม คนสวน เป็นรปภ. เป็นซะทุกอย่าง ถ้าขาดบักหมงไปคนนึงละก็ คนอื่นๆในบ้านต้องลำบากแน่ๆ เขาดำรงตำแหน่งนั้นอยู่นับสิบปีไม่มีใครแย่ง จนเป็นหนุ่มใหญ่ ร่างกายกำยำสูงยาวเข่าดี ผิวคล้ำแบบกร้านแดดกร้านลม ลักษณะท่าทางดูคล้ายนักมวย จิ๊กโก๋ไม่กล้าแหยมกับบักหมงแน่

ระหว่างที่ผมทำงานบริษัทใหญ่ มีรถตำแหน่ง บักหมงไม่มีโอกาสแม้แต่จะล้างรถให้ผม เพราะคนขับรถประจำของบริษัทขยันเกิน มาแต่เช้ามืดเพื่อขัดสีฉวีวรรณรถในบ้านแบบไม่ไว้ใจคนอื่น  อีกคันหนึ่งที่ใช้รับส่งลูกๆ เมียผมก็ขับเอง ไม่วางใจบักหมงมือใหม่ แม้ผมจะให้คนรถพาบักหมงไปซ้อมมืออยู่เสมอ ก็เคยขับอีแต๋นมาก่อนอยู่แล้ว รถยนต์มันจะไปยากกว่ายังไง เพียงแต่ไม่ค่อยรู้จังหวะจะโคน จะวิ่งหรือจะหยุดบนท้องถนนให้สอดคล้องกับกฎจราจรเท่านั้น

เมื่อผมออกจากบริษัทมาแล้ว เงินสะสมตกเบิกจากบริษัทมีพอจะซื้อรถป้ายแดงได้คันหนึ่ง ผมก็เลือกซื้อรถตู้ญี่ปุ่นขนาดกลางของนิสสัน เพราะสะดวกสบายที่จะใช้ในเมืองหรือเดินทางไปต่างจังหวัด บักหมงก็ไม่ค่อยจะได้ขับอีกนั่นแหละ เพราะผมชอบไปไหนมาไหนแบบตัวคนเดียว ตอนอยู่บริษัทมันจำเป็นต้องมีคนรถ เพราะต้องรับรองแขกต่างประเทศบ่อยๆเท่านั้นแหละ

พอผมเริ่มมีงานแรกที่เชียงใหม่ ต้องขับรถขึ้นล่องยาวๆเดือนหนึ่งๆหลายครั้ง ผมก็ให้บิ๊กหมงไปเป็นเพื่อน ในฐานะรปภ.ประจำกายนะครับ ไม่ใช่คนขับรถ เพราะเวลาเดินทางไกลผมจะไม่ค่อยไว้ใจบักหมง ขี้เกียจนั่งไปเกร็งไป จนบางทีปวดกล้ามเนื้อท้องไปหมด สู้ขับเองสบายกว่า บักหมงก็ให้นั่งๆนอนๆไป
หากผมง่วงจนทนไม่ได้จริงๆก็จึงจะให้เขาขับ แล้วผมจะรีบหลับหูหลับตาโดยเร็วที่สุด
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 335  เมื่อ 29 ธ.ค. 15, 10:30

ขออนุญาตแยกกระทู้ เป็น "เสเพลบอยชาวไร่เล   ตอน บิ๊กหมง " ได้ไหมคะ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 336  เมื่อ 29 ธ.ค. 15, 10:33

ขอความกรุณาเถอะครับ อย่าแยกเลย ผมใกล้จะจบเรื่องบิ๊กหมงแล้ว หมดพันธะสัญญาจะได้ลาโรงกระทู้นี้เสียที
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 337  เมื่อ 29 ธ.ค. 15, 10:35

รปภ.อย่างบักหมง ไม่ได้พกพาอาวุธอะไร แม้งานของผมจะอยู่ตามป่าตามเขานอกเมือง เป็นที่เปลี่ยวว่างั้นเถอะ แต่ผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องใช้ แต่เพื่อความไม่ประมาท ผมก็อัญเชิญเบญจภาคีขึ้นห้อยคอไปด้วยทุกครั้งที่รู้สึกไม่มั่นใจ รู้สึกว่าปลอดภัยกว่าพกปืน ซึ่งผมมีอยู่หลายกระบอกเหมือนกัน เพราะชอบ แต่มีไว้เก็บอยู่กับบ้าน
ปืนสมัยผมจบใหม่ๆมีเงินเดือนแล้วนั้น ถือว่าไม่แพง ที่ผมซื้อกระบอกละห้าหกพัน สมัยนี้เหยียบแสน ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเหล็กไม่ถึงกิโลไหง๋จึงแพงขนาดนั้น แต่ก็ดี ขืนปืนถูกๆอย่างสมัยก่อนบ้านเมืองคงป่าเถื่อนกว่าทุกวันนี้

เมื่อไปซื้อที่ที่กระบี่ สมัยยังดิบๆอยู่นั้น ทั้งแม่และเมียเป็นห่วงผมมาก แถวปักษ์ใต้เชื่อกันว่าเป็นเมืองคนดุ ข่าวยิงกันตายปรากฏบนหน้าหนังสือพิมพ์เป็นประจำ

“เฮ้ย ได้ข่าวว่าลื้อจะไปทำกิจการที่กระบี่เหรอ” เพื่อนรักคนหนึ่งโทรมาหา เขาทำงานอยู่สำนักพิมพ์ข่าวรายวันและรายสัปดาห์แห่งหนึ่ง “อย่าไปเลยวะ”
“ทำไมล่ะ”
“พูดไปลื้อก็ไม่เชื่อ เอางิ๊ เย็นนี้เจอกันได้ไหม มีอะไรให้ดู”

อะไรของเขาที่เอามาให้ผมดูก็คือจดหมายเรียกค่าคุ้มครอง เขียนด้วยลายมือของคนระดับที่จบ ป.๔ เพื่อนบอกว่าได้มันมาจากแหล่งข่าว เนื้อความประมาณว่า ขอค่าคุ้มครองกิจการเดือนละสองหมื่นบาท มิฉะนั้นไม่รับรองความปลอดภัย

“นี่มันขู่สวนยางนี่หว่า ไม่ค่อยเกี่ยวกับพวกบังกะโลเท่าไหร่  สวนยางมันอยู่ในป่าในดงลึกๆไกลปืนเที่ยง” ผมบอก
“ แต่เนี่ย อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่นะโว้ย เหตุเพิ่งเกิดไม่กี่เดือนเอง
อั๊วก็รู้ที่ของลื้อมันสวย แต่ขายทิ้งเสียเถิดวะ อย่าไปเสียดมเสียดายมันเลย คนอย่างลื้อไม่คุ้มที่จะไปเป็นอะไรอยู่ที่นั่น ทำอะไรๆอยู่กรุงเทพดีกว่า” ดูท่าเขาจะหงุดหงิดเล็กน้อยเมื่อเห็นปฏิกิริยาของผม

ความจริงแล้ว ข้อมูลที่เขาถ่ายเอกสารมาให้เป็นประจักษ์พยานได้สร้างความประหวั่นพรั่นพรึงให้ผมไม่น้อย ต้องขอบใจในความห่วงใยของเพื่อน “ แต่ที่ดินมันไม่ใช่สายสร้อย จะได้ถอดขายง่ายๆ เออ ขอบใจโว้ยเพื่อน แล้วอั๊วจะพยายามออกตัวดู”
เขาแสดงท่าทีพอใจที่เห็นผมไม่ดื้อด้านต่อความปรารถนาดีของเขา

“ ปั๊ดโธ่…หม่อม” นายกสมาคมท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ซึ่งถือเป็นเพื่อนกันไปแล้วแม้จะไม่นานร้องขึ้นมาเมื่อผมเอากระดาษแผ่นนั้นให้เขาดู “เยอะมาก เยอะจริงๆหนังสือขู่แบบนี้ แต่ถ้าเป็นคนกระบี่แล้วจะรู้สึกเฉยๆ”
“ อ้าว เหรอ”
“ คือยังงี้ครับพี่หม่อม สวนยางส่วนใหญ่ส่วนหนึ่งเป็นของนายทุนมาเลย์ เอาเงินมาลงทุนปลูกไว้แต่ไม่ค่อยมีเวลามาดูแล จ้างผู้จัดการไว้คนหนึ่งให้ทำแทนแบบแบ่งรายได้กัน ๕๐-๕๐ ผู้จัดการก็ไปแบ่งกับคนงานกรีดยางอีกที
แต่ ๕๐-๕๐ นี่มันไม่ตายตัว  บางที่ก็ ๖๐-๔๐ แล้วแต่ที่มันโหดไม่โหดขนาดไหน ไอ้ที่มันดุๆขนาดมีเผากันก็ผู้จัดการได้ ๗๕ เจ้าของสวน ๒๕ก็มี  มันก็เลยไม่ประหลาดอะไรที่วันดีคืนดีผู้จัดการก็แอบเผาแทรกเตอร์สักคัน แล้วเอาจดหมายเนี่ย แปะไว้ ตำรวจก็เฉยๆไม่ค่อยจะเอาเรื่อง เพราะไม่อยากเอาคนไทยเข้าคุกเพื่อให้คนมาเลย์รวยขึ้น จึงได้แต่ปรามๆ คนกระบี่เค้าเลยไม่ค่อยตื่นเต้นกัน
อย่างพี่หม่อมจะมาทำบังกะโลนี่ ไม่ต้องกลัว ไม่เคยมี กระบี่ปลอดภัยร้อยเปอร์เซนต์”

“ปลอดภัยร้อยเปอร์เซนต์กับผีอะไรวะ ลื้อนี่” เพื่อนผมเสียงเขียวเมื่อเล่าความเห็นของคนกระบี่ให้เขาฟังเมื่อกลับมากรุงเทพแล้ว “สองปีที่แล้ว มีสองผัวเมียไปซื้อที่ชายทะเลจะทำบังกะโล กระบี่นี่แหละ ปลูกกระท่อมเสร็จก็ลาออกจากงาน พอจะเริ่มบุกเบิกก็โดนเรียกค่าคุ้มครองแบบนี้ เค้าก็ไม่ให้เพราะกลัวจะไม่จบแค่นั้น คืนหนึ่งได้ยินหมาลาบราดอร์ที่เอาไปเลี้ยงเป็นเพื่อนเห่าแถวริมรั้ว ไม่กล้าออกไปดูกระทั่งเช้า ไปเห็นแล้วเมียเป็นลมพับไป เพราะเห็นศพหมาถูกฟันคอขาดแบบฉับเดียวไม่มีร้อง
พอตั้งสติได้ก็เรีบเก็บข้าวของขึ้นรถกลับกรุงเทพ”

จริงไม่จริงไม่รู้แหละครับ ผมจึงต้องมีบักหมงแบบไปไหนไปด้วยทุกครั้งที่ไปกระบี่ แต่ไม่ได้เล่าเรื่องพวกนี้ให้เขาฟังหรอก กลัวจะตื่นเต้นเกินเหตุ

แล้ววันหนึ่งก็มีเหตุการณ์ที่ผมต้องพึ่งความสามารถเฉพาะตัวของบักหมงจริงๆ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 338  เมื่อ 29 ธ.ค. 15, 11:05

เรื่องที่จะเล่าต่อไป สืบเนื่องจากคคห.นี้

ยังครับยัง ยังไม่สุดยอด

เมื่อผมพานายแบ้งค์ผู้ให้กู้ไปดูที่ เขาบอกว่าคุณต้องได้ที่ดินที่จะออกหาดแหลมพระนางมาด้วย จึงจะสุดยอด ทำอะไรก็ได้ไม่มีขาดทุนแน่ ผมพยายามสืบหาเจ้าของอยู่นาน พอได้เบอร์โทรแล้วคุยกับเขา เขาบอกว่าไม่ขาย
ช่วงนี้เขาก็คงไปสืบด้วยว่าใครนะที่มาขอซื้อ เพราะไม่กี่เดือนต่อมาเขาก็โทรกลับมา ใช้สรรพนามเรียกผมว่าหม่อม แสดงว่าทำการบ้านมาดี

เขาบอกว่าถ้าเขาจะขายก็จะขายคนอย่างพี่หม่อมนี่แหละ แต่ขอขายในราคาอนาคตนะครับ
แหะๆ พระเดชพระคุณรุนช่องที่รักและเคารพ ราคาที่ดินประมาณสี่ไร่ที่เขาบอกนะครับ ผมแทบตกจากเก้าอี้ เพราะมันแพงกว่าที่ดินห้าสิบไร่เศษ ที่ผมวางมัดจำไว้แล้วเสียอีก อ้อ ที่ผมยังไม่ต้องจ่ายแปลงนั้นครบเพราะเป็นภาระของเจ้าของที่ ที่จะต้องขอเปลี่ยนเอกสารสิทธิ์เป็นนส ๓ เสียก่อนตามสัญญา

เอาละวา เป็นไงเป็นกัน ผมก็เอาหลักทรัพย์ทุกอย่างที่ผมมีไปวางไว้กับแบ้งค์ แล้วเอาเงินมาซื้อที่ของเขา คราวนี้แหละครับ พูดได้เต็มปากว่าสุดยอด ที่ดินของผม ๕๕ ไร่ ติดหาดที่สวยที่สุด ๓ หาด

ความจริง ต้องย้อนไปอ่านตั้งแต่ คคห.๖๖ ถึง คคห. ๘๔ อีกสักเที่ยวนะครับ พื้นภูมิจึงจะแน่น  ระหว่างทางจะแวะอ่านเรื่องที่วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์ปฏิเสธมิตรภาพของคุณแอนนาด้วยก็ยังทัน ไม่ต้องรีบร้อน ผมจะให้เวลา
 
จะรีรออยู่ใย กดระโยงข้างล่างนี้เลย

http://www.reurnthai.com/index.php?topic=6418.60
บันทึกการเข้า
ประกอบ
สุครีพ
******
ตอบ: 1342


ความคิดเห็นที่ 339  เมื่อ 29 ธ.ค. 15, 12:30

ขอความกรุณาเถอะครับ อย่าแยกเลย ผมใกล้จะจบเรื่องบิ๊กหมงแล้ว หมดพันธะสัญญาจะได้ลาโรงกระทู้นี้เสียที

ยังไม่ให้ไปง่ายๆ แน่นอนครับ
บันทึกการเข้า

วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 340  เมื่อ 30 ธ.ค. 15, 15:02

ความจริง ต้องย้อนไปอ่านตั้งแต่ คคห.๖๖ ถึง คคห. ๘๔ อีกสักเที่ยวนะครับ พื้นภูมิจึงจะแน่น  
 
จะรีรออยู่ใย กดระโยงข้างล่างนี้เลย

http://www.reurnthai.com/index.php?topic=6418.60

ความเดิมตอนที่แล้ว

เมื่อผมพานายแบ้งค์ผู้ให้กู้ไปดูที่ เขาบอกว่าคุณต้องได้ที่ดินที่จะออกหาดแหลมพระนางมาด้วย จึงจะสุดยอด ทำอะไรก็ได้ไม่มีขาดทุนแน่ ผมพยายามสืบหาเจ้าของอยู่นาน พอได้เบอร์โทรแล้วคุยกับเขา เขาบอกว่าไม่ขาย

ช่วงนี้เขาก็คงไปสืบด้วยว่าใครนะที่มาขอซื้อ เพราะไม่กี่เดือนต่อมาเขาก็โทรกลับมา ใช้สรรพนามเรียกผมว่าหม่อม แสดงว่าทำการบ้านมาดี

เขาบอกว่าถ้าเขาจะขายก็จะขายคนอย่างพี่หม่อมนี่แหละ แต่ขอขายในราคาอนาคตนะครับ

แหะ ๆ พระเดชพระคุณรุนช่องที่รักและเคารพ ราคาที่ดินประมาณสี่ไร่ที่เขาบอกนะครับ ผมแทบตกจากเก้าอี้ เพราะมันแพงกว่าที่ดินห้าสิบไร่เศษ ที่ผมวางมัดจำไว้แล้วเสียอีก อ้อ ที่ผมยังไม่ต้องจ่ายแปลงนั้นครบเพราะเป็นภาระของเจ้าของที่ ที่จะต้องขอเปลี่ยนเอกสารสิทธิ์เป็นนส ๓ เสียก่อนตามสัญญา

เอาละวา เป็นไงเป็นกัน ผมก็เอาหลักทรัพย์ทุกอย่างที่ผมมีไปวางไว้กับแบ้งค์ แล้วเอาเงินมาซื้อที่ของเขา คราวนี้แหละครับ พูดได้เต็มปากว่าสุดยอด ที่ดินของผม ๕๕ ไร่ ติดหาดที่สวยที่สุด ๓ หาด

มันมีอีกปัจจัยหนึ่งที่ผมตัดสินใจสู้ราคาโดยไม่ต้องคิดนาน คือที่ดินแปลงสี่ไร่เศษนี้เขามีกิจการบังกะโลติดที่อยู่ด้วยแล้ว แม้จะเป็นโครงสร้างง่ายๆหลังคามุงจาก ประกอบด้วยร้านอาหาร บังกะโลแบบเล้าไก่ ๑๕ หลัง และที่พักคนทำงานเป็นเรือนไม้ยาว ๆ ทั้งหมดเพิ่งจะสร้างเสร็จใหม่ ๆ เขายินดียกให้ผมในราคาที่ว่าด้วย

ผมมาคิดสะระตะดู ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณกลางปี พอปลายปีจะถึงหน้าหนาวของฝรั่ง เป็นโอกาสที่ผมจะทำเงินได้ทันทีเพื่อเอามาจ่ายดอกเบี้ย แต่ถ้าเก็บค่าห้องคืนละ ๒๐ บาท อย่างเขา ผมคงไม่ได้ผุดได้เกิด จึงคิดใหม่ทำใหม่ ทำอย่างไรผมจะเก็บให้ได้สักคืนละ ๘๐ บาท ผมต้องสร้างบังกะโลใหม่ให้ครบ ๖๐ หลังในระยะที่ ๑ และเพื่อจะให้สมราคา บังกะโลของผมจะต้องมีห้องน้ำในตัว ไม่ใช่ให้ฝรั่งไปยืนแก้ผ้าอาบกันที่ห้องอาบน้ำรวม และต้องมีแสงสว่างพอสมควรยามค่ำคืน คือต้องซื้อเครื่องปั่นไฟมาให้แสงสว่างแทนตะเกียง ก็แค่บังกะโลหลังละ ๒ หลอด ในห้องนอนหลอดหนึ่ง ห้องน้ำหลอดหนึ่ง ก็คงพอจะได้ราคานั้นแล้ว ตัดสินใจเสร็จก็ไม่รอช้า ลงมือจ้างเหมาทำงานทันที

วันหนึ่งผมเกิดฟิตขึ้นมา ไปนั่งยอง ๆ ช่วยเขาต่อท่อประปา ขณะก้มหน้าก้มตาทำงาน เห็นขาของแหม่มคู่หนึ่งมายืนค้ำศีรษะ ก็เลยเหลือบตาขึ้นดู ยัยแหม่มนี่นอกจากไม่สวยแล้วยังพูดจาไม่น่าฟัง นางบอกว่าผมกำลังทำให้สวรรค์วิมานของนางล่ม ผมก็ถามว่ามันเรื่องอะไรล่ะ นางบอกว่าผมเป็นไอ้หน้าเลือดที่จะขูดรีดคนจนอย่างนาง ได้ยินพวกฝรั่งลือกันที่ร้านอาหารว่าพอต่อน้ำต่อไฟเสร็จแล้วผมจะขึ้นราคาเป็นคืนละ ๘๐ บาท ผมก็บอกว่า ไม่เป็นอะไรหรอก พวกที่อยู่ ๆ เดิมแล้วก็เก็บราคาเดิม คนใหม่เข้ามาจึงจะเก็บราคาใหม่ นางบอกว่าก็นั่นแหละ ปีหน้าไอมายูจะเก็บราคาไหน ผมว่าก็ ๘๐ บาทนะซี  นางก็บอกว่านางเป็นคนจน เป็นแค่นางพยาบาล จะมาจ่ายแพง ๆ นั้นได้อย่างไร

ผมชักเลือดขึ้นหน้าแล้ว ถามไปว่ายูมาจากประเทศไหนล่ะ แทบไม่เชื่อหู นางบอกว่ามาจากสวิตเซอร์แลนด์ ผมว่า นี่แน่ะหล่อน ประเทศของหล่อนน่ะ ฉันเคยไปมาแล้ว เงิน ๘๐ บาทนี่ ซื้อโค้กได้กระป๋องเดียว นี่บังกะโลใหม่ ที่นอนหมอนมุ้งใหม่เอี่ยม มีน้ำมีไฟฟ้า ยูยังบอกว่าแพงอีกหรือ นางก็ยังยืนยันว่าผมเห็นแก่ได้ นางจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีก
 
ป่วยการพูดกับนางคนนี้ ผมหันหลังเดินหนีก่อนบันดาลโทสะ ในใจสว่างแวบขึ้นมาทันที ไม่ว่าผมจะทำโรงแรมหรือที่พักระดับไหน ก็ย่อมจะมีคนมาชี้หน้าด่าผมว่าเป็นนายทุนหน้าเลือดอยู่ดี อย่ากระนั้นเลย  ไหน ๆ จะถูกด่าผมก็จะยอมอีกครั้งเดียว  คราวหน้าผมจะทำโรงแรมให้มันระดับสุด ๆ ไปเลย


ติดตามบทบาทของ "บิ๊กหมง" ต่อไปด้วยใจระทึก  ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 341  เมื่อ 31 ธ.ค. 15, 09:36

เช้านี้เอารูปบิ๊กหมงกับหมูของหมงมาประกอบเรื่องเป็นการขัดตาทัพไปพลางๆก่อน

เด็กน้อยที่เห็นคือ น้องขวัญของแม่หมู หรือ ไอ้ฝันของพ่อหมง
ในภาพนี้ใครจะรู้ไหมล่ะนั่นว่าเด็กน้อยน่ารักที่เห็นจะเติบโตเป็นช้างน้อย ขนาดยืนบังพ่อมิดทั้งตัว


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 342  เมื่อ 01 ม.ค. 16, 14:20

วันนี้เป็นวันขึ้นปีใหม่
 
ผมขออุทิศเวลาในวันหยุดพักผ่อน ทำ ส.ค.ส. ให้ผู้ติดตามกระทู้ของผม เป็นตอนต่อของเรื่องที่คั่งค้างอยู่แล้วกันนะครับ 
ส.ค.ส.สวยๆ คำเพราะๆที่ส่งกันท่วมFBกับLine ทุกท่านคงจะรับกันไม่หวาดไม่ไหวอยู่แล้ว
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 343  เมื่อ 01 ม.ค. 16, 14:28

มันมีอีกปัจจัยหนึ่งที่ผมตัดสินใจสู้ราคาโดยไม่ต้องคิดนาน คือที่ดินแปลงสี่ไร่เศษนี้เขามีกิจการบังกะโลติดที่อยู่ด้วยแล้ว แม้จะเป็นโครงสร้างง่ายๆหลังคามุงจาก ประกอบด้วยร้านอาหาร บังกะโลแบบเล้าไก่ ๑๕หลัง และที่พักคนทำงานเป็นเรือนๆไม้ยาวๆ ทั้งหมดเพิ่งจะสร้างเสร็จใหม่ๆ เขายินดียกให้ผมในราคาที่ว่าด้วย

เจ้าของที่สี่ไร่เศษที่เขาบอกขายผมในราคาอนาคตนั้น สมมุติว่าชื่อคณิตก็แล้วกัน ลูกน้องคนใต้ของเขาจะออกนามว่านายฮั๊วข่าหนิด ทั้งๆที่เขาเป็นคนกรุงเทพพื้นเพแถวรังสิต

ผมย้ำทำความเข้าใจว่า ผมต้องการสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดของเขาด้วยตามสภาพ ตามที่ผมไปเห็นกำลังก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จเตรียมจะเปิดเป็นกิจการแล้ว โดยมีสองคนผัวเมียอายุเกษียณมาแล้ว อ้างตนเป็นเจ้าของ
“ไม่มีปัญหา ถ้าหม่อมโอนเงินดาวน์ให้ผมแล้ว ภายในสามวันหม่อมไปรับมอบจากไอ้เอี๊ยดได้เลย” นายคณิตบอกกับผมทางโทรศัพท์อย่างนั้น

หลังการทำสัญญาจ่ายเงินดงเงินดาวน์กันที่กรุงเทพแล้ว ผมก็นัดหมายเดินทางลงไปกับบักหมงเพื่อรับมอบกิจการ กะกันว่าหลังรับมอบแล้วหมงจึงจะขึ้นไปกวาดต้อนสมัครพรรคพวกจากบ้านท่าแยก อำเภอสระแก้วมาทำงานบุกเบิกสักสิบคน

เวลานั้นถ้าขับรถแบบไม่รีบเร่งนักก็จะใช้เวลาประมาณ ๑๐ ชั่วโมง จากกรุงเทพถึงกระบี่ เรานอนที่อ่าวพระนางคืนนึง เช้าวันนัดหมายผมกับบักหมงก็นั่งเรือหางยาวเข้าไปที่แหลมพระนางทางด้านอ่าวน้ำเมา กำชับให้คนเรือรอรับกลับแล้ว เราก็เดินผ่านกิฟท์บังกะโล กิจการแรกที่มาบุกเบิกบนไร่เลนี้ บังกิฟท์มาเช่าที่ดินบนที่ของบังโกบ ผู้ซึ่งตกลงขายที่ดินไปให้ผมก่อนหน้าแล้วโดยมีเงื่อนไขว่า ผมต้องยอมให้บังกิฟท์ทำบังกะโลต่อโดยไม่ได้รับค่าเช่า จนกว่าจะหมดเวลา ๒ ปี ตามสัญญา ผมก็โอเคโดยดี เพราะนอกจากจะไม่อยากให้เกิดปัญหาซับซ้อนแล้ว ผมเห็นว่า กิจการบังกะโลหลายๆเจ้าจะดีกว่ามีเพียงเจ้าเดียวโดดเดี่ยว โชคดีบังกิฟท์ก็เชื่ออย่างนั้น เขากับบังยมหุ้นส่วนเป็นคนมีการศึกษา ดูเหมือนจะจบจากวิทยาลัยครู นอกจากจะคุยกับฝรั่งรู้เรื่องแล้วยังคุยกับผมรู้เรื่องด้วย

ครับ คนแถวนั้นใช่ว่าจะคุยกับคนกรุงเทพรู้เรื่องทุกคน บางเรื่องก็ทำมึน ไม่เข้าใจเสียเฉยๆ ผิดถูกกูไม่รู้กูจะเอายังงี้ก็แล้วกัน คุยด้วยก็เสียกบาลมาก

สองผัวเมียดูเหมือนจะเตรียมตัวจะเดินทางกลับพร้อมอยู่แล้วหละ ผมเห็นเตรียมข้าวเตรียมของเรียบร้อย ผัวเอนตัวรออยู่บนเก้าอี้ผ้าใบ ส่วนเมียนั่งบนแคร่ข้างโรงอาหาร สองคนผัวเมียไม่มีปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อเห็นผมและบักหมงเดินเข้ามาในอาณาบริเวณ  ผมกับแกเคยคุยกันหลายครั้งแล้วแบบมิตร ตอนนั้นแกยังไม่ทราบว่าผมอยากจะซื้อที่ดินแปลงนี้ แต่คราวนี้ดูท่าทีไม่เป็นเช่นเดิม นายเอี๊ยดดูจะยังแฮ้งค์ๆจากฤทธิ์เหล้า แต่คุณผู้หญิงผู้ภรรยาจะออกอาการเศร้าสร้อย ไม่พูดไม่จา ไม่อยากแม้แต่จะมองหน้าผมด้วยซ้ำไป
“นายฮั้วข่าหนิดมาด่วยไม๊” นายเอี๊ยดถาม หลังจากผมทักว่าสวัสดีครับ
“ไม่นี่ เขาให้ผมมารับมอบเอง เขาว่าเขามีธุระ ไม่ว่างจะมาด้วย” ผมตอบ
“เขาฝากเงินคุณมาด้วยหรือเปล่า” เขาถามต่อ เปลี่ยนสำเนียงเมื่อนึกได้ว่าผมไม่ใช่ค่นต้าย
“เปล่าครับ เขาว่าเขาจัดการเรียบร้อยแล้ว คุณก็พร้อมจะออกแล้ว ให้ผมมารับมอบได้เลย ใช่ไหม?” ผมก็ว่าไปตามความเป็นจริง

นายเอี๊ยดดูจะทั้งหัวเสียและผิดหวัง เขาตาขวางใส่ผม “ พร้อมฮ่าอะไร ผมลงเงินลงทองไปตั้งเยอะแยะ ยังไม่มีรายรับสักบาท จะมาไล่ผมอย่างหมูอย่างหมา ผมยอมตายอยู่ที่นี่แหละ ไม่ไปโว้ย”
ว่าแล้วเขาก็หันหลังให้ผม เดินเข้าไปในห้องหลังโรงอาหารที่เขาและเมียใช้เป็นที่อยู่ที่นอน  ฝ่ายผู้เป็นเมียก็ลุกขึ้น พูดอะไรฟังไม่ถนัดรู้แต่ว่าแกแดกดันผม ผมว่า แกไม่กล้าออกอาการแรงๆอะไรกับผม เพราะเห็นไอ้หนุ่มร่างใหญ่ยืนอยู่ด้วย เสียงผัวที่ตะโกนออกมาด่าเธอ ห้ามไม่ให้พูดลอดออกมาเต็มหู ด่าเมียก็จริงแต่ก็แบบตั้งใจให้กระทบผมนิดๆ
 
เมื่อเห็นว่าภารกิจไม่สำเร็จแน่แล้ว ผมก็ชวนบักหมงกลับไปตั้งหลักใหม่ที่ที่พักเมือคืน

แต่กว่าผมจะต่อโทรศัพท์ยุคบุกเบิกกลับไปกรุงเทพได้ก็ร่วมเย็น “คุณคณิตครับ นายเอี๊ยดเขาไม่ยอมออก ทำไงดี”
“อ้าวทำไมล่ะ” เสียงทางโน้นแสดงความแปลกใจเท่าๆกับไม่พอใจ
“ฟังเหมือน เขาว่า เขาไม่ได้เงินนะ” ผมตอบเข้าเป้า ไม่อ้อมค้อม
“เฮ้ยไอ้เอี๊ยดนี่ มันจะมากไปแล้ว…(เซ็นเซ่อร์)…” เขาเอ่ยวาจาผรุสวาทกลับมา ลืมไปว่าคนฟังคือผม ไม่ใช่นายเอี๊ยด
“หม่อมไม่ต้องเป็นห่วง ผมพูดคำไหนเป็นคำนั้น เดี๋ยวผมจะไปจัดการให้เรียบร้อย”
“เมื่อไหร่ล่ะ”
“เดี๋ยว ผมจะเดินทางเดี๋ยวนี้ พรุ่งนี้เช้าเราเจอกันก่อนหกโมง หม่อมเตรียมเรือไว้เลย ไอ้…(เซ็นเซ่อร์)….เอี๊ยด มันรับคำกับผมแล้วยังทะลึ่งเบี้ยวหม่อม ไอ้ฮ่านี่มันต้องโดนสั่งสอนซะบ้าง”
“โอเค พรุ่งนี้เช้า เรือเข้าทางอ่าวพระนางได้ หกโมงเจอกันหน้าหาด” ผมสรุป


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 344  เมื่อ 01 ม.ค. 16, 14:39

นายหัวคณิตก้าวลงมาจากรถเก๋งตรงเวลานัด หน้าตาคร่ำเครียดแสดงโทษะจริตเข้าครอบงำเต็มที่ ชายคนนี้อายุน้อยกว่าผมนิดหน่อย ท่าทางเป็นนักเลงแบบบู๊ล้างผลาญ รูปร่างผิวพรรณกร้านกร้าวพอฟัดพอเหวี่ยงกับบักหมง แต่เขาดูทรุดโทรม บักหมงสดกว่า ถ้าเจอกันบนเวทีมวยไทยก็คงจะไม่ครบยก แต่นอกเวทีไม่แน่ ผมแอบเห็นเขาล้วงปืนพกออกมาจากที่ซ่อนในรถแล้วเหน็บเข็มขัดไว้ข้างหลัง ผมเชื่อว่าบักหมงก็เห็นเหมือนๆกัน เพราะดูเขาจะจงใจให้เข้าตาเรา หากต้องการไม่ให้ประเจิดประเจ้อแล้วละก็ เขาสามารถหยุดรถเพื่อจัดการให้เรียบร้อยเสียก่อนที่ไหนก็ได้ แต่เอาเถิด มองอีกแง่หนึ่ง เขาอาจจะเพิ่งตัดสินใจเอาอาวุธออกมาพก เพราะคิดว่าผมยืนรอเขาอยู่กับมือปืนประจำตัวก็เป็นได้
 
เขาไม่ได้ทักทายผมตามธรรมเนียม ผมก็ยังไม่ทันพูดอะไร เขาก็บอกว่า “ไปกันเลยครับหม่อม”
“ขับรถมาทั้งคืนเลยเหรอครับเนี่ย”  ผมถามแทนการทักตามปกติ
“ครับ ขับบ้างพักบ้าง ได้ยินหม่อมแล้วผมก็ใจร้อน กลัวหม่อมจะเข้าใจผมผิดๆ วางโทรศัพท์แล้วก็ขับรถออกมาจากบ้านเลย”
“เหนื่อยแย่ พักกินอะไรเสียก่อนไหม” ผมมองดูฟ้า ขณะนั้นฝนที่เมื่อคืนลงหนักปานฟ้ารั่วเพิ่งจะขาดเม็ด นี่มันจะเทลงมาอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้ ผมไม่อยากเปียกอยู่กลางทะเล
“ไม่ละครับ ผมไม่หิว อยากรีบไปรีบกลับให้มันเสร็จๆ ผมมีธุระสำคัญ เสร็จจากนี่แล้วก็ต้องขับรถกลับกรุงเทพเลย”
“ โอ้โห ขอบคุณนะที่มา”

แต่อากาศหลังฝนตกก็แจ่มใส คลื่นลมสงบ เรือหัวโทงวิ่งฉิวไปบนผิวน้ำที่ราบเรียบ ดูเหมือนว่าไม่มีใครจะชื่นชมธรรมชาติอันสวยงามกับอากาศแสนบริสุทธิ์กันเลย เมื่อเรือเสียบหัวบนหาดถ้ำพระนางนั้น นายหัวคณิตเป็นคนแรกที่โจนลงจากเรือ แล้วเดินหายเข้าไปในช่องทางเดินระหว่างพุ่มไม้ชายหาดโดยไม่รอใคร
ต้องเข้าใจนะครับ ในพ.ศ.นั้น เช้าๆจะหาผู้คนบนหาดไม่เจอทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น ผมกำชับคนเรืออีกทีให้เขารออยู่ที่นั่น เรือลำนี้เราต้องไปนัดหมายเขาไว้ล่วงหน้าเพราะไม่มีใครหากินกับนักท่องเที่ยวเป็นงานประจำ อาชีพหลักของคนเรือคือประมง เราต้องว่าจ้างเขาเป็นพิเศษเพื่อให้เขางดจับปลาในวันนั้นมาให้บริการเรา จากนั้นผมก็เดินตามเขาไปอย่างไม่รีบเร่ง
 
นายหัวคณิตกำลังด่าว่าอย่างเกรี้ยวกราด โดยทั้งสองผัวเมียนั่งก้มหน้านิ่งอยู่บนแคร่ตัวเดิม ดูเหมือนการมาของเราจะขัดจังหวะอาหารเช้าของทั้งคู่ เพราะกำลังหุงข้าวไว้บนเตาฟืนควันโขมงอยู่ตรงนั้น ยังไม่ได้ยกลง
“เอาเป็นว่า มึงจะไปหรือไม่ไป” พอผมเดินเข้าไปใกล้ ก็ได้ยินเสียงเขาก็คุกคามนายเอี๊ยดแบบรุกฆาต
“ไปได้อย่างไง เงินหมดแล้ว” นายเอี๊ยดกล่าวตอบเสียงอ่อยๆ
“ไอ้ฮ่า” เขาฮึดฮัด มองซ้ายมองขวา แล้วหันไปถีบหม้อข้าวกระเด็นลงจากเตา
สองผัวเมียมิได้สะทกสะท้านต่อการกระทำอันหยาบคาย ได้แต่มองตามด้วยอาการปลงตกและสงบนิ่ง ทำให้นายหัวคณิตฮึดฮัดยิ่งขึ้นไปใหญ่
“เดี๋ยวกูยิงแม่งซะเลย” เขาไพล่มือไปใต้ชายเสื้อด้านหลัง แต่ไม่ชักออกมาสักทีจนผมปราดเข้าไปถึงแล้วจับต้นแขนข้างนั้นไว้ “ใจเย็นๆนะคุณคณิต มันไม่คุ้มกัน”
“ผมรู้ครับหม่อม แต่ผมต้องสั่งสอนไอ้นี่บ้าง” เขาจ้องที่สองผัวเมียตาถลน
ยืนมองซ้ายมองขวาบนๆล่างๆอยู่แป๊บนึง เขาก็เดินไปที่เตาแล้วหยิบฟืนที่ยังติดไฟขึ้นมาดุ้นหนึ่ง ถอยหลัง แล้วไปปามันขึ้นบนหลังคามุงแฝกทันที
“เอ้า มึงจะดื้ออยู่จะทำบังกะโลฮ่านี่ก็แล้วไป กูก็จะเผาให้สิ้นทราก”
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 21 22 [23] 24 25 ... 37
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.105 วินาที กับ 20 คำสั่ง