เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 14 15 [16] 17 18 ... 37
  พิมพ์  
อ่าน: 106434 ใครอยากรู้จัก NAVARAT.C เชิญที่กระทู้นี้
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 225  เมื่อ 05 พ.ย. 15, 16:10

มีผู้มีอิทธิพล แบบว่า เส้นใหญ่ใส่ทุกอย่าง เยอะๆ อร่อยๆ สะอาดๆ เร็วๆ และถูกๆ สั่งผมมาทางหลังไมค์ว่า ถึงข่าววอแล้วก็ยังไม่อยากกลับบ้าน ให้ผมเปิดหน้า ๑๖ ต่อ บัดเดี๋ยวนี้

ใครหนอ ใหญ่กว่าอาจารย์ใหญ่  สั่งอาจารย์ใหญ่กว่าได้
ยังงี้รมว.มาเองชัดๆ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 226  เมื่อ 05 พ.ย. 15, 16:12

เรื่องราวตั้งแต่ผมไปบุกเบิกก่อร่างสร้างตนทำกิจการโรงแรม ตั้งแต่เป็นบังกะโลกระต๊อบจนถึงโรงแรมห้าดาวนั้น ถ้าจะเล่าเป็นเรื่องยาวก็อาจจะไม่สนุกเท่าเล่าเป็นเรื่องสั้นเป็นตอนๆไป เหมือนเรื่องสั้นคลาสสิกชุด “เหมืองแร่” ที่บรมครู อาจินต์ ปัญจพรรค์ สร้างสรรไว้ตั้งแต่ผมยังนุ่งกางเกงขาสั้นเรียนหนังสือ

หากคุณนวรัตนจะเขียนเป็นเรื่องสั้นทำนองเดียวกับบรมครูอาจินต์ ปัญจพรรค์ก็คิดว่าน่าสนใจมาก เสนอว่าขึ้นกระทู้ใหม่ไปเลย  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 227  เมื่อ 05 พ.ย. 15, 16:14

มีผู้มีอิทธิพล แบบว่า เส้นใหญ่ใส่ทุกอย่าง เยอะๆ อร่อยๆ สะอาดๆ เร็วๆ และถูกๆ สั่งผมมาทางหลังไมค์ว่า ถึงข่าววอแล้วก็ยังไม่อยากกลับบ้าน ให้ผมเปิดหน้า ๑๖ ต่อ บัดเดี๋ยวนี้

ใครหนอ ใหญ่กว่าอาจารย์ใหญ่  สั่งอาจารย์ใหญ่กว่าได้
ยังงี้รมว.มาเองชัดๆ
เมื่อกี้สั่งมาอีกให้ ด่วนๆ
บอกว่าลืมรหัสสมาชิก เลยเข้ามาสั่งตรงๆไม่ได้
บันทึกการเข้า
sirinawadee
ชมพูพาน
***
ตอบ: 101


ความคิดเห็นที่ 228  เมื่อ 05 พ.ย. 15, 16:16

ลุคหล่อแกมซนก็หมายถึงคุณนวรัตน์สิคะ ตามอ่านมาตั้งหลายปี ได้เห็นตัวจริงแล้ว เย้

กระทู้อ่านสนุกมากค่ะ ได้อารมณ์เข้มข้นเหมือนอ่านเหมืองแร่ แต่น่ารักเบาๆ แบบคุณวิลาส มณีวัต
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 229  เมื่อ 05 พ.ย. 15, 16:17

แฟนๆมารอกันพอสมควรแล้วมั๊ง
ต่อครับ ต่อ

เรื่องราวตั้งแต่ผมไปบุกเบิกก่อร่างสร้างตนทำกิจการโรงแรม ตั้งแต่เป็นบังกะโลกระต๊อบจนถึงโรงแรมห้าดาวนั้น ถ้าจะเล่าเป็นเรื่องยาวก็อาจจะไม่สนุกเท่าเล่าเป็นเรื่องสั้นเป็นตอนๆไป เหมือนเรื่องสั้นคลาสสิกชุด “เหมืองแร่” ที่บรมครู อาจินต์ ปัญจพรรค์ สร้างสรรไว้ตั้งแต่ผมยังนุ่งกางเกงขาสั้นเรียนหนังสือ

เอาเถิด วันหนึ่งผมอาจจะมีอารมณ์ที่จะเขียนอย่างนั้นบ้าง หากมีสำนักพิมพ์ไหนยินดีจะตีพิมพ์

เราข้ามเรื่องราวไปถึงตอนจบความสัมพันธ์ระหว่างผมกับพระนางก่อนก็ได้
คุณเพ็ญก็ไม่โค้ดมาให้จบถ้อยกระทงความ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 230  เมื่อ 05 พ.ย. 15, 16:20

ลุคหล่อแกมซนก็หมายถึงคุณนวรัตน์สิคะ ตามอ่านมาตั้งหลายปี ได้เห็นตัวจริงแล้ว เย้

กระทู้อ่านสนุกมากค่ะ ได้อารมณ์เข้มข้นเหมือนอ่านเหมืองแร่ แต่น่ารักเบาๆ แบบคุณวิลาส มณีวัต

ลุคหล่อแกมซนผมเนี่ยะนะ เอ้อเฮอ เพิ่งจะรู้จักคำนี้

เอารูปลุคจอมซนขนฟูมาแถม


บันทึกการเข้า
ศุศศิ
อสุรผัด
*
ตอบ: 32


ความคิดเห็นที่ 231  เมื่อ 05 พ.ย. 15, 17:05

เขียน สารคดี ประวัติศาสตร์ มาก็เยอะแล้ว ท่านอาจารย์ NAVARAT.C ลองเขียนนวนิยายสักเรื่องก็ดีนะครับ
ผมชูจั๊กกะแร้เชียร์  พล็อตประมาณ สถาปนิกหนุ่มเมืองกรุง อกหักรักคุด หนีมาทางใต้ บากบั่นสร้างเนื้อตัวจากพื้นที่รกร้างให้เป็น
รร ห้าดาว  ระหว่างสร้างตัวก็เจออุปสรรค ทั้งเจ้าพ่อ NGO แถมแนวลึกลับ อาถรรพ์ของพื้นที่  หรือ นางผู้มีความผูกพันแต่ชาติปางก่อน
รอคอยการกลับมาของชายคนรัก  หูยยิ่งคิดยิ่งบรรเจิด
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 232  เมื่อ 05 พ.ย. 15, 17:31

ผมเป็นคนที่ไม่มีวาสนาในเรื่องการเขียนนวนิยาย แต่เอาเรื่องจริงมาเล่าแบบนิทานน่ะพอได้ จะลองเขียนแบบเรื่องสั้นให้ลองอ่านดู

    “ควายเอ๋ย อุตส่าห์ชื่อบุญรอด”

เมื่อผมชำระเงินค่าสวนมะพร้าวที่ไร่เลไปแล้ว เจ้าของที่และครอบครัวก็พร้อมที่จะออกจากกระต๊อบไปมีชีวิตใหม่บนแผ่นดินใหญ่ฝั่งถนน เมื่อผมเดินไปเยี่ยมในขณะที่เขารื้อกระต๊อบ เลือกคัดเอาแต่ไม้ที่ยังใช้การได้ ใส่รถเลื่อนแบบขาสกี จะให้ควายน้อยลากไปลงเรือที่จอดรออยู่ ผมยืนดูอยู่สักพักนึงก็ถามเขาว่า แล้วควายตัวนี้จะเอาไปด้วยหรือเปล่า เขาบอกว่าไม่เอาไปหรอก เสร็จงานแล้วจะเชือดฉลองกัน

ผมเห็นหน้าเห็นตามันแล้วก็สงสารจับใจ นี่เขาใช้มันขนลูกมะพร้าว ยันขนบ้านเสร็จสรรพจนนาทีสุดท้ายแล้ว ยังจะโดนเชือดเนื้อเถือหนังเอาเป็นอาหารได้ไม่กี่อิ่มอีก ผมเลยบอกว่าขายให้ผมเถอะ บังจะเอาเท่าไหร่ เขาย้อนถามว่าแล้วหม่อมจะเอามันไปทำไม ผมว่าไม่ทำอะไรหรอกจะเลี้ยงมันไว้ให้ฝรั่งดู เขาเลยบอกว่าดีแล้ว สงสารมันอยู่เหมือนกันแต่เอาไปด้วยไม่ได้ เอางี้ หม่อมให้ผมแปดพันบาทก็แล้วกัน

ผมไม่ทราบหรอกครับว่าราคาสำหรับควายรุ่นๆ ตัวยังไม่โตเต็มที่ๆเขาว่ามาน่ะถูกหรือแพง แต่เงิน ๘๐๐๐ สมัยโน้นก็ไม่น้อย ต้องต๊ะเขาไว้ก่อน บอกว่าเดี๋ยวเข้าเมืองไปเบิกมาแล้วจะเอามาให้
ผมตั้งชื่อมันว่า “บุญรอด” ดีนะเจ้าควายน้อยเอ๋ยที่ข้าเดินมารู้มาเห็นเข้า ไม่งั้นเอ็งก็เป็นศพไม่มีทรากไปแล้ว

ลูกน้องผมที่เอามาทำงานด้วยกันเกือบทั้งหมดเป็นคนสระแก้ว อยู่หมู่บ้านเดียวกับบิ๊กหมง ล.ส.ของผม บิ๊กหมงนี่เหมือนกัน ก่อนหน้านี้ก็เป็นลิตเติ้ลหมงมาก่อน ผอมกระโล้กโก๊กพี่ชายพามาจากบ้านนอก ทำงานที่เดียวกันได้พักหนึ่งเถ้าแก่บอกไอ้นี่ไม่เอา เลยมาของานทำเป็นคนสวนที่บ้านของผม เลยเลี้ยงดูกันมาจนเป็นบิ๊ก ชื่อจริงคือนายมงคล เรื่องของบิ๊กหมงสามารถนำมาเล่าได้หลายตอนอยู่

คนสระแก้วคุ้นกับควายดี ผมก็มอบหมายให้ด.ช.ภุชงค์ อายุรุ่นราวคราวเดียวกับลูกชายผม เรียนจบการศึกษาภาคบังคับมาหมาดๆแล้วตามญาติๆที่บิ๊กหมงไปกวาดต้อน มาทำงานบังกะโลพระนางเพลสกับเขาด้วยเพื่อหาประสบการณ์ ซึ่งผมก็ได้ใช้ประสบการณ์เก่าของเด็กภุชงค์นี้ ให้เป็นผู้ดูแลเลี้ยงดูเจ้าบุญรอด เอาไปผูกให้กินหญ้า ได้เวลาก็พาไปลงน้ำทะเลแถวอ่าวน้ำเมาที่คนเขาไม่ไปเล่นกัน แต่ควายมีความสุขมาก

เจ้าบุญรอดไม่มีหน้าที่อะไร นอกจากเป็นนายแบบให้ฝรั่งถ่ายรูป ไม่ต้องโพสต์ไม่ต้องเต๊ะท่าให้เมื่อย จนมันทำท่าจะเป็นคุณหนูขึ้นทุกที  
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 233  เมื่อ 05 พ.ย. 15, 17:32

เป็นไงครับ เริ่มต้นพอจะใช้ได้ไหม
บันทึกการเข้า
ประกอบ
สุครีพ
******
ตอบ: 1342


ความคิดเห็นที่ 234  เมื่อ 05 พ.ย. 15, 17:45

เริ่มต้นก็น่าสนใจติดตามแล้ว แต่ดูจากชื่อกลัวจะมีตอนจบเศร้านี่หนะสิครับ ถ้าแบบนั้นคนอ่อนไหวแบบผมรับไม่ได้ เดี๋ยวนี้บ่อน้ำตาตื้นสุดๆ อ่านได้แต่อะไรที่จบแบบ happy  ending ไม่ขยี้ใจเท่านั้น  ลังเล

เรือนไทยนี้มีท่านอาจารย์ใหญ่เป็นเจ้าเรือน  ถัดมายังมีท่านอาจารย์ใหญ่กว่า   ตอนนี้กำลังจะมีท่านอาจารย์ใหญ่สุดเพิ่มมาอีกท่าน  นี่ถ้ายังมีใหญ่กว่านี้อีกจะต้องเรียกกันยังไงนี่
บันทึกการเข้า

วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 235  เมื่อ 05 พ.ย. 15, 18:18

วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์เตรียมผ้าเช็ดตัวไว้สักสองผืนนะหนูนะ เดี๋ยวได้ใช้ซับน้ำตาผืนนึง ซับน้ำลายที่หกมาจากมุมปากตอนหัวเราะอีกผืนนึง เรื่องจบแบบบุญรอดได้แต่งงานกับบุญผกาตอนจบเนี่ย ไม่สะใจหนุ่มๆสาวๆเค้า ไม่งั้นโรมิโอกะจูเลียตจะเป็นวรรณกรรมอมตะหรือ

อ้างถึง
เรือนไทยนี้มีท่านอาจารย์ใหญ่เป็นเจ้าเรือน  ถัดมายังมีท่านอาจารย์ใหญ่กว่า   ตอนนี้กำลังจะมีท่านอาจารย์ใหญ่สุดเพิ่มมาอีกท่าน  นี่ถ้ายังมีใหญ่กว่านี้อีกจะต้องเรียกกันยังไงนี่

ก็เรียกท่านอาจารย์ใหญ่สุด ๒ เท่า มาอีกก็ ท่านอาจารย์ใหญ่สุด ๓ เท่า
อย่างงี้ก็มาได้อีกเป็นร้อย จะไปกลัวอะไร
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 236  เมื่อ 05 พ.ย. 15, 19:13

ปีเศษเท่านั้น เจ้าบุญรอดก็เปลี่ยนแปลงด้านกายภาพจากควายรุ่นกระทง มาเป็นควายหนุ่มตัวเบ่อเริ่ม เมื่อก่อนเด็กภุชงค์จะจูงมันไปผูกไว้ตามที่หญ้ายาวๆ แต่พักหลังนี้มันจากลากภุชงค์ไปยังที่ๆมันอยากไป บิ๊กหมงมารายงานผมว่า ควายตัวนี้มันไม่ได้ตอน หากปล่อยทิ้งไว้มันจะเปรียวนัก เดี๋ยวจะเอาไม่อยู่

เป็นอันว่าผมต้องเสียเงินเป็นพัน จ้างหมอตอนควายพื้นบ้านมาจัดการตอนเจ้าบุญรอด วันที่เขาเข้ามาดำเนินการเป็นช่วงที่ผมอยู่กรุงเทพ แต่ได้รับรายงานภายหลังว่าทุลักทุเลน่าดู เพราะมันไม่ร่วมมือแต่โดยดี กว่าจะจับมันล่าม มัดแข้งมัดขาให้มันล้มตัวลงนอน แล้วตรึงมันไว้ไม่ให้ดิ้น หลังจากนั้นก็ดึงกล่องดวงใจของมันออกมานอกขาหนีบ เอาเขียงสอดเข้าไป แล้วเอาค้อนไม้ตีตรงนั้นจนลูกอัณฑะของมันแตก ฟังดูแล้วพลอยหวาดเสียวท้องน้อยไปด้วย การตอนที่ว่าเป็นการทรมานทรกรรมเจ้าบุญรอดมาก เห็นว่ามันร้องดังสั่นสนั่นหวั่นไหวจนฝรั่งตกอกตกใจ ผมว่าอย่าว่าแต่ควายเลย คนโดนอย่างนั้นเข้าบ้างคงร้องดังไม่แพ้กัน เผลอๆมีด่าหยาบๆตามไปเสียด้วย

หมอว่า ถ้าบุญรอดมันถูกทุบตั้งแต่วัยเด็ก มันจะไม่เจ็บขนาดนี้

มันทำท่าหงอยไปหลายเดือน จะไม่หงอยได้อย่างไร เดินยังน้ำตาเล็ดไม่อยากจะเดิน กว่าแผลจะหายสนิท
ครั้นหายเข้าที่เข้าทางดีแล้วไม่นาน เจ้าบุญรอดก็หายไป เด็กภุชงค์บอกว่ามันดึงจนเชือกสนตะพายขาด หลังจากเอามันไปผูกให้กินหญ้า

บรรยายศัพท์สนตะพายให้คนที่ไม่ทราบเข้าใจสักหน่อย ว่ากันว่าการสนตะพายวัวควายไว้ใช้งานนี่ เป็นภูมิปัญญาของคนอุษาคเนย์ คือหมอควายเขาจะเอาสิ่งมีคมมาเจาะหนังที่คั่นระหว่างรูจมูกทั้งสองของวัวควายตั้งแต่พวกมันยังเล็ก แล้วเอาเชือกร้อยไว้ เวลาจะจูงไปไหนมันจะได้เดินตามไปโดยดี เพราะไม่งั้นมันจะเจ็บรูสนตะพาย

เคยดูข่าวทีวีที่ทหารไทยไปช่วยติมอร์ตะวันตกตอนที่แยกประเทศจากอินโดนีเซียใหม่ๆ ก็ไปสอนให้ชาวนาที่นั่นรู้จักการไถนาด้วยควาย ซึ่งเขาเลี้ยงไว้กินเท่านั้น ใช้งานมันไม่เป็นเพราะไม่รู้จักการสนตะพาย หลังจากทหารไทยไปสอนให้แล้วจึงรู้สึกประทับใจกับภูมิรู้ของคนไทยมาก

แต่เจ้าบุญรอดนี่ จมูกมันด้าน สามารถดึงจนเชือกขนาดนิ้วก้อยขาดได้ หรือเด็กภุชงค์จะผูกมันไม่ดีก็ไม่รู้ ผมขี้เกียจพิสูจน์หลักฐาน

พื่นที่แหลมพระนางถึงไม่ใช่เกาะก็เหมือนเกาะ เจ้าบุญรอดมันจะไปไหนเสีย ผมก็ให้อ๊อดพาคนงานที่ว่างๆไปช่วยกันตามหาตัวกลับมา สักพักใหญ่ๆก็เห็นจูงมันกลับมาแล้ว แต่อ๊อด หัวหน้าที่นำคณะไปบอกว่า มันไปกินไม้กระถางของบังกะโลข้างเคียงหมด เขาฝากค่าเสียหายมาด้วย ผมดูแล้วเอ้อเฮอ หลายพันเชียวนะแก
บันทึกการเข้า
Koratian
พาลี
****
ตอบ: 329


ความคิดเห็นที่ 237  เมื่อ 05 พ.ย. 15, 19:14

คุณศรีสรรเพชญ์และคุณคนโคราช จะไม่ตอบข้อสงสัยของผมบ้างหรือครับ เป็นเทวีปางใด ขององค์ใด

ตรงนี้ไม่ทราบจริงๆครับ
อย่างไรก็ตามถ้าเป็นศิลปะโรมันจริง คนที่นำเข้ามาไม่จำเป็นต้องเป็นโรมันครับ
น่าจะเป็นพ่อค้า อาหรับ หรืออินเดียมากกว่า
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 238  เมื่อ 05 พ.ย. 15, 19:21

ผมเกรงว่าจะเป็นกรีกโรมันแปลงในอินเดียนะซีครับ ในย่านนี้มีแต่คนอินเดียเท่านั้นที่เข้ามาเผยแพร่วัฒนธรรม
เหรียญที่ผมว่าน่าจะเป็นเทวีองค์หนึ่ง กับเทวลึงค์ของศาสนาอะไรสักศาสนา ที่ไม่ใช่พุทธ และอาจจะไม่ใช่พราหมณ์ด้วยซ้ำ
บันทึกการเข้า
Koratian
พาลี
****
ตอบ: 329


ความคิดเห็นที่ 239  เมื่อ 05 พ.ย. 15, 19:45


ขออภัยที่ขัดจังหวะครับ เจ้าบุญรอด ยาวต่อไปเลยครับ
สมัยนั้น ควายบนฝั่งไกลทะเล แปดพันถือว่าแพงครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 14 15 [16] 17 18 ... 37
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.068 วินาที กับ 20 คำสั่ง