naitang
|
ความคิดเห็นที่ 330 เมื่อ 01 ธ.ค. 15, 19:27
|
|
ก็มีสัตว์อีกสองชนิดที่มีเนื้อคล้ายเนื้อลูกหมู เป็นสัตว์ฟันแทะ และก็เป็นที่นิยมของชาวบ้านเช่นกัน คือ ตุ่น กับ อ้น ครับ
ทั้งตุ่นและอ้นใช้ชีวิตอยู่ใต้ดิน ขุดอุโมงค์เดินไปรอบๆแหล่งอาหาร ซึ่งก็ได้แก่ พวกรากไม้ทั้งหลาย โดยเฉพาะรากของต้นไผ่ที่อยู่กันเป็นกอใหญ่ๆ ตุ่นและอ้นมีลักษณะตัวเหมือนกัน ตุ่นจะมีตัวเล็กกว่าอ้น ตุ่นตัวใหญ่ๆนั้นมีขนาดประมาณกำมือ แต่ส่วนมากตัวจะประมาณข้อมือ ส่วนตัวอ้นนั้นมีขนาดประมาณแมวหง่าว อ้นนิยมจะทำมาหากินอยู่ตามตลิ่งห้วยที่มีกอไผ่ขึ้น ในขณะที่ตุ่นนิยมอยู่ลึกเข้าไปจากห้วยในดงไผ่ที่มีดินชื้น เช่นดงไผ่บง ดงไผ่ผาก ส่วนดงไผ่หนามที่เป็นป่าชัฎนั้น ไม่เป็นที่นิยม
สัตว์ทั้งสองชนิดนี้แม้ว่าจะพบได้ตลอดลำห้วยขาแข้ง แต่ที่พบมากจริงๆก็อยู่ในห้วยขาแข้งตอนล่าง เพราะเป็นพื้นที่ๆดินที่มีต้นกำเนิดมาจากหินปูน ทำให้ได้ดินเนื้อละเอียดและเนื้อร่วน ขุดอุโมงค์และทำรังได้ง่าย แถมพืชมีหัวมีรากอ่อนที่แสนอร่อยก็จะขึ้นอยู่มากในพื้นที่ลักษณะนี้ กล่าวได้ว่าเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ของพวกมัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 331 เมื่อ 01 ธ.ค. 15, 20:06
|
|
มันอยู่ในอุโมงค์ใต้ดินแล้วเราจะจับมันได้อย่างไรครับ ?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 332 เมื่อ 02 ธ.ค. 15, 18:11
|
|
มีอยู่ 2 วิธี คือ วิธีแรก เอาจอบและเสียมขุดไปตามโพรงทางเดินของมันจนกระทั่งพบตัว ซึ่งใช้สำหรับตัวอ้น ส่วนสำหรับตัวตุ่น จะใช้วิธีขุดเปิดปากทางให้กว้างเป็นหลุม แล้วก็ไปตักน้ำมาเทใส่ให้ท่วม เพื่อไล่ให้ตัวตุ่นโผล่ออกมา
ครับ..เดินเข้าป่าเข้าดง หากเห็นหลุมขุดอยู่ตามริมตลิ่งห้วย อันนั้นเป็นหลุมจับตัวอ้น แต่หากเห็นหลุมอยู่ในละแวกกอไผ่ อันนั้นเป็นหลุมจับตัวตุ่นครับ
ที่เล่ามาก็คงพอจะทำให้เห็นภาพได้บ้างนะครับ ว่าเนื้อของมันคงจะต้องกินอร่อย มิฉะนั้นก็งคงจะไม่อยากจะลงแรงให้เหนื่อยขนาดนั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 333 เมื่อ 02 ธ.ค. 15, 18:47
|
|
ไม่เคยเห็นทั้งตุ่นและอ้น ไปถามอาจารย์กู๊กดู ได้ภาพมาตามนี้ค่ะ เห็นแล้วคงกินไม่ลง หน้าตามันเหมือนหนูตะเภา ขนฟูๆด้วย น่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงมากกว่าสัตว์ป่านะคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 334 เมื่อ 02 ธ.ค. 15, 18:52
|
|
วิธีที่สอง ใช้วิธีล่อ วิธีนี้ออกแรงน้อยมาก เป็นวิธีที่ไม่ค่อยจะมีคนที่รู้ อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นก็ได้
ด้วยเขารู้ว่าอ้นและตุ่นเป็นสัตว์ที่มีเขตอาณาและหวงเขตอาณาในระดับหนึ่งอยู่พอสมควร รู้ว่ามันนิยมบริโภครากไม้ โดยเฉพาะเหง้าไผ่อ่อนๆที่อยู่ใต้ดิน
อุปกรณ์สำคัญที่ต้องมีคือ มีดที่สามารถล้มต้นไผ่ได้เพียงเล่มเดียว ครับ..เลือกต้นไผ่ที่ยังไม่แก่ (ไผ่แก่จะมีเนื้อในสีออกไปทางสีส้ม) ที่มีลำต้นโตขนาดประมาณแขนของเรา และที่มีปล้องแต่ละปล้องยาวประมาณ 30 ซม. ตัดเอามา 1 ปล้อง เปิดปลายด้านหนึ่งไว้คล้ายจะทำเป็นกระบอกเผาข้าวหลาม เอามีดบั้งผิวของปล้องที่ตัดมานั้น ให้มีลักษณะคล้ายฟันเฟือง แล้วก็ไปหาไม้มาเหลาให้เป็นทรงตะเกียบ
เอาปลายด้านเปิดของกระบอกไม้ไผ่จิ้มลงตรงจุดที่ดินเป็นขุย (ดินที่มันขุดออกมาจากรูทางเดินของมัน) ซึ่งก็คือปากรูของมัน จากนั้นก็เอาไม้ตะเกียบค่อยๆครูดลงไปบนร่องที่บากไว้นั้น ความเร็วในการครูดก็เดาเอาครับ ก็พอๆกับเสียงแทะกรอดๆที่หนูหรือกะรอกแทะไม้
ครับ..เรากำลังทำการส่งเสียงให้ตุ้นที่อยู่ในโพรงได้รับรู้เสมือนหนึ่งว่า กำลังมีอีกตัวหนึ่งเข้ามาหากินอยู่ในพื้นที่ของมัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 335 เมื่อ 02 ธ.ค. 15, 19:16
|
|
ทั้งตุ่นและอ้นเป็นสัตว์ที่ดูน่ารักครับ ตัวอ้นนั้นค่อนข้างดุ ผมไม่เคยเห็นมีคนเอามาเลี้ยง แต่ตัวตุ่นนั้น แม้ในระยะแรกๆที่จับมันได้จะขู่ฟอดๆและกัดเหมือนกัน แต่สักพักก็จะยอมและเชื่องขึ้น จึงมีคนเอามาเลี้ยงกัน ขนนุ่ม น่ารักมาก โดยเฉพาะพุง (ท้อง) ของเขานั้นจะเปล่งใส เห็นผิวหนังเป็นมันเลยทีเดียว
สัตว์ทั้งสองชนิดนี้ (ที่จริงก็แทบจะทุกชนิดเลยก็ว่าได้) ชอบเกาท้อง ดังนั้น หากเราได้ลูบท้องมัน สักพักเดียวก็กลายเป็นมิตรครับ
สำหรับตัวอ้นนั้น ผมไม่รู้ว่ามันนิยมอยู่ตัวคนเดียวหรืออยู่กันเป็นครอบครัว มีลูกเด็กเล็กแดง ?? เท่าที่เคยเห็นมาดูจะเป็นลักษณะของการอยู่เดี่ยวเสียมากกว่า ต่างกับตุ่นที่มีโพรงอยู่กันเป็นครอบครัว ซึ่งอาจจะเป็นเพราะเหตุนี้ก็ได้ เราจึงได้พบเห็นการนำลูกตุ่นมาขายในตลาด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 336 เมื่อ 02 ธ.ค. 15, 20:08
|
|
เสียงแกรกๆที่เราทำขึ้นนั้น จะคล้ายกับเสียงในขณะที่มันกำลังแทะรากไม้ มันก็จะรีบเดินมายังจุดที่มีเสียง เราก็ใจเย็นๆไว้ ส่งเสียงล่อมันไปเรื่อยๆ ต้องใช้เวลาหน่อย เพราะว่ารูของมันมีความยาวและคดเคี้ยวไปมามาก (ตามสำนวนที่ว่า ...ยังกับรูตุ่น)
พอมันขึ้นมาถึงปากรูและเริ่มดันดิน เราก็จะรู้สึก กะระยะให้ดี แล้วก็ใช้มีดปักลงไปตามทิศทางของรู ซึ่งจะมีโอกาสทั้งถูกตัวมันหรือปิดรูมัน ในกรณีปิดรู มันถอยไม่ได้ มันก็จะต้องโผล่ออกมาจากรู จับมันไม่ได้นะครับ มันกัดเอา แผลจะเป็นอย่างไรก็คงจะประเมินได้จากฟันเหยินของมันในรูปใน ค.ห.ของ อ.เทาชมพูนะครับ ไม่ยากเลย ชาวบ้านเขาเอามีดนั่นแหละครับตบไปที่หน้าของมัน ฟันมันก็จะหัก เลือดกลบปากเล็กน้อย คราวนี้ก็จับตัวได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 337 เมื่อ 03 ธ.ค. 15, 18:58
|
|
จับตัวได้แล้ว จะเอามาเลี้ยงก็ได้นะครับ อีกไม่กี่วันฟันมันก็จะงอกออกมาเท่าของเดิม
ครั้งหนึ่งเดินทำงานอยู่ในบริเวณที่กำลังมีการบุกเบิกเส้นทางทำถนน ซึ่งมีการใช้รถแทรกเตอร์ล้มกอไผ่ทั้งกอ พอกอไผ่เอน รากถูกงัดโผล่ขึ้นมาเหนือผิวดิน ก็เห้นคนขับรถแทรกเตอร์หยุดรถ ส่งเสียงตะโกน แล้วก็กระโดดลงรถ คว้าไม้ได้ท่อนหนึ่งแล้วตี ทีแรกผมก็นึกว่าเป็นงู ไม่ใช่ครับ เป็นตัวอ้นตัวใหญ่เชียว ผมก็เดินทำงานต่อไป อีกสองสาม ชม.ก็เดินกลับมาผ่านจุดนั้นอีก ได้เห็นอ้นตัวนั้นถูกเอาเชือกผูกขาหลังข้างหนึ่งแล้วห้อยไว้กับเสาไม้ไผ่ ผมเข้าไปดู เห็นเท้าของมันบวม เห็นแล้วก็สงสาร นึกในใจว่าจะขอซื้อเขาเอาไปปล่อย เขาก็คงจะไม่ขาย เพราะมันคืออาหารเย็นอันโอชะ ผมก็เลยใช้ขอเขาให้ปล่อยมันลงแล้วผูกไว้บนพื้นดินแทน เขาตกลง ผมก็ดำเนินการ อย่างน้อยก็ลดการทรมาณลงไปได้มากนะครับ ตัวอ้นมันก็ดุตามประสาของมัน ส่งเสียงขู่ฟ่อๆอยู่ไม่กี่ครั้งก็หยุด เนื่องจากฟันของมันหักไปแล้ว ผมก็เลยกล้าลูบตัวมัน แล้วก็เกาเบาๆที่ข้างตัวใกล้ๆท้องของมัน พักเดียวแหละครับ มันก็สงบ นิ่ง ไม่กระวนกระวาย ช่วยอ้นตัวนั้นให้รู้สึกผ่อนคลายสบายๆตัวอยู่พักใหญ่ๆ ผมก็ต้องไป ใจของผมมันหดหู่มากเลยครับที่ช่วยให้เขามีชิวิตไม่ได้ตลอด ภาพนั้นฝังอยู่ในใจของผมอยู่จนในทุกวันนี้ ภาพที่ อ.เทาชมพู เอามาลงนั้น ท่านทั้งหลายคงจะได้เห็นความน่ารักน่าเอ็นดูของมันนะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 338 เมื่อ 03 ธ.ค. 15, 19:20
|
|
ผมเคยเลี้ยงลูกตัวตุ่นอยู่ครั้งหนึ่ง ได้มาด้วยการขอมาจากชาวบ้าน เลี้ยงไว้ในกล่องกระดาษ พอมันแข็งแรงดี มันก็เริ่มไม่อยู่นิ่ง กัดกล่องทะลุ เดินไปแอบซ่อนที่ต่างๆ มันก็เชื่องดีมากๆ ขนนิ่มยังกับปุยฝ้าย ยอมนอนหงายนิ่งให้ลูบท้อง เป่าท้องเล่น พอได้เวลาเข้าป่าทำงาน ได้ที่เหมาะๆผมก็ปล่อยเขาไป
ก็ขอให้ระวังกันด้วยนะครับ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเกือบทุกชนิด (ทุกชนิด ??) สามารถติดเชื้อโรคกลัวน้ำได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Anna
|
ความคิดเห็นที่ 339 เมื่อ 03 ธ.ค. 15, 19:51
|
|
ผมเคยเลี้ยงลูกตัวตุ่นอยู่ครั้งหนึ่ง ได้มาด้วยการขอมาจากชาวบ้าน เลี้ยงไว้ในกล่องกระดาษ พอมันแข็งแรงดี มันก็เริ่มไม่อยู่นิ่ง กัดกล่องทะลุ เดินไปแอบซ่อนที่ต่างๆ มันก็เชื่องดีมากๆ ขนนิ่มยังกับปุยฝ้าย ยอมนอนหงายนิ่งให้ลูบท้อง เป่าท้องเล่น พอได้เวลาเข้าป่าทำงาน ได้ที่เหมาะๆผมก็ปล่อยเขาไป
ก็ขอให้ระวังกันด้วยนะครับ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเกือบทุกชนิด (ทุกชนิด ??) สามารถติดเชื้อโรคกลัวน้ำได้
ขออนุโทนาบุญกับอาจารย์ย้อนหลังค่ะ เคยเห็นคนเอาสัตว์ป่ามาเลี้ยง ซึ่งเป็นการฝืนธรรมชาติและทรมานมันมาก ดูก็รู้ว่ามันไม่มีความสุข คนที่เอามันมาเลี้ยงก็ว่าตัวเค้าเป็นคนรักสัตว์ แต่จริงๆแล้ว เค้ารักตัวเองมากกว่า เอาสัตว์ป่ามาเลี้ยงก็แค่สนองความอยากของตัวเองเท่านั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 340 เมื่อ 03 ธ.ค. 15, 20:19
|
|
สัตว์ฟันแทะที่หากินอยู่ใต้ดินหรือตามโคนต้นไม้ เท่าที่ผมพบเห็นมาก็มีดังที่ได้เล่ามา
สำหรับสัตว์ฟันแทะอื่นๆในห้วยขาแข้งที่มีก็ไม่ต่างไปจากป่าอื่นๆ ก็มี กะรอก กะรอกบิน (ที่มักเรียกกันว่าบ่าง) กระแต บ่างใหญ่ และพญากะรอกดำ (แล้วก็น่าจะต้องมีหนูด้วย แต่ผมไม่เคยเห็นตัวมันสักครั้ง) ที่ห้วยขาแข้งจะมีต่างออกไป ก็คือ ดูจะมีประชากรของ บ่างใหญ่ และพญากะรอกดำค่อนข้างจะมากกว่าที่มีอยู่ในป่าแห่งอื่นๆ
กะรอก หากินในตอนกลางวัน จึงเห็นตัวมันได้บ่อยมาก กะรอกบิน หากินในตอนกลางคืน ผมไม่มีโอกาสได้เห็นตัวมันในป่าเลยสักครั้ง กระแต หากินในตอนกลางวัน จับแมลงกินตามพื้นดินว่องไวมาก ผมไม่พบตัวมันมากนัก ก็อาจจะเป็นเพราะเราเดินเสียงดัง มันเลยเดินหลบไป บ่างใหญ่ หากินในเวลากลางคืน ผมก็ไม่เคยเห็นตัวมันในป่าเช่นกัน เคยแต่ได้ยินเสียงร้องที่โหยหวนยังกะคนเจ็บใกล้ตาย สยิวดีครับ พญากะรอกดำ หากินในตอนกลางวัน ตัวนี้เห็นค่อนข้างบ่อย ก็อาจจะเป็นเพราะตัวมันใหญ่ สีดำ เลยสังเกตเห็นได้ง่าย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 341 เมื่อ 03 ธ.ค. 15, 21:08
|
|
ผมชอบไปเดินตลาดเช้าของท้องถิ่นที่มีชาวบ้านเอาของมาขาย พูดคุยกับแม่ค้าชาวบ้าน โดยเฉพาะกับแม่ค้าพ่อค้าที่สูงวัย ได้ความรู้เกี่ยวกับวิถีและปรัชญาในการดำรงชีวิต ภูมิปัญญาท้องถิ่น หลักนิยมหรือหลักคิดในเชิงรุกและเชิงรับ ฯลฯ
ในตลาดลักษณะนี้ เราจะเห็นว่ามีการจับสัตว์เป็นๆมาขาย ซึ่งผมมักจะเข้าไปสนทนาด้วยในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะการจับได้มาอย่างไร หากสัตว์ที่นำมาขายมีเพียงตัวเดียวหรือสองตัว ราคาไม่สูงเกินไป ผมก็จะซื้อ เอาใส่รถไปตามเส้นทางทำงาน พบที่ใหนเหมาะสมกับเขา ผมก็จะปล่อยเขาคืนสู่ธรรมชาติ บางครั้งก็เลือกซื้อเฉพาะตัวที่มีลักษณะจำเพาะที่น่าจะเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่ดี ก็มีอาทิ นกกระทาดง นกคุ่ม นกกวัก ปลาแค้ (ฉลามน้ำจืดของผม) ปลาเค้า เต่าดำ เต่าหก แย้ เป็นต้น
มีวิถีชีวิตแบบเข้าป่า เข้าดง กินอยู่ หลับนอนไม่ต่างไปจากชาวบ้านมากนัก ก็หนีไม่พ้นที่จะต้องมีการกระทำที่เป็นบาปเมื่ออยู่ในภาวะที่จำเป็น ดังนั้น เมื่อโอกาสเปิดพอที่จะทำบุญได้บ้าง ก็คงเป็นเรื่องที่พึงจะคิดกระทำใช่ใหมครับ ไม่ต้องไปคิดว่าจะได้เอามาหักกลบลบหนี้กัน มันเป็นเรื่องคนละบัญชีกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 342 เมื่อ 03 ธ.ค. 15, 21:12
|
|
ผมจะต้องขออนุญาตพักกระทู้ไว้ที่ตรงนี้ จะไป ตจว. 1 สัปดาห์ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 343 เมื่อ 13 ธ.ค. 15, 18:13
|
|
กลับมาเข้าห้องแล้วครับ และก็จะต้องไปอีกครั้งหนึ่ง อีก 6 -7 วันในช่วงคริสมาส
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 344 เมื่อ 13 ธ.ค. 15, 18:26
|
|
มาปูเสื่อฟังต่อค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|