ปลากานิยมที่จะอยู่ในที่น้ำไหลเอื่อยๆและมีความลึก (ลึกประมาณ 1.50 ม.ขึ้นไป) มักจะพบว่ายไปมาในบริเวณที่มีร่มไม้ ซึ่งหากน้ำ ณ จุดนั้นค่อนข้างนิ่งจะนิ่งมาก เราก็อาจจะได้เห็นปลาแมลงภู่ (ปลาชะโดห้วย??) นอนลอยห้วอยู่นิ่งๆอีกด้วย
ปลาทั้งสองชนิดนี้ พบอยู่ในห้วยขาแข้งเฉพาะในพื้นที่ส่วนใกล้ปากห้วย เพราะเป็นบริเวณที่มีน้ำไหลและมีแอ่งน้ำตลอดปี แต่ผมไม่เคยเห็นชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวพยายามจะจับมากินกัน คิดว่าส่วนหนึ่งก็มาจากเครื่องมือที่ใช้ในการจับ สำหรับปลากา ต้องใช้ตาข่าย แต่ด้วยน้ำลึกก็น่ากลัวอยู่เหมือนกัน (กะเหรี่ยงเขาว่าตกต้นไม้ดีกว่าตกน้ำ เพราะตกต้นไม้ยังพอมีกิ่งไม้ให้ไขว่คว้าได้ แต่ตกน้ำนั้นไม่มีอะไรไห้จับเลย
)
สำหรับปลาแมลงภู่นั้น ใช้วิธียิงเอาครับ ดังที่เล่าว่า มันชอบไปนอนลอยหัวหลบอยู่ใต้ร่มไม้ แล้วก็มักจะต้องเป็นไม้ใหญ่ที่มีกิ่งก้านยื่นไปในห้วยอีกด้วย คนก็จะไปนั่งรอนอนรอแอบอยู่บนกิ่งไม้ที่คิดว่ามันจะมานั่นแหละ ที่จะยุ่งยากหน่อยก็ตรงที่ พอยิงถูกมันแล้ว มันก็จะจมลงไปนิดนึงแล้วทะลึ่งพรวดขึ้นมาเหนือน้ำ แล้วก็จะลอยอีกนิดหน่อยแล้วก็ค่อยๆจมลง เราต้องจำให้ดีว่าจุดใหน รีบลงจากต้นไม้ แล้วก็รีบลงน้ำไปยังจุดที่มันกำลังจม เพื่อไปคว้าตัวมันขึ้นมา คนกลัวน้ำคงไม่นิยมหาปลานี้มาทำอาหารแน่ๆ แถมหากเป็นปืนแก็ป ก็จะต้องบรรจุลูกและอุดให้แน่นพอดีๆ ปีนป่ายต้นไม้ ปืนกระแทกไปมา ที่ว่าอุดแน่นแล้วก็อาจจะหลวมหรือหลุดไป คราวนี้ก็จะเป็นการยิงแบบเป้าสะอาดเลยทีเดียว