เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 27 28 [29] 30 31 ... 49
  พิมพ์  
อ่าน: 70971 ห้วยขาแข้ง เมื่อ '14 '15
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 420  เมื่อ 03 ม.ค. 16, 21:07

จะขอขยายความตามข้อสงสัยของ อ.เทาชมพู วันพรุ่งนี้นะครับ 

เรื่องจะผิดหรือไม่ผิดผีนี้  ผมคิดว่าน่าจะเทียบเคียงได้กับเรื่องของการกระทำที่ไม่สอดคล้องกับ etiquette ในเรื่องต่างๆที่มีอยู่ในสังคมแต่ละสังคม  ซึ่งต่างก็มีการ response และการเกิด consequence ที่แตกต่างกัน ที่มีทั้งแบบเบาหรือแบบแรง และทั้งแบบ(ทำ)ให้รู้เอาเอง หรือทำ(แสดง)ให้รู้ไปเลย         
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 421  เมื่อ 04 ม.ค. 16, 18:54

สำหรับคำตอบของคำถาม 3 ข้อ ที่จะตอบต่อไปนี้ จะต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าว่าอาจจะรู้สึกว่ายียวนกวนนะครับ

เรื่องแรก

1  ผิดผี   รวมทั้งสมยอมและไม่สมยอม หรือเปล่าคะ 
เรียกว่าถ้ามีการล่วงเกินกันไม่ว่าสาวเจ้าจะยอมโดยดี หรือไม่พอใจขึ้นมา ก็นับเป็นผิดผีทั้งนั้น   ต้องจ่ายค่าหมูไก่และเงิน

คำตอบคือ ขึ้นอยู่กับพ่อแม่ของสาวเจ้าว่าจะพิจารณาเช่นใด  ก็หนุ่มสาวนั่งอยู่บนบ้าน จุดตะเกียงคุยกัน ไม่ว่าพ่อแม่จะนอนอยู่ในห้องหรือจะนั่งอยู่ริมเตาไฟที่ชานเรือน ก็ได้ยินหนุ่มสาวเขาพูดอะไรกันเกือบจะทั้งหมด   ดังนั้น สำเนียงและเสียงที่สนทนากันก็บ่งบอกได้อยู่แล้วว่าจะพอใจหรือไม่พอใจกันอย่างไร  หากสาวเจ้าไม่สบอารมณ์หรือพ่อแม่ไม่พอใจเจ้าหนุ่ม (ไม่ชอบ) ก็อาจจะมีเรื่องเกิดการผิดผีขึ้นมา แต่ก็ไม่แน่อีกแหละครับ ขึ้นอยู่กับพ่อแม่และคนที่รู้เห็นว่าจะว่าเฉยๆหรือบอกว่าผิดหรือเปล่า       
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 422  เมื่อ 04 ม.ค. 16, 19:39

เรื่องที่สอง

2 ถ้าสมยอมกัน จะต้องลงเอยด้วยการร่วมหอลงโรงเท่านั้นใช่ไหม      ผู้ชายสามารถไม่สามารถหนีความรับผิดชอบได้   

คำตอบคือ หากเจ้าหนุ่มมีเป็นคนมีรายได้ มีการงานดี (เช่น เป็นลูกจ้างทำไม้ สร้างทาง ฯลฯ) ก็ไม่จำเป็นครับว่าจะต้องลงเอยด้วยการอยู่กินกัน แต่งงานกัน ก็ทั้งพ่อแม่และสาวเจ้าต่างก็หวังจะได้เขยดีๆเหมือนกันนี่  และเท่าที่ผมรู้ก็มีทั้งกรณีที่ผิดผีและไม่ผิดผี  พวกกรณีที่ผิดผีก็ขอขมาผีตามประเพณีแล้วก็อยู่ด้วยกันไป   

จะว่าไปแล้ว ผมเองไม่เคยเห็นพิธีแต่งงานเลย ซึ่งก็อาจจะเป็นเพราะว่าหมู่บ้านกะเหรี่ยงที่ผมคุ้นเคยเหล่านั้นเป็นหมู่บ้านป่าที่แต่ละกลุ่มมีไม่กี่หลังคาเรือน   

สำหรับพวกที่กินอยู่ด้วยกันนั้น เคยเห็นครับ ซึ่งก็มักจะเป็นกรณีที่เจ้าหนุ่มก็ค่อยๆแยกตัวห่างออกไป ห่างไปเรื่อยๆตาม site งานที่เคลื่อนที่ห่างออกไป ผมไม่เคยเห็นกรณีที่สาวกะเหรี่ยงออกจากหมู่บ้านตามแฟนไปอยู่ตาม site งานต่างๆ 
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 423  เมื่อ 04 ม.ค. 16, 20:48

กรณีคู่หนุ่มสาวที่มีเจ้าหนุ่มเป็นชาวเมืองแล้วต้องไปทำงานห่างออกไป นานๆจะกลับมาทีนั้น ที่ยังเป็นภาพที่จดจำอยู่ก็อยู่ที่บ้านกะล้อทอ ในเขต อ.อุ้มผาง บ้านนี้ตั้งอยู่ในเขตไทยบริเวณใกล้รอยต่อกับเขตพม่าที่ปลายปากนกแก้ว บนเส้นทางลัดเข้าเขตพม่าของเส้นทางหลวงสาย อ.แม่สอด - อ.อุ้มผาง จ.ตาก  สาวเจ้าก็งามจริงๆ คิดว่ากำลังท้อง ที่รู้ก็เพราะกำลังนั่งทอผ้าขาว (เพื่อเตรียมตัดเป็นเสื้อเด็ก) ครับ ทอผ้าฆ่าเวลารอคอยว่าเมื่อไรแฟนจะกลับมา ซึ่งดูว่ารายนี้แฟนน่าจะเป็นคนดี ดูได้จากเครื่องมือและของใช้ประจำบ้าน

พิธีการแต่งงานที่น่าจะพอมีให้เห็น น่าจะอยู่ในพื้นที่แถบแม่สอด อุ้มผาง นี้แหละครับ   โดยปกติทั่วๆไปการมาอยู่ด้วยกันก็จะเป็นเพียงการเซ่นไหว้บอกผีบ้านผีเรือน   และดูเหมือนว่าจะไปต้องทำที่ประตู (เสาไม้หรือไม้ไผ่สองต้นที่มีไม้คาดอยู่ยอดเสา) เข้าเขตหมู่บ้าน (เขตผีบ้านผีเรือน ??) อีกด้วย

ที่บ้านกะล้อทอนี้เองที่ผมได้รับรู้และเรียนรู้วิธีการดำเนินการของโครงการอาหารกลางวันตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา น่าทึ่งและน่าสนใจมากที่โครงการมีความมั่นคงและยั่งยืน (sustainable) ด้วยเงินเริ่มต้นเพียง 7,000 บาท ซึ่งสามารถทำให้เด็กท้องอิ่มได้สำหรับอาหารมื้อกลางวัน
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 424  เมื่อ 04 ม.ค. 16, 21:00

เรื่องที่สาม


3 ถ้าไม่ละเมิดสาวเข้า โดยที่ฝ่ายชายมีเมียเป็นตัวเป็นตนอยู่อีกแห่ง    หรือไม่มีแต่ไม่สมัครใจจะเป็นเขยชาวเขา    จ่ายค่าผิดผีแล้วจบลงไปได้หรือเปล่า

จบครับ   

คำถามข้อนี้ทำให้ผมนึกคำที่นึกไม่ออกอยู่เป็นนานครับ ผมเลยไปใช้คำว่า "ขอขมา" แท้จริงเขาใช้คำว่า "เสียผี" ครับ
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 425  เมื่อ 05 ม.ค. 16, 20:06

คำตอบเรื่องที่สามนี้ดูว่าจบง่ายดีนะครับ  แต่คงจะต้องดูข้อเท็จจริงประกอบด้วยว่า การย่องสาวของคนบ้านเดียวกันนั้น ทุกคนในหมู่บ้านต่างก็รู้จักหัวนอนปลายเท้าซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี  ดังนั้น การเกิดกรณีข้อ 3 นี้ จึงเป็นไปได้ยาก   

จะมีที่เกิดขึ้นได้ก็ในกรณีของคนมาจากต่างถิ่น  ซึ่งเท่าที่ผมมีความคุ้นเคยกับคนกะเหรี่ยง ผมก็เห็นว่าเขาก็มีสำนึกในทางจริยธรรมสูง เรื่องเช่นนี้จึงคงจะเกิดขึ้นยาก อนึ่ง หนุ่มจากต่างหมู่บ้านที่จะมาย่องสาวของอีกหมู่บ้านนั้น ก็จะเป็นหนุ่มของหมู่บ้านที่อยู่ห่างกันเป็นระยะทางไม่ไกลนัก เท่าที่รู้จากการสัพยอกกัน ระยะทางเดินก็ประมาณ 2-3 ชม. ที่ไกลสุดเท่าที่เคยรู้ก็ใช้เวลาเดินกันเกือบเต็มวันเหมือนกัน

แต่ก็มีข้อยกเว้นนะ พ่อแม่เป็นใจไปนั่งคุยอยู่บ้านอื่นก็มีครับ แล้วก็ไม่มีการผิดผี/เสียผีอีกด้วย   ควาญช้างหนุ่มของคณะสำรวจของผมก็เป็นหนึ่งในกรณีนั้น     
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 426  เมื่อ 05 ม.ค. 16, 20:57

ด้วยว่าสิ่งแวดล้อมในการจีบกับของหนุ่มสาวเป็นดังที่เล่ามา กล่าวคือมีบุคคลอื่นร่วมรับรู้อยู่ด้วย  บรรดาหนุ่มสาวเขาก็เลยคิดค้นภาษาเฉพาะที่ผู้เฒ่าผู้แก่ฟังไม่ออก ไม่รู้เรื่องว่าเขาพูดอะไรกัน  ในเรื่องนี้ คนกะเหรี่ยงในคณะสำรวจของผมเล่าให้ฟัง จะจริงเท็จมากน้อยเพียงใดก็มิรู้ได้  ที่จำได้ก็คือ ยะแคะยาคาเลเคเซคื้อแล่ก้อ  และ ยะแคะยาคาเลคื้อแล่คื้อ   มีความหมายในทำนองว่าไปทำอะไรมา ไป่ไร่มา     

คล้าย ภาษาเล ที่เราเพิ่มคำว่า เล เข้าไปที่หน้าคำศัพท์แต่ละคำ แล้วผวนคำนั้นเสีย ใช้คุยเล่นกันในสมัยเด็กเพื่อไม่ให้ครูฟังออกว่าคุยอะไรกัน เช่น  ไลเปไหลเหนลาเม = ไปใหนมา   
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 427  เมื่อ 06 ม.ค. 16, 18:05

สำหรับเรื่องว่า ด้วยเหตุใดหมู่บ้านจึงตั้งอยู่ห่างจากลำห้วยนั้น

คำตอบก็คือ โดยหลักใหญ่ก็เป็นการหลบน้ำป่าครับ แล้วการไปอยู่บนที่เนินซึ่งเป็นพื้นที่ตะพักลำน้ำ (stream terraces) ก็เป็นสภาพแวดล้อมที่แห้งและโปร่ง เหมาะสมแก่การอยู่อาศัย   ไม่ชื้นและรกหรือทึบเหมือนพื้นที่ริมห้วย ซึ่งเป็นสภาพที่จะทำให้เกิดการเจ็บป่วยไม่สบายได้ง่ายและรวมทั้งอันตรายจากสัตว์มีพิษทั้งหลาย โดยเฉพาะแมลงป่องตัวดำใหญ่ที่ภาษาเหนือเรียกว่าแมงเวา ที่หลบซ่อนตัวอยู่ในเวลากลางวัน และออกคลานหาอาหารอยู่ตามพื้นดินในเวลากลางคืน  แล้วก็มีแมลงป่องตัวน้อยสีขาวที่ชอบแอบเข้ามาซุกอยู่ในผ้าห่มและเสื้อผ้าที่อับชื้น แมงเวานั้นต่อยเจ็บมากๆๆๆๆๆๆ ส่วนเจ้าตัวน้อยสีขาวก็ต่อยเจ็บเอาเรื่องอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว 

สมาชิกที่นิยม camping และเดินดง  เมื่อเข้าพื้นที่ไปชมป่าดงพงไพรในช่วงเข้าฤดูมีฝนตก  เมื่อเดินๆไปในห้วยต่างๆ ก็ขอได้โปรดมองสูงสังเกตดูกิ่งไม้ใบหญ้าที่มันติดค้างอยู่บนง่ามกิ่งไม้สองฝั่งห้วยด้วยนะครับ หากมันมีระดับความสูงพอๆกัน นั่นก็คือระดับน้ำป่าที่จะไหลหลากมาตามห้วยนั้นๆแหละครับ หากได้ยินเสียงดังโครมครามในร่องห้วย ก็ขอไห้รีบโกยขึ้นฝั่งห้วยที่มีระดับสูงกว่าระดับของกิ่งไม้ใบหญ้าที่สังเกตเห็นนั้นนะครับ  แล้วก็ 
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 428  เมื่อ 06 ม.ค. 16, 18:09

แล้วก็ระวังแมลงป่องสีขาวตัวน้อยที่ปลายถุงนอนด้วยนะครับ จะเปลี่ยนเสื้อผ้าก็สะบัดเสียหน่อย จะใส่รองเท้าก็เอาส้นรองเท้ากระแทกกับพื้นเสียหน่อย ก็พอจะปลอดภัยจากการเจ็บตัวได้มาทีเดียว 
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 429  เมื่อ 06 ม.ค. 16, 18:52

อ้อ แล้วก็ระวังด้วยว่าอาจจะมีปลวกมาแทะถุงนอน(พวกที่ทำด้วยผ้า)ที่ปลายเท้า    ตื่นเช้าขึ้นมา อ้าวพรุนไปหมดแล้ว   

เมื่อใดที่นอนๆอยู่แล้วได้ยินเสียงพรืดขึ้นมาแบบรู้สึกขนลุกซู่ตามไปด้วย  นั่นเป็นเสียงของปลวกที่มันกำลังสั่นตัวพร้อมๆกัน มันเป็นพฤติกรรมที่ผมไม่ทราบว่ามันทำเพื่ออะไร หลายคนได้ยินแล้วกลัวขนหัวลุกเลยทีเดียว    ครับ..ถ้ามันสั่นขนาดที่เราได้ยินเสียงจนกลัวได้ ก็หมายความว่าตรงนั้นจะต้องเป็นทีอยู่อาศัยของมันที่เป็น commune ขนาดใหญ่มากเลยทีเดียว  แล้วของที่มันกินได้ที่เราเอาไปไว้ตรงนั้นมันจะเหลืออะไรครับ ชั่วคืนเดียวก็พรุนไปหมดแล้ว

ปลวกป่ามันก็พอจะมีประโยชน์อยู่บ้างนะครับ    ปลวกมันจะต้องอยู่ในที่ชื้น เมื่อมันเดินจะไปหาแหล่งอาหาร มันเลยต้องทำอุโมงค์เป็นท่อดังที่เราเห็นกัน ก็เพื่อรักษาความชื้นที่พอเหมาะสำหรับตัวมัน แล้วปลวกก็ไม่อยู่ในที่ชื้นฉ่ำมากๆหรือที่ฉ่ำน้ำ  ดังนั้น จอมปลวกที่โผล่สูงขึ้นมาบนดินจึงมีส่วนแสดงว่าใต้ผืนดินในพื้นที่นั้นๆจะพบน้ำ (water table) อยู่ลึกหรือไม่ลึกอย่างไร     
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 430  เมื่อ 06 ม.ค. 16, 19:22

เดินป่าก็ต้องรู้ระวังตัวให้มากนะครับ  ทากเข็ม ก็เป็นอีกหนึ่งสัตว์ที่น่าขยะแขยง  ทากอยู่ในที่ชื้น โดยเฉพาะพื้นที่ริมห้วยที่ๆมีใบไม้ตกมาทับถมกันหนา  ทากเป็นนักย่องเบา  ที่ใดชื้นฉ่ำละก็ เผลอแป๊บเดียวมีโอกาสได้เห็นมันขึ้นถึงง่ามขาเลยทีเดียว  มันขึ้นไปอยู่ตามใบไม้ก็มี พอสัตว์เดินผ่านมาก็ทิ้งร่มลงมาเกาะดูดเลือดกิน  เราก็โดนเหมือนกัน ถอดเสื้อให้เพื่อนช่วยดูบ้างก็จะดี โดยเฉพาะใต้เสื้อผ้าแถวบ่าและหลัง

หากเป็นห้วยน้ำมากๆ มีพวกไม้ตระกูลบอนขึ้นอยู่มาก (เช่น ต้นกระดาษ ต้นบอน ต้นทูน) ก็คงจะต้องระวังตัวกุ้นหรือคุ่น มีทั้งแบบตัวแดงและตัวดำ  ตัวมันเล็กมาขนาดประมาณจุดดินสอดำทื่อๆ บินกันเป็นหมู่แบบแมลงหวี่ กัดแล้วก็คันดี บางคนก็แพ้ขนาดหนัก  ดีอยู่อย่างหนึ่งคือมันมักจะไม่กัดสูงเกินกว่าหัวเข่า

หนีไปเดินบนที่แห้ง ที่โปร่ง ก็ต้องระวังอย่าไปเหยียบพวกท่อนไม้หรือขอนไม้ผุๆทั้งหลาย  ครับ..มันเป็นบ้านที่อยู่ของบรรดาเห็บ ที่กัดแบบไม่รู้สึกเจ็บอีกเหมือนกัน ส่วนมากเราจะแพ้เมื่อมันกัดดูดเลือดเรา อาการแพ้ที่สำคัญก็คือ รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวคล้ายเป็นไข้หวัดใหญ่   ครับ...หากเดินๆไปแล้วเกิดอาการของไข้หวัดใหญ่ ก็คงจะต้องแก้ผ้าแล้วช่วยกันหาว่ามันกัดอยู่ที่ใหน โดยเฉพาะที่ลับๆ แถวสะดือ (ภาษาเหนือว่า ขี้ปุ๋ม) มันก็ชอบ   ดึงมันออก อาการไข้ก็จะหายไปแบบปลิดทิ้งเลยทีเดียว  แต่..ก็อาจจะต้องรู้สักคันและต้องเกาจุดที่มันกัดต่อไปอีกนานทีเดียว 
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 431  เมื่อ 07 ม.ค. 16, 17:43

กลับมาต่อเรื่องโป่งครับ

ในเวลากลางวัน โป่งจะเงียบเหงามาก ไม่มีสัตว์ใดๆลงมาเดินเอาเสียเลย แม้กระทั่งเสียงนกก็พอจะกล่าวได้ว่าไม่มีเอาเลย ดูแห้งแล้ง ผิวดินไม่มีหญ้า มีแต่ฝุนดิน หากเป็นโป่งประเภทมีน้ำซับ แหล่งน้ำก็จะขุ่นข้นดูเป็นน้ำขี้โคลน มีกลิ่นเหม็นคละคลุ้งจนไม่รู้ว่าเป็นกลิ่นฉี่หรือกลิ่นมูล

หากไปยืนอยู่ในบริเวณที่เป็นพื้นที่โป่ง เราจะเห็นมีด่านสัตว์เป็นเส้นทางชัดเจนจากชายขอบป่าละเมาะ โป่งใหญ่ก็จะเห็นหลายเส้นทางด่านรอบตัว  โป่งขนาดเล็กก็จะเห็นมีด่านเข้ามาเหมือนกัน ซึ่งมักจะมีสองเส้น ไม่เห็นเด่นชัดนัก คล้ายๆกับด่านเข้าทางออกทางอย่างนั้น
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 432  เมื่อ 07 ม.ค. 16, 18:10

ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่า แต่ละโป่งจะมีชนิดของสัตว์เข้ามากินไม่เหมือนกัน  พรานไพรจึงเลือกโป่งและสัตว์ที่จะไปนั่งห้างล่าเนื้อ แล้วก็ยังเลือกอีกด้วยว่าโป่งใหนอันตรายหรือไม่อันตรายมากน้อยต่างกันอย่างไรอีกด้วย คือเลือกให้เหมาะสมกับความสามาถของตัวหากต้องตกไปอยู่ในสถานการณ์ตั้งรับ (defensive)

โป่งที่มีเก้งและสัตว์ขนาดย่อมเข้ามากิน ก็มักจะต้องมีเสือเข้ามาตามเก็บเกี่ยวอาหารด้วย    โป่งใหญ่ที่มีแอ่งน้ำหรืออยู่ใกล้ป่าที่มีอาหารของช้าง (ไผ่ผาก ดงกล้วยป่า ..) ก็จะมีช้างป่าเข้ามาเสมอๆ     โป่งเล็กๆที่แอบซ่อนอยู่เป็นหย่อมๆในป่าที่ชุ่มชื้น ก็มักจะมีสัตว์เช่นพวกเม่นใหญ่ หรือกระจงเข้ามา แล้วก็อาจจะมีสมเสร็จเข้ามาเที่ยวเล่นด้วย(หากอยุ่ใกล้น้ำ)  ตัวสมเสร็จนี้ก็เหมือนกับตัวน่ารังเกียจ ลงที่ใหนสัตว์อื่นก็หลบไปไม่อยู่ร่วมวงด้วย   
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 433  เมื่อ 07 ม.ค. 16, 18:34

โป่งเป็นสถานที่ๆเราเข้าไปดูในเวลากลางวันได้โดยเกือบจะไม่ต้องระวังตัวใดๆเลย แต่พยายามอย่าโฉบเข้าไปในช่วงบ่ายแก่ๆ ซึ่งก็ยังไม่อันตรายมากหรอกครับ เพียงแต่เราอาจจะมีการทิ้งสิ่งแปลกปลอมที่ทำให้ความเป็นธรรมชาติปรกติของพื้นที่นั้นเปลี่ยนไป ซึ่งก็อาจจะทำให้สัตว์ไม่ลงโป่งในคืนนั้นก็ได้

สัตว์มีสัมผัสที่ไวต่อกลิ่นมาก คนที่จะไปนั่งห้างล่าเนื้อนั้น จึงไม่อาบน้ำ ไม่ประแป้งแต่งตัว และไม่สูบบุหรี่ในขณะเฝ้ารอสัตว์   กลิ่นเสื้อผ้าเคล้าเหงื่อไคลและเคล้าฝุ่นในระหว่างทางที่เดินไปห้าง มันก็ฉุนพอได้กับกลิ่นตัวสัตว์นั่นแหละ
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 434  เมื่อ 07 ม.ค. 16, 18:55

ในพื้นที่ขอบชายโป่งนั้น หากเรามองสูงที่ระดับประมาณ 3.5 - 4 เมตรจากพื้นดิน ก็มักจะเห็นว่ามีไม้ผูกคาดอยู่บนง่ามไม้ของต้นไม้ต้นที่เมื่อขึ้นไปนั่งแล้วจะมองเห็นโป่งและทางด่านที่สัตว์เดินเข้ามาลงโป่ง   บางห้างก็จะกว้างพอนั่งได้ บางห้างก็ใหญ่มากพอที่จะขดหลับได้ และบ้างห้างก็จะมีบังไพร ซึ่งก็คือม่านบังตัวเรานั่นเอง ทำด้วยไม้คาดปิดด้านหน้าพร้อมฟางหญ้า 

ห้างที่เราเห็นนั้น ก็พอจะบ่งบอกอะไรได้หลายอย่างเหมือนกัน  หากอยู่สูง ดูผูกแน่นหนา และเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ ก็พอจะบอกว่าโป่งนั้นมีช้างเข้า ครับ..ช้างมันนักรื้ออยู่แล้ว ก็ต้องสูงให้พ้นงวงของมันสักหน่อย  แต่ก็อีกแหละ หากมันดันๆรุนๆต้นไม้ให้โยกไปโยกมาก็ตกห้างได้เหมือนกัน 
ผมไม่เคยได้ยินเรื่องช้างโยกต้นไม้จนคนที่ไปนั่งห้างตกลงมา เคยแต่ได้ยินว่ามันพยายามรื้อห้างเลย และเคยแต่ได้ยินเรื่องคนหนีช้างขึ้นต้นไม้แล้วถูกมันโยกให้ตกลงมา หรือว่าช้างจะไม่กระทำเช่นนั้นในเวลากลางคืนก็มิรู้ครับ   
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 27 28 [29] 30 31 ... 49
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 1.653 วินาที กับ 19 คำสั่ง